ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 460 ในเมืองก่าง ทำตามระเบียบของผม
แน่นอน ตระกูลโครเมียร์กับตระกูลพอร์ตเล็ตเป็นศัตรูกัน ครั้งนี้อยากใช้โอกาสในเมืองก่าง ฉวยโอกาสเอาคืน
แต่ว่า ตระกูลโครเมียร์โลภเกินไป
อยากได้ทุกอย่างในเมืองก่างของตระกูลพอร์ตเล็ต ?
ต้องรู้ว่า ตระกูลพอร์ตเล็ตในเมืองก่างมีตัวแทนที่แข็งแกร่งคนหนึ่งอย่างจี้ฉงซาน
เห็นได้ว่า ตระกูลพอร์ตเล็ตในเมืองก่าง ความจริงแล้วมีอำนาจผลกระทบมากแค่ไหน
ส่วนตระกูลโครเมียร์ เข้ามาก็อยากเป็นตัวแทนของตระกูลพอร์ตเล็ตในเมืองก่าง?
“หลินที่รัก คุณวางใจ ตระกูลโครเมียร์ของเราจะให้ผลตอบแทนที่เท่าเทียมกัน” แอนนาพูดอย่างจริงจัง
หลินอิ่งมองไปที่แอนนา พูดว่า “เรียกฉันคุณหลิน หรือหลินอิ่ง”
“คุณหลิน ฉันรับรองว่า ตระกูลพอร์ตเล็ตไม่กล้าใช้อำนาจใดๆในการช่วยเหลือจี้ฉงซาน แบบนี้แล้ว คุณก็จะหมดสิ่งกีดขวางไปมากทีเดียว” แอนนาพูดอย่างเชื่องช้า “อีกอย่าง ไม่ต้องให้คุณช่วยลงมือ อำนาจที่หลงเหลืออยู่ของตระกูลพอร์ตเล็ต ตระกูลของเราจะไปจัดการเอง”
“คุณคิดว่า ผมจะกลัวตระกูลพอร์ตเล็ต?” หลินอิ่งมองไปที่แอนนา แล้วหัวเราะ
ตระกูลพอร์ตเล็ตยิ่งใหญ่
แต่ว่า ไม่มีอำนาจอะไร จะขัดขวางการตัดสินใจของหลินอิ่งได้
จี้ฉงซานต้องตาย
เทวดาบนสวรรค์มาก็ไม่มีประโยชน์
แอนนาก็หัวเราะ พูดว่า “คุณหลิน คุณคิดว่า ตระกูลพอร์ตเล็ตจะนั่งดูคุณล้มตำแหน่งถุงเงินถุงทองอันสำคัญของพวกเขาอย่างจี้ฉงซานเหรอ? คุณทำลายคณะกรรมการเถ่เสว่ตระกูลพอร์ตเล็ตในเมืองก่างแล้ว เกรงว่าพวกเขาจะใช้อำนาจมืดที่แข็งแกร่งกว่านี้ มาจัดการคุณ”
“อีกอย่าง อภิมหาเศรษฐีเมืองก่างจี้ฉงซาน ไพ่ในมือไม่ได้มีแค่ตระกูลพอร์ตเล็ต คุณมั่นใจขนาดนั้นเหรอ ว่าจะล้มเขาได้อย่างง่ายดาย?” แอนนาจับคางตัวเอง ถามอย่างสนใจ
หลินอิ่งนิ่งเฉย ยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม
แอนนาพูด “ตระกูลของเราได้รับข้อมูลล่าสุด หลังจากคณะกรรมการเถ่เสว่หายไปจากเมืองก่าง ตระกูลพอร์ตเล็ตส่งยอดฝีมือที่เก่งกว่า เดินทางออกจากเวสต์แลนส์แล้ว ไม่กี่วันก็ถึงเมืองก่าง”
“ยอดฝีมือชุดนี้ เป็นศูนย์กลางอำนาจมืดของตระกูลพอร์ตเล็ต นักฆ่าที่แท้จริง”
“ฉันว่า จากความสามารถของคุณหลินแล้ว อาจจะไม่กลัว” แอนนาพูดเชื่องช้า “แต่ว่า มันก็จะนำความวุ่นวายมากมายมาให้คุณหลิน”
“ขอแค่คุณหลินพยักหน้า ฉันยินดีช่วยคุณกำจัดพวกแมลงกวนใจทั้งหมด”
หลินอิ่งเคาะโต๊ะเบาๆ คิดไปครู่หนึ่ง
คนของตระกูลพอร์ตเล็ต หลินอิ่งไม่ได้ใส่ใจ
แต่ว่ามดเยอะก็กัดช้างตายได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาเป็นคนกลัวความวุ่นวาย เรื่องวุ่นวายมากมายขนาดนี้ ไม่สามารถไปจัดการทีละเรื่องคนเดียว
“คุณหลิน คุณก็คิดสักว่าช่วยฉันได้ไหม?” แอนนากัดริมฝีปากพูด แววตาเป็นประกาย
“ขอแค่คุณยอมช่วยฉัน คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้”
แอนนาท่าทางน่าสงสาร สายตาเว้าวอนจ้องมองหลินอิ่ง
หลินอิ่งยังคงสีหน้าเรียลเฉย ไม่ได้ชอบวิธีนี้
“ตระกูลโครเมียร์ของพวกคุณอยากได้ส่วนแบ่งจากมือผม ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้”
“จริงเหรอ?” แอนนาพูดด้วยสีหน้าดีใจ
เธอเป็นทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลโครเมียร์
ครั้งนี้มาเมืองก่าง เป็นครั้งแรกที่ทำงานข้างนอกแทนตระกูลโครเมียร์
นี่ก็เป็นการทดสอบเธอภายในตระกูล ทดสอบความสามารถของทายาทผู้สืบทอด
ถ้าหากจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเรียบร้อย สามารถยึดอำนาจที่เหลือของตระกูลพอร์ตเล็ต ถ้าเช่นนั้น เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วก็คือผลงานชิ้นใหญ่ สามารถทำให้อำนาจของเธอภายในตระกูลโครเมียร์เติบโตขึ้น ชื่อเสียงก็จะสูงเกินกว่าทายาทคู่แข่งคนอื่นๆ
“ง่ายมาก” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “ในเมืองก่าง ต้องทำตามระเบียบผม”
“ผมสามารถให้โอกาสคุณได้ ให้คุณไปจัดการเรื่องของตระกูลพอร์ตเล็ต”
“แต่ว่า คุณต้องจำไว้ ผมสามารถให้พื้นที่กับตระกูลโครเมียร์ได้ เวลาเดียวกันผมก็สามารถยึดทุกอย่างจากครอบครัวคุณในเมืองก่างได้เช่นกัน”
พูดแค่พอดี
หลินอิ่งปิดปากเงียบไม่พูด
“นี่…….” แอนนาแววตาลังเล เธอคิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งเปิดปากก็พูดจาเด็ดขาดขนาดนี้
จากนี้ทุกเรื่องในเมืองก่าง ต้องฟังหลินอิ่ง?
เขามีความมั่นใจขนาดนี้ สามารถจัดการจี้ฉงซานได้อย่างง่ายดาย?
เขาไม่มีตระกูลพอร์ตเล็ตแล้วก็ตระกูลโครเมียร์อยู่ในสายตาเลย?
แอนนาคิดไปสักพัก มองไปที่หลินอิ่ง พูดอย่างจริงจัง “คุณหลิน ฉันตกลงกับข้อเสนอนี้ได้”
พูดตามตรง คนที่ร่วมงานกับตระกูลโครเมียร์ น้อยมากที่จะได้ครอบครองสิทธิ์ในการตัดสิน
แต่ว่า วิธีการของหลินอิ่ง มันไม่อนุญาตให้แอนนาปฏิเสธ
เพราะว่า ความยิ่งใหญ่ของผู้ชายคนนี้ เกินความคาดคิดของคนทั่วไปแล้ว
วิธีการของหลินอิ่ง ไม่มีทางยอมให้ตระกูลโครเมียร์อยู่เหนือเขาในเมืองก่างแน่นอน
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย
“โอกาส มีไว้ให้คนที่เตรียมพร้อม”
“เรื่องของตระกูลพอร์ตเล็ต คุณไปจัดการให้ดี”
หลินอิ่งพูดประโยชน์นี้จนจบด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นลุกขึ้น เดินจากไป
“คุณหลิน คุณ……” แอนนาสีหน้าผิดหวัง ยังอยากพูดอะไรอีก แต่หลินอิ่งก็จากไปอย่างไม่ลังเล
เธอเข้าหาเองขนาดนี้แล้ว ยังอยากมีความสัมพันธ์คลุมเครืออะไรกับเขาหน่อย
และอยากทำความเข้าใจกับผู้ชายลึกลับคนนี้อีก
แต่หลินอิ่งไม่ให้โอกาสเลย
ไม่ว่าเธอจะทำตัวยังไง หลินอิ่งก็ทำท่าเย็นชาตลอด
ดูเหมือน ความสวยที่เธอภูมิใจนั้น ต่อหน้าหลินอิ่งมันไม่ใช่อะไรทั้งนั้นเลย
นี่ทำให้แอนนารู้สึกไม่พอใจ
เพราะว่า เธอเป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงในโลกตะวันตก แค่โบกมือ ก็ไม่รู้ว่ามีผู้ชายเท่าไหร่มาเข้าแถวตามจีบเธอ
แต่ว่า หลินอิ่งกลับไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
“คุณชายโหม ท่านคิดว่า หลินอิ่งคนประเทศหลุงท่านนี้ เป็นคนยังไง?”
เมื่อหลินอิ่งจากไปแล้ว
แอนนาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ชายอาวุโสสวมเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่ง ปรากฏตัวอยู่ในห้องนอน
ใบหน้าของผู้อาวุโสหน้าเฉียบคมเคร่งขรึม แววตาคมลึก ไร้อารมณ์ความรู้สึก
ดูแล้ว ก็เหมือนคนแก่ที่ใกล้ตายคนหนึ่ง
แต่ว่า ความโหดเหี้ยมในตัวเขา ทำให้รู้สึกหวาดกลัว เหมือนดั่งคนโหดที่เดินออกมาจากป่าช้า
“หลินอิ่ง ไม่ธรรมดา” ผู้อาวุโสขยับปากสีหน้าเรียบเฉย ใช้ภาษาประเทศหลุงได้อย่างชัดเจน พูดอย่างเคร่งเครียด
แอนนาสีหน้าสงสัย พูดว่า “คุณชายโหม คุณสังเกตนานขนาดนี้ สามารถดูความสามารถเขาออกไหม?”
“คุณแอนนา ผมไม่ได้สังเกตเขา เพราะว่า เขาเห็นผมแล้ว” คุณชายโหมน้ำเสียงแหบแห้ง “เขาเตือนผมแล้ว เพื่อความปลอดภัยของคุณแอนนา ผมไม่กล้าสังเกตเขาอีก”
“เขาเห็นคุณแล้ว? ตักเตือนแล้ว? เรื่องอะไรกัน คุณชายโหม?” แอนนาถามด้วยสีหน้าตกใจ