ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 445 ยากที่จะเอาตัวรอด
วันที่สอง
เมืองก่างพายุโหมกระหน่ำ ข่าวและสื่อต่างๆกระหน่ำกันประกาศข่าว
เรื่องราวอื้อฉาวเกี่ยวกับจี้ฉงซานล้วนถูกพาดหัวข่าวรายงานกันอย่างกระหน่ำ
นอกจากสารคดีที่หลินอิ่งทำก่อนหน้านี้ ในอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็มีหัวข้อข่าวออกมาเป็นเรื่องสนทนากันอีกมากมาย
ล้วนพูดคุยเรื่องราวการสร้างเนื้อสร้างตัวของจี้ฉงซานบนเลือดเนื้อคนอื่น และเรื่องที่เขาทำร้ายคนงานและนักข่าวที่เป็นปัญหาหนัก
หลังจากสื่อถูกกดดันก็มีการปล่อยข่าวออกมาอีกครั้ง พุ่งกระจุยเหมือนดั่งน้ำพุ ที่กดยังไงก็ไม่อยู่
เวลาเดียวกัน เกาะไห่เทียน ใกล้ทะเลเมืองก่าง
ภายในคฤหาสน์หรูเขตจงเทียน
จี้ฉงซานสีหน้าเคร่งเครียดนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้จันทน์ ดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดี
บนโต๊ะไม้จันทน์ เป็นหนังสือพิมพ์ของแต่ละสำนักข่าวล่าสุด ล้วนเป็นหัวข้อข่าวรูปภาพที่เขาเคยออกสื่อกล่าวสุนทรพจน์
คำพูดที่ใช้นั้น เป็นการต่อต้านอย่างรุนแรง
“พ่อ ทำไมข่าวถึงประกาศกันรุนแรงขึ้นอีกแล้ว? ทางด้านนายกเทศมนตรีถังเกิดอะไรขึ้น?”
จี้ชวนกับพ่อบ้านตระกูลจี้ ยืนอยู่ข้างโต๊ะ พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณท่านจี้ วันนี้ไม่รู้เพราะอะไร สำนักข่าวที่เคยเงียบต่างก็พากันลงข่าว อย่างไร้วี่แวว จนควบคุมทุกสื่อทุกช่องทาง สถานการณ์ตอนนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง” พ่อบ้านพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ทางด้านนายกเทศมนตรีถังบอกว่าปิดข่าวทุกช่องทางแล้วไม่ใช่เหรอ? ไปถามหน่อยว่าทำไมพวกเขาถึงได้ลงข่าวแบบนี้ของคุณท่านจี้?”
จี้ฉงซานขมวดคิ้ว พูดว่า “ทางด้านนายกเทศมนตรีถัง ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
แน่นอน เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้แต่นายกเทศมนตรีถังยังควบคุมสำนักข่าวไม่ได้
ระหว่างนี้ ไม่รู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้าง
“พ่อ ตอนนี้สถานการณ์ยิ่งไม่ดีแล้ว พ่อต้องคิดหาวิธีแล้ว ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทของเราคงต้องถูกประชาชนด่าจนน้ำลายท่วมแน่” จี้ชวนพูดอย่างจริงจัง “พวกพี่ชายที่บ้าน แล้วก็แม่ ต่างก็รอพ่อยืนออกมา”
จี้ฉงซานหยิบมือถือขึ้นมาสีหน้าเคร่งเครียด กดเบอร์แล้วโทรออกเอง
วันก่อน เขาเพิ่งได้เจอหน้ากับถังคังเจิ้นด้วยตัวเอง คุยทุกอย่างกันเรียบร้อยแล้ว
