ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 511 ตระกูลสวีเกิดเรื่อง
อิ่งเอ๋อ ตอนนี้ เจอคู่อริ เจอเรื่องลำบากใช่ไหม?” ฉีเวิ่นติ่งถาม มองหลินอิ่งแล้วพูด
“คุณปู่ วางใจได้ เป็นแค่พวกตัวตลกที่กล้าแค่ซ่อนตัวในที่มืดเท่านั้น ผมจัดการได้” หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ฉีเวิ่นติ่งพยักหน้าเล็กน้อย พูดว่า “อิ่งเอ๋อ ปู่เชื่อความสามารถของเรา เมื่อเทียบกับปู่แล้วเก่งกว่าเยอะเลย เก่งกว่าคนตระกูลฉี ปู่เชื่อว่าหลานต้องรับมือกับสถานการณ์ได้แน่นอน”
“แต่ปู่ก็ต้องพูดกับเราเรื่องหนึ่ง” ฉีเวิ่นติ่งพูดอย่างจริงจัง “ตอนนี้ตระกูลฉีเหลือเพียงเราสองคนแล้ว ทุกอย่าง ต้องเอาตัวเองเป็นหลัก ปู่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้แล้ว เห็นหลานประสบความสำเร็จทุกวันนี้ ปู่ต้องจากไปก็รู้สึกพอใจแล้ว ถ้าหากมีคนเอาปู่ไปข่มขู่หลาน หลานต้องปกป้องตัวเองก่อน ไม่ต้องสนใจคนแก่อย่างปู่”
“คนที่จะประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักเลือก นี่เป็นคำสอนของปู่” ฉีเวิ่นติ่งพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณปู่ พูดไปถึงไหนแล้ว ไม่มีใครทำอะไรคุณปู่ได้แล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง
ฉีเวิ่นติ่งหัวเราะ พูด “เราปิดบังปู่ไม่ได้หรอก ปู่ไม่ใช่คนไม่เคยผ่านอะไรมาก่อน สิ่งที่หลานเจอ ถึงแม้ว่าปู่ไม่รู้ แต่ก็พอเดาออกบ้าง”
“สิ่งที่หลานจะทำ มันใหญ่เกินไป อันตรายอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้” ฉีเวิ่นติ่งพูดอย่างเชื่องช้า “ถึงวันนี้ ปู่ก็มีคนบางอย่างต้องให้หลาน”
“นอกจากอำนาจเงินทองธุรกิจ เมื่อก่อนตระกูลก็พึ่งความสัมพันธ์ที่ปู่มีทางราชการ และผู้นำทางทหารคอยสนับสนุน ของเหล่านี้มันไม่ยาวนาน มิเช่นนั้น สมัยที่รุ่นพ่อของหลานเป็นผู้ดูแลตระกูล ตระกูลฉีก็ไม่ต้องย่ำแย่ถึงขนาดนั้น”
“เพียงเพราะว่าปู่อยู่ในอาการสลบ เรียกใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ไม่ได้ ก็ถูกคนฆ่าล้างตระกูล ช่างเป็นพวกไม่เอาไหนจริงๆ”
“อิ่งเอ๋อ เขตตะวันออกเมืองเหนือในซอยหยกมณี มีร้านหมักเหล้าอายุร้อยปี ชื่อร้านว่าร้านอาหารจ้วยเจียงซาน เถ้าแก่ที่ดูแลร้านแซ่หวง อายุหกสิบกว่า” ฉีเวิ่นติ่งพูดอย่างจริงจัง “นี่คือไพ่ใบสำคัญของตระกูลฉีเรา หลานจำเป็นต้องใช้เขา ก็ไปเชิญเขาออกมาเถอะ”
“คุณปู่ ผมเข้าใจแล้ว” หลินอิ่งพยักหน้าอย่างหนักแน่น
