ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 522 คุณชายอิ่งทุบของถือว่าเป็นเกียรติ
“พ่อ พ่อให้ผมคุกเข่าให้เขา?”
ซือหม่าเฟิงสีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง มือจับหน้าบวมแล้วพูดด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึง พ่อของเขามาแล้วกลับมีทัศนคติ กลับเห็นไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งคนนี้ เหมือนดั่งเทพเทวดา
ซือหม่าเฟยวู่เดินเข้าไป เอามือกดหัวซือหม่าเฟิง กดหัวของเขาคำนับโคกพื้นอย่างแรง
“แกไม่รู้เหรอว่าคุณชายอิ่งคือใคร? หรือว่าแกคิดว่าเรื่องที่ไอ้ลูกไม่รักดีอย่างแกทำผิดแล้ว จะให้ตระกูลซือหม่าตายไปกับแกด้วย?”
ซือหม่าเฟยวู่สายตาโมโห พูดด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
“คุณชายอิ่ง? เป็นไปได้ยังไง เขาคือคุณชายอิ่ง?”
ทันใดนั้น กล้ามเนื้อใบหน้าของซือหม่าเฟิงแข็งตัว อึ้งไปทั้งคนเหมือนหุ่นยนต์ มองหลินอิ่งด้วยความตะลึงตาค้าง จากนั้นก็รีบก้มหน้า หวาดกลัวจนตัวสั่นไปทั้งร่าง
เวลานี้ สายตาอันเย็นชาของหลินอิ่ง ในสายตาของซือหม่าเฟิงมันทำให้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าปีศาจร้ายอีก
นั่งอยู่ตรงนั้น ความน่าเกรงขามก็ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง บีบจนเขาหายใจลำบาก
ใช่แล้ว คุณชายอิ่งสามคำนี้
ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในตี้จิง ก็ทำให้คนตกใจอย่างหวาดกลัว
ซือหม่าเฟิงเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณชายอิ่ง นั่นเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งที่อายุน้อยที่สุดในตี้จิง คนโหดที่มีอำนาจที่สุด ใจดำโหดเหี้ยมในตำนาน ห้าตระกูลใหญ่มีครึ่งหนึ่งล้วนเคยถูกเขาเหยียบมาแล้ว
คนใหญ่คนโตระดับนี้ อย่าว่าแต่คุณชายตระกูลซือหม่าอย่างเขาเลย แม้แต่ต่อหน้านายท่านตระกูลซือหม่า ก็ยังคงต้องก้มหัวขอโทษอย่างเคารพ
ตุ๊บตั๊บ
ซือหม่าเฟยวู่ถีบอย่างแรงไปที่เข่าของซือหม่าเฟิง ให้ซือหม่าเฟิงคุกเข่าต่อหน้าหลินอิ่ง เข่าอ่อนไปทั้งสองข้าง เขาตกใจจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แม้แต่ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับหลินอิ่งก็ไม่มีแล้ว
ซือหม่าเฟิงในตอนนี้ เห็นท่าทางที่พ่อของเขาแสดงออกมา ทำให้ตกใจแทบจะคลั่งไคล้แล้ว เสียใจไปหมดแล้ว
ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าคนตรงหน้าคือคุณชายอิ่ง ยังไปหาเรื่องพูดจาเสียดสีคุณชายอิ่งไม่หยุด? นี่มันมดตัวน้อยไปท้าทายมังกรใหญ่ เขาแค่หายใจก็เป่าจนล้มลุกคลุกคลานแล้ว น่าตลกสิ้นดี
“นี่ นี่มันสถานการณ์อะไร?”
“คุณชายอิ่ง? ชายหนุ่มผู้ลึกลับคนนั้น คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงผู้ลึกลับ?”
“มิน่าล่ะ กล้าดูหมิ่นศักดิ์ศรีตระกูลซือหม่า คุณชายอิ่งอยู่ตรงหน้า เสียมารยาทแล้วจริงๆ”
“พวกเราแค่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยเห็นตัวจริง คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มีบุญตาได้เห็นคุณชายอิ่ง สง่างามจริงๆ ท่ามกลางความเรียบเฉย ก็ทำให้ตระกูลซือหม่าหวาดกลัว ก้มหัวเคารพ”
ทันใดนั้น ผู้คนในงาน ต่างก็พูดด้วยน้ำเสียงตะลึง สีหน้าของทุกคนต่างก็มองไปที่หลินอิ่งด้วยความเคารพนับถือ
ในนั้นก็มีหญิงสาวหน้าตาดีไม่น้อย ที่มองหลินอิ่งตาเป็นประกาย ส่งสายตาให้
ความสามารถแข็งแกร่งเดินไป ทำให้หัวหน้าตระกูลซือหม่ายังต้องก้มหัวคำนับ แค่เพียงชั่วพริบตา ก็ใช้ทรัพย์สินมหาศาลที่คนทั่วไปไม่อาจคาดคิดได้
ผู้ชายที่เกิดมาเป็นเช่นนี้จริงๆ
“คุณหลิน……”
ฉู่ฉู่ยืนอยู่ข้างกายหลินอิ่ง เผชิญกับสายตาอันเคารพนับถือของทุกคนในงาน เธอรู้สึกหน้าแดงทันที แดงจนรู้สึกว่ามันแสบร้อน หัวใจเต้นแรง
นั่งอยู่ข้างกายผู้ชายที่สูงส่งระดับหลินอิ่ง ท่ามกลางสายตาชื่นชมจากผู้คน คาดว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกจะปฏิเสธได้
“คุณชายอิ่ง ต้องขอโทษจริงๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง หวังว่าคุณชายอิ่งจะไม่โกรธเคืองตระกูลซือหม่า” ซือหม่าเฟยวู่ก้มหน้าให้หลินอิ่ง พูดด้วยความหวาดกลัว
ซือหม่าเฟยวู่ไม่รู้นิสัยหลินอิ่ง แต่เคยได้ยินเรื่องราวอันน่าสะพรึงขวัญหลายเรื่องที่หลินอิ่งทำในตี้จิง
เรื่องแรกครั้นที่กลับคืนสู่ตี้จิง ฆ่าล้างตระกูลเหวิน ทำให้ตระกูลเหวินที่เคยแข็งแกร่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่กล้าเผยโฉมหน้าในประเทศหลุง จากนั้นก็ทำให้หัวหน้าตระกูลสวีคุกเข่าขอโทษ ทำให้คุณชายทั้งสองของชีซิงกรุ๊ปแห่งเกาหลีขาพิการ
เรื่องเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็คือคนโหด ท้าทายไม่ได้
หากไม่ดีทำให้หลินอิ่งไม่พอใจ แค่คำพูดสองสามคำก็ลบล้างตระกูลซือหม่าอย่างราบคาบ
หลินอิ่งมองไปที่ซือหม่าเฟยวู่อย่างเรียบเฉย ยกไวน์ดื่มอย่างใจเย็น ไม่ได้แสดงทัศนคติ
ซือหม่าเฟยรู้สึกหวาดกลัวในใจ เขาเข้าใจความหมายนี้
หลินอิ่งไม่ได้แสดงทัศนคติ นั่นก็หมายความว่า ยังทำได้ไม่พอ ยังไม่เต็มที่
“ไอ้ลูกไม่รักดี แกเป็นใบ้หรือไง? ได้ยินว่าแกยังด่าคุณชายอิ่ง ทำไมตอนนี้พูดไม่เป็นแล้ว? พูดซิ ขอโทษยอมรับผิดพูดไม่เป็นเหรอ?” ซือหม่าเฟยวู่ด่าว่าซือหม่าเฟิงอย่างเย็นชา ตบหน้าไปอีกสองครั้งอย่างแรง
“คุกเข่าคำนับขอโทษ ได้ยินหรือยัง?”
ซือหม่าเฟยวู่กดหัวของซือหม่าเฟิง ซ้อมอย่างรุนแรง
“เอื้อก……” ซือหม่าเฟิงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เหมือนถูกซ้อมจนโง่ไปแล้ว ก้มหัวคำนับด้วยสายตาไร้แวว ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอับอาย
“ให้เขาขอโทษฉู่ฉู่ที่อยู่ข้างผม” หลินอิ่พูดอย่างเย็นชา “ให้เขารู้ว่า ไม่ว่ามีอำนาจเงินทองแค่ไหน ก็ต้องรักษาพื้นฐานมารยาทความเคารพต่อผู้หญิง”
“ขอ ขอโทษ คุณชายอิ่ง ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรไปพูดเสียดสีท่าน ขอ ขอให้ท่านปล่อยผมไปเถอะ”
“ฉู่ฉู่ ขอโทษ ผม ผมไม่ควรฝืนใจคนอื่น ทำให้คุณลำบากใจ ผมสมควรตาย”
ซือหม่าเฟิงพูดอ้ำๆอึ้งๆ ตัวสั่นไปทั้งร่าง สีหน้าซีดขาว ดูไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว
เห็นภาพนี้แล้ว ทุกคนในงานต่างก็ทำเสียงโห่ร้องดูถูก
งานเลี้ยงที่ซือหม่าเฟิงจัดขึ้น เวลาสำหรับแสดงรถหรูนาฬิกาหรูวัตถุโบราณ นั่นดูสง่าขนาดไหน เป็นที่น่าจดจำ
คุณชายเจ้าสำราญผู้มีชื่อเสียงในตี้จิงคนหนึ่ง ยโสโอหัง สุดท้าย เจอกับคุณชายอิ่ง กลับโดนจัดการจนซมซานขนาดนี้ ถูกพ่อตัวเองกดหัวคำนับอยู่กับพื้น
คาดว่าหลังจากครั้งนี้แล้ว ซือหม่าเฟิงคงไม่มีหน้าอยู่ในสังคมตี้จิงแล้ว ความยโสถูกหลินอิ่งเหยียบย่ำจนหมดสิ้น หมดความเป็นคนไปกว่าครึ่ง
“คุณชายอิ่ง ขอความกรุณาคุณอย่าไปถือสากับไอ้ลูกไม่รักดีคนนี้เลย คนไม่เอาไหนอย่างมันไม่คู่ควรให้ท่านลงมือ หวังว่าท่านจะให้ความกรุณา” ซือหม่าเฟยวู่พูดขอร้องเหงื่อท่วมหัว
หลินอิ่งวางแก้วลง สายตาค่อยๆมองไปที่ตัวซือหม่าเฟยวู่ พูดอย่างเรียบเฉย “ผมก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ทำลายข้าวของตระกูลซือหม่า ผมชดใช้ให้ จากนี้ไป ผมไม่อยากเห็นคนชื่อซือหม่าเฟิงในตี้จิงอีก คุณเข้าใจไหม?”
“มิกล้า มิกล้า คุณชายอิ่ง ท่านพูดล้อเล่นไป ท่านทำลายของตระกูลซือหม่า เป็นเกียรติของพวกเรา เป็นบุญของตระกูลซือหม่าเรา ไม่กล้าให้ท่านชดใช้” ซือหม่าเฟยวู่พูดอย่างหวาดกลัว รีบพูดว่าไม่กล้า
ล้อเล่นอะไร เงินชดใช้จากคุณชายอิ่ง ตระกูลซือหม่าของพวกเขารับได้เหรอ? กล้ารับเหรอ?
คุณชายอิ่งท่านนี้ไม่ลบล้างตระกูลซือหม่า นั่นก็โชคดีแค่ไหนแล้ว
“คุณชายอิ่ง ผมโอนเงินพันห้าร้อยล้านให้ท่านเดี๋ยวนี้ เป็นเพราะไอ้ลูกไม่รักดีคนนี้ไม่รู้เรื่อง เอาของขยะพวกนี้ มาวางขวางหูขวางตาท่าน ยังทำให้ท่านเสียเวลาอันมีค่า” ซือหม่าเฟยวู่วางตัวต่ำจนสุดขีด พูดอย่างเคารพ “ตระกูลซือหม่าของเรายินดีออกเงินอีกสองพันล้าน เพื่อให้คุณชายอิ่งเป็นของขวัญ วันหลัง ผมจะส่งของขวัญไปให้ด้วยตัวเอง”
“ขอเพียง คุณชายอิ่งยกโทษไม่เอาความ”
ซือหม่าเฟยวู่ก้มหัวเก้าสิบองศา ขอร้องหลินอิ่ง ท่ามกลางสีหน้าตื่นเต้น แววตาที่คาดหวังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลินอิ่งส่ายหน้า พูดอย่างเรียบเฉย “เงินที่ผมจ่ายไป ไม่เคยให้คนอื่นเอากลับมา เงินของคุณ ผมไม่ต้องการ คุณก็ไม่ต้องเอาของขวัญมาให้ จากนี้ไป ให้ลูกชายคุณขายไปจากสายตาของผม เข้าใจไหม?”
พูดจบ หลินอิ่งก็ลุกขึ้นช้าๆ ฉู่ฉู่ก็ลุกขึ้น เดินตามอยู่ข้างหลังอย่างระมัดระวัง
“ครับ ขอบคุณคุณชายอิ่งที่เมตตา ผมกลับไปแล้ว ต้องสั่งสอนไอ้ลูกไม่รักดีนี่อย่างดี ให้มันออกไปจากประเทศหลุงตลอดไป”
ซือหม่าเฟยวู่พูดอย่างเคารพ