ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 537 ไม่มีความสามารถจะแสดงทำไม?
จากที่เผียวเจียงลี่พูดข่าวนี้ออกไป
คนภายในงาน ต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
ชีซิงกรุ๊ปควักเงินออกมาทำการกุศลพันล้าน สำหรับพวกเขาแล้ว นั่นก็ต้องเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน
เพราะว่า นี่เป็นมูลนิธิการกุศลในโครงการเมืองเทียนหลง
ทุกคนในงาน ไม่ใช่ตัวแทนผู้อาศัยในเมืองเทียนหลง คือตัวแทนของร้านค้าและนักลงทุนของทุกสาขาอาชีพ
เงินจำนวนนี้ นั้นใช้สำหรับอาณาเขตเมืองเทียนหลงแห่งนี้ ก่อสร้างอาคารสาธารณประโยชน์
“ไม่เสียชื่อที่เป็นบริษัทชีซิงกรุ๊ป ออกเงินใจป้ำขนาดนี้ ทุกคนปรบมือ”
“คุณเผียวเป็นตัวแทนของในนามของชีซิงกรุ๊ป ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“บริษัทระดับโลกช่างไม่เหมือนกันจริงๆ ช่างใจกล้าจริง”
คนในงาน ต่างพากันปรบมือ พูดกันอย่างชื่นชม
“ชีซิงกรุ๊ปของเราจะเข้ามาลงทุนในเมืองเทียนหลง ในฐานะบริษัททุนต่างชาติ สำหรับโครงการการกุศลในพื้นที่ พวกเราก็ทำให้ดีที่สุด เป็นเรื่องที่สมควร” เผียวเจียงลี่สีหน้ายิ้มแย้ม พูดอย่างเกรงใจ
“ผมยังมีอีกเรื่องจะพูด ใช่ครับ มูลนิธิการกุศลนี้เป็นแค่เพียงผลพลอยได้เท่านั้น ผมหวังว่าตัวแทนผู้อาศัยทุกท่าน ตัวแทนร้านค้า สามารถเลือกที่จะร่วมมือกับชีซิงกรุ๊ปของเรา แผนการพัฒนาของเราได้จัดทำออกมาแล้ว ยินดีต้อนรับทุกท่านมาทำความเข้าใจ” เผียวเจียงลี่พูด
พูดไป ตัวแทนธุรกิจที่อยู่ในงาน ได้เริ่มแจกเอกสารให้ผู้เข้าร่วมประชุมชั้นนำบางส่วนแล้ว เพื่อนให้พวกเขาได้พิจารณาอย่างละเอียด
เพราะว่า ในโลกนี้จะไปมีนักธุรกิจที่ทำการกุศลฟรีๆที่ไหน
บริษัทตระกูลใหญ่อย่างชีซิงกรุ๊ปแบบนี้ ผลประโยชน์ทุกอย่าง นั้นคำนวณอย่างละเอียดจนเข้ากระดูก
โครงการการกุศลที่ว่านั้น ก็เป็นเพียงแค่สิ่งแลกเปลี่ยนเท่านั้น
สิ่งที่ชีซิงกรุ๊ปต้องการนั้นคือทรัพยากรในมือของคนที่อยู่ในงานของเมืองเทียนหลงนี้ สิทธิ์อำนาจการพัฒนาตลาดการค้านี้
“เหอะ” หลินอิ่งนั่งอยู่บนที่นั่ง มองดูการแสดงของเผียวเจียงลี่ หัวเราะเย็นชา
การกระทำของชีซิงกรุ๊ปนั่นเฉียบแหลม เขาเพิ่งมาถึงเมืองเทียนหลงวันนี้ ให้นิ่งซวยไปเตรียมงานแล้ว
ส่วนชีซิงกรุ๊ป กลับจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จัดงานเลี้ยงไฮโซแบบนี้ เริ่มจัดการทรัพยากรของเมืองเทียนหลงในมือของผู้นำแต่ละด้านแล้ว
ถ้าจำไม่ผิด กงซุนชิวอวี่พูดว่า นี่เป็นงานเลี้ยงไฮโซที่ตระกูลจ้าวเป็นคนจัดขึ้นมา?
หรือว่า ชีซิงกรุ๊ปยังมีความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าว?
