ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 444 ชั่งน้ำหนักฐานะตัวคุณให้ดี
คำพูดนี้ของหลินอิ่งพูดจบ ก็มีเสียงดังเหมือนระเบิด
ทันใดนั้น ทุกคนเงียบ กลิ่นอายแห่งแรงสังหารปะทุขึ้นมา
หัวหน้ากองพิเศษเฉาและหัวหน้ากรมหลัว รู้สึกถึงแรงสังหารของหลินอิ่ง เหมือนดั่งตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง ขนลุกซู่เหงื่อท่วมตัว
ขณะที่หลินอิ่งเผยใบหน้าอันเย็นเยือกออกมา บรรยากาศแข็งแกร่งรุนแรงมาก
“หลินอิ่ง คุณอยากต่อต้านกองพิเศษหวู่อันเหรอ?” หัวหน้ากองพิเศษเฉากัดฟันพูดอย่างเย็นชา “ผมบอกว่ากับตรวจสอบคุณ คุณก็ต้องยอมรับการตรวจสอบ”
“คุณต้องทำความเข้าใจด้วย เมืองก่าง เป็นสถานที่ที่ยึดหลักกฎหมาย”
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา
นายแซ่เฉานี่ให้หน้าไม่เอาหน้าจริงๆ
ให้หน้าเขาเรียกคนออกมาให้ตรวจสอบแล้ว มีคำพูดยืนยันจากสมาชิกสมาคมธุรกิจแล้ว ยังจะเล่นไม้นี้อีก? บังคับตรวจค้น?
“หัวหน้ากองพิเศษเฉา สิ่งที่ควรพูด สมาชิกสมาคมล้วนเล่าให้คุณฟังแล้ว คุณพูดแล้วว่า หากเป็นการเข้าใจผิด คุณจะขอโทษต่อหน้าประธานหลิน” ฉู่สงซานสีหน้าไม่พอใจ ยืนออกมาพูด “ตอนนี้ คุณไม่ยอมรับ ยังอยากพาคนกลับไปแยกตัวตรวจสอบ? คุณใช้สิทธิ์อะไร?”
“ประธานหลินให้หน้าคุณแล้วใช่ไหม?”
“กฎหมายเมืองก่าง คุณพูดคนเดียวได้เลยใช่ไหม?”
หัวหน้ากองพิเศษเฉาสีหน้าโมโห ยังอยากพูดอะไรอีก
หลินอิ่งเปิดปากพูดอย่างเย็นชา
“หัวหน้ากองพิเศษเฉา ทางที่ดีคุณโทรศัพท์ให้นายกเทศมนตรีถังของพวกคุณ ถามให้ชัดเจน”
“ว่าเขา กล้ามาใช้ไม้แข็งกับผมไหม?”
คำพูดก็พูดถึงขั้นนี้แล้ว หลินอิ่งไม่พูดอะไรมาก รับน้ำชามาจากมือของฉู่สงซาน ดื่มอย่างใจเย็น
หัวหน้ากองพิเศษเฉาและหัวหน้ากรมหลัวรู้สึกเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก พฤติกรรมของหลินอิ่ง แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้เยอะ
ท่าทางแบบนี้ ถ้าหากฝืนนำคนไป หลินอิ่งอาจทำให้พวกเขาที่นั่งลำบากมากกว่านี้แน่
เพราะว่า พวกเขาสองคนมาในนามส่วนตัว
ถ้าหากเรื่องรุนแรง ก็ใช่ว่าไม่ต้องรับผิดชอบ
“ได้ หลินอิ่ง คุณคอยดู” หัวหน้ากองพิเศษเฉาหยิบโทรศัพท์ออกมา พูดอย่างเย็นชา “ผมจะโทรหานายกเทศมนตรีถังเพื่อรายงานพฤติกรรมทุกอย่างของคุณ”
“ยังเทพบนสวรรค์ก็ทำอะไรคุณไม่ได้? รอคำสั่งเดียวของนายกเทศมนตรีถัง วันนี้ผมก็จะจัดการคดีคุณทันที”
พูดไป หัวหน้ากองพิเศษเฉาก็เดินไปโทรศัพท์ที่หน้าประตู
ในเวลาเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง
ศาลากลางเมืองก่าง
ภายในออฟฟิศนายกเทศมนตรี
