ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 567 ผอ.โรงเรียนมาคุย
โดยข้อเท็จจริง ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
โดยเฉพาะกับหยังสู้สู้ที่ตั้งแต่อายุยังน้อย ในช่วงวัยเด็กอ่อนก็ถูกแม่เลี้ยงทารุณให้แล้ว ในใจฝังลึกด้วยปมด้อยชัดเจน ตอนนี้อยู่ในโรงเรียน ยังมาถูกเพื่อนนักเรียนกลั่นแกล้งอย่างนี้ อีกยังถูกครูบาอาจารย์กดดันอย่างไม่เป็นธรรม ต้องประสบพบกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้
เด็กสาวเล็กๆ ขนาดนี้ ตั้งแต่วัยเด็กเล็กถูกครอบด้วยเงาดำมืด ทั้งยังไม่ได้รับการดูแลด้วยความรักจากพ่อแม่ ชั่วชีวิตทั้งชาติที่จะอยู่ต่อไปคงไม่มีวันได้โงหัวขึ้นแน่
“หนู เข้าใจค่ะ คุณอา”หยังสู้สู้ ผงกหัวอย่างหนักแน่น แววตาที่แน่วแน่ เดินก้าวเข้าไปหาหูเจี้ยนที่เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก
“นี่แก!แกคิดจะทำอะไร? แกยังคิดจะให้ยัยเด็กไม่มีคนสั่งสอนนั่น มาตบลูกฉันอีกหรือ?”เมียของหูบาพูดอย่างตระหนกตื่น คิดหวังจะปกป้องลูกตัวเอง
“โอ๊ย อ่า…”
ขณะที่หล่อนกำลังโวยวาย หลินอิ่งบิดแขนหูบาอย่างแรง ปวดจนเขาร้องเสียงหลง
“คุณรับเงินของผมไปแล้ว ทำไมจะตบตีลูกคุณไม่ได้ มีปัญหามั้ย?”หลินอิ่งถามเสียงเยือกเย็น
“ไม่…ไม่มีปัญหา”หูบาพูดเสียงหอบขัดๆ “ยัยเมีย ปล่อย ปล่อยเด็กหญิงคนนั้นตบตี ไม่เป็นไร ลูกเราไม่ขาดทุนเท่าไหร่หรอก”
“เพี๊ยะ..!”
หยังสู้สู้ตรงเข้าไปตบหูเจี้ยนเต็มแรง
หูเจี้ยนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ขวัญกระเจิงจนทำอะไรไม่ถูก
“เธอก่อนหน้านี้ตบฉันทีหนึ่ง ฉันก็ตบเธอคืนทีนึง คุณอาหลินให้ฉันตบเธอ 19 ที ฉันก็ไม่อยากจะตบเธอแล้วหละ ทีหลัง เธออย่ามาด่าว่าเรื่องพ่อแม่ฉันอีกนะ”หยังสู้สู้พูดกับหูเจี้ยนอย่างจริงจัง แล้วหันหลังเดินกลับไปหาหลินอิ่ง
“คุณหลินครับ ตอนนี้คุณพอใจแล้วนะ ปล่อยผมได้ยัง?”หูบากดเสียงทุ้มพูด ฝืนเก็บอารมณ์ลงไว้
ในชั่วขณะนี้เขาต้องตีสีหน้ายอมให้ แต่ในใจสุดแสนจะเจ็บแค้น หลินอิ่ง
ได้แต่รอหวังให้หลินอิ่งคลายมือออก เขาจะได้สั่งระดมคน ไม่นานคงได้จับตัวหลินอิ่งมาสั่งสอนให้สาแก่ใจ
“ผมบอกแล้วว่า เรื่องที่เมียคุณตบตีหยังสู้สู้ยังไม่ได้เคลียร์”หลินอิ่งพูดเนิบๆ
“นี่แกคิดจะเอายังไงอีก?”หูบาฝืนเก็บอารมณ์โกรธถาม
“แกเป็นใคร ไม่รู้จักเคารพกฎหมายบ้านเมือง กล้าดียังไงมาก่อกวนในโรงเรียนชิงถึง รู้ไหมว่าใครเป็นใคร ใครเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ ที่นี่?”
ในขณะนั้นเอง นอกห้องทำงานมีเสียงตวาดดังเข้ามา
ปรากฏเป็นชายหัวล้านวัยกลางคน แต่งชุดสากลผูกเนคไท หน้าตาอิ่มเอิบอย่างมีบารมีเดินเข้ามา
หลังชายกลางคนหัวล้าน เป็นฝูงรปภ.ของโรงเรียนเดินตามกันมา
“ครูใหญ่ซุนคะ ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้แหละ ดูเหมือนจะแซ่หลิน เป็นผู้ปกครองของเด็กหญิงหยังสู้สู้ ที่ตบตีลูกของท่านประธานหูค่ะ ไอ้หนุ่มแซ่หลินนั่นมันไม่ยอมรับคะ ตอนนี้มันจับประธานหูอยู่ตรงนั้น กำลังก่อกวนอยู่ค่ะ”ครูผู้หญิงคนหนึ่งที่มากับชายหัวล้านรีบเล่าเหตุการณ์
คงเป็นครูผู้หญิงใส่แว่น—อาจารย์หลี นั่น ไม่รู้หลบออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปตามเอาคนกลุ่มนี้เข้ามา
“ฉันเป็นครูใหญ่โรงเรียนชิงถึงแห่งนี้!ฉันจะบอกแกนะ แกมาก่อกวนในโรงเรียนนี้ อีกทั้งยังกล้าทำร้ายท่านประธานหู แกนี่จบไม่ได้ดีเป็นแน่แท้”ครูใหญ่ซุนถลึงตาจ้องหลินอิ่ง พูดเตือนอย่างข่มขู่
“แกรีบปล่อยท่านประธานหูให้ฉันทันทีเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะโทรฯ.บอกให้ท่านผู้อำนวยการหลี่ มาจับกุม!ประธานเซ่ของสถาบันเรามีความสนิทกับผู้อำนวยการหลี่เป็นอย่างมากนะ”
ครูใหญ่ซุนยืนเท้าสะเอว ใช้น้ำเสียงออกคำสั่งตะคอกใส่หลินอิ่ง
ส่วนกลุ่มรปภ.ของโรงเรียน ก็ทยอยเข้ามาในห้อง ยืนรายล้อมหลินอิ่งห่างอยู่ในระยะ 5 เมตร
“ประธานเซ่ หรือ? คุณไปบอกให้ ประธานผู้อำนวยการของพวกคุณท่านนี้มาพบผมหน่อย”หลินอิ่งพูดเรียบๆ
หลินอิ่งรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะคุยอธิบายอะไรกับคนกลุ่มนี้ละ
ล้วนแล้วแต่คนที่ไม่ยอมแยกแยะเขียวแดงขุ่นขาว มายอประธานหูบาคนนี้อย่างกับเป็นพ่อ
แล้วดันยังมาเป็นครูบาอาจารย์ ทำเรื่องฟื้นฟูการศึกษา มันช่างเหลวแหลกสุดแท้
“ยังจะมาอ้างประธานเซ่อีก? คุยเรื่องไม่เบาเลยนะ แกคิดว่าแกเป็นใคร?”ครูใหญ่ซุนพูดอย่างไม่พอใจ
“ที่นี่สถาบันชิงถึง แกมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่ ฉันจะดูซิว่าแกแน่สักแค่ไหน จะดำ จะขาว เชิญดาหน้ามาเลย!จะขอดูซิว่าแกมันจะมีปัญญาแค่ไหน?”
“ฉันจะนับแค่ สาม นะ ถ้าแกยังไม่ปล่อยประธานหู ทั้งบอดี้การ์ดของประธานหูและรปภ.ของโรงเรียน จะร่วมกันจัดการกับแก!”
ดูท่าทางของหลินอิ่งวางท่าทางไม่แยแสกับใคร ครูใหญ่ซุนยิ่งเดือดพล่าน
“สาม…..”
ตูมๆๆ
ในขณะนั้นเอง เสียงก้าวเท้าตึงตังอย่างเร่งรีบดังเข้ามา
ชั้นล่างห้องทำงาน รถเก๋งเบนซ์คันใหญ่สีดำสิบกว่าคันถลันกันเข้ามาอย่างฉับพลัน
“ทั้งหมดไสหัวออกไป”
ตรงทางระเบียงยาว ชายฉกรรจ์หุ่นกำยำในชุดสูตรสีดำเดินลุยฝ่ากันเข้ามา ผลักปัด รปภ.ของโรงเรียนกับบอดี้การ์ดของหูบากระจายออกอย่างดุดัน
รวมๆ เป็นชายฉกรรจ์สาม-สี่สิบคน ยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ แต่ละคนมาดห้าวโหด
ถึงตอนนี้ สภาพการณ์แบบนี้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดตะลึงงันถูกสะกดนิ่ง
ชั่วครู่ต่อมา ชายหัวโล้นใส่เสื้อหนัง รอยแผลเป็นจากมีดหลายรอยบนใบหน้า เดินขึ้นบันไดมาอย่างเร่งรีบ อีกคนที่ตามมาข้างๆ แขนหนีบกระเป๋าเอกสารในชุดสูตร บุคลิกท่าทางไม่ธรรมดา
“คุณชายอิ่ง ผม ผมมาแล้วครับ!”
ซื่อไท่นำกำลังคนมาถึง เขาปาดเหงื่อบนใบหน้าออก เดินเข้าไปหาหลินอิ่งอย่าพินอบพิเทา
“คุณชายอิ่งครับ ข้างผมนี่คือคุณเซ่ชิง ประธานคณะกรรมการสถาบันชิงถึง ครับ”ซื่อไท่แนะนำด้วยความนอบน้อม “ท่านจะหาเขาด้วยเรื่องอะไร ท่านสั่งไปได้เลยครับ”
ซื่อไท่ยังประหวั่นอยู่ในใจไม่หาย พอได้รับแมสเสจจากหลินอิ่ง ก็รีบนำคนมาที่สถาบันชิงถึงอย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังไปพาเอาตัวประธานสถาบันชิงถึงนี้มาด้วย
“คุณ.. คุณชายอิ่ง ท่าน ท่านตามผมมาพบ ไม่ทราบมีเรื่องอะไรครับ”ประธานเซ่ตีหน้ายิ้ม โค้งค้อมตัวด้วยเหงื่อท่วมหน้าแล้วมองไปที่หลินอิ่ง พูดอย่างตะกุกตะกัก
เซ่ชิงก็ตื่นตระหนกแย่เอาการเหมือนกัน
เขา ก็ถือว่ามีอิทธิพลมีระดับของย่านเมืองเก่า แต่เมื่อเทียบกับซื่อไท่คนระดับหัวมังกร ศักดิ์ศรีก็ห่างต่างกันไปคนละชั้น
โดนซื่อไท่ไปตามถึงบ้านตอนนั้น ก็ตกใจขวัญกระเจิงแล้ว
ยิ่งได้ยินว่า เป็นคุณชายอิ่งเจาะจงบ่งชื่อจะพบเขา ยิ่งเล่นเอาขวัญกระเจิงหมด
“นี่!ท่านประธานเซ่ ท่าน ท่านทำไมมาด้วยครับ…..”
“มันเรื่องอะไรกันนี่!ไอ้เด็กน้อยนี่ มันไปเรียกประธานเซ่มาเลยหรือนี่?”
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณต่างตะลึงอึ้งทึ่ง ทั้งหมดถูกบรรยากาศสะกดงัน
ประธานคณะกรรมการโรงเรียน ประธานเซ่ ปกติไม่ใช่คนของสถาบันที่จะออกหน้าง่ายนัก ไม่เฉพาะเป็นเพียงบุคคลระดับผู้ใหญ่ในวงการศึกษา อีกทั้งยังเป็นนักลงทุนในหลายธุรกิจ เป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้าน หากจัดลำดับในวงการธุรกิจย่านเมืองเก่านี้ ก็อยู่ในระดับเหนือเมฆทีเดียว
บุคคลระดับนี้ เป็นไปได้ยังไงที่ยอมสยบ วางตัวพินอบพิเทากับเด็กหนุ่มน้อยที่อยู่ข้างหน้านี้?
“ท่านก็คือประธานคณะกรรมการสถาบันชิงถึงนี้หรือ?”หลินอิ่งถามเปรยๆ
“ใช่ครับ! ผมเองครับ!ท่านมีอะไรจะสั่งครับ บอกมาได้เลยครับ”เซ่ชิงตีหน้ายิ้มพูดอย่างพินอบพิเทา
“ครูบาอาจารย์ในโรงเรียนของท่าน มีปัญหามากเลยนะ ภาพลักษณ์ก็มีปัญหามากๆ”หลินอิ่งพูดเปรยๆ
“ครูผู้หญิงคนนี้ การวางตัวด้านปฏิสัมพันธ์ วิถีการสอน ไม่มีความเหมาะสมในความเป็นครูเลย”หลินอิ่งพูดเรียบๆ
พูดพลาง หลินอิ่งลากเก้าอี้มานั่ง ล้วงหยิบบุหรี่ออกมาตัวหนึ่ง เซ่ชิงรีบจัดแจงจุดไฟให้อย่างรู้งาน พร้อมเอามือป้องลมให้
“คุณชายอิ่ง ท่านวางใจได้เลยครับ ในสถาบันชิงถึงนี้ ผมจะจัดการปัญหาเหล่านี้ให้เคลียร์ได้เลยครับ”เซ่ชิงตอบ
ชั่วขณะนั้นเอง หูบาสองผัวเมียหน้าถอดสีวูบ ใช้สายตามองหลินอิ่งด้วยแววยำเกรงสุดๆ
พวกเขารู้สึกได้เลยว่า คุณอาของหยังสู้สู้คนนี้ ไม่ใช่ไอ้เจเนอเรชั่นรุ่นสองหน้าโง่ แต่เป็นมหาพระกาฬมือค้ำฟ้าคนหนึ่งทีเดียวเจียว