เป็นห้ามตระกูลใหญ่แห่งตี้จิง ตระกูลฉี ต้องมีวิธีสำคัญที่เหมือนดั่งสมบัติสำคัญของตระกูลอยู่แล้ว
ตอนที่ตระกูลฉีถูกฆ่าล้างตระกูลจากการร่วมมือระหว่างตระกูลเหวินและท่านมังกรดำ ในใจคุณปู่ยังรู้สึกปล่อยมันไม่ได้ หรือพูดได้ว่ารู้สึกผิด ถ้าหากตอนนั้นคุณปู่ใช่วิธีนี้แล้ว ถึงแม้ตระกูลฉีจะพ่ายแพ้ในมือของท่านมังกรดำ แต่ก็คงไม่รุนแรงถึงขั้นถูกฆ่าล้างทั้งตระกูล
“คุณปู่ ผมสืบได้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลเหวินคือใคร ปู่วางใจได้ ความแค้นของตระกูลฉี ผมต้องแก้แค้นแน่” หลินอิ่งพูดหนักแน่น
“ปู่เชื่อว่าเราทำได้” ฉีเวิ่นติ่งพยักหน้า “ด้านอื่นๆ กรมทหารได้คุยเรื่องหลานกับปู่หลายครั้งแล้ว ถ้าหากหลานต้องการ ปู่จะพยายามปูทางข้างหน้าให้หลานอย่างดีที่สุด”
“คุณปู่วางใจ เรื่องพวกนี้ ผมมีแผนการในใจ” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง เข้าใจความห่วงใยของคุณปู่
“ได้ ได้” ฉีเวิ่นติ่งพยักหน้า นอนอยู่บนเตียง “อิ่งเอ๋อ ปู่เหนื่อยแล้ว พักผ่อนก่อน หลายวันนี้เราก็ดูเหนื่อยมาแล้ว พักผ่อนหน่อยเถอะ”
“ครับ คุณปู่ ผมออกไปก่อน ไว้ค่อยมาเยี่ยมคุณปู่วันหลัง ต้องการอะไร ก็บอกกับหัวหน้าหวางหลงของจื่อหลงซานได้เลย” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง
พูดไป หลินอิ่งก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องผู้ป่วย
บนทางเดินนอกห้องผู้ป่วย หัวหน้ากับฉู่ฉู่ยังรออยู่
“คุณหลิน อาการป่วยของนายท่านฉีดีขึ้นไหม?” ฉู่ฉู่ถามอย่างเป็นห่วง
“นายท่านตื่นแล้ว ดีขึ้นมากแล้ว ครั้งนี้ต้องขอบคุณยาจากตระกูลฉู่ของพวกคุณมาก” หลินอิ่งพูด
“ไม่ต้องเกรงใจ มันเป็นเรื่องที่เราสมควรทำ เมื่อก่อนคุณเคยช่วยชีวิตน้องชายฉัน” ฉู่ฉู่ก้มหน้าพูด “ใช่แล้ว คุณหลิน ฉันเอายาบำรุงร่างกายมาจากบ้านให้นายท่านบำรุงร่างกาย คุณมีความรู้ทางการแพทย์ คุณเอาไปใช้เถอะ”
หลินอิ่งสายตาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณ ถ้าเช่นนั้นผมก็รับไว้เลย”
ยาที่เอามาจากตระกูลราชาแห่งยาตระกูลฉู่ ต้องไม่ใช่ยาทั่วไปแน่นอน ฉู่ฉู่ใส่ใจเกินไปแล้ว เขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
“หัวหน้าหลิน หยูจื๋อเฉิงรอท่านอยู่ข้างล่าง เหมือนมีเรื่องด่วนจะรายงาน” หัวหน้าพูดอยู่ด้านข้างอย่างเคารพ
หลินอิ่งพยักหน้า พูดว่า “ผมรู้แล้ว คุณส่งฉู่ฉู่กลับไปหาพ่อของเธอก่อน ทางด้านนายท่าน ตอนที่ผมไม่อยู่ คุณต้องดูแลอย่างดี”
“ครับ” หัวหน้าพูดอย่างเคารพ
“ฉู่ฉู่ ผมยังมีธุระ อยู่เป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว กลับไปบอกพ่อของคุณว่า วันหลังมีจะจัดโต๊ะอาหาร เชิญคุณกับพ่อของคุณ” หลินอิ่งทักทายแล้ว จากนั้นก็หมุนตัวเดินลงไปชั้นล่าง
ฉู่ฉู่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง สายตามองอยู่ที่ร่างของหลินอิ่งที่เดินจากไปอย่างไม่ยอมละสายตา
พอถึงชั้นล่าง หยูจื๋อเฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“ท่านอิ่ง ท่านรักษานายท่านหายหรือยังครับ?” หยูจื๋อเฉิงลุกขึ้นถาม
“อาการป่วยนายท่านควบคุมได้แล้ว แต่ยังไม่ได้หายขาด” หลินอิ่งพูดด้วยแววตาเฉียบคม “ต้องหากงจิ่วให้เจอ เขาก็คือคนที่ควบคุมบริษัทยามาโตะหยิงหวาอยู่เบื้องหลัง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้า “ท่านอิ่ง บริษัทยามาโตะหยิงหวาออกมาแล้ว ร่วมมือกับตระกูลสวีแล้วก็ชีซิงกรุ๊ป จัดงานแถลงข่าวร่วมกัน”
“พวกเขาช่างอวดดีกันจริงๆ ไม่มีท่านอิ่งอยู่ในสายแม้แต่น้อย ปล่อยข่าวลือข้างนอกไปเลื่อย บอกว่านายท่านป่วยระยะสุดท้าย จนกระทั่งพูดว่าเสียชีวิตแล้ว ทำให้ผู้คนหวาดระแวงใจ พวกบริษัทที่ร่วมงานกับตระกูลฉีต่างก็พากันถอนหุ้นเลือกที่จะเฝ้าระวัง” หยูจื๋อเฉิงพูดรายงาน
“หลายวันนี้ยังมีสถานการณ์อะไรอีก เล่าให้หมอ อย่าปิดบังผม” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
หลายวันนี้ความใส่ใจทั้งหมอของเขาอยู่ในเรื่องการรักษาอาการป่วยของคุณปู่ ไม่ได้ไปสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงในตี้จิง หยูจื๋อเฉิงไปจัดการเรื่องทั้งหมดเอง ต้องรับไม่ไหวแน่นอน
วันนี้มีเวลาว่างแล้ว ถึงเวลามาจัดการเรื่องงานแล้ว จัดการพวกภูตผีปีศาจที่กระโดดออกมาแล้ว
“ท่านอิ่ง ตระกูลสวีก็มีปัญหาแล้ว นายท่านตระกูลสวี สวีจิ่วหลิงออกมาเองแล้ว ประกาศในแวดวงตี้จิง ตัดขาดการร่วมงานทางธุรกิจทั้งหมดกับตระกูลฉี และบอกว่าใครที่ทำธุรกิจกับท่าน ก็คือการเป็นอริกับตระกูลสวี” หยูจื๋อเฉิงพูด
“ชีซิงกรุ๊ปและบริษัทยามาโตะหยิงหวาต่างก็ตอบรับเรื่องนี้ในงานแถลงข่าวแล้ว โดยเฉพาะชีซิงกรุ๊ป เริ่มโจมตีบริษัทที่อยู่ในนามของท่านแล้ว บริษัทของพวกเขามีผลกระทบในธุรกิจระหว่างประเทศ ตัดขาดเส้นทางการค้าระหว่างประเทศของเราไปมากมาย และทุกด้านทุกสายงานของบริษัทในด้านตลาดหุ้น ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ความเสียหายทางเศรษฐกิจรุนแรงมาก”