ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 431 ยังมีใครกล้าคัดค้านอีกไหม?
“รองหัวหน้าสมาคมหลี่?”
“นี่มัน!ฆ่าคนตายแล้ว!”
“คุณพระ นี่กำลังทำอะไรน่ะ?”
คนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันแตกตื่น สีหน้าของทุกคนเผยให้เห็นถึงความตกใจกลัว
พวกเขาเห็นกับตาของตัวเอง ว่ารองหัวหน้าสมาคมหลี่ถูกฮาเดสยิงเป่าหัวไปหนึ่งนัด ตายคาที่
ถึงขนาดที่เลือดสดๆไหลออกจากโต๊ะมาอยู่ตรงด้านหน้าของพวกเขา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบให้พวกผู้คนต่างก็รู้สึกหวาดผวาออกมาทันที สั่นไปทั้งตัวอย่างกลั้นไม่อยู่
นี่เป็นผู้ช่วยที่มีฝีมือของจี้ฉงซาน เป็นคนที่แข็งแกร่งในแวดวงการเงินของเมืองก่าง รองหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจเมืองก่าง เป็นคนใหญ่คนโตที่มีตำแหน่งโดดเด่น!
ตอนนี้นอนตายอยู่ต่อหน้าของพวกเขาเหมือนกับหมาตัวหนึ่งเท่านั้น?
ในเวลานี้เอง บรรดาคนมีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจของเมืองก่างที่อยู่ที่นั่น ต่างก็ตระหนักได้ว่าทรัพย์สินอำนาจที่พวกเขามี แทบจะไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าของหลินอิ่ง
ชีวิต มันช่างอ่อนแอขนาดนี้เชียว……
คุณร่ำรวยขนาดที่เทียบเท่ากับรัฐบาล อยู่ต่อหน้าความตายแล้ว ก็เป็นแค่มดตัวน้อยๆที่น่าสมเพชเวทนาเท่านั้น
“คุณหลิน คุณอย่าทำอะไรผลีผลามเลยนะ”รองหัวหน้าสมาคมโจ๋เหงื่อไหลเต็มหน้าผาก พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก“เมืองก่างเป็นสถานที่ที่มีกฎบ้านกฎเมือง คุณทำแบบนี้กับรองหัวหน้าสมาคมหลี่ จะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้นะครับ!”
“ใช่ๆ คุณหลิน พวกเราไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคุณ อย่า อย่ามาทำอะไรผลีผลามจะดีกว่านะครับ”รองหัวหน้าสมาคมหนีก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจกลัวเช่นกัน เริ่มพูดลิ้นพันกัน“คุณมีความแค้นกับคุณท่านจี้ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา……”
คนที่อยู่ตรงนั้นก็รีบร้องขอความเมตตา ต่างพากันตัดความสัมพันธ์กับจี้ฉงซานทิ้งไปทันที เพราะกลัวว่าหลินอิ่งจะยิงปืนอีก
หลินอิ่งช่างโหดเหี้ยมจริงๆ
แค่คุยไม่ถูกคอกัน ก็ชี้นิ้วสั่งให้บอดี้การ์ดยิงปืนใส่แล้ว ไม่ให้โอกาสรองหัวหน้าสมาคมหลี่ได้ตอบสนองกลับมาเลยสักนิด แม้แต่โอกาสขอโทษสำนึกผิดก็ยังไม่มี
ถ้าเกิดพูดไม่เข้าหูล่ะก็ ต้องตายสินะ?
หลินอิ่งสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีพูดอะไร ฮาเดสที่อยู่ใกล้ๆจุดบุหรี่ให้เขาหนึ่งมวน
หลินอิ่งสูดเข้าไปหนึ่งที ก่อนจะมองไปยังผู้คนตรงนั้นด้วยความเย็นชา จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย“ยังมีใครคัดค้านอีกไหม?”