“ประธานเผียว ผมว่าโปรแกรมของคุณไม่มีปัญหาอะไร ก่อนหน้านี้ผมก็เคยดูแล้ว รายละเอียดธุรกิจในด้านนี้ ผมจะเข้าไปคุยรายละเอียดที่บริษัทของท่านเอง” ชายวัยกลางคนที่บุคลิกไม่ธรรมดาคนหนึ่งพูด แสดงความเห็นด้วย
เผียวเจียงลี่หัวเราะ พูดอย่างใจกว้าง “ทุกท่าน ความสามารถของชีซิงกรุ๊ปเรามีความน่าเชื่อถือ ทุกท่านเลือกที่จะร่วมงานกับเรา ไม่เสียเปรียบแน่นอน”
“ไอ้คนเกาหลี โยนเงินแค่สองพันล้านมาทำการกุศล ก็อยากเอาธุรกิจของตลาดการค้าหลายแห่งไปกิน? คนแซ่เผียว คุณนี่ก็โลภไม่เบา”
เวลานี้ ที่นั่งแขกในงาน มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา
“หมายความว่ายังไง?”
เผียวเจียงลี่ขมวดคิ้วแน่น มองไปฝั่งที่หลินอิ่งนั่งอย่างเย็นชา
ทันใดนั้น คนในงานต่างก็สีหน้าตกใจ หันไปมองหลินอิ่ง
“ทุกท่าน ผมจัดตั้งโครงการมูลนิธิ ลงทุนห้าพันล้านในการก่อสร้าง หากพวกคุณสนใจ มาหาผมเพื่อเจรจาธุรกิจในเมืองเทียนหลง สิ่งที่ผมรับประกันคือ สูงกว่าเงินของชีซิงกรุ๊ป” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
คำพูดของเขา เด็ดขาด เรียบง่าย หยาบกระด้าง
ลงทุนห้าพันล้านเสริมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคาร
สูงกว่าราคาของชีซิงกรุ๊ป
“ปากกล้าจริงๆ” เผียวเจียงลี่หัวเราะเย็นชา มองหลนอิ่งอย่างเย็นชา “คุณเป็นใครกัน กล้ามาเอะอะโวยวายเสียงดัง? รู้ระเบียบมารยาทไหม?”
“เปิดปากก็พูดว่าห้าพันล้าน? ยังสูงกว่าราคาที่ชีซิงกรุ๊ปของเราเสนอ? คุณนี่มาสร้างความบันเทิงให้กับคนในงานเหรอ? หรือว่ามาสร้างความวุ่นวาย?” เผียวเจียงลี่ถามอย่างเย็นชา
“แกนี่ไอ้หนุ่มเมื่อวานซืนที่ใครพาเข้ามา? ยังตะโกนเลื่อย? จะก่อความวุ่นวายใช่ไหม?”
“ยังห้าพันล้าน? ฉันดูอย่างแกมันก็เหมือนกับแมงดา เกาะติดสาวสวยที่อยู่ข้างกาย ฉันว่าแกมันแม้แต่ห้าล้านยังไม่มีเลย”
“ตลกสิ้นดี แมงดาที่เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่ง พูดอะไรออกราคาสูงกว่าชีซิงกรุ๊ป? โอ้อวดดึงดูดความสนใจ?”
คราวนี้ หลังจากได้ยินคำพูดของหลินอิ่งแล้ว ต่างก็พากันพูดจาเสียดสี สำหรับคำพูดแบบนี้ไม่ไยดีแม้แต่น้อย แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่ขี้โม้เท่านั้น
ยังกล้าพูดตลกได้ขนาดนี้?
แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนธรรมดาคนหนึ่ง กระโดดออกมาพูดจาอวดเก่ง ยังกล้าต่อปากต่อคำกับคุณเผียวชีซิงกรุ๊ปอีก? ไม่รู้จักดูสภาพตัวเอง ไม่รู้จักดูว่านี่มันสถานที่อะไร?
“นี่? หลิน คุณหลิน? ใครให้คุณมาพูดไปเรื่อยที่นี่? คุณตั้งใจทำให้ชิวอวี่ขายหน้าเหรอ?” จ้าวหลันเอ๋อร์สีหน้าไม่พอใจ จ้องหน้าหลินอิ่งอย่างโมโห
“นี่ไม่ใช่งานการกุศลเหรอ? ทำไม? ผมเอาเงินออกมาทำการกุศลไม่ได้เหรอ?” หลินอิ่งมอจ้าวหลันเอ๋อร์อย่างสนใจ แล้วถาม
“คุณเอาออกมาได้เหรอ? ก็ติดตามอยู่กับชิวอวี่ไม่ใช่เหรอ?” จ้าวหลันเอ๋อร์พูดด้วยสายตาดูถูก “นั่งอยู่กับคุณ ฉันยังรู้สึกอาย คุณรู้ไหมว่าคุณท้าทายกับใคร? รู้ไหมว่านั่นเป็นตัวแทนของบริษัทอะไร?”
หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “ไม่ใช่ชีซิงกรุ๊ปหรอกเหรอ? ท้าทายพวกเขาไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ใช่ชีซิงกรุ๊ปหรอกเหรอ? พูดอย่างกับตัวเองยโสแค่ไหน ฉันไม่รู้จริงๆคุณพูดจานี่ไม่รู้จักหน้าแดงเลยเหรอ?” จ้าวหลันเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “ไม่รู้จริงๆ ทั้งๆที่คุณก็ไร้ความสามารถ ทำไมยังต้องแสดงถึงขนาดนี้ด้วย?”
พูดไป จ้าวหลันเอ๋อร์มองไปที่กงซุนชิวอวี่ “ชิวอวี่ เธอต้องสั่งสอนผู้ติดตามของเธอคนนี้ด้วย นี่มาทำให้เธอขายหน้าชัดๆ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เธอจะให้เขาเป็นคนตัดสินได้ยังไง?”
“นั่นเป็นถึงชีซิงกรุ๊ป แย่งธุรกิจกับชีซิงกรุ๊ป นั่นมันผลกระทบใหญ่เลยนะ ชิวอวี่ เธอต้องพิจารณาให้ดีนะ ตอนแรกฉันแค่อยากให้เธอทำการกุศลเล็กๆน้อยๆ ร่วมงานกันเพื่อได้รับชื่อเสียงที่ดีเท่านั้น” จ้าวหลันเอ๋อร์พูดอย่างจริงจัง สีหน้ารีบร้อน
งานเลี้ยงครั้งนี้ จ้าวหลันเอ๋อร์และผู้ใหญ่ของตระกูลจ้าวคนหนึ่งร่วมกันจัด ก็เพื่อช่วยชีซิงกรุ๊ปปูทาง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์
แต่คิดไม่ถึง ผู้ติดตามของกงซุนชิวอวี่ กลับออกมาสร้างความวุ่นวาย นี่มันตั้งใจสร้างปัญหาให้คนอื่นเหรอ?
“นี่ หลันหลัน คุณหลินพูดแบบนี้ ก็ต้องมีแผนการของเขา เธออย่าไปยุ่ง” กงซุนชิวอวี่ลังเลอยู่สักพัก พูดอย่างจริงจัง
“หา? ชิวอวี่ เรื่องนี้เธอยังอยากจะตามใจแมงดาน้อยนี่อีกหรือ? ฉันนี่ยอมเธอจริงๆ” จ้าวหลันเอ๋อร์พูดอย่างเอือมระอา “เขาจะทำลายงานของฉันได้ ตัวแทนของชีซิงกรุ๊ป นั่นมันแขกที่ผู้ใหญ่ตระกูลจ้าวฉันเชิญมา ก่อกวนเป็นนี้ ฉันจะทำยังไง?”
“หรือว่า ชิวอวี่ เธอจะออกหน้าแทนไอ้แมงดาคนนี้เหรอ? จะท้าทายกับชีซิงกรุ๊ปจริงเหรอ?” จ้าวหลันเอ๋อร์ถาม
“เป็นไปได้ยังไง ฉันจะไปช่วยคุณหลินไปแสดงบทบาทได้ยังไง” กงซุนชิวอวี่พูดอย่างจริงจัง
ล้อเล่นอะไร เรื่องของพี่ชาย เธอมีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเกี่ยว
“ดี งั้นก็ดี” จ้าวหลันเอ๋อร์พยักหน้า หันไปมองหลินอิ่งอย่างเคร่งขรึม พูดต่อว่า “นายแซ่หลิน เดินเข้าไปเดี๋ยวนี้ ไปขอโทษกับคุณเผียวของชีซิงกรุ๊ป ได้ยินหรือยัง”