ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 542 บทละครสำหรับผู้หญิงสามคน
“คุณชายอิ่ง หลังจากกันที่เมืองก่าง คุณยังคงสง่าเช่นเดิม”
จ้าวเฉิงเฉียนเดินเข้าไปในห้องโถงรอง พูดทักทาย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “มีอะไรก็พูดตามตรง”
สำหรับจ้าวเฉิงเฉียนคนนี้ ภาพลักษณ์ของเขาไม่ดีและไม่แย่
คนนี้เป็นเจ้าสำนักแก๊งหยางเหมิน ชื่อเสียงในแวดวงผู้ลึกลับไม่ธรรมดา อำนาจใหญ่โต
ว่าไปแล้ว ตั้งแต่เขาหลินอิ่งออกมาสู่โลกแล้ว คนเก่งรุ่นเดียวกันที่สามารถเข้าตาเขาได้มีไม่กี่คน
จ้าวเฉิงเฉียน เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
“คุณชายอิ่ง งั้นผมก็ขอพูดตามตรงเลย” จ้าวเฉิงเฉียนยิ้ม แล้วค่อยๆพูด “คุณกลับมาตี้จิง เรื่องของคุณกับน้องสาวผมก็ควรที่จะมีคำตอบแล้ว ครั้งนี้ ผมรับคำสั่งจากท่านปู่และท่านย่า เพื่อนำคำพูดมาบอกคุณ”
“อีกอย่าง เรื่องของตระกูลจ้าวในตี้จิงมีผมเป็นคนจัดการ ธุรกิจในเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง ผมว่าเราสองคน มีช่องว่างในการร่วมงานกันอย่างเต็มที่”
ได้ยินแล้ว หลินอิ่งก็หันไปมองจ้าวหลินเอ๋อร์ จ้าวหลินเอ๋อร์ท่าทางหยิ่งยโสดูน่าสงสาร ขึงตาใส่เขา ก้มหน้าเม้มปากแน่น
คิดไปครู่หนึ่ง หลินอิ่งพยักหน้า พูดว่า “เรื่องของตระกูลจ้าว ตอนแรกผมว่าจะไปหานายท่านจ้าวด้วยตัวเอง เพียงแค่ช่วงนี้งานยุ่ง ยังไม่มีเวลา”
“ในเมื่อคุณมาหาแล้ว ก็คุยกันหน่อย”
กลับมาตี้จิงครั้งนี้ เป็นเพราะอาการป่วยของคุณปู่จึงกลับมาอย่างรีบร้อน เรื่องเพิ่งจัดการเสร็จ ตระกูลสวีก็โดดมาหาเรื่องอีก
ถ้าไม่ใช่จ้าวเฉิงเฉียนมาหาถึงที่ หลินอิ่งเกือบลืมเรื่องของตระกูลจ้าวไปแล้ว
“ได้”
จ้าวเฉิงเฉียนพยักหน้า ดึงประตูห้องที่มีโต๊ะน้ำชาห้องหนึ่งออก เชิญหลินอิ่งเข้าไปนั่ง
หลินอิ่งกับจ้าวเฉิงเฉียนเข้าไปคุยธุระ ทิ้งจ้าวหลินเอ๋อร์ไว้ สีหน้าโมโห
ใบหน้าอันสวยงามของเธอเย็นชาดุจน้ำแข็ง เดินเข้าไปหากงซุนซิวอวี่และฉู่ฉู่อย่างช้าๆ นั่งลงอย่างสง่า
“คุณคือกงซุนชิวอวี่ใช่ไหม? ฉันเคยเจอเธอครั้งหนึ่ง คุณหนูตระกูลกงซุน” จ้าวหลินเอ๋อร์น้ำเสียงเย็นชา พูดจาแข็งกระด้าง “เธอล่ะ? เป็นผู้หญิงที่มาจากไหนอีก? ฉันไม่เคยเห็นเธอที่ตี้จิงมาก่อน”
จ้าวหลินเอ๋อร์มองฉู่ฉู่ด้วยสายตาเย็นชา ถามด้วยท่าทางเต็มไปด้วยความสง่าน่าเกรงขาม
เธอรู้สึกโมโหในใจเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่เมืองชิงหยูนก็โดนหลินอิ่งว่าจนยับย่อย กลับมาถึงตี้จิง ยังถูกท่านปู่และท่านย่าตำหนิว่าไม่รู้จักคิด
จ้าวหลินเอ๋อร์ไม่เข้าใจจริงๆ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้มาก่อน แต่ทำไมแม้แต่คนในบ้านตัวเอง ก็บอกว่าสิ่งที่เธอทำที่เมืองชิงหยูนนั้นไม่ถูก แล้วไม่รู้สึกเหรอว่าสิ่งที่หลินอิ่งทำไมเกินไป?
เท่านี้ก็แล้วไป
ได้ข่าวว่าหลินอิ่งกลับจากเมืองชิงหยูนแล้ว จ้าวหลินเอ๋อร์ยังคิดจะไปหาหลินอิ่ง ก็ได้ยินมาว่า หลินอิ่งเกิดเรื่องขัดแย้งกับคนของตระกูลซือหม่าที่โรงแรมสากลกวงหุย เหยียบตระกูลซือหม่าอย่างแรงเพื่อหญิงสาวลึกลับคนหนึ่ง
เรื่องนี้ทำให้จ้าวหลินโมโหจนจะระเบิด ไม่พอใจอย่างมาก อิจฉาอย่างแรง รีบพาพี่ชายมาหาหลินอิ่งทันที
แต่คิดไม่ถึง เห็นหลินอิ่งอยู่ในงานของตระกูลจ้าว แต่ข้างกายกลับมีสาวงามอยู่สองคน
นี่มัน ไม่ได้มีเรื่องของเธอซึ่งเป็นผู้หมั้นหมายตัวจริงคนนี้ อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“ฉันชื่อฉู่ฉู่ คุณคือ?” ฉู่ฉู่มองดูจ้าวหลินเอ๋อร์ด้วยสายตาแปลกใจ
ฉู่ฉู่ไม่รู้จักจ้าวหลินเอ๋อร์ แต่ก็รู้สึกได้ว่าสาวแปลกหน้าคนนี้มองเธอเป็นศัตรู
หรือว่า เธอจะมีความสัมพันธ์กับหลินอิ่ง?
“ฉู่ฉู่? ไม่เคยได้ยิน ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นใคร จากนี้ไปฉันไม่อนุญาตให้เธอปรากฏตัวอยู่ข้างกายหลินอิ่งอีก” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดอย่างมีอำนาจ “ฉันชื่อจ้าวหลินเอ๋อร์ ภรรยาของหลินอิ่ง เธอฟังเข้าใจหรือยัง?”
“อะไรนะ? คุณ คุณคือคุณนายหลิน?” ฉู่ฉู่สีหน้าตกใจทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรตอบยังไง
แต่ว่า ดูไปแล้วก็มีความเป็นไปได้ จ้าวหลินเอ๋อร์สวยมาก ความงามไม่แพ้เธอ ยังมีบุคลิกที่ดูสูงส่งดูดีอย่างธรรมชาติ
หรือว่าคุณหลินจะชอบลักษณะแบบนี้มั้ง?
ฉู่ฉู่คิดในใจเอง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“ไร้สาระ จ้าวหลินเอ๋อร์ เธอเป็นคุณนายหลินตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอกล้าพูดออกมาได้ยังไง?” กงซุนชิวอวี่พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันเคยเจอพี่สะใภ้ฉัน คือจางฉีโม่ เธออยู่มณฑลตงไห่”
“จางฉีโม่? เหอะเหอะ นางบ้านนอกคนนั้นเธอยังรู้จัก เธอเคยเจอ?” จ้าวหลินเอ๋อร์หัวเราะเย็นชา มองกงซุนชิวอวี่อย่างไม่พอใจ “จางฉีโม่กับหลินอิ่งหย่ากันแล้ว อีกอย่างฉันกับหลินอิ่งมีสัญญาหมั้นหมายของครอบครัว การแต่งงานของผู้หญิงคนนั้นกับหลินอิ่งมันไม่ถูกต้อง”
“คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงทั้งคน ไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านให้กับตระกูลขยะแบบนั้น? ครอบครัวพวกเขารับไหวเหรอ? ไม่กลัวตายก่อนอายุขัยหรือไง?”
