ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 503 ตระกูลฉู่มียา
หลินอิ่งรับโทรศัพท์ ถามว่า “นิ่งซวน ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?”
“ฮัลโหล ผู้อาวุโส เรื่องที่ท่านให้ผมไปทำ พอได้เรื่องแล้วครับ” ในโทรศัพท์ นิ่งซวนพูดอย่างเคารพ “ดอกโคมที่ท่านให้ผมหา ผมพอได้ข่าวมาบ้างแล้ว ของชนิดนี้แม้แต่ในตลาดมืดก็ไม่ค่อยเห็น ไม่เคยเห็นของจริง แต่ว่า มีข่าวลือว่า ตระกูลฉู่เตียนหนานมีดอกโคมอยู่หนึ่งดอก”
“ตอนนี้ผมกำลังหาความสัมพันธ์อยู่ เพื่อติดต่อกับคนของตระกูลฉู่ ผมสืบมาแล้ว ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานค่อนข้างถ่อมตัว ไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอกนัก แต่ว่าอำนาจของตระกูลฉู่ไม่เล็กเลย ไม่ต่างกับห้ามหาตระกูลแห่งตี้จิง ในเตียนหนานจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้วนมีผลกระทบไม่น้อย ผู้คนเรียกว่าราชาแห่งยา” นิ่งซวนพูดอย่างเคร่งขรึม
“ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน?” หลินอิ่งแววตาเป็นประกาย ถึงอะไรขึ้นมาได้
“ครับ ผู้อาวุโส ผมจัดเตรียมคนไว้แล้ว สามารถเดินทางไปขอยากับตระกูลฉู่ได้ทันที” นิ่งซวนพูดอย่างเคร่งขรึม
“ดีมาก ผมรู้แล้ว ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งทำอะไร ผมจะติดต่อกับคนของตระกูลฉู่เอง” หลินอิ่งสั่งอย่างเคร่งขรึม
“ครับ”
หลังจากวางสายแล้ว แววตาของหลินอิ่งก็ค่อยๆคมลึกขึ้น
นี่ถือว่าเป็นข่าวดีมาก
ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานในแวดวงลึกลับนั้นถูกเรียกว่าตระกูลราชาแห่งยา ภายในตระกูลเก็บรักษาดอกโคมไว้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
เพียงแต่ว่า ดอกโคมนั่นมีค่ามาก
ควรต้องใช้วิธียังไงในการได้วัตถุดิบยานี้มา ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับชีวิตของคุณท่าน
คิดไป หลินอิ่งก็กดเบอร์โทรออก โทรหาฉู่สงซาน
“ฮัลโหล ประธานหลิน สบายดีไหมครับ หลังจากกลับตี้จิงแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหมครับ?” ในโทรศัพท์เป็นเสียงของฉู่สงซานที่พูดอย่างเคารพ
“ประธานฉู่ ผมมีเรื่องจะขอร้อง ต้องการให้คุณช่วย” หลินอิ่งพูดอย่างเปิดอก
“ออ? ประธานหลิน ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนไม่ต้องเกรงใจ คุณพูดได้เลย” ฉู่สงซานพูดอย่างกันเอง ก็เพราะนับหลินอิ่งเป็นเพื่อนแล้ว
ฉู่สงซานก็เคยเห็นฝีมือของหลินอิ่งมาแล้ว และเห็นขั้นตอนทุกอย่างด้วยสายตาตัวเอง มองดูหลินอิ่งโค่นล้มอภิมหาเศรษฐีแห่งเมืองก่างจี้ฉงซาน และบีบจนตายต่อหน้า
คนระดับหลินอิ่ง กลับโทรมาให้เขาช่วยเหลือ?
นี่ทำให้ฉู่สงซาน รู้สึกปลาบปลื้มขึ้นมาทันที
หลินอิ่งถามอย่างเคร่งขรึม “ประธานฉู่ รบกวนถามหน่อย ในตระกูลฉู่ของพวกคุณได้เก็บยาหายากชนิดหนึ่งชื่อดอกโคมไว้หรือไม่?”
“ดอกโคม?” ฉู่สงซานน้ำเสียงลังเล “ประธานหลิน พูดตามตรง ตระกูลฉู่เตียนหนานของเรามีดอกโคมอยู่จริง แต่ว่ามีเพียงดอกเดียว เก็บรักษาอยู่ในห้องลับของตระกูล”
“ตระกูลฉู่มียาอยู่จริง?” หลินอิ่งรู้สึกดีใจ จากนั้นก็ถามต่อ “ประธานฉู่ พูดตามตรง คุณอยู่ในตระกูลฉู่มีอำนาจที่สามารถนำดอกโคมออกมาหรือไม่?”
“อันนี้…….ประธานหลิน ดอกโคมเป็นของมีค่ามาก ถือเป็นของล้ำค่าที่หายากในแวดวงลึกลับ ผมเชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้” ฉู่สงซานพูดด้วยน้ำเสียงลังเล “ในตระกูลฉู่ มีเพียงคุณท่านตระกูลผมเท่านั้นที่มีอำนาจเอายาจากห้องลับได้ ผมไม่มีอำนาจนี้”
“ประธานฉู่ ถ้าเช่นนั้นรบกวนคุณช่วยผมนัดคุณท่านฉู่หน่อย เปิดข้อเสนอมาได้เลย ผมติดหนี้บุญคุณท่านครั้งหนึ่ง ดอกโคมนี้ ผมต้องการใช้ด่วน ต้องได้ถึงมือภายในสองวัน” หลินอิ่งพูดอย่างเด็ดขาด
“ประธานหลิน คุณเกรงใจไปแล้ว ภายในหนึ่งชั่วโมง คุณรอข่าวจากผม ผมกลับเตียนหนานพอดี ผมไปพบคุณท่านเดี๋ยวนี้เลย” ฉู่สงซานไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ตอบตกลงทันที
คนระดับหลินอิ่งเปิดปากพูดเอง นั่นต้องรักษาสัญญาแน่นอน สำหรับฉู่สงซานแล้ว นี่คือโอกาสครั้งหนึ่ง
น้ำเสียงแบบนี้ของหลินอิ่ง ต้องการดอกโคมด่วนขนาดนี้ ในใจฉู่สงซานรู้ดี ต้องมีความจำเป็นอย่างมากแน่นอน
วางสายแล้ว หลินอิ่งก็โล่งใจขึ้นบ้าง นั่งลงไปที่เก้าอี้ ค่อยๆจีบน้ำชา
ยาของตระกูลฉู่ เป็นข่าวดีที่สุดจริงๆ
โชคดี ตอนที่อยู่เมืองก่างได้สานสัมพันธ์ที่ดีไว้กับตระกูลฉู่ มีเหตุมีผล วันนี้ถึงสะดวกในการพูด
มิเช่นนั้น จากพื้นฐานของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานแล้ว พูดตามตรง ไม่มีวันสนใจคุณชายอิ่งแห่งตี้จงอย่างเขาแน่นอน
ในใจหลินอิ่งรู้ดี ดอกโคมนั้นเป็นยาที่มีค่าแค่ไหนในแวดวงลึกลับ เบื้องหลังแล้วตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานนั้นมีอำนาจลึกลับที่แข็งแกร่งขนาดไหน
ดอกโคมหนึ่งดอก ในบางเวลา สามารถช่วยชีวิตของยอดฝีมือรายการดินคนหนึ่งได้ เป็นยาเทวดาในโลกมนุษย์ที่แท้จริง
ลำพังอำนาจและเงินทอง ไม่มีวันทำให้คุณท่านตระกูลฉู่นำดอกโคมออกมาให้แน่นอน
……
มณฑลเตียนหนาน เมืองเมฆ ภูเขาหยุนหลง
บนภูเขาลึกที่เต็มไปด้วยหมอกเมฆ มีอาคารหลังหนึ่งที่สร้างเหมือนดั่งปราสาทสมัยโบราณ อากาศดีมาก เมื่อเทียบกับคฤหาสน์หรูกลางเมือง ดูหรูและสูงส่งกว่ามากมายไม่รู้กี่เท่า
เทือกเขาแห่งนี้ ล้วนเป็นกิจการของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน และเป็นแหล่งศูนย์รวมของสมาชิกสำคัญของตระกูลฉู่
