ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 517 รถสักคันนายก็ไม่มีปัญญาซื้อ
หลินอิ่งมองไปที่ฉู่ฉู่ พยักหน้าเล็กน้อย
“พวกเราไปเถอะ ดูว่าเขามีความสามารถแค่ไหน”
จากเดิม เขาไม่อยากถือสากับคนอย่างซือหม่าเฟิง แต่ว่า ฉู่ฉู่เป็นแขกพิเศษของตระกูลฉู่ รับปากว่าจะช่วยฉู่สงซานดูแลลูกสาวของเขาในตี้จิงอย่างดี ก็จะให้ฉู่ฉู่รู้สึกเสียหน้าในตี้จิงไม่ได้
“ได้ค่ะ” ฉู่ฉู่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ดูเหมือนดีใจมาก
กำลังพูดอยู่ หลินอิ่งก็เดินไปในทางเดินหรูหราอีกด้านหนึ่งของร้านอาหาร ฉู่ฉู่เดินตามอยู่ข้างหลัง ส่วนฮาเดสก็สังเกตเห็นแล้วเดินตามไป
“เหอะ ยังปากแข็ง เดี๋ยวดูว่านายจะขายหน้ายังไง” ซือหม่าเฟิงหัวเราเย็นชา สีหน้าดูถูก
ในโรงแรมสากลกวงหุย เขามีห้องโถงสะสมส่วนตัวอยู่ชั้นหนึ่ง
ครั้งนี้เชิญผู้คนในแวดวงไฮโซมาร่วมงานมากมาย ก็จัดขึ้นในห้องโถงสะสมส่วนตัวของเขา
ความชอบของซือหม่าเฟิงก็คือสะสมรถ นาฬิกา ของมีค่าต่างๆนานา ล้วนสะสมไว้ในห้องโถงนี้เพื่อให้ผู้คนมาชื่นชมทรัพย์สินของเขา แสดงความร่ำรวย
คราวนี้ ไอ้แซ่หลินยังแสดงต่อไป เดี๋ยวดึงออกมาดู ดูว่าไอ้ขยะนี่ยังมีหน้าอะไรมาพูดอีก
“พี่เฟิง ทำไมถึงห้ามไม่ให้พวกเราลงมือ ไอ้ไร้น้ำยานั่น เพียงแค่พี่สั่งแค่คำเดียว ฉันก็ซ้อมให้มันตายเหมือนหมาคุกเข่าอยู่บนพื้นทันที”
“ใช่ พี่เฟิง ไอ้ไร้น้ำยาแซ่หลินนั่น เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเป็นแค่พนักงานต่ำต้อยที่ไม่มีเงินไม่มีอำนาจ จัดการมันได้เลย ไม่เห็นต้องฟังมันไร้สาระอะไรอีก?”
คนติดตามสองคนที่อยู่ข้างกายซือหม่าเฟิง ยืนถามอย่างสงสัย
“ใช้ พี่เฟิง พี่อยากได้ฉู่ฉู่ใช่ไหม? นี่มันเรื่องง่ายนิดเดียว พี่อำนาจในตี้จิงใหญ่โต อยากได้ผู้หญิงต่างถิ่นคนเดียวยังไม่ง่ายเหรอ?”
“ใช่ ขอแค่พี่สั่งแค่คำเดียว ลูกน้องข้างล่างจะจัดการทุกอย่างเอง”
มีผู้หญิงอีกสองคนพูดประจบอยู่ข้างกาย
“เหอะ” ซือหม่าเฟิงทำเสียงเย็นชา ต้องหลังของหลินอิ่งและฉู่ฉู่ที่เดินไปด้วยสายตาโหดเหี้ยม กำหมัดไว้แน่น ดูเหมือนไม่พอใจอย่างมาก
“จัดการคนไร้น้ำยาแบบนี้มันเป็นเรื่องที่คุณชายอย่างฉันออกคำสั่งแค่คำเดียวเท่านั้น” ซือหม่าเฟิงพูดอย่างยโส “แต่นั่นมันมีความหมายอะไร? ไอ้แซ่หลินมันไม่รู้ว่าตัวเองไร้น้ำยา ฉันจะมาสั่งสอนมันดีๆเอง”
“จัดการคนแบบนี้มันต้องแกล้งให้สะใจหน่อย ฉันจะเล่นให้มันตายในตี้จิง พวกนายกลับไปแล้ว ไปช่วยฉันสืบให้ชัดเจนว่าไอ้หน้าโง่นั่นมาเป็นใครมาจากไหน ฉันจะทำให้มันคุกเข่าขอร้องต่อหน้าฉัน”
ซือหม่าเฟิงสั่งด้วยสีหน้าเย็นชา พาคนติดตามหลายคน เดินเข้าไปในสถานที่จัดงานเลี้ยง
ห้านาทีผ่านไป
ภายในโรงแรมสากลกวงหุย สถานที่จัดงานเลี้ยง
ที่นี่เป็นห้องโถงแสดงสินค้าขนาดใหญ่มาก ตกแต่งอย่างหรูหรา โคมระย้าอันวิจิตรงดงามและไม่ธรรมดา และยังมีห้องรับรองหรูหราอีกหลายห้อง
ภายในห้องโถงปูด้วยพรมแดง มีชายหญิงแต่งกายหรูหรา บุคลิกไม่ธรรมดามากมายเดินไปเดินมา ในมือของทุกคนต่างก็ถือแก้วทรงสูง และพูดคุยกับ
“คุณชายเฟิง”
“คุณชายเฟิง มาแล้วเหรอ ทุกคนกำลังรอท่านอยู่”
พอซือหม่าเฟิงเข้าไปในงาน คนในงานต่างก็ทักทายด้วยสีหน้าที่เคารพ
ซือหม่าเฟิงสีหน้าเพลิดเพลิน มองฉู่ฉู่และหลินอิ่งด้วยสายตาได้ใจ
“ฉู่ฉู่ เพื่อนที่ผมเชิญมาในวันนี้ต่างก็เป็นคนมีอำนาจไม่น้อยในตี้จิง มีทุกสาขาอาชีพ ถ้าหากเธอมาตี้จิงมีเรื่องอะไรต้องทำ ถ้าอย่างนั้นก็หาถูกคนแล้ว ผมทำให้คุณได้”
พูดไป ซือหม่าเฟิงก็เหล่ตามองหลินอิ่งอีกครั้ง พูดอย่างเย็นชา “ไอ้แซ่หลิน ทุกคนในนี้ต่างเป็นผู้ลากมากดีมีฐานะ ไม่แน่ล่ะประธานบริษัทนายอาจจะอยู่ในนี้ก็ได้”
“เปิดหูเปิดตาดูหน่อยนะ ไอ้ขยะ”
หลินอิ่งยิ้มแต่ไม่พูด กวาดตามองไปเรื่อยเปื่อย
คนในงาน เขาไม่รู้จักสักคน และไม่จำเป็นต้องรู้จัก
ในตี้จิงมีใครมาโอ้อวดอำนาจเครือข่ายความสัมพันธ์ ช่างน่าสนใจจริงๆ
“คุณชายเฟิง เมื่อกี้ผมเห็นรถที่คุณสะสมแล้ว สุดยอดจริงๆ ล้วนเป็นรุ่นจำกัดทั่วโลก ผมถูกใจคันหนึ่ง มีโอกาสได้มาครอบครองไหม?”
“คุณชายเฟิง นาฬิกาและวัตถุโบราณที่คุณสะสม ต่างเป็นของมีค่าที่เห็นน้อยมาก คุณอายุยังน้อย มีแววตาแบบนี้ ช่างเป็นนักสะสมที่เก่งมาในตี้จิง”
มีชายวัยกลางคนสองคนที่แต่งกายไม่ธรรมดาเดินเข้ามา ยกแก้วดื่มให้ซือหม่าเฟิง ทั้งคู่มีสีหน้าที่ประจบสอพลอ
ซือหม่าเฟิงยิ้มอย่างได้ใจ ยกแก้วชนกลับ พูดอย่างดีใจ “ประธานทั้งสองท่านชมเกินไป วันนี้ผมจัดงานเลี้ยง ก็เพื่ออยากให้ทุกท่านมาชื่นชมงานสะสมด้วยกัน ถ้าหากประธานทั้งสองถูกใจ เลือกได้ตามสบายเลย ผมเอาออกมาวันนี้ ก็เพื่อจะเอามาให้ทุกท่าน”
“คุณชายเฟิง คุณช่างใจกล้าจริงๆ ของสะสมของคุณ เลือกมาสักชิ้นมูลค่าก็เกินล้านทุกชิ้น รถสะสมยิ่งระดับคันละระดับสิบล้าน บอกให้คนอื่นก็ให้เลย นี่มันใจกว้างเกินไปแล้ว”
“คุณชายเฟิง คุณยอมสละของรัก ก็ถือว่าให้เกียรติพวกเรามากแล้ว พวกเราสามารถได้ของสะสมมีค่ามา ก็ต้องให้เงินตามมูลค่าอยู่แล้ว”
ชายวัยกลางคนทั้งสองพูดประจบ พูดชื่นชมกันไปมา
ซือหม่าเฟิงสีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งได้ใจ มองหลินอิ่งด้วยสายตาเหยียดหยาม จากนั้นก็มองไปที่ฉู่ฉู่ พูดว่า “ฉู่ฉู่ ผมขอแนะนำหน่อย ท่านนี้คือประธานบริษัทการประมูลหยุนเหาประธานลู่ ส่วนท่านนี้คือประธานหยังจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หยังซื่อ พวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนที่ไปมาหาสู่ประจำกับผม มีเรื่องด้านนี้ แค่ทักทายก็พอ”
ฉู่ฉู่ไม่ได้รับคำ ยืนอยู่ข้างหลินอิ่งอย่างเรียบร้อย
ทำให้ซือหม่าเฟิงสายตาหดหู่ มองหลินอิ่งอย่างเย็นชา
“ฉู่ฉู่ มา ผมจะให้คุณดูความชอบบางส่วนของผม” ซือหม่าเฟิงอดกลั้นความโมโหไว้ ยื่นมือชี้ไปอีกด้าน พูดด้วยท่าทางโอหัง “ปกติผมก็ไม่ได้มีความชอบอะไรมากมาย ก็แค่ชอบสะสมรถหรูและนาฬิกา แล้วก็วัตถุโบราณล้ำค่า”
“ฉู่ฉู่ ถ้าหากเธอชอบ ก็เลือกคันหนึ่งขับกลับไปเลย” ซือหม่าเฟิงพูดอย่างใจกว้าง
ทิศทางมือที่เข้าชี้ เป็นรถหรูที่เรียงกันเป็นแถว
Bugatti Veyron Lamborghini Veneno ไมบัค รถหรูยี่ห้อชื่อดังระดับโลกต่างๆนานา ประมาณยี่สิบกว่าคัน ล้วนเป็นรุ่นจำนวนจำกัดที่มีเงินก็ซื้อได้ยาก
จัดเรียงกันเป็นแถว ดูแล้วหรูหราเป็นอย่างมาก
อีกด้านหนึ่งของลานโชว์รถ จัดวางโต๊ะไม้ยาวหลายตัว ด้านบนจัดวางเครื่องหยกล้ำค่าเป็นชิ้นๆ และเครื่องปั้นดินเผาโบราณของแต่ละราชวงศ์ และตู้กระจกทั้งแถว จัดเรียกนาฬิกาหรูจากทั่วโลกสองสามร้อยเรือน และนาฬิกาพกพาโบราณ
มีคนล้อมรอบชื่นชมอยู่มากมายแล้ว ต่างก็สีหน้าตะลึง
สิ่งที่ซือหม่าเฟิงโชว์ออกมา ของสะสมล้ำค่าทั้งหมด มูลค่าทั้งหมดก็สามารถทำให้คนในงานตกใจได้แล้ว สามารถเทียบเท่าได้กับบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทแล้ว
“ฉู่ฉู่ ส่วนขอพวกนี้ ล้วนเป็นของที่ฉันสะสมอย่างตั้งใจ เป็นยังไงบ้าง? ถูกใจอะไร ก็เลือกได้ตามสบาย ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอชอบอะไร แค่อยากให้ของขวัญกับเธอสักชิ้น” ซือหม่าเฟิงพูดด้วยสีหน้าได้ใจ
ฉู่ฉู่ส่ายหน้า สำหรับขอพวกนี้ไม่ได้มีความสนใจเลย วินาทีนี้ในสายตาเธอ มีเพียงแค่หลินอิ่งคนเดียว
ของพวกนี้มูลค่าจะสูงแค่ไหน สำหรับเธอแล้วไม่มีความหมายเลย
“ซือหม่าเฟิง แค่นี้? นี่ก็คือความสามารถที่คุณอยากจะแสดงให้ผมดู?” หลินอิ่งมองไปที่หลินอิ่งอย่างเย็นชา แล้วถามเขา
“ฮาฮา” ซือหม่าเฟิงหัวเราะฮาฮา สายตาเหยียดหยามอย่างที่สุด พูดอย่างหยอกล้อ “ฉันไม่รู้จริงๆว่านายมีหน้าพูดประโยคนี้ออกมาได้ยังไง? ไอ้ไร้น้ำยาอย่างนาย ยังดูไม่ออกอีกเหรอว่านายกับฉันมันต่างกันกี่ระดับเหรอ?”
“อย่างอื่นไม่ต้องพูด แค่เลือกรถสักคน นายมีเงินซื้อไหม? ไอ้ไร้น้ำยาอย่างนายพยายามทั้งชาติก็ไม่มีปัญญาซื้อ” ซือหม่าเฟิงพูดจาเสียดสีอย่างเย็นชา