ประโยคนี้ ราวกับฟ้าผ่าลงมา ทำเอาผู้คนต่างพากันใจกระตุกเต้นแรงขึ้นมาทันที สีหน้าหยุดชะงัก
บรรยากาศตึงเครียดถึงขั้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสนิท ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจ หายใจตื้นๆ ได้ยินแค่เสียงหัวใจเต้นของพวกเขาเท่านั้น
หลินอิ่งนั่งอยู่ตรงนั้น บรรยากาศและแรงกดดันที่มากมายมหาศาลกดทับลงทันที แรงกดดันทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสิ้นหวัง
ใช่ สถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเขาก็คือพวกแกะที่รอถูกเชือดนั่นเอง
“คุณหลิน คุณพูดเป็นเล่นไป พวกเราไม่เคยคัดค้านต่อต้านข้อเสนอของคุณเลยนะครับ”รองหัวหน้าสมาคมโจ๋เสียงสั่น พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ผม ผมสนับสนุนคุณอยู่แล้วครับ!”
“ถูกครับ คุณหลิน คุณว่าอะไรพวกเราก็จะสนับสนุนหมด ไม่คืนคำแน่นอน!”รองหัวหน้าสมาคมหนีก็พูดประจบประแจงเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าหลินอิ่งมีอำนาจอะไรถึงสามารถท้าทายเยาะเย้ยจี้ฉงซานได้ แถมยังกล้ามาลงมือฆ่าบุคคลมีอำนาจของวงการการเงินที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมธุรกิจเมืองก่างอีกด้วย
แต่ว่า สถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาแค่อยากที่ก้มหัวเอาชีวิตรอดเท่านั้น
ไม่ว่ายังไง มีบทเรียนจากรองหัวหน้าสมาคมหลี่แล้ว กระเป๋าใส่เงินสดดอลลาร์สองใบที่หลินอิ่งให้มานั้นก็วางอยู่บนโต๊ะ เลือกที่จะกินลูกปืนหรือว่าเลือกที่จะหยิบเงินไป คำตอบนี่มันชัดเจนอยู่แล้ว
หลินอิ่งมุมปากยกโค้ง หันไปมองรองหัวหน้าสมาคมทั้งสองคน
แน่นอนว่าเขารู้ว่าที่คนพวกนี้เปลี่ยนสีทันทีเพราะว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ปรับตัวไปตามสถานการณ์ก็เท่านั้น
“อย่าคิดว่าผมกำลังล้อเล่นกับพวกคุณอยู่นะ พูดลวกๆขอไปทีแบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอก”หลินอิ่งค่อยๆพูดขึ้น“ถ้าพวกคุณไม่มีใครคัดค้านต่อต้านแล้วล่ะก็ รีบประกาศกับเหล่าผู้มีชื่อเสียงของเมืองก่างในนามของสมาคมธุรกิจเมืองก่างซะ ว่าสมาคมธุรกิจได้ตัดสินใจกันหมดแล้วว่าจะรื้อถอนตำแหน่งหัวหน้าสมาคมของจี้ฉงซาน”
“นอกจากนี้ คนที่ให้ความร่วมมือกับผม ก็ไปจัดงานต้อนรับพวกนักข่าวซะ ในนามของสมาคมธุรกิจเมืองก่าง จะประกาศเรื่องนี้ต่อสาธารณะ ต้องให้ทั้งเมืองก่างได้รับรู้ ว่าตำแหน่งในแวดวงธุรกิจของจี้ฉงซานได้จบสิ้นลงแล้ว”
พอคำพูดที่เด็ดขาดคำพูดนี้ของหลินอิ่งออกมา
สีหน้าของคนตรงนั้นก็ซีดขาวทันที ทุกคนล้วนแต่มีแววตาตื่นตกใจ กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
ถ้าทำตามที่หลินอิ่งบอกมาจริงๆ ก็จะกลายเป็นว่าพวกเราอยู่ฝ่ายเดียวกับหลินอิ่งไปโดยปริยาย กับจี้ฉงซานก็จะเป็นสถานการณ์ที่ถ้าไม่ตายก็หยุดไม่ได้ไปในทันที ไม่มีโอกาสให้หันหลังกลับอีกแล้ว!
ถ้าหลินอิ่งล้มจี้ฉงซานลงได้ก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าล้มไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ ต่อไปจะต้องถูกคิดบัญชีทีหลังแน่นอน เกรงว่าแต่ละคนคงจะต้องถึงขั้นบ้านแตกมีคนตายแน่ๆ!
“คุณหลินครับ……เอ่อ คุณให้เวลาพวกเราคิดพิจารณาหน่อยไม่ได้เหรอ”รองหัวหน้าสมาคมโจ๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าดูไม่ได้“เรื่องนี้มันใหญ่หลวงเกินไปนะครับ”
“คุณหลิน พวกเราสามารถไปประกาศต่อสาธารณะในนามของสมาคมธุรกิจเมืองก่างได้ครับ แต่ว่า อย่าให้พวกเราเปิดเผยหน้าตาได้ไหม?”รองหัวหน้าสมาคมพูดถามขึ้นลองเชิงขึ้นอย่างระมัดระวัง
หลินอิ่งสบถหึออกมา ดับบุหรี่ในมือ
“พวกคุณมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอ?”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย“ผมไม่มีเวลาให้พวกคุณพูดพล่ามมากขนาดนั้น”
“พวกคุณไม่ต้องยุ่งอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ทำตามที่ผมบอกก็พอ เอาเงินไปซะ”
“ในเวลานี้ ผมจะให้คนของผมดูแลความปลอดภัยของพวกคุณเอง ก่อนที่จี้ฉงซานจะพังพินาศลง พวกคุณจะไม่เป็นอันตรายอะไรทั้งนั้น”
พูดจบ หลินอิ่งก็ค่อยๆลุกขึ้น กวาดสายตามองผู้คนตรงนั้น ก่อนจะพูดขึ้น“เข้าใจไหม?”
“เอ่อ……”
หลินอิ่งไม่ให้โอกาสอะไรทั้งนั้น ภายใต้คำพูดที่เด็ดขาดแบบนี้ พวกเขาไม่กล้าคัดค้านอะไรทั้งสิ้น
คนมีอำนาจที่มีชื่อเสียงแบบพวกเขา ในตอนนี้กลับไม่มีศักดิ์ศรีหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่า หลินอิ่งวางแผนทั้งหมดมาไว้ก่อนแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นเลย แล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเจตนาของหลินอิ่งได้เลยด้วย
ไม่อย่างนั้น ก็จะมีจุดจบแบบเดียวกับรองหัวหน้าสมาคมหลี่
ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของหลินอิ่งในวันนี้เผยให้เห็นถึงความยโสโอหังและโหดเหี้ยม
พูดกันดีๆก่อนแล้วค่อยใช้กำลังทีหลัง เรื่องทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นนี้ เขาวางแผนไว้เป็นอย่างดี
ไม่แน่ว่า ชายหนุ่มสกุลหลินคนนี้ สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของเมืองก่างได้จริงๆ สามารถทำลายตำนาน จี้ฉงซานบุคคลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของเมืองก่างได้เลย
“ครับ คุณหลิน ผมยอมร่วมมือกับคุณ……”รองหัวหน้าสมาคมโจ๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักแน่น แสดงท่าทีออกมาคนแรก ยกกระเป๋าถือสีเงินสองใบที่วางอยู่บนโต๊ะมา
“เอาเงินไปจัดการตามแผน คุณหลิน ผมเข้าใจแล้วครับ”รองหัวหน้าสมาคมโจ๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง“แต่หวังว่า หลังจากเสร็จงานแล้ว คุณจะไว้ชีวิตพวกเราทุกคนนะครับ”
“คุณหลิน พวกเราก็เห็นด้วยครับ……”
พอรองหัวหน้าสมาคมโจ๋ยอมก้มหัว สมาชิกของสมาคมที่อยู่ที่นั่น ทั้งหมดก็รับเงินของหลินอิ่งแล้วพากันโค้งคำนับทันที
“ดีมาก ผู้ที่รู้เวลาและหน้าที่คือวีรบุรุษ พวกเราล้วนแต่เป็นบุคคลในแวดวงธุรกิจมานาน รู้ในสิ่งที่ควรจะรู้พอ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง”
หลิงอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย
พูดจบ หลินอิ่งก็หันเดินออกจากห้องโถงไป ฮาเดสเดินตามไปข้างหลังติดๆ
“คุณหลิน กลับดีๆนะครับ”
เหล่าสมาชิกของสมาคม ก็โค้งคำนับ
หลังจากออกจากห้องโถงมาแล้ว หลินอิ่งก็พูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย“คริส ตอนค่ำนายพาคนกลุ่มนี้ ไปช่วยฉู่สงซานจัดงานต้อนรับพวกนักข่าว แล้วก็เอาพวกเอกสารผิดกฎหมายของจี้ฉงซานและคำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนที่เก็บรวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ ป่าวประกาศไปให้หมด”
“ครับ!”คริสโค้งคำนับ