ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 514 เพื่อนเก่า?
ฉู่หยุนซานมีความคิดเห็นต่อเขา อยู่ตี้จิงต่อก็ไม่มีความหมายอะไร กลับไปก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ส่วนฉู่สงซาน ทำไมถึงรีบกลับไปเตียนหนาน
กลับทิ้งฉู่ฉู่อยู่ที่ตี้จิงคนเดียว นี่มันช่างน่าสนใจแล้ว
ตอนแรกหลินอิ่งคิดว่า ฉู่สงซานน่าจะอยู่ในโต๊ะอาหารด้วย
“ใช่คำ” ฉู่ฉู่พยักหน้า พูดอย่างเชื่อฟัง “ลุงฉันบอกว่าอยู่ตี้จิงไม่เคยชิน วันนั้นก็กลับไปแล้ว พ่อของฉันถูกคุณปู่เรียกกลับ ดูเหมือนมีธุระอะไร”
“พ่อของฉันให้บอกกับคุณหลินว่า ท่านจะมาตี้จิงใหม่ ถึงเวลาค่อยดื่มกับคุณ” ฉู่ฉู่พูดช้าๆ “ท่านให้ฉันอยู่ที่ตี้จิง บอกว่าถึงเวลาให้กลับเตียนหนานพร้อมคุณ…….”
พูดถึงตรงนี้ ฉู่ฉู่ก็แก้มแดงขึ้นทันที และหลบสายตาหลินอิ่ง
“ออ ไม่เป็นไร ให้พ่อของคุณหาเวลามาตี้จิงอีก ผมจะต้อนรับอย่างดี” หลินอิ่งพยักหน้า
“คุณหลิน ฉันรู้สึกสนใจตี้จิงเหมือนกัน มีจุดท่องเที่ยวหลายแห่งที่ฉันอยากไป คุณมีเวลาไปเที่ยวกับฉันไหม?” ฉู่ฉู่ถามด้วยสายตาคาดหวัง และระมัดระวัง
หลินอิ่งคิดไปครู่หนึ่ง พูดอย่างจริงจัง “ฉู่ฉู่ ช่วงนี้ผมมีเรื่องต้องยุ่ง รอมีเวลาละกัน ในเมื่อคุณอยู่ต่อที่ตี้จิง ผมจะส่งคนคอยปกป้องอยู่ข้างกายคุณ เพราะว่า ในตี้จิงคุณก็ไม่ค่อยคุ้นเคย”
“ได้ค่ะ ขอบคุณ คุณหลินที่เป็นห่วง” ฉู่ฉู่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง คีบเนื้อย่างขึ้นมากิน
ฉู่ฉู่สั่งอาหารตะวันตกทั้งโต๊ะ คู่กับอาหารว่างและไวน์หนึ่งขวด
ทั้งสองคนเงียบทั้งคู่ บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อย
“คุณหลิน ดื่มสักแก้วไหมคะ?” ฉู่ฉู่เปิดปากพูด เทไวน์ในแก้ว ยื่นแก้วไวน์ให้หลินอิ่ง
“อืม” หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ชนแก้วกับฉู่ฉู่
เขาจะไม่รู้ว่าฉู่ฉู่คิดอะไรอยู่ได้ยังไง และรู้ความคิดของตระกูลฉู่
แต่ว่า ในใจของเขามีเพียงฉีโม่
“เอ๋? ฉู่ฉู่? เธอใช่ไหม?”
เวลาเดียวกัน เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา
เห็นเพียง ชายหนุ่มคนหนึ่งผูกไทใส่ชุดทักซิโด้อย่างหล่อเหลาเดินเข้ามา ข้างกายมีหนุ่มๆสาวๆหลายคน หยุดเดินแล้วมองมาที่ฉู่ฉู่ด้วยแววตาตะลึง
“คุณ? คุณคือซือหม่าเฟิง?” ฉู่ฉู่มองคนที่เดินมาด้วยสีหน้าลังเล แล้วก็นึกขึ้นได้
“ฮาฮา ฉู่ฉู่ เธอยังจำฉันได้ไหม ตั้งแต่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยกู๊ดร่า พวกเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย” ซือหม่าเฟิงพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เป็นฉู่ฉู่จริงด้วย? เกือบจำไม่ได้ เพื่อนเก่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“เอ้ ฉันดูออกตั้งแต่โน่นแล้ว สมัยนั้นฉู่ฉู่เป็นสาวงามชื่อดังในมหาลัยของเรา สาวฝรั่งตั้งมากมายยังไม่มีชื่อเสียงเหมือนเธอเลย”
ทันใดนั้น หนุ่มสาวข้างกายซือหม่าเฟิง ต่างก็พากันเข้ามาทักทาย
“ใช่ ตั้งแต่เรียนจบแล้ว ทุกคนก็ไม่ได้เจอกันเลย” ฉู่ฉู่ตอบอย่างยิ้มแย้ม
หลินอิ่งไม่ได้พูด รักษาความสงบ มองฉู่ฉู่ไปทีหนึ่ง
“คุณหลิน พวกเขาเป็นเพื่อนนักเรียนสมัยมหาลัยของฉัน ทุกคนไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ฉู่ฉู่ยิ้มพูดแนะนำ
เธอเคยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยการแพทย์ชื่อดังระดับโลกแห่งหนึ่ง ตรงหน้าก็คือเพื่อนนักเรียนต่างคณะในมหาวิทยาลัยเดียวกัน พูดไปแล้ว ความจริงก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน บางคนแทบเรียกชื่อไม่ออก แค่คุ้นหน้าเท่านั้น
ที่รู้จักซือหม่าเฟิง ก็เพราะว่าตอนอยู่มหาลัย ซือหม่าเฟิงตามจีบเธออย่างบ้าคลั่ง
“ฉู่ฉู่ ท่านนี้คือ?”
ซือหม่าเฟิงสังเกตเห็นหลินอิ่ง มองไปด้วยสายตาไม่เป็นมิตร มองหลินอิ่งตั้งแต่หัวจรดเท้า
หลังจากสังเกตแล้ว ซือหม่าเฟิงก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเหยียดหยาม ในสายตามีแววแห่งความอิจฉา
“ท่านนี้คือคุณหลิน เพื่อนของฉันในตี้จิง” ฉู่ฉู่พูด
ซือหม่าเฟิงเหล่ตามองหลินอิ่ง แม้แต่อารมณ์ทักทายก็ไม่มี
เท่าที่เขาดูแล้ว หลินอิ่งก็คือคนชั้นต่ำในสังคมคนหนึ่งเท่านั้น แม้แต่มาร้านอาหารหรูแบบนี้ ยังไม่รู้จักแต่งตัว ไม่เคยเปิดหูเปิดตามาก่อน
ไอ้แซ่หลินคนนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำแบบย้อนยุค ชุดลำลองสบาย จะไปเหมือนผู้ลากมากดีที่มาร้านอาหารโรงแรมสากลแบบนี้ได้อย่างไร? นี่มันหนุ่มในสังคมระดับล่าง
ซือหม่าเฟิงดูถูกในใจ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมฉู่ฉู่ถึงกินข้าวกับคนเชยขนาดนี้ ยังสั่งชุดอาหารคู่รัก
“เพื่อนในตี้จิง? ฉู่ฉู่ ฉันจำได้ว่าบ้านเกิดของเธออยู่เตียนหนานโน่นไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาตี้จิง?” ซือหม่าเฟิงมองไปทางฉู่ฉู่แล้วถาม
“ออ ฉันมาตี้จิง ก็เพื่อมาหาคุณหลินโดยเฉพาะ” ฉู่ฉู่ตอบ
“มาหาเขาโดยเฉพาะ?” ซือหม่าเฟิงสีหน้าตะลึง ยิ่งฟังยิ่งไม่พอใจ “เขาเนี่ยนะ? คนแบบนี้ยังคู่ควรให้ฉู่ฉู่เธอมาหาเขาตั้งไกล?”
ซือหม่าเฟิงฟังแล้วก็โมโห คู่ควรได้ยังไง?
เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลซือหม่า ตระกูลชั้นหนึ่งแห่งตี้จิงทั้งคน สมัยอยู่มหาลัย ใช้ทุกวิถีทาง ทำทุกอย่างเพื่อตามจีบฉู่ฉู่ แม้แต่โอกาสในการกินข้าวด้วยกันสักมื้อก็ไม่มี
ปรากฏว่า ฉู่ฉู่กลับวิ่งมาไกลถึงตี้จิง เพื่อไอ้หนุ่มเชยเฉิ่มระดับนี้?
นี่มันดูถูกใครกันแน่?
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มองไปที่ซือหม่าเฟิงทีหนึ่ง หัวเราะเย็นชา ไม่ได้พูดอะไรมาก
“ฉู่ฉู่ ตั้งแต่เรียนจบแล้วสบายดีไหม? ทำงานอะไรอยู่?” ซือหม่าเฟิงทนกลั้นความโกรธไว้ ตามต่อ
“ก็ยังดี ทำงานอยู่ที่บ้าน เกี่ยวกับด้านการแพทย์?” ฉู่ฉู่ตอบอย่างเรียบเฉย
กฎระเบียบของตระกูลฉู่เตียนหนานก็คือทำตัวถ่อมตน ดังนั้น เพื่อนนักเรียนในมหาวิทยาลัยไม่รู้ฐานะตระกูลของฉู่ฉู่
อีกอย่าง ตระกูลฉู่เตียนหนานเป็นตระกูลในแวดวงลึกลับ คนทั่วไปก็ไม่ค่อยรู้จักตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน
“ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดาย ฉู่ฉู่ จากความสามารถของเธอที่จบจากมหาลัย สามารถทำงานในบริษัทการแพทย์สากลไหนก็ได้อย่างสบายเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่บ้านนอกอย่างเตียนหนาน” ซือหม่าเฟิงพูดอย่างเปิดเผย “ถ้าหากเธออยากเปลี่ยนสถานที่เพื่อพัฒนาตัวเอง โทรหาฉัน ตระกูลฉันในตี้จิงก็มีทรัพยากรเครือข่ายความสัมพันธ์ไม่น้อย”
“ใช่ ฉู่ฉู่ ฐานะตระกูลพี่เฟิงเธออาจจะไม่รู้ เป็นถึงตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในตี้จิง” เพื่อนนักเรียนผู้ชายคนหนึ่งพูดประจบ “เธอลองไปสืบดูได้ ตระกูลซือหม่า เป็นถึงบริษัทระดับแสนล้าน มีปัญหาอะไรก็หาพี่เฟิงได้เลย สมัยนั้นพี่เฟิงชอบเธอขนาดนั้น เพียงแค่ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่มีข่าวของเธอเลย”
“ฉู่ฉู่ คุณหลินท่านนี้ คงไม่ใช่แฟนเธอหรอกนะ?” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งถามอย่างดูถูก “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ตกต่ำเกินไปแล้วมั้ง? ทำไมถึงได้หาผู้ชายแบบนี้?”
“ฉู่ฉู่ ฉันจำได้ว่าสมัยอยู่มหาลัย เคยได้ยินว่าพ่อของเธอเปิดบริษัทการแพทย์ในเมืองก่าง ฐานะทางบ้านน่าจะใช้ได้นะ ทำไมถึงคบกับผู้ชายระดับต่ำขนาดนี้?” ผู้หญิงอีกคนพูดด้วยสีหน้าหยอกล้อ “นั่นมันไม่คู่ควรกับฐานะดาวมหาลัยเลย”
“คุณหลิน เขา……” ฉู่ฉู่โดนพูดจนทำตัวลำบาก สีหน้าอึดอัด พูดอย่างลังเล
“เรื่องพวกนี้ เกี่ยวอะไรกับพวกคุณ?”
หลินอิ่งมองซือหม่าเฟิงอย่างเย็นชา แสดงทัศนคติแทนฉู่ฉู่