ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 468 คิดอยากทดสอบหลินอิ่ง?
“ฮาฮาฮา” จ้าวเฉิงเฉียนโกรธจนหัวเราะ “ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้นาย? หลินอิ่ง นายนี่มันอวดดีจนไม่มีที่สิ้นสุดแล้วนะ”
“นายรู้ไหมว่าฉันจ้าวเฉิงเฉียนเป็นใคร?” จ้าวเฉิงเฉียนสายตาเย็นชา แปร่งประกายความโหดเหี้ยม
จ้าวเฉิงเฉียน ลูกชายผู้โดดเด่นของตระกูลจ้าว เป็นถึนายน้อยแก๊งหยางเหมิน
ในแวดวงผู้ลึกลับ เป็นชายหนุ่มผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง คนเรียกเจ้าชายโดดเด่น คนอันดับหนึ่งยอดฝีมือรายการดิน
อาจารย์ของเขา เจ้าสำนักหยางแก๊งหยางเหมิน ชื่อเสียงน่าเกรงขาม เป็นหนึ่งในยอดฝีมือทั้งสิบสองในรายการฟ้าของโลกผู้ลึกลับแห่งประเทศหลุง
ฐานะ อำนาจ ความสามารถ ความรู้
จ้าวเฉิงเฉียนคิดว่าตัวเอง ไม่มีวันแพ้คนรุ่นเดียวกันสักคน
ส่วนหลินอิ่ง กลับกล้าเหยียดหยามเขา?
“นายเป็นใคร? ตำแหน่งนายน้อยแก๊งหยางเหมิน ใหญ่มากเหรอ?” หลินอิ่งพูดเรียบเฉย
พูดไป หลินอิ่งก็ค่อยๆลุกขึ้น พูดว่า “อาจารย์ของนายหยางติ่งเทียน ก็แค่ฝีมือกระจอก นาย ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน?”
เจ้าสำนักหยางแก๊งมังกร หยางติ่งเทียน
หนึ่งในยอดฝีมือผู้เก่งกาจของสิบสองคนในรายการฟ้าแห่งประเทศหลุง
ไม่ว่าชื่อเสียงหรือความสามารถ หยางติ่งเทียนยังคงอยู่ในตำแหน่งจุดสูงสุด
แต่ว่า ตอนที่หลินอิ่งอายุสิบหกฆ่ายอดฝีมือรายการฟ้า
หนึ่งในนั้น หยางติ่งเทียนก็คนแพ้ในกำมือเขา
“ใจกล้า”
“อวดดี”
หัวหน้าหม่ากับเผยหวูหมิง สีหน้าโมโห จ้องหน้าหลินอิ่งด้วยความโกรธ
“นายกล้าเรียกชื่อของเจ้าสำนักหยางโดยตรง ยังกล้าเหยียดหยามแบบนั้น?” หัวหน้าหม่าพูดเสียงเคร่งขรึม มองหน้าหลินอิ่งเย็นชา
“ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง หลินอิ่ง คุณเคยชนะผม ผมยอมรับในฝีมือคุณ แต่ว่า คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาเหยียดหยามเจ้านำนักหยางของเรา” เผยหวูหมิงตะโกนพูดอย่างโมโห
หยางติ่งเทียน เจ้าสำนักหยาง มีตำแหน่งสูงส่ง อำนาจล้นฟ้าในแก๊งหยางเหมิน
ทุกคนในแก๊งหยางเหมิน ไม่มีใครยอมให้คนนอกมาดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเจ้าสำนักหยาง
“อะไรนะ? แม้แต่อาจารย์ฉันหยางติ่งเทียนก็ไม่อยู่ในสายตานาย?” จ้าวเฉิงเฉียนได้ยินแล้วก็สีหน้าโมโห
จ้าวเฉิงเฉียนคิดว่าตัวเองก็กล้าพอแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งจะอวดดีกว่าเขาเป็นร้อยเท่า
นี่มันกล้าขนาดไหน ถึงกล้าเหยียดหยามเจ้าสำนักหยาง?