ถังคังเจิ้นตอบตกลงแล้ว ให้กองพิเศษหวู่อันและกรมพาณิชย์ไปตรวจสอบหลินอิ่ง หาหลักฐานมาให้เขา ให้เขาช้าสื่อในการเอาคืนหลินอิ่ง
ปรากฏว่า ไม่ได้ข่าวดีจากถังคังเจิ้น
กลับกัน ข่าวที่ถูกปิดกั้นไปไม่กี่วัน ก็ระเบิดกันออกมาอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วอีก ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ค่อนข้างร้ายแรง
“ฮัลโหล เหล่าถัง ได้ดูข่าววันนี้หรือยัง? เรื่องนี้มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
เมื่อโทรติดแล้ว จี้ฉงซานก็พูดอย่างเคร่งเครียด
“คุณท่านจี้ อีกหน่อยถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็อย่าโทรหาผมเป็นการส่วนตัวอีก”
“ถ้าหากคุณคิดว่าได้รับความไม่ยุติธรรม ก็ขอให้คุณไปที่ศาลากลางเอง ไปทำการร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
ในโทรศัพท์ เป็นเสียงของถังคังเจิ้นที่เคร่งขรึม
“การรายงานข่าวจากสื่อ ผมดูแล้ว ผมไม่มีข้อคิดเห็นอะไร เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว จะทำอะไรได้”
“เป็นคนซื่อตรงไม่กลัวเงาเอียง คุณ ทำตัวคุณให้ดีละกัน”
ฟังคำพูดพวกนี้ไปแล้ว จี้ฉงซานสีหน้าเปลี่ยน
ทัศนคติและน้ำเสียงคำพูดของถังคังเจิ้นเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ต้องรู้ว่า ถังคังเจิ้นกับเขามีความสัมพันธ์รู้จักกันนานหลายปี เมื่อก่อนกระตือรือร้น ตอนนี้ทำไมถึงแสดงท่าทางห่างเหินกันขนาดนี้?
จี้ฉงซานคิดไปสักพัก พูดอย่างจริงจัง “เหล่าถัง คุณก็ไม่ต้องพูดจาทางการอะไรกับผมแล้ว”
“เห็นแก่ความสัมพันธ์กันมายาวนาน คุณให้คำตอบกับผมหน่อย ว่าคุณถูกใครกดดันกันแน่?”
“คุณวางใจ ผมไม่ทำให้คุณลำบากใจ ทำตัวลำบากแน่”
โทรศัพท์ฝั่งโน้น ถังคังเจิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง
“เหล่าถัง คุณก็คิดสักว่าผมหน้าด้านขอร้องคุณละกันนะ คุณช่วยผมสักครั้งนะ มีปัญหาอะไร พวกเราช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหาได้” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้ามีความสัมพันธ์อะไรที่แก้ไม่ได้ ผมสามารถหาวิธีได้”
จี้ฉงซานใจร้อนเหมือนมดในกระทะ
คิดยังไงเขาก็คิดไม่ออกว่าปัญหามีคืออะไร ถังคังเจิ้นทำไมถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ ไม่ยอมแม้แต่จะเปิดปากพูด?
หรือว่า ยังมีใครอีก ที่สำคัญและต้องไว้หน้ามากกว่าเขาจี้ฉงซาน? ถึงต้องให้เขาถังคังเจิ้นเคารพและระวังขนาดนี้?
หลินอิ่ง?
เป็นไปไม่ได้
ไอ้เด็กหลินอิ่งนั่น ไม่มีรากฐานอะไรในเมืองก่างเลย ไม่มีเครือข่ายความสัมพันธ์อะไรเลย จะสร้างความกดดันให้คนอันดับหนึ่งแห่งเมืองก่างได้?