ถังคังเจิ้นยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน สีหน้าเคร่งเครียด
ตรงข้ามเขา เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สีหน้าเคร่งขรึม แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
ผู้ชายคนนี้ ก็คือหัวหน้าสำนักสืบสวนตี้จิงที่รายงานเรื่องงานให้กับหลินอิ่งที่ร้านอาหารผองเฟยครั้งก่อน
แต่ว่าวันนี้ เขาเปลี่ยนเป็นชุดทำงานสีดำ บนบ่าเป็นสัญลักษณ์พิเศษจากหน่วยงาน ซึ่งหมายถึงตำแหน่งฐานะที่ไม่เหมือนกัน
“สหายถังคังเจิ้น ผมเป็นตัวแทนท่านหลุยกงเพื่อมาคุยกับคุณ”
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ถังคังเจิ้นเหงื่อท่วมหน้าผาก มองดูตราสัญลักษณ์บนบ่าของชายหนุ่ม พยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เชิญพูด”
“ท่านหลุยกงพูดแล้ว สื่อข่าวในเมืองก่าง ต้องซื่อสัตย์ยุติธรรม”
“เศรษฐกิจเมืองก่าง ก็ต้องซื่อสัตย์ยุติธรรม ห้ามให้พวกนักเก็งกำไรบางส่วน ทำการผูกขาดตลาด”
“คุณ ใกล้จะล้ำเส้นแล้ว”
คำพูดสามประโยชน์พูดจบ ชายหนุ่มก็ปิดปากเงียบ ให้ถังคังเจิ้นไปคิดเอง
ถังคังเจิ้นสีหน้าเปลี่ยน แววตาตะลึง
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคำพูดของท่านหลุยกง หมายความว่าอะไร
ท่านหลุยกงออกคำพูดเองแล้ว
ท่านหลุยกงแห่งตี้จิง ถึงแม้เขาจะไม่เคยได้เจอ แต่ว่านั่นอยู่ในอันดับอำนาจแห่งชาติ ลำดับหนึ่งแห่งตี้จิงภายใต้จักรพรรดิ
ตำแหน่งสูงหนึ่งระดับก็ทับคนตาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นั่นคือลำดับผู้นำประเทศ
ชายหนุ่มนั่งลงบนที่นั่งแล้วพูดว่า “สหายถังคังเจิ้น คุณควรดีใจ ที่คุณไม่ได้ถลำเกินไปในเรื่องของจี้ฉงซาน มิฉะนั้น ตอนนี้คนที่มาคุยกับคุณ ก็ไม่ใช่ผมแล้ว”
“แต่เป็น คนของกองทหาร”
ถังคังเจิ้นเหงื่อไหลท่วมตัว คำพูดทุกคำของชายหนุ่ม ล้วนเป็นข่าวที่ทำให้ตกตะลึง เหมือนกับถูกค้อนทุบอกอย่างแรง ทำให้เขาป้องกันไม่ทัน
กองทหาร? ท่านหลุยกง?
ไอ้เด็กหนุ่มหลินอิ่งคนนั้น มีความสามารถถึงขั้นนี้? ได้หน้าถึงขนาดนี้?
มีเรื่องกับเทพเทวดาตัวจริงแล้ว
“ผมยังบอกคุณได้อีก ครั้งที่แล้ว จี้ฉงซานอยู่ที่ตี้จิง ไม่ได้ไปทักทายท่านหลุยกง กลับไปหาเรื่องหลินอิ่ง สร้างเรื่องใหญ่ภายใต้สายตาท่านหลุยกง” ชายหนุ่มพูดอย่างจริงจัง “จี้ฉงซานหาเรื่องใส่ตัว ทำให้ท่านหลุยกงอึดอัดใจ เรื่องนี้ทำให้ท่านหลุยกงโกรธมาก”
“เพราะฉะนั้น คุณชั่งน้ำหนักตำแหน่งฐานะของตัวเองให้ดี ว่าควรทำงานยังไง”
พูดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มหันไปมองถังคังเจิ้นเป็นพิเศษ
สายตานี้ มองจนถังคังเจิ้นตกใจหวาดกลัว
ท่านหลุยกงยังอึดอัดใจแล้ว?
ท่านหลุยกงมีความเห็นอย่างหนักต่อจี้ฉงซาน?
ข่าวนี้ ทำให้ถังคังเจิ้นตกใจจนยืนทื่ออยู่กับที่
“ผม ผมเข้าใจแล้ว” ถังคังเจิ้นเช็ดเหงื่อตัวเอง แล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“รบกวนคุณกลับไปแจ้งให้ท่านหลุยกงทราบด้วย ผมรู้แล้วว่าควรทำยังไง” ถังคังเจิ้นพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“นายกเทศมนตรีถัง คุณเป็นคนฉลาด มากกว่านี้ผมก็ไม่พูดแล้ว”
ชายหนุ่มพยักหน้า ลุกขึ้นหันตัวเดินออกจากออฟฟิศนายกเทศมนตรี
เดินออกจากประตู เขาก็โทรศัพท์
“คุณหลิน จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางด้านท่านหลุยกง ให้ผมบอกคุณว่า กลับตี้จิงเมื่อไหร่ เชิญคุณไปทานข้าวที่ตำหนักหลุยกงด้วยกัน”
……
“อะไรนะ นายกเทศมนตรี ท่าน ท่านบอกให้ผม?”
นอกประตูแผนกรับรอง เป็นเสียงของหัวหน้ากองพิเศษเฉาที่พูดอย่างตกใจ
มือของเขาถือโทรศัพท์ กำลังคุยโทรศัพท์ แต่มือกำลังสั่น กล้ามเนื้อใบหน้าแข็งทื่อ แววตาหวาดกลัว เหมือนกับได้รับการข่มขู่อย่างรุนแรง
“ครับ ครับ ท่านนายกเทศมนตรีถัง ท่านวางใจ ผมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม”
“ให้หัวหน้ากรมหลัวรับโทรศัพท์? ได้ครับ ได้ครับ”
หัวหน้ากองพิเศษเฉาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าซีดขาว สายตาที่มองหลินอิ่ง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยืนโทรศัพท์ในมือให้หัวหน้ากรมหลัว
“นี่นี่นี่……”
หลังจากหัวหน้ากรมหลัวรับโทรศัพท์แล้ว ตะลึงตาค้าง สีหน้าซีดขาว
หลังจากคุยโทรศัพท์จบแล้ว หัวหน้ากรมหลัวทั้งสองคน ก็เหมือนกับร่างไร้วิญญาณ แววตาที่มองหลินอิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ขอ ขอโทษครับ คุณหลิน ผมขอโทษท่านด้วยความจริงใจ เรื่องในวันนี้ เป็นความผิดของพวกเรา” หัวหน้ากองพิเศษเฉารีบขอโทษ ก้มหน้าต่อหน้าหลินอิ่ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
“คุณหลิน เรื่องในวันนี้ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด หวังว่าคุณจะยกโทษให้ในความผิดพลาดของพวกเรา”
ภาพนี้ ทำให้ทุกคนในที่นี่ตะลึง ทุกคนมองหัวหน้ากองพิเศษทั้งสองด้วยแววตาตะลึง ก้มหน้าขอโทษต่อหน้าหลินอิ่งอย่างถ่อมตัว
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมแค่รับโทรศัพท์ไปสายเดียว ทั้งสองคนก็หมดไฟแห่งความยโสอวดดีไปอย่างสิ้นเชิง รีบขอโทษหลินอิ่งทันที?
หลินอิ่ง นี่ใช้วิธีอะไรกันแน่? ถึงทำให้ถังคังเจิ้นที่อยู่เบื้องหลังสองคนนี้ ต้องก้มหัวอย่างไม่มีทางเลือก?
“ไม่มีครั้งที่สอง พาคนของพวกคุณ ออกไป”
หลินอิ่งดื่มน้ำชา พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ครับ คุณหลิน ไม่มีครั้งต่อไปแล้วครับ”
หัวหน้ากรมหลัวทั้งสองคนเหมือนยกภูเขาออกจากอก เหงื่อท่วมหัว หมุนตัวกลับด้วยความหวาดกลัว รีบพาคนจากไป