สถานที่มีคนประเทศหลุง ก็มีอำนาจของแก๊งหยางเหมินอยู่ที่นั่น
ไม่ใช่คำพูดเฉยๆแน่
ไม่ว่าทั้งในและต่างประเทศ
แก๊งหยางเหมิน มีเครือข่ายความสัมพันธ์อันกว้างขวางและวุ่นวาย สูงถึงนักการเมืองชั้นสูง ต่ำสุดถึงประชาชนทั่วไป มีอยู่ทุกแห่งหน
“ไม่ใช่ฉันไม่มีหยางติ่งเทียนอยู่ในสายตา” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “แต่ว่า ในสายตาฉัน ใต้หมัดฉัน ไม่มีเขาคนนี้อยู่จริง”
“หลินอิ่ง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ถึงแม้ว่าผมเผยหวูหมิงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้คุณ ก็ทนฟังคุณเหยียดหยามเจ้าสำนักหยางของเราไม่ได้” เผยหวูหมิงแววตาลุกเป็นไฟ ท่าทางโมโหมาก
เจ้าสำนักหยาง หยางติ่งเทียน ยังคงเป็นเหมือนดั่งเทพในใจของคนในแก๊งหยางเหมิน บุคคลที่น่ายกย่อง
หลินอิ่งเปิดปากก็พูดจาเหยียดหยามเทพในดวงใจของพวกเขา
“ พูดมาก”
หลินอิ่งสายตาเย็นชา มองเผยหวูหมิงอย่างเย็นชา
“เจ้าน้อยตระกูลเผย เป็นผู้แพ้แล้ว ยังกล้ามาอวดดีตะโกนต่อหน้าฉันอีก?”
“เผยเส่ยีผู้อาวุโสตระกูลนายอยู่ต่อหน้าฉัน ก็เป็นแค่คนแก่ที่ต้องก้มตัวต่อหน้าฉัน”
หลินอิ่งต่อว่าอย่างเย็นชา ท่าทางที่แสดงออกในตอนนี้ ก็เหมือนดั่งมังกรเงยหน้าขึ้น ระหว่างการพ่นลมหายใจนั้นก็ทำให้คนที่นั่งอยู่เกรงกลัว รู้สึกหวาดกลัวหัวใจเต้นแรงจนตัวสั่น
“ไอ้เด็กตระกูลเผย คุกเข่าลง”
น้ำเสียงเย็นชาของหลินอิ่ง เหมือนดั่งฟ้าผ่า กึกก้องดั่งระฆังยักษ์ดังอยู่ในหัวของเผยหวูหมิง
เสียงฟ้าผ่าโคร่งๆดังกึกก้อง
เผยหวูหมิงแววตาตกใจ ร่างกายสั่น กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายแข็งทื่อสั่นกระตุก
ตุ๊บตั๊บ
ร่างกายเขาคุกเข่าลงพื้นทันที สีหน้าซีดขาว มือสั่นไม่หยุด
เสียงตะโกนดังกึกก้อง ทำให้เผยหวูหมิงตกใจอย่างขีดสุด จนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“นี่มัน เสียงดั่งฟ้าร้อง?”
“มีวิชาสูงส่งถึงขั้นนี้?”
เวลานี้ จ้าวเฉิงเฉียนกับหัวหน้าหม่าก็ตกใจไม่เบา ทั้งสองมองหน้าหลินอิ่งหน้าซีด
เสียงตะโกนคำเดียว กึกก้องกลางอากาศดั่งเสียงฟ้าผ่า
เผยหวูหมิงเป็นถึงยอดฝีมือรายการคน ก็ทนรับพลังอำนาจแบบนี้ไม่ไหว ตกใจจนต้องคุกเข่าลงไปทันที
พลังวิชาระดับนี้ สูงส่งขนาดไหน?
หลินอิ่ง ไปถึงระดับวิชาการต่อสู้ขึ้นไหนกันเนี่ย?
จ้าวเฉิงเฉียนกับหัวหน้าหม่า สีหน้าเริ่มไม่ดี ถอยหลังไปหลายก้าว
เผยหวูหมิงเหมือนใจหายไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาไร้แวว อยากจะลุกขึ้น แต่พบว่าเนื้อตัวเขาสั่นไปทั้งร่าง น้ำเสียงของหลินอิ่งดังกึกก้องอยู่ในหูของเขา
เสียงฟ้าผ่าวนเวียนระเบิดอยู่ในหัวเขาจนเหมือนจะแตกออก
ต้องเป็นยอดฝีมือในวิชาการต่อสู้ชั้นสูง ยอดฝีมือรายการคนในประเทศหลุงที่มีเพียงน้อยนิด เวลานี้ก็ต้องตะลึงกับฝีมือของหลินอิ่ง เหมือนดั่งเทพเหนือเทพ
“จ้าวเฉิงเฉียน นายไม่พอใจใช่ไหม ลงมือเลย” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “ฉันก็อยากรู้ คุณชายอันดับหนึ่งแห่งตี้จิงอย่างนาย จะเก่งสักแค่ไหน”
จ้าวเฉิงเฉียนสีหน้าหนักใจ ถูกหลินอิ่งทำให้ตกใจ จนไม่เหลือความมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“นายน้อย ผมลงมือแทน ขอทดสอบฝีมือเขาหน่อย”
หัวหน้าหม่าเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มองหน้าหลินอิ่งอย่างเคร่งเครียด
“หัวหน้าแก๊งหยางเหมิน หม่าผิงชวน เชิญท่านสอนด้วย”
หัวหน้าหม่ายกมือขึ้นเล็กน้อย แววตาเฉียบคม ท่าทางเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูผู้เก่งกาจ
หม่าผิงชวน หัวหน้าคนหนึ่งของแก๊งหยางเหมิน พ่อบ้านคนสนิทของจ้าวเฉิงเฉียน
ระดับในยอดฝีมือรายการคนอยู่ในลำดับห้าสิบ อยู่ในแวดวงผู้ลึกลับนี้มายี่สิบปี
คือคนเก่าแก่คนแวดวงแล้ว
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย ยืนอยู่กับที่ ไม่ได้แสดงท่าทีสำหรับคำเชิญการต่อสู้ของหม่าผิงชวน
หม่าผิงชวนขมวดคิ้ว โมโหขึ้นทันที
ความหมายที่หลินอิ่งแสดงออกชัดเจนมาก เขาไม่คู่ควร
ชิ้ว
ด้วยความโมโห หม่าผิงชวนลงมือทันที ร่างเหมือนดั่งเงา หมุนตัวขึ้นมา จนเป็นสายลมอย่างแรงจนน่ากลัว
ปัง
หม่าผิงชวนใช้ฝ่ามือ วิชากำลังภายในที่ฝึกฝนมานานนับสิบปี ฝ่าลงไปที่ไหล่ของหลินอิ่ง
หลินอิ่งไม่สะทกสะท้าน ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้แต่น้อย
ปัง
เสียงดังกึกก้อง หม่าผิงชวนถูกสะเทือนออกไปไกลสิบกว่าเมตร ร่างกระแทกลงพื้น กระอักเลือดออกมาทันที
แพร้งพร้าง
หม่าผิงชวนมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าตกใจ อยากพูดอะไรอีก แต่กลับกระอักเลือดไม่หยุด นอนหมดแรงหายใจหอบอยู่กับพื้น
เขาคิดไม่ถึง ฝีมือของหลินอิ่งจะเก่งกาจถึงขั้นนี้
ฟาดฝ่ามือลงไป กลับถูกกำลังภายในสะเทือนกลับมา สะเทือนจนตอนนี้ยังทนรับไม่ไหว ในร่างกายเหมือนมีแรงบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ เหมือนต้องทนรับแรงกดดันพันล้านกิโลในร่างกาย
แน่นอน เขาไม่คู่ควรให้หลินอิ่งลงมือ
ก่อนหน้านี้ ยังอวดดีคาดเดาว่าตอนที่หลินอิ่งสู้กับเผยหวูหมิง แกล้งทำเป็นลึกลับ ใช้แรงฝืนทน ความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเผยหวูหมิง
ตอนนี้รู้สึกว่า ความคิดก่อนหน้านี้ มันน่าหัวเราะแค่ไหน?
คนที่สูงส่งยากจะคาดเดาอย่างหลินอิ่ง ไม่ใช่คนที่เขาคิดอยากจะไปทดสอบได้?