ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 572 กงจิ่วปรากฏตัว
“หลินอิ่งคนนี้ ลึกลับไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ”จ้าวเฉิงเฉียนก็พูดอย่างถอดถอนใจเล็กน้อย “ไม่เพียงแค่ที่มาของเขาไม่อาจคาดเดาได้แล้ว แม้แต่ลูกน้องในมือก็ยังลึกลับขนาดนี้”
“ยอดฝีมือระดับรายการแห่งดินที่ไม่รู้เบื้องหลัง โดดเด่นราวกับโผล่มาจากฟ้า”จ้าวเฉิงเฉียงพูดอย่างใจเย็น “ผมสงสัยจริงๆ หลินอิ่งคนนี้ ยังกำไพ่ไว้ในมืออีกเท่าไหร่กันแน่”
ยอดฝีมือระดับรายการดิน ในโลกนี้สามารถเป็นแขกผู้มีเกียรติของเหล่าตระกูลชั้นสูงอย่างง่ายดาย
ยอดฝีมือระดับนี้ ขอแค่ยินยอม จะครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองใหญ่แห่งหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ทำไมถึงได้ยินยอมทำงานเป็นลูกน้องคนอื่น?
โดยเฉพาะ หลินอิ่งยังเป็นคนไร้ชื่อเสียงในแวดวงลึกลับ…….
“นายน้อย ท่านสามารถดูออกหรือไม่ ว่าเบื้องหลังวิชาการต่อสู้ของสองคนนี้มาจากไหน?”เผยหวูหมิงพูดอยู่ด้านข้าง “ผมกับเหล่าหม่า ต่างก็ดูอะไรไม่ออกเลย”
จ้าวเฉิงเฉียนไตร่ตรองครู่หนึ่ง พูดอย่างจริงจัง “ชายหนุ่มที่ใส่ถุงมือสีเงินคนนั้น วิธีการต่อสู้แปลกมาก เปลี่ยนแปลงหลากหลาย จากประสