ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 562 คืนนี้ลงมือ
“ตกลง ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ น้อมรอรับข่าวดีจากคุณชายอิ่ง”จ้าวเฉิงเฉียนพูดหนักแน่น
หลินอิ่งผงกหัวเล็กน้อย
ข้อมูลรายงานจากจ้าวเฉิงเฉียนลงตัวได้เหมาะเจาะพอดี ก่อนหน้านี้ ทางด้านเย่เฮยกับหวงชิงซาน เพียงได้แต่คอยสอดส่องพวกลิ่วล้อของสำนักยุทธ์เชียนเท่านั้น ยังไม่สามารถลุยขุดเข้าถึงตัวกงจิ่วได้
ตอนนี้ ได้ข้อมูลความเคลื่อนไหวประจำวันของคนสนิทของกงจิ่วแล้ว
เพียงวางแผนให้รัดกุม จับกุมสองผู้พิทักษ์ของสำนักยุทธ์เชียนได้ ก็เท่ากับตัดแขนทั้งสองข้างของกงจิ่วแล้ว
เกาะติดตามต่อไป ก็จะมีโอกาสได้อย่างมากในการขุดเจาะถึงรอยเส้นทางของกงจิ่วได้
“คุณชายอิ่ง คุณชายใหญ่ ท่างท่านแม่เฒ่านั้นคุยธุระเสร็จแล้ว เรียนเชิญท่านทั้งสองเข้าไปได้แล้วค่ะ”
ขณะนั้นเอง สาวรุ่นหน้าตาสะสวยนางหนึ่งเดินเข้ามา เอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม
หลินอิ่งลุกขึ้น แวบสายตามองไป ปรากฏว่า เป็นเพื่อนของกงซุนชิวอวี่ จ้าวหลันเอ๋อร์
จ้าวหลันเอ๋อร์ สบตากับหลินอิ่ง รีบก้มหน้าลง “คุณชายอิ่ง เหตุการณ์ครั้งนั้นต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ไม่ทราบว่าจะขออนุญาตได้ไหมคะ ที่จะให้ดิฉันเลี้ยงอาหารท่านสักมื้อ คุณพ่อก็อยากจะได้กล่าวขอโทษต่อหน้าท่านด้วยค่ะ”
หล่อนพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนกอย่างมาก ดูเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เคยเผชิญหน้ากับหลินอิ่งสองครั้ง ครั้งนี้ มันต่างกับครั้งที่แล้วอย่างฟ้ากับดิน หลินอิ่งนั้น ขนาดคนทั้งบ้านตระกูลจ้าวยังไม่กล้าตอแยด้วย ตัวหล่อนเองนะหรือ แค่เพียงรินน้ำชาให้หลินอิ่งยังไม่มีคุณสมบัติพอเลย
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ไปล่วงเกินหลินอิ่ง กลับถึงบ้านจ้าว ทั้งคุณพ่อ ต่างก็ตื่นตระหนกตกใจผวากัน อยากจะหาโอกาสไปขอเข้าพบเพื่อกราบขออภัย
หลินอิ่งส่ายหัว ไม่ปริปากพูดอะไร เดินออกประตูไป
ชั่วเดี๋ยวเดียวนั้นเอง จ้าวหลันเอ๋อร์หน้าซีดเผือด ออกอาการกระสับกระส่าย
“หลัน หลัน เธอถอยออกไปเถอะ คุณชายอิ่งเขาไม่มาถือสากับคนต่ำต้อยอย่างเธอหรอก ทีหลังอยู่ข้างนอก ทำตัวให้ติดดินหน่อย หละ”จ้าวเฉิงเฉียนอบรมเสียยกหนึ่ง แล้วก้าวเดินตามหลังหลินอิ่งไป
ไม่นาน หลินอิ่งก็มาถึงโถงใหญ่บ้านตระกูลจ้าว ภายในโถงใหญ่มีเพียงสามท่านผู้เฒ่ากับจ้าวหลินเอ๋อร์นั่งอยู่
“หลินอิ่ง ก็เป็นไปตามที่เธอต้องการนะ พันธสัญญาแต่งงานกับตระกูลจ้าวเป็นอันยกเลิกแล้ว”แม่เฒ่าตระกูลจ้าวเอ่ยอย่างไม่สู้พอใจ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินอิ่งตอบว่า “ขอบพระคุณท่านยายที่เข้าใจ”
“ถ้างั้น น้องยิน เรื่องก็ได้จบลงอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ฉันกับอิ่งเอ๋อก็ขอตัวกลับก่อนละ ไว้มีโอกาสว่าง ค่อยมาเยี่ยมคำนับบ้านตระกูลจ้าวใหม่”ฉีเวิ่นติ่ง พูดอย่างเป็นทางการ
“ค่ะ พี่หก เดี๋ยวฉันไปส่ง”แม่เฒ่าตระกูลจ้าวผงกหัวแล้วขยับไม้เท้าค้ำตัวยืนขึ้น
และแล้ว หลินอิ่งพยุงท่านปู่เฒ่าของตัวเอง ค่อยๆ เดินออกจากบ้านตระกูลจ้าว มาถึงหน้าประตูกลุ่มวิลล่าภูเขาชา
โดยมีสองผู้เฒ่าตระกูลจ้าวเดินตามมาส่ง
ฉีเวิ่นติ่ง ก็ได้หันไปสนทนาปราศรัยกับสองผู้เฒ่าตระกูลจ้าวอีกสองสามคำ หลังจากนั้นก็ขึ้นไปนั่งในตอนหลังของรถโดยมีหลินอิ่งคอยประคอง
“ขับนุ่มๆ หน่อย”หลินอิ่งสั่งกำชับ
ฮาเดสผงกหัวรับ ขยับเคลื่อนรถลงจากภูเขาชา
สองผู้เฒ่าตระกูลจ้าวมองตามเสียงรถยนต์ที่เคลื่อนห่างออกไป ด้วยสีหน้าที่สับสน
“หลินเอ๋อร์ วุ่นใจกับเรื่องแต่งงานของเธอ ปู่ก็เต็มที่แล้วแหละ ไอ้เด็กเวรตระกูลฉีนี่ ตระกูลจ้าวเราเอามันไม่ลงจริงๆ ดูแม้แต่ฉีเวิ่นติ่งยังเคารพในความคิดของหลานเขาคนนี้เลย”จ้าวเทียนสงพูดพลางถอนใจออกเบาๆ “ตระกูลฉีมีมังกรมาเกิด มันไม่ใช่เรื่องคุยกันเพ้อเจ้อเสียแล้วนะ”
ก่อนที่หลินอิ่งจะมา จ้าวเทียนสงได้มีการสืบสอบมาอย่างละเอียดชัดเจน
เพื่อหวังให้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนได้สมใจปอง ตลอดจนได้คิดเตรียมการอย่างสุดความสามารถแล้ว
แต่ที่ไหนได้ หลินอิ่งนี่ช่างเหลือร้ายจริงๆ
ในด้านโปร่งใส หลินอิ่ง ได้ครอบครองตระกูลฉี และตระกูลนิ่งสองตระกูลใหญ่ เห็นว่าเมื่อครั้งนั้น นิ่งไท่จี๋ เพื่อนเก่าเขา ยังยอมถอนตัวออกยกตำแหน่งให้
ในด้านมืด หลินอิ่ง ยังมีอิทธิพลแบบถล่มทลาย ไม่เพียงเคยกวาดล้างตระกูลเหวิน ยังเคยเหยียบถล่มตระกูลสวี และยังได้ใช้กำลังดับตระกูลเศรษฐีอันดับต้นของเมืองก่าง
ในตี้จิง พูดได้ว่าไม่มีใครจะเหนือแน่กว่านี้แล้ว
“เฮ้อ..หลิงเอ๋อร์ ย่าช่วยหนูสืบสอบเจ้าเด็กน้อยหลินอิ่งคนนี้ตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว เขา ไม่ใช่คนที่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปจะสยบเขาได้ หนูเอาเขาไม่อยู่หรอก”ผู้เฒ่าตระกูลจ้าวพยายามตะล่อมเตือน “ในเมื่อหนูตัดสินใจจะให้หลินอิ่งเป็นเพื่อนไปเที่ยวทะเลนอกกับหนู งั้นไว้เมื่อหนูสมปรารถนาแล้ว ก็จงตัดใจทิ้งไปให้ได้นะ ให้รู้นะว่า คำว่าเสน่หาคาใจนี่ มันเป็นตัวทำร้ายคนอย่างสาหัสที่สุดนะ”
ฟังคำพูดผู้เฒ่าตระกูลจ้าวทั้งสองแล้ว จ้าวหลินเอ๋อร์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง เม้มปากแน่น แววตาเต็มไปด้วยความสับสน
……
ทางอีกด้านหนึ่ง เบนท์ลี่ย์สีดำแล่นไปบนถนนที่เฟื่องหรู
“คุณปู่ครับ เรื่องวันนี้ แท้ที่จริงนั้นไม่ใช่ว่าหลานจะไม่เชื่อฟังนะครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนใจกันได้”ณ.ที่นั่งหลังรถ หลินอิ่งนั่งข้างเคียงคู่กับฉีเวิ่นติ่ง พูดอย่างสุขุม
ฉีเวิ่นติ่งยิ้มๆ แล้วพูดว่า “งานแต่งงานนี้ ตั้งแต่ต้นก็คิดว่าจะหาคู่ที่เหมาะสมให้กับเธอ ให้สมน้ำสมเนื้อคู่ตระกูล ตอนนั้นปู่จึงได้ตกลงหมั้นหมายการแต่งงานนี้ มาตอนนี้เธอก็โตขึ้นแล้ว มีความคิดเป็นตัวของตัวเองแล้ว ก็คงต้องเป็นตัวของตัวเองแหละ”
“ไม่ต้องมากังวลเรื่องหน้าตาของปู่แล้วรู้สึกไม่สบายใจนะ ปู่อายุถึงขนาดนี้แล้ว ขอให้ได้เห็นเธอผ่านใช้ชีวิตราบรื่นดังใจ ปู่ก็พอใจแล้ว”ฉีเวิ่นติ่งพูดด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยเมตตา “แต่งเมียเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตตลอดชีวิต ใจเธอไม่ยอมรับ แต่งกันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นผลร้ายกับงานใหญ่ของเธอ เรื่องนี้สำหรับปู่ ยังมองออกได้ทะลุ”
หลินอิ่งผงกหัว พูดว่า “คุณปู่เข้าใจก็ดีเลย”
“ใช่แล้วครับ คุณปู่ ทุกวันนี้สุขภาพคุณปู่มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”หลินอิ่งเปลี่ยนเรื่องคุย ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ก็ดีมากเลยนะ ครั้งก่อนที่เธอต้มยามาให้นั่น กินเข้าไปแล้ว ร่างกายรู้สึกฟิตขึ้นกว่าเดิมมากเลย”ฉีเวิ่นติ่งพูดเป็นจริงเป็นจัง “ร่างกายของปู่เอง ปู่ย่อมรู้ตัวเองดี ไม่มีอะไรหนักหนา ว่าแต่เธอนั่นสิ ทุกวันนี้ดูสถานการณ์อึมครึมไปทั่วทั้งตี้จิง มีไอ้พวกเครือญาติจ้องใส่เธอเต็มไปหมด คิดว่าเธอคงจะเครียดมากสินะ”
หลินอิ่งตอบว่า “คุณปู่ครับ สุขภาพของคุณปู่ไม่มีปัญหาก็ดีแล้ว เรื่องเครือญาติในตี้จิงนี่ ไม่มีค่าควรในการพูดถึง ผมรับได้อยู่แล้ว”
“ดี ดี”ฉีเวิ่นติ่ง ผงกหัว พูดต่อไปว่า “อิ่งเอ๋อ แล้วเรื่องเธอกับหนูหญิงแซ่จางจากมณฑลตุงไห่คนนั้น ตอนนี้เป็นยังไงเสียหละ ปู่ก็เห็นเธอดูเหมือนต้องใจกับหล่อนมาก ไหงตอนนี้เป็นอย่างนี้ กลายเป็นหย่ากันซะแล้วหละ”
“จะว่าไปแล้ว เธอก็ยังไม่เคยพาหนูจางฉีโม่นั่น มาให้ปู่เห็นเลยนะ”ฉีเวิ่นติ่งถามอย่างมีเลศนัย “พูดถึงปู่ในตอนนี้นะ เรื่องเป้าหมายจะหวังก็ไม่มีอะไรมากมายแล้ว ก็เพียงอยากเห็นเธอมีครอบครัวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อยากอุ้มหลานนะ”
“เธอก็รู้นะ ผู้สืบตระกูลฉีของเรา ตอนนี้ก็เธอคนเดียวนี่แหละนะ”
“ทราบครับ คุณปู่ ที่คุณปู่พูดผมจะจำไว้ครับ”หลินอิ่งตอบอย่างมั่นเหมาะ
และแล้ว หลินอิ่งก็นำพาผู้เฒ่าของตนกลับยังจื่อหลงซานอีกครั้ง
นั่งคุยกับท่านปู่อีกพักใหญ่ที่จื่อหลงซาน แล้วจึงค่อยจากไป
พอออกจากจื่อหลงซาน หลินอิ่งขึ้นนั่งรถ ก็ได้โทรศัพท์หาเย่เฮยทันที
“เย่เฮย แกอยู่ที่ซอยหยกมณี พบเห็นอะไรบ้าง?”หลินอิ่งถาม
“ครับท่านประมุข ผมสะกดตามอยู่ บริเวณนี้ ยังไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มแวดวงลึกลับที่น่าสงสัยให้เห็น”เสียงตอบจากโทรศัพท์อีกด้านหนึ่ง เย่เฮยรายงานอย่างเป็นทางการ
“แกไปบอกหวงชิงซาน จะให้ลงมือทันทีเมื่อยามมืด ฉันจะส่งเอกสารรายงานข้อมูลให้แกชุดหนึ่ง จะต้องเอาตัวสองผู้พิทักษ์ข้างตัวของกงจิ่วมาให้ได้”หลินอิ่งสั่งการอย่างเฉียบขาด
“เตรียมพร้อมกำลังพล แล้วให้มาที่โรงแรมจงเทียนเดี๋ยวนี้”
“ได้ครับ ท่านประมุข ผมจะกลับไปที่โรงแรมจงเทียนทันทีครับ”เย่เฮยตอบอย่างมั่นเหมาะ