ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 533 น้องสาว ให้ผมพาเข้าไปไหม?
“คุณชายสวุ่ ใจเย็นๆค่ะ พวกเขาก็มาร่วมงานเหมือนกัน แต่พวกเขามีบัตรเชิญแค่ใบเดียว เหมือนกำลังรอเพื่อนอยู่มา…….” พนักงานหญิงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ต่อหน้าคุณชายสวุ่ท่านนี้เหมือนมีแรงกดกันสูง
“มีบัตรเชิญใบเดียว? ยังอยากเข้าไปมากขนาดนี้? ไล่ออกไปก็จบเรื่องแล้ว? ยังชักช้าอะไร?” คุณชายสวุ่ด่าว่าด้วยสีหน้ารำคาญ
“นี่ นี่มันไม่ค่อยดีมั้งคะ?” พนักงานหญิงพูดด้วยสีหน้าไม่ดี เหมือนลำบากใจมาก
คนตรงหน้า เป็นทายาทของตระกูลสวุ่ตระกูลอันดับหนึ่งในตี้จิง สวุ่หมิง คุณชายสวุ่
ส่วนหลายท่านนั้นถึงจะไม่รู้ฐานะ แต่ก็ถือว่าเป็นแขก ถ้าหากไปสร้างความขุ่นเคืองให้เขาจะทำยังไง
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ คุณไม่ไล่ ผมไล่เอง น่าเบื่อจริงๆ” สวุ่หมิงตะโกนต่อว่า ท่าทางอารมณ์โมโหร้าย พาบอดี้การ์ดสองนาย เดินเข้าไปหาหลินอิ่งอย่างมั่นใจ
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มองไปที่สวุ่หมิง
“แกมันไอ้บ้านนอกมาจากไหน? ไม่รู้ระเบียบอะไรเลย? ไม่มีบัตรเชิญก็ไสหัวออกไป อย่ามาขวางทางคุณชายคนนี้?” สวุ่หมิงถอดแว่นกันแดด มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้กลิ่นเหล้าบนตัวสวุ่หมิง เหมือนดื่มจนเมาแล้ว
“ผมจะยืนตรงไหน คุณมีสิทธิ์อะไรมาถาม?” หลินอิ่งมองสวุ่หมิงอย่างเย็นชา
“โอ้โห แกนี่มันอวดดีไม่เบานะ? ไม่พอใจ?” สวุ่หมิงทำสีหน้าท่าทางดูถูก ยโสอวดดี
“ท่าทางบ้านนอกอย่างแกเนี่ยนะ แม้แต่ประตูนี้ยังเข้าไปไม่ได้เลย บัตรเชิญก็ไม่ได้สักใบ ยังกล้ามาท้าทายคุณชายอย่างฉัน?” สวุ่หมิงพูดอย่างดูถูก “ยังไม่หลีกทาง เชื่อไหมว่าฉันซ้อมแกขาหักแน่”
หลินอิ่งส่ายหน้า พูดว่า “งั้นก็มาลองดู”
“ฉันว่าแกนี่มันอย่างโดนซ้อมนี่” สวุ่หมิงระเบิดความโมโหทันที จ้องหน้าหลินอิ่ง ยกมือจะทำร้ายคน
“คุณจะทำอะไร? คุณอยากทำร้ายคนเหรอ?”
