ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 566 ใบหน้ามูลค่าห้าล้าน?
“เอาอย่างนี้ละกัน ในเมื่ออยู่ในสถานที่ที่เป็นโรงเรียน กูก็คุยกับแกอย่างนี้ละกัน”หูบาแจงเนิบๆ “ยัยเด็กหน้าโง่ที่แกเป็นผู้ดูแลนั่น มันมาทำหน้าลูกของข้าบาดเป็นแผล เอาง่ายๆ จ่ายตังค์”
“จ่ายตังค์เสร็จ ขอขมา ข้าก็จะปล่อยให้แกออกจากโรงเรียนนี้ไปได้”หูบามองหน้าหลินอิ่งเย้ยๆ “ถ้าหากทำให้ข้าสบายใจ ก็จะพิจารณาปล่อยแกไป เปิดทางรอดให้แก”
หลิ่นอิ่งสีหน้าเฉยเป็นปกติ พูดว่า “จ่ายเงิน? ก็ได้ คุณจะเอาเท่าไหร่?”
“อุว้าว? เด็กน้อยกลัวมีเรื่อง? ดีมาก รู้เรื่องดี”หูบายิ้มยะเยือก ในใจรู้สึกได้ว่าหลินอิ่งคงเห็นบอดี้การ์ดของตนแล้ว เกิดกลัวต้องยอมสยบ
“เห็นแก่ว่าเด็กน้อยอย่างแกมีสำนึกที่น่าเอ็นดูอยู่บ้าง งั้นก็จะให้โอกาสแก ลูกของข้านั้นมีค่าดุจทอง มาโดนบาดเป็นแผลที่หน้า แกจ่ายมา 5 ล้านก็แล้วกันถือว่าเรื่องจบกัน”เมียของหูบาพูด ราวกับว่าจ่าย 5 ล้านนี้เป็นการสมเหตุสมผล
“ยอมให้แกจ่าย 5 ล้านเป็นค่ายารักษาและค่าทำขวัญนะ ปล่อยให้ไอ้เด็กน้อยอย่างแกมีจุดที่ลง อย่ามาอิดออดไม่พอใจ”หูบาพูดข่มเสียงเกรี้ยว “ถ้าแกไม่จ่ายไม่ขอขมา ทำให้ข้าเดือดแค้นละก็ ตอนนั้นแกอาจต้องจ่ายถึงชีวิตก็เป็นได้!”
“ท่านประธานหู ท่านก็จะเป็นการทำให้เขาลำบากใจละมั้ง ดูสภาพเขาแบบนี้นะ จะจ่ายได้ถึง 5 ล้าน”อาจารย์หลีมองหลินอิ่งอย่างสมเพช พูดประจบอยู่ข้างๆ
“อาจารย์หลี เธอก็พูดถูกนะ สมแล้วที่มีความรู้เป็นครูบาอาจารย์ พูดจามีระดับ”หูปาพูดเย้ยเยาะมองหน้าหลินอิ่งแล้วพูดต่อ “5 ล้านจะจ่ายไหวไหมหนอ? ว่ากันตามเหตุผลนะ แกสามารถส่งยัยเด็กนี่มาเรียนโรงเรียนระดับนี้ได้ คงก็น่าจะไหวมั้ง ถ้าไม่ไหวก็บอกมาตรงๆ ข้าจะได้วางแบบจัดการกับแกให้เหมาะสม”
“ตบหน้าลูกคุณ ต้องจ่าย ห้า ล้าน ถูกต้องนะ?”หลินอิ่งพูดเนิบๆ
“ถูกต้อง ฟังไม่ผิด ห้าล้าน!”เมียหูบาพูดพร้อมยิ้มอย่างเย้ยเยาะ
“ขอเลขบัตรเครดิตธนาคารของคุณหน่อย”หลินอิ่งพูดเนิบๆ
“ฮ่า?”หูบามองหลินอิ่งอย่างพิเคราะห์ด้วยอารมณ์สนุก ก็ไม่รู้หลินอิ่งคิดอะไรอยู่
เขาก็คิดแค่ตั้งใจหยอกเย้ากวนประสาทหลินอิ่งเล่น ไม่คิดว่าไอ้หน้าซื่อบื้อคนนี้เตรียมจะจ่ายเงินให้จริงๆ มันน่าสนุกแล้วสิ
ว่าไปพลาง เมียหูบาก็ยื่นส่งการ์ดธนาคารให้หลินอิ่ง
หลินอิ่งควักโทรศัพท์ออกมา กดโอนเงินไป
ติ๊ง
“อื๋อน์?”เสียงเครื่องโทรศัพท์ของหูบาดังขึ้นทีหนึ่ง เขายกโทรศัพท์ขึ้นดู ฉับพลัน สีหน้าแสดงออกอาการตื่น
“หนึ่งร้อยล้าน? ฮ่าๆๆๆๆ!ไอ้หนู แกนี่ดูมีตระกูลไม่เบาเลยนะ ใช้ได้ๆ มีอนาคต”หูบาพูดหยอกแกมเย้ย แววตาอิ่มเอิบด้วยความโลภ
“อะไรนะ? คุณผัว มันโอนมาให้เท่าไหร่นะ?”เมียหูบารีบเดินเข้ามาดูเองด้วยตา ตามมาด้วยความดีใจออกนอกหน้า
ใช่แล้ว หลินอิ่งโอนเงินไปให้หนึ่งร้อยล้าน
“ถือว่าไอ้หนูแกนี่ตายังมีแวว แกคงรู้แล้วสินะว่าข้าหูบาเป็นใคร เหอะๆๆ”หูบาหัวเราะอย่างสะใจ “เห็นว่าแกยังเป็นคนรู้ดี เรื่องวันนี้ เป็นอันถือว่าจบเรียบร้อย ต่อไปนี่ กลับไปสั่งสอนยัยเด็กคนนี้ให้ดีๆ หละ”
“ไป คุณเมีย เรากลับบ้านกันเถอะ”หูบาลุกขึ้นอย่างอารมณ์ดี ดึงเมียจูงลูกเตรียมจากไป
“มันไอ้หน้าโง่แท้จริงเชียว เวรกรรมมัน”เมียของหูบาพูดเยาะ
“เหอะๆ ..”หูบาก็หัวเราะตาม มองหน้าหลินอิ่งด้วยสายตาสมเพช
ในใจเขาทั้งสองยังเข้าใจว่า หลินอิ่งคนนี้คงมีปัญหาทางสมอง
ไม่รู้มหาเศรษฐีคนไหนในตี้จิงมีลูกปัญญาอ่อนผลาญตระกูลแบบนี้ออกมา
หนึ่งร้อยล้าน สำหรับหูบา เศรษฐีระดับพันล้านอย่างเขา อาจไม่ถือว่าจะเป็นลาภกำไรมากมาย
แต่ ก็เป็นลาภลอยเล็กๆ ก้อนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าดีใจอย่างยิ่ง
หูบาสองผัวเมียกำลังจะเดินจากไปอย่างลิงโลด ทันใดนั้น หลินอิ่งยื่นมือออกขวาง
“ทำอะไรของแก?”หูบามองหน้าหลินอิ่งตะคอกถามเสียงเย็นชา
“หยังสู้สู้ ตีลูกคุณ เงิน ผมจ่ายให้คุณแล้ว”หลินอิ่งพูดเรียบๆ “แต่ ที่เมียคุณตบหยังสู้สู้ เรื่องนี้ ยังไม่ได้เคลียร์”
“ยังอีกเรื่องหนึ่ง หน้าของลูกคุณมีค่า 5 ล้าน ใช่ไหม? ผมจ่ายให้คุณ หนึ่งร้อยล้าน”หลินอิ่งมองหน้าหูบาอย่างเยือกเย็น “เพราะฉะนั้น ลูกของคุณ ยังค้างให้โดนตบอีก 19 ครั้ง”
“แล้วทำไม? คิดจะไปเลยได้ไง?”
“แก!แกพล่ามอะไรไร้สาระของแก!แกไอ้บัดซบ ปล่อยพ่อแกคนนี้เดี๋ยวนี้”หูบาพูดอย่างไม่พอใจ สะบัดมืออย่างแรงเพื่อจะให้หลุดจากมือหลินอิ่ง
“โอ๊ยย!”
เสียงแครกดังจากที่หูบาสะบัดมือ เหมือนกระดูกข้อหักหลุด
มือของหลินอิ่ง เหมือนดั่งคีมแท่นเครื่อง จับที่แขนเขาเหมือนกับล็อกอยู่แน่
หน้าของหูบาขาวซีดอย่างฉับพลัน เจ็บจนเหงื่อแตกเป็นเม็ด มองหน้าหลินอิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาไม่เคยคิดถึงว่า ไอ้เด็กหนุ่มออกผอมคนนี้ ดูน้ำหนักยังน้อยกว่าเขานับสิบกิโล กลับมีแรงมากขนาดนี้
“แกปล่อยมือนะ ไอ้ทึ่มนี่ แกจะทำอะไรผัวฉัน? แกกล้าจะทำร้ายคนหรือ? รู้ไหมว่าผัวฉันมีอิทธิพลขนาดไหนในย่านเมืองเก่านี่?”เสียงโวยด่าจากเมียหูบาดังมา
“อ๋อ…”
หลินอิ่งแค่นหัวเราะ เสียงดังสวบ พลิกมือกลับ รวบแขนทั้งสองข้างให้ตัวหูบาพลิกหัน180องศากลางอากาศ กดคุกเข่าลงสองข้างกับพื้น แขนสองข้างไพล่ไว้ข้างหลัง
“อ๊าก..”
หูบาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สีหน้าทั้งกลัวทั้งโกรธ โดนหลินอิ่งล็อกตัวไว้ ทั้งตัวรู้สึกชาไปหมด ไม่สามารถออกแรงได้แม้แต่น้อย
“ปล่อยท่านประธานหูนะ!”
“ไอ้หนู ฉันขอเตือนแกนะ ประธานหูไม่ได้อยู่ในฐานะที่แกจะกระทบกระทั่งได้นะ”
ขณะนั้นเอง กลุ่มบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้องทำงานต่างตาตื่น เห็นเจ้านายตัวเองถูกจับล็อกไว้ ต่างรีบตะโกนสั่ง
“แก แกทำอะไรของแก? ที่นี่โรงเรียนนะ แกขืนกล้าก่อเรื่องวุ่นวาย เราจะแจ้งตำรวจแล้วนะ!”อาจารย์หลีส่งเสียงอย่างตื่นตระหนก กลัวหลินอิ่งจะทำเรื่องลุกลามใหญ่โต ทำให้ประธานหูลำบากหนัก
“ถ้าพวกแกยังขืนโวยวาย ข้าจะจัดการทำให้ไอ้นี่พิการไปเลย”หลินอิ่งพูดเนิบๆ มองหน้าเมียของหูบาอย่างหนาวเยือก “หนี้ที่พวกแกมีกับคุณหนูหยังสู้สู้ จัดการชำระมาทีละเรื่อง ที—ละ–เรื่อง”
เมียของหูบา มีสีหน้าร้อนรน ทั้งตื่นกลัวทั้งทำอะไรไม่ถูก
การลงมืออย่างเฉียบพลันของหลินอิ่ง ทำเอาหล่อนตลึง
ติ๊ด ติ๊ด
หลินอิ่งควักเอาโทรศัพท์ออกมา ส่งข้อความออกไปข้อความหนึ่งก่อน
แล้วเขาก็หันมามองหยังสู้สู้ พูดอย่างขึงขังว่า “หยังสู้สู้ พวกเขารังแกหนู สบประมาทพ่อแม่หนู หนูเข้าไป จัดการให้รอยตบกับไอ้หูเจี้ยนคนนั้น 19 ที”
“อ่า! คุณอาหลินคะ คงไม่ค่อยดีมังคะ?”หยังสู้สู้พูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
หลินอิ่งลูบหัวหยังสู้สู้เบาๆ ยิ้มแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไร คุณอาจ่ายตังค์ให้เขาไปแล้ว”
หยังสู้สู้มองหน้าหูเจี้ยน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความชิงชัง
“ไปสิ คนอื่นเขารังแกหนู ระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกัน หนูยังพออดกลั้นยินยอม คุยเหตุผลกันให้เคลียร์ได้ แต่พวกเขาสบประมาทไปถึงคุณพ่อคุณแม่ของหนู หนู จะต้องเอาคืน!”หลินอิ่งพูดอย่างเคร่งขรึม
จะลงโทษอย่างไร สั่งสอนยังไงกับครอบครัวตระกูลหูบา ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เขาต้องการให้หยังสู้สู้สร้างความมั่นใจของตัวเอง ไม่ให้ชีวิตตกอยู่ในปมด้อยของจิต