“คุณท่านจี้ ผมบอกคุณให้รู้ละกัน” ถังคังเจิ้นพูดอย่างเคร่งเครียด
“ไม่ใช่ผมไม่อยากช่วยคุณ แต่ว่า ลำพังผมเองยังเอาตัวรอดไม่ได้”
“อะไร? เหล่าถัง? ทางคุณเกิดปัญหาอะไร? หรือว่าในเมืองก่างยังมีใครกล้ากดดันคุณได้?” จี้ฉงซานถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ถังคังเจิ้นพูดอย่างเคร่งขรึม “คนทางตี้จิงมาแล้ว”
“คุณท่านจี้ ผมพูดกับคุณตรงๆ เรื่องของคุณ ผมจะไม่ยุ่งอีกแล้ว”
“ท่านหลุยกงแห่งตี้จิง ส่งคนมาตรวจสอบผมที่เมืองก่าง และทำการทักทายเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วก็พูดอย่างชัดเจนแล้ว คุณท่านจี้ พฤติกรรมของคุณในตี้จิง ปิดบังท่านหลุยกงใช้อำนาจเขาไปมีเรื่องกับหลินอิ่ง ทำให้ท่านหลุยกงไม่พอใจอย่างมาก”
“เพราะฉะนั้น เรื่องต่อจากนี้ คุณระวังเองละกัน”
เสียงดังติ๊ดติ๊ด
พูดจบ ถังคังเจิ้นวางสาย
จี้ฉงซานวางโทรศัพท์ลง แววตาเหม่อลอย รู้สึกถึงความกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้แต่ถังคังเจิ้นยังเอาตัวเองไม่ลอด?
หลินอิ่งมีพลังอำนาจมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
สีหน้าจี้ฉงซานเคร่งเครียด ยังอยากโทรกลับไปอีก อยากหาถังคังเจิ้นถามเรื่องราวให้ชัดเจน
แต่ว่า ก็ไม่กล้าโทรกลับไปอีก
คำพูดของถังคังเจิ้น พูดอย่างชัดเจนแล้ว
แต่ว่า ในใจจี้ฉงซานรับไม่ได้เอง อำนาจที่หลินอิ่งใช้ กลับสามารถสร้างความกดดันให้เขาที่เมืองก่างได้
“พ่อ เป็นอะไร? ทำไมถึงได้หน้าซีดขนาดนี้? นายกเทศมนตรีถังพูดยังไง? หรือว่าเขาจะไม่ช่วยตระกูลจี้ของเรา?” จี้ชวนรีบถาม สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของจี้ฉงซาน
“เห้อ” จี้ฉงซานถอนหายใจ “นายกสมาคมถังยังเอาตัวรอดไม่ได้ คงคาดหวังอะไรไม่ได้……”
เขารู้สึกขมขื่นในใจอย่างมาก ทั้งตะลึงและรู้สึกเจ็บใจ
เป็นท่านหลุยกงแห่งตี้จิงที่เป็นคนให้ความกดดันนายกสมาคมถัง?
นี่? ไม่ว่ายังไงท่านหลุยกงกับเขาจี้ฉงซาน ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กันบ้าง
ครั้งที่แล้วเขาอยู่ตี้จิง ก็แค่ใช้แผนการไม่ดี เล่นเกมโกงนิดหน่อย พักที่ตำหนักหลุยกง ใช้แผนการลอบจับคนของหลินอิ่งไป
ปรากฏว่า คิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งจะสามารถบีบจนท่านหลุยกงก้มหัวได้ ทำให้ท่านหลุยกงหันกลับมาโมโหใส่เขาจี้ฉงซาน?
ไม่น่าเชื่อจริงๆ
นี่เป็นปัญหาที่จี้ฉงซานไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อย
เขารู้ว่าหลินอิ่งเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ หรืออาจจะมีอำนาจในวงการลึกลับ
แต่ว่า คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้
“นายกเทศมนตรีถังพึ่งไม่ได้แล้ว? เป็นไปได้ยังไง? พ่อ ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ตระกูลจี้ของเราจะทำยังไงต่อไป พ่อไปมีเรื่องกับคนเก่งกาจที่ไหนมา?” จี้ชวนถามด้วยความตกใจ สีหน้าไม่อยากเชื่อ
“แกจะกระวนกระวายอะไรถึงขนาดนี้?” จี้ฉงซานต่อว่าจี้ชวนด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นายกเทศมนตรีถังช่วยไม่ได้ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ไม่ได้หรือไง?”
“จี้ชวน แกไปที่ศูนย์ฝึกอบรม ไปเรียกที่ปรึกษาChloeมา” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ต้องใช้อำนาจของทางด้านพอร์ตเล็ตแล้ว ครั้งนี้ ฉันจะให้หลินอิ่งมันมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ไม่ใช่เขาตา ก็คือฉันตาย”