พอพูดถึงจางฉีโม่ จ้าวหลินเอ๋อร์ก็โมโหขึ้นมาทันที โดยเฉพาะ กงซุนชิวอวี่อะไรคนนี้ ยังท้าทายกับเธอต่อหน้า? นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่ชอบที่สุด
“หย่ากันแล้ว?” กงซุนชิวอวี่สีหน้าแปลกใจ ตาไร้แวว ในใจไม่รู้คิดอะไรอยู่
“ถึงจะหย่ากันแล้ว นั่นก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอมั้ง? เธอเอาหน้าที่ไหนมาพูดว่าตัวเองเป็นภรรยาพี่ชายฉัน? ไม่รู้จักอายเหรอ?” กงซุนชิวอวี่ไม่พอใจกับพฤติกรรมของจ้าวหลินเอ๋อร์อย่างมาก พูดอย่างเย็นชา
จ้าวหลินเอ๋อร์โมโห จ้องหน้ากงซุนชิวอวี่อย่างเย็นชา “เธอกับหลินอิ่งมีความสัมพันธ์อะไรกัน? ยังเรียกพี่ชาย? เธออยากยั่วหลินอิ่ง?”
“ฉันขอบอกเธอนะ กงซุนชิวอวี่ หลินอิ่งเป็นสามีฉัน ทั้งแวดวงตี้จิงต่างก็รู้เรื่องนี้ ถ้าเธอกล้ามีความคิดสกปรกอะไร อย่าบอกว่าฉันไม่ให้เกียรติตระกูลกงซุน โยนเธอไปกลางถนนให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”
“เชอะเชอะ” กงซุนชิวอวี่ทำเสียงเชอะ ฟังท่าทางการพูดจาของจ้าวหลินเอ๋อร์ ก็ไม่พอใจแล้ว “ช่างไร้ยางอายจริงๆ พี่ชายฉันเคยตอบรับเรื่องการหมั้นหมายนี่หรือยัง? เธอยังเห็นคนก็พูด ยังพูดกับจ้าวหลันเอ๋อร์ว่าพี่ชายฉันคือพี่เขย? ฉันฟังแล้วยังรู้สึกตลก”
“พูดไปแล้ว ถึงฉันจะตามตื๊อพี่ชายฉัน แล้วยังไง? เกี่ยวอะไรกับเธอ?” กงซุนชิวอวี่พูดอย่างได้ใจ “อย่างน้อยพี่ชายฉันสนใจฉัน ไม่เหมือนใครบางคน คนอื่นเขาไม่สนใจ ยังหลงตัวเองอยู่นั่น”
“เธอ เธอ” จ้าวหลินเอ๋อร์โมโหจนสีหน้าแดงก่ำ จ้องกงซุนชิวอวี่ตาเขม่น
“เธอต่างหากที่ไร้ยางอาย พี่ชายของเธอ? หลินอิ่งเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ? ยังไงเธอก็เป็นคุณหนูตระกูลกงซุน ยั่วผู้ชายของบ้านคนอื่นเขา ไม่รู้จักอายเหรอ?” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดอย่างโมโห โมโหจนท้องจะระเบิด
กงซุนชิวอวี่ทุ่มแทงจุดเจ็บของเธอ
เป็นจุดที่ทำให้เธอโกรธและเจ็บที่สุด หลินอิ่งไม่ชอบสนใจเธอ
จ้าวหลินเอ๋อร์ยังไงก็คิดไม่ตก ทำไมหลินอิ่งถึงไม่สนใจเธอ?
ตั้งใจชัดๆ
หลินอิ่งคนนี้ ดูแล้วเหมือนเย่อหยิ่งเย็นชา ความจริงไม่รู้ว่าเจ้าชู้ขนาดไหน เท่าที่เธอรู้ แต่งงานกับจางฉีโม่หลายปี จากนั้นที่เมืองก่างกับโครเมียร์ แอนนาก็มีความสัมพันธ์กัน
ตอนนี้ ข้างกายก็มีสาวงามอีกสองคนที่ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน
โดยเฉพาะ ยังสวยและเก่งขนาดนี้
นี่ทำให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ของจ้าวหลินเอ๋อร์ เริ่มหวั่นไหวแล้ว
“เธอไม่รู้เหรอ? หลินอิ่งเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องกับฉัน นายท่านฉีเป็นคุณตาของฉัน” กงซุนชิวอวี่ยิ้มอย่างได้ใจ “ฉันกับพี่ชายมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนที่ดีตั้งแต่เด็กโตมาด้วยกัน เล่นกันแต่เด็ก เทียบกับใครบางคนที่อยากอาศัยคำหมั้นหมายจากผู้ใหญ่ในตระกูล ไม่รู้ว่าสนิทมากกว่ากันตั้งเท่าไหร่”