กงซุนชิวอวี่มองสวุ่หมิงด้วยความโมโห ยื่นมือต่อว่า
คราวนี้ สวุ่หมิงมองไปที่กงซุนชิวอวี่ อึ้งไปเล็กน้อย วางมือลงอย่างควบคุมตัวไม่ได้
ตาเขาเป็นประกาย ส่อแววแห่งความเจ้าชู้ เลียริมฝีปากตัวเองมองไปสักครู่ ความสนใจก็เปลี่ยนไปอยู่ในตัวของกงซุนชิวอวี่และฉู่ฉู่ทันที
ทันใดนั้น ดูเหมือนหลินอิ่งไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
“ออ ออ ดีดี ไม่ทำร้ายคนไม่ทำร้ายคน” สวุ่หมิงแสดงท่าทางยิ้มแย้มอย่างสุภาพแล้วพูดว่า หรี่ตามองกงซุนชิวอวี่และฉู่ฉู่
แน่นอน กงซุนชิวอวี่ละฉู่ฉู่เป็นผู้หญิงที่มากอยู่แล้ว ทั้งสองคนก็เป็นสาวสวยระดับประเทศ บุคลิกเกินคนอื่น
สำหรับผู้ชายเจ้าสำราญขี้เมาอย่างสวุ่หมิงแล้ว มันสวยงามมาก และมีความดึงดูดอย่างยิ่ง
“สาวสวยทั้งสองชื่ออะไรครับ? ผมชื่อสวุ่หมิง คนของตระกูลสวุ่ตี้จิง ส่วนมากเพื่อนก็จะเรียกผมว่าคุณชายสวุ่” สวุ่หมิงพูดอย่างมั่นใจ ภูมิใจในฐานะคุณชายตระกูลสวุ่ของตัวเองมาก
กงซุนชิวอวี่แค่หัวเราะเย็นชา ฉู่ฉู่ก็มองด้วยสายตาเย็นชา
คราวนี้ สวุ่หมิงรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกไม่พอใจ
เขาหันกลับไป จ้องหน้าหลินอิ่งอย่างเย็นชา
สวุหมิงรู้สึกไม่พอใจหลินอิ่งเป็นอย่างมาก ไอ้บ้านนอกที่ไม่มีแม้แต่บัตรเชิญคนหนึ่ง ขวางทางอยู่หน้าประตูกวนอารมณ์ก็แล้วไป
แต่ว่า ไอ้ขยะบ้านนอกแบบนี้ สามารถมีสาวงามโดดเด่นขนาดนี้อยู่ข้างกาย? นี่มันยังมีเหตุผลอยู่ไหม?
ไม่เข้าใจ เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลสวุ่ แต่กลับแพ้มันตรงไหน? ทำไมถึงไม่มีสาวงามที่โดดเด่นสองคนยืนอยู่ข้างกาย?
สวุ่หมิงมองหน้าหลินอิ่งด้วยสายตาอิจฉา ยิ่งดูยิ่งไม่พอใจ
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา มองไปที่สวุ่หมิง พูดว่า “กลัวแล้ว? ไม่กล้าลงมือแล้ว?”
“ฮาฮาฮาฮา ไอ้บ้านนอกอย่างนายเนี่ยนะ คู่ควรให้ฉันลงมือเหรอ?” สวุ่หมิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พูดด้วยสีหน้าดูถูก “ฉันกลัวจังเลย ท่าทางผอมแห้งอย่างแก ถ้าหากต่อยสองหมัดก็พิการไปเลย แกจะฉวยโอกาสต้มตุ๋นฉันจะทำยังไงล่ะ?”
“ไอ้ไร้น้ำยา ฉันว่าแกขวางอยู่หน้าประตู ก็เพราะอยากหาคนรวยเพื่อต้มตุ๋นใช่ไหม? อยากหลอกฉัน? ไม่มีทาง”
สวุ่หมิงพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
จากนั้น เขาก็เหมือนเปลี่ยนหน้าอีกใบ หันไปยิ้มแย้มให้กงซุนชิวอวี่และฉู่ฉู่
“น้องสาวทั้งสองท่าน พวกคุณอยากเข้าไปไหม? ผมพาพวกคุณเข้าไปได้นะ แค่ทักทายก็พอ” สวุ่หมิงตบหน้าอกพูด “ผมอยู่ที่นี่ก็พอมีหน้ามีตา ไม่เหมือนไอ้ไร้น้ำยานั่น แม้แต่ประตูยังเข้าไปไม่ได้ ยังอยากพาสาวมาอวด?”
เท่าที่สวุ่หมิงดูแล้ว หลินอิ่งคนนี้ เห็นได้ชัดว่าก็แค่ไอ้พวกขยะต้มตุ๋นคนอื่นไปทั่ว
คงจะไม่มีอำนาจเงินทองอะไร ยังอยากพาสาวมาสถานที่หรูหราแบบนี้อีก ก็เป็นแค่คนต่ำต้อยคนหนึ่ง
“น้องสาว พวกคุณต้องระวังกันหน่อยนะ สังคมสมัยนี้ มันมีผู้ชายเลวทรามแบบนี้เยอะ ไม่มีความสามารถอะไร และยังชอบแสดงตัวโอ้อวด ต้องเบิกตาดูให้ชัดเจนด้วย ว่าใครถึงจะเป็นผู้ชายมีความสามารถ” สวุ่หมิงพูดอย่างยิ้มแย้มต่อกงซุนชิวอวี่
ตอนที่พูด เขายังทำท่าทางโอ้อวดดูเวลา เพื่อโชว์นาฬิกาPatek Philippeในข้อมือรุ่นจำนวนจำกัดราคาสิบล้าน
สวุ่หมิงคิดเองว่า การแต่งกายบุคลิกของเขานั้นดูมีมาก
ชุดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นมันราคาหลักหลายสิบล้าน รวมถึงกุญแจรถแล้ว เกินร้อยล้าน
รุ่นแบบนี้ ผู้หญิงทั่วไปใครจะไปทนไหว?
ปกติแล้ว อยู่ข้างนอกสวุ่หมิงแค่โชว์ความสามารถเล็กน้อย ผู้หญิงก็วิ่งเข้าอ้อมกอดแล้ว
“พวกเรารอเพื่อนที่นี่ ไม่รู้จักคุณ คุณไม่ต้องเข้ามาทัก มันขยะแขยง” กงซุนชิวอวี่สีหน้ารำคาญ พูดอย่างไม่เกรงใจ ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
ได้ยินคำนี้แล้ว สีหน้าสวุ่หมิงก็แย่ลงทันที รู้สึกทั้งเสียหน้าทั้งเสียศักดิ์ศรี ในสายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
“พวกเธอสองคนผู้หญิงสำส่อนให้เกียรติไม่เอาใช่ไหม?” สวุ่หมิงตะโกนด่า “พวกเธอนึกว่าตัวเองเป็นใคร ฉันถูกใจพวกเธอ ถือเป็นบุญของพวกเธอแล้วรู้ไหม?”
“ไม่รู้จักไปสืบถามในถิ่นนี้ดู ว่าฉันสวุ่หมิงเป็นคนยังไง? กล้าบอกว่าฉันเป็นคนน่าขยะแขยง?” สวุ่หมิงพูดอย่างโมโห ยื่นมือชี้หน้าด่ากงซุนชิวอวี่และฉู่ฉู่
“จำหน้าของผู้หญิงสองคนนี้ไว้ คืนนี้จัดการมันสองคนหน่อย” สวุ่หมิงพูดเสียงเย็นชา ท่าทางเหมือนราชาผู้ยิ่งใหญ่
เพี๊ยะ
หลินอิ่งยกมือตบไปที่หน้าสวุ่หมิงอย่างแรง ตบจนเขาถอยหลังไปสองก้าว ร้องออกมาด้วยความเจ็บ เอามือจับหน้าที่บวมเบ่งไว้ สายตาโมโห
หลินอิ่งสีหน้าเย็นชา มองสวุ่หมิงด้วยสายตาเย็นชา
“ตบฉัน? แก แกนี่มันรนหาที่ตายใช่ไหม” สวุ่หมิงพูดอย่างโมโห โบกมือเรียกบอดี้การ์ดลงมือ
“จัดการมัน จัดการไอ้หน้าโง่ให้พิการไปเลย”
เสียงดังฮวั๊ก บอดี้การ์ดข้างกายสวุ่หมิงหลายคนก็พุ่งเข้ามา เตรียมตัวจะลงมือกับหลินอิ่ง
“สวุ่หมิง เรียกคนของนายหยุดเดี๋ยวนี้ นายก่อเรื่องอะไรที่นี่”
เวลานี้เอง มีเสียงของผู้หญิงที่เย็นชาคนหนึ่งก็ดังขึ้น
เห็นเพียง สาวสวยในชุดกระโปรงยาวสีดำคนหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างสง่างาม