ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 569 ไม่แพงเป็นทองแล้ว
หน้าตลบตะแลงเปลี่ยนได้ของเมียหูบา มีแต่ทำให้หยังสู้สู้รู้สึกขยะแขยง
หล่อนก้าวถอยออกห่าง หลบเข้าไปยืนหลังหลินอิ่ง
“ท่านคุณชายอิ่ง ท่านเป็นคนสูงส่ง กรุณาอย่าได้ใส่ใจกับคนกระจอกอย่างพวกเราเลยนะคะ ขออภัยจริงๆ เพราะดิฉันพูดไม่ดีเอง ดิฉันผิดไปแล้ว ขอท่านได้โปรดให้อภัยพวกเรานะคะ”เมียของหูบาพูดด้วยยิ้มอย่างที่เรียกว่าเลียแข้งเลียขา
“ใช่เลยครับ ท่านอิ่ง คนสูงส่งระดับท่าน พวกผมมันตาบอดชัดๆ ถึงได้กล้ากระทบถึงท่าน ขอท่านได้โปรดอย่าได้เก็บใส่ใจเลยนะครับ”หูบาก็เป็นอย่างที่ว่าเลียแข้งเลียขา คุกเข่าโค้งคำนับพูด
หลินอิ่งหน้าเย็นชา ขยี้ดับบุหรี่ที่คีบอยู่ในมือ พูดเรียบๆ ว่า “คุณว่าหละ ที่ภรรยาคุณไปตบหยังสู้สู้ จะสรุปจบอย่างไร?”
“ท่านอิ่งครับ ผม เรื่องนี้ผมจะต้องมีคำตอบให้กับท่านแน่นอน!”หูบารีบพูดอย่างลนลาน มองไปที่เมียตัวเอง “แกยังนั่งซื่อบื้ออยู่อีก? อยากโดนหรือไง? ยังไม่รีบไปอีก ไปให้หนูหยังตบคืนเลย!”
“ได้ๆๆ… ไป ฉันไปเดี๋ยวนี้เลย”เมียหูบาที่ตกใจจนขวัญกระเจิงอยู่ ด้วยท่าทางแบบที่เรียกว่าเลียแข้งเลียขา เดินเข้าไปหาหยังสู้สู้
“หนูเด็กหญิงหยังสู้สู้ขา ต้องขอโทษนะ น้านี่มันน่าโดนจริงๆ หนูตบตีน้าเลยนะ แล้วช่วยขอความกรุณาจากคุณอาหนูให้อภัยน้าด้วย ได้นะหนูนะ”
หยังสู้สู้สีหน้าแสดงออกถึงความขยะแขยง เม้มเชิดริมฝีปากไม่พูดอะไร
บรรยากาศนั้น ทำเอาหูบาผัวเมียม้วนเขินทำตัวไม่ถูก
พั๊วะ พั๊วะ!
ไม่มีใครขยับมือ เมียของหูบายกมือตัวเองขึ้นฟาดแก้มตัวเองอย่างแรง ตบจนเห็นแนวขึ้นชัดห้านิ้ว
“เพราะมือฉันมันสถุลมาก ท่านอิ่ง ขอได้โปรดอย่าได้รื้อพื้นเลยได้ไหมคะ?”เมียหูบาตบหน้าตัวเองไปพลาง ร้องขอไปพลาง
“ยังมีไอ้ลูกเวรนี่อีก ไม่รู้จักเชื่อฟัง ไม่เอาถ่าน มานี่เลย!”หูบามือคว้าลากเอาหูเจี้ยนเข้าหา ผัวะ ผัวะ ตบเข้าอย่างแรงที่หน้าหูเจี้ยน
หูเจี้ยนโดนตบเข้าไปสองที หน้าเป็นรอยแดงเถือก ร้องไห้ลั่น
หลินอิ่งย่นคิ้ว มองหน้าหูบา หูบาชะงักหยุด ท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม
เจ้าหูบานี้ ไม่มีปัญญาทำอะไรนอกจากเอาอารมณ์ไปใส่ลงกับเด็ก มาดขู่เข้มดุดันที่มีอยู่ก่อนหน้า วางท่าดูมีอำนาจล้นหลาม แต่สุดท้ายท่าดีทีเหลว
“ท่านอิ่น ครับ ตะกี้นี้ผมมันไม่รู้จักที่ตายไปรับเงิน หนึ่งร้อยล้านของท่าน ผมขอมอบคืนนะครับ โอนกลับบัญชีเดิม!”หูบายิ้มประจบพูดกับหลินอิ่ง พูดนอบน้อมขอขมาว่า “ท่านดูได้ครับ หรือไม่ จะให้ผมชดใช้ให้อีกเท่าไหร่ก็ได้ครับ”
“ตอนนี้ ลูกคุณไม่ใช่มีค่าเทียบทองแล้วหรือ?”หลินอิ่งส่ายหัว หน่ายที่จะดูสภาพความทุเรศของสองผัวเมียนี้ ค่อยๆ ลุกยืนขึ้น
“ไม่แพงเทียบทอง ไม่แพงเทียบทอง!ไม่กล้า!ไม่กล้าแล้ว!ท่านอิ่ง ท่าน ท่านโปรดสั่งมา และได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถิด”
สีหน้าหูบาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าหลินอิ่งจะเกิดอารมณ์ฆ่า
เป็นข้อเท็จจริง ว่าตามระดับคุณชายอิ่งนี้ หากว่าเกิดอารมณ์ไม่ดี พูดสั่งไปเรื่อยเปื่อยคำเดียว เช่นอย่างจอมโหดซื่อไท่คนนั้น พูดถึงจะเก็บเขาทิ้ง ย่อมเป็นเรื่องง่ายเพียงยกมือ
“ฉันไม่อยากเห็นสองคนนี้อยู่ในตี้จิงอีก”
“ซื่อไท่ แกดูแล้วจัดการเอาเองเถอะ เซ่ชิง คุณมานี่หน่อย”
หลินอิ่งพูดเรียบๆ ไม่กี่คำ จูงหยังสู้สู้เดินออกจากห้องทำงาน
“ครับ!”
ซี่อไถ้รับคำอย่างนอบน้อม มองหูบาด้วยสายตาเย็นเยือก แววตาฉายความโหดร้ายของหมาป่า ทำเอาสองผัวเมียสั่นงก
“แกสองคนถือว่าโชคดีนะ คุณชายอิ่งไม่ชอบเรื่องฆ่าๆ แกงๆ ไม่งั้นแกสองคนจบชีวิตแน่”
ซื่อไท่พูดด้วยเสียงเย็นเยือก โบกกวักมือ มุ่งหน้าไปนอกห้อง เดินไป…..
“เอาละ พวกเธอ แยกย้ายกันเถอะ”ประธานเซ่หันมองกลุ่มรปภ.ของโรงเรียนแล้วออกคำสั่ง
ต่อจากนั้น รีบตามหลินอิ่งไปด้วยความรู้สึกเคร่งเครียด
ลงมาจากตึกธุรการ
เซ่ชิงเดินตามหลินอิ่งไปอย่างใจไม่เป็นสุข ไม่กล้าปริปากถามอะไรแม้แต่คำเดียว
หลินอิ่งมองเขา ลึกๆ แล้วพูดว่า “เซ่ชิง หยังสู้สู้คงต้องเรียนอยู่ที่นี่ต่อไป ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“แน่นอนเด็ดขาดเลยครับ”เซ่ชิงตอบอย่างหนักแน่นโดยไม่มีลังเล “ท่านคุณชายอิ่ง ท่านโปรดได้วางใจอย่างเต็มร้อย ขอยอมรับที่ผ่านมาว่าผมหละหลวมไปหน่อย แต่นี้ต่อไป หนูหยังสู้สู้อยู่ในสถาบันชิงถึงแห่งนี้ จะไม่มีวันให้ถูกกระทบกระทั่งให้สะเทือนใจแม้แต่น้อยเดียว”
หลินอิ่งผงกหัวเล็กน้อย ไม่พูดมาก
“หนูสู้สู้ เห็นว่าผลการเรียนเธอแย่มากใช่ไหม ทีหลัง หนูต้องตั้งใจเรียนนะ มีปัญหาอะไร โทรศัพท์ไปหาคุณอาได้เลยนะ”หลินอิ่งลูบศีรษะหยังสู้สู้เบาๆ พูดยิ้มๆ
ผลการเรียนของหยังสู้สู้แย่มากๆ เป็นเรื่องที่อยู่ในคาดคิดของเขาอยู่แล้ว ด้วยเหตุที่ชีวิตในวัยเด็กเล็ก ถูกแม่เลี้ยงกักไว้อยู่แต่ในบ้านพัก ไม่ได้เข้าเรียนอยู่หลายปี การเรียนย่อมตามเขาไม่ทันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
การขาดพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กอ่อน สิ่งที่ประสบในชีวิตวัยเด็ก เด็กน้อยหยังสู้สู้ คงยังต้องใช้เวลาเยียวยาฟื้นฟูอีกระยะหนึ่งจึงกลับสู่ปกติที่ดีได้
หยังสู้สู้ยืนลังเลอยู่พักหนึ่ง มองหน้าหลินอิ่ง แววตาเปี่ยมด้วยความแน่วแน่ พูดว่า “หนู หนูไม่คิดจะเรียนหนังสืออีกต่อไปแล้วคะ”
หลินอิ่งส่ายหน้าพลางหัวเราะมองหน้าหยังสู้สู้แล้วพูดว่า “ไม่เรียนหนังสือ แล้วหนูคิดจะทำอะไร?”
“หนูคิดอยากเป็นคนที่เก่งอย่างคุณอา”หยังสู้สู้พูด
“คนที่อยากจะเก่งกาจ ต้องมีความรู้สั่งสม หนูไม่เรียนหนังสือ อะไรๆ ก็ไม่สามารถรู้”หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง
“หนูไม่ถนัดในเรื่องการเรียนหนังสือ หนู หนูต้องการจะแก้แค้นให้คุณพ่อคุณแม่”หยังสู้สู้ก็ตอบอย่างจริงจัง
“อือม์?”หลินอิ่งส่อแววซาบซึ้งออกทางสายตา มองหยังสู้สู้อย่างลึกๆ
เป็นที่ชัดเจนมากว่า การตายของพ่อแม่เด็กคนนี้ ยังฝังแน่นยึดติดอยู่ในใจเป็นอย่างมาก
“คุณอาหลินคะ ตอนที่หนูเริ่มรู้ความ คุณพ่อก็ได้เคยสอนอะไรบางอย่างให้หนู ท่าน ท่านเป็นคนที่มีวรยุทธที่สูงเยี่ยมนะ คุณอาคะ คุณอาคงจะเยี่ยมยอดกว่าคุณพ่อหนูแน่ๆ เลยใช่ไหม?”หยังสู้สู้มองหลินอิ่งด้วยสายตาใสบริสุทธิ์ “หนูไม่อยากเรียนหนังสือ คุณอาหลิน ท่าน ท่านสอนวิทยายุทธให้หนูได้ไหมคะ?”
หลินอิ่งใช้สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกมองหยังสู้สู้
เขาเห็นเงาลางๆ ในตัวตนหยังสู้สู้ สะท้อนให้เขาเห็นเงาภาพบางส่วนสมัยเด็กของตัวเอง
“ฮะ ฮ้า..”หลินอิ่งหัวเราะ ลูบหัวหยังสู้สู้ “ความแค้นของพ่อแม่หนู คุณอาจะล้างแค้นแทนให้หนูแน่นอน และเรื่องที่หนูจะเรียนวรยุทธ คุณอาก็จะสอนให้หนูได้”
“แต่ทว่า หนูจะต้องเรียนรู้ถึงความมุ่งมั่น และความตั้งใจ หากแม้นว่าการเรียนความรู้พื้นฐานที่สอนในโรงเรียน หนูยังทำให้ดีไม่ได้ แล้วหนูจะเรียนวรยุทธให้ดีได้ยังไง?”
หยังสู้สู้ผงกหัวอย่างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
“หนูเข้าใจละ คุณอาหลิน หนูเชื่อคุณอา ค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนให้คะแนนดีขึ้นให้ได้”หยังสู้สู้พูดจริงจัง
หลินอิ่งผงกหัว พูดหนักแน่นว่า “หนูเข้าใจได้ก็ดีมากจ่ะ”
“คุณอายังมีงานต้องทำนะ หนูกลับไปพักผ่อนนะ มีเรี่องอะไรโทรศัพท์หาคุณอา หรือโทรหาคุณอาเย่เฮยได้เลยนะ”
ตั้งแต่ต้น ตนได้มีคำสั่งไว้เป็นพิเศษแล้ว ให้ถูซานจัดการดูแลที่พัก แม่บ้าน คนขับรถรับส่งตลอดจนบอดี้การ์ด ล้วนเป็นที่ไว้วางใจได้
“ได้ค่ะ”หยังสู้สู้ผงกหัวรับคำอย่างว่าง่าย
ขณะนี้เอง ซื่อไท่เดินเข้ามาช้าๆกับบอดี้การ์ดสองคน
“ท่านอิ่นครับ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ กระผมได้จัดการวางให้จัดส่งหูบาทั้งบ้านออกให้พ้นจากตี้จิงภายในคืนนี้ คือส่งให้ไปอยู่กับลูกพี่ที่เหมืองแห่งหนึ่งที่อาฟริกา ให้พวกมันไปขุดทำเหมืองที่นั่น”ซี่อไถ้ยืนรายงานอย่างพินอบพิเทาข้างหลังหลินอิ่ง
“ครั้งก่อนที่ให้แกจัดการเคลียร์โลกแห่งความมืดในย่านเมืองเก่า เป็นไงบ้าง?”หลินอิ่งถามน้ำเสียงเรียบๆ