ภายในตระกูลฉู่ ภายในห้องโถงแบบโบราณ ชายชราผมขาวในชุดคอจีนสีเขียวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ ดื่มน้ำชาอย่างใจเย็น เก้าอี้ด้านข้าง เป็นหญิงสาวร่างเล็กที่พูดคุยเป็นเพื่อนกับคนแก่
คนแก่หน้าตาใจดี พูดคุยยิ้มแย้มกับหลานสาว ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข
ผู้อาวุโสท่านนี้ ก็คือผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงลึกลับ ตระกูลฉู่ราชาแห่งยาที่ลูกหลานเต็มบ้าน ฉู่จี้ชัง
เวลานี้ ชายวัยกลางคนในชุดสูทคนหนึ่ง เดินเข้าในห้องโถงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พ่อ ผมมีเรื่องด่วนจะรายงาน” ฉู่สงซานยืนคำนับอยู่หน้าประตู ก้มหน้าพูด
“สงซาน เข้ามาพูด เรื่องอะไรรีบร้อนขนาดนี้?” ผู้อาวุโสพูดอย่างใจเย็น
ฉู่สงซานเดินเข้าไป พูดอย่างจริงจัง “พ่อ ผมอยากขอพ่อให้อำนาจผมในการเอาดอกโคมไปใช้ ผมมีความจำเป็น”
ได้ยินแล้ว ฉู่จี้ชังก็หรี่ตาลงเล็กน้อย สังเกตดูลูกชายตัวเอง
“สงซาน ลูกใช้ชีวิตกับทางโลกมานานปี ดูแลกิจการของบริษัทและกิจการวัตถุดิบยา ปกติก็ไปมาหาสู่กับคนทั่วไป จะเอาดอกโคมนี้ไปใช้อย่างไร?” ฉู่จี้ชังมองฉู่สงซาน ถามอย่างใจเย็น
“พ่อ หลินอิ่งที่ผมเคยพูดกับพ่อก่อนหน้านี้ คุณชายอิ่งแห่งตี้จิง เขาหาผมเพื่อขอยา บอกว่าต้องการใช้ด่วน ถือว่าติดหนี้บุญคุณผมครั้งหนึ่ง และยอมให้ผลตอบแทนเพียงพอเพื่อแลกกับยา” ฉู่สงซานพูดตามความจริง
“คุณชายอิ่งแห่งตี้จิง? เด็กหนุ่มคนนี้พ่อก็พอได้ยินมาบ้าง คนของตระกูลฉีใช่ไหม? ดูเหมือนจะมีความสามารถไม่น้อย” ฉู่จี้ชังพูดอย่างใจเย็น “สงซาน ครั้งที่แล้วที่ลูกไปขยายกิจการของตระกูลที่เมืองก่าง พ่อรู้ว่าเพราะได้รับความช่วยเหลือจากหลินอิ่ง พ่อก็ถือว่าลูกสร้างผลงานใหญ่”
“แต่ว่า” พูดถึงตรงนี้ ฉู่จี้ชังเปลี่ยนแนวการพูด “นี่ยังไม่พอที่ลูกจะมาเปิดปากขอดอกโคมกับพ่อได้ สำหรับผลตอบแทนนั้น หลินอิ่ง เขาสามารถให้ผลตอบแทนที่เท่าเทียมกันไหม?”
“แต่ว่า……” ฉู่สงซานสีหน้าตื่นเต้น “พ่อ ไม่เช่นนั้นพ่อคุยโทรศัพท์กับหลินอิ่งด้วยตัวเอง ความสัมพันธ์ของผมกับเขาลึกซึ้ง หวังว่าพ่อ……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ฉู่จี้ชังพูดตัดขึ้นมา “ลูกรู้ไหมว่าดอกโคมเป็นของมีค่าชิ้นสำคัญของตระกูลฉู่เรา บรรพบุรุษสืบทอดกันมาเป็นร้อยปี ของแบบนี้ จะเอาไปแลกกับสิ่งของ นั่นมันเรียกว่า นั่นก็คือฟุ่มเฟือย ต่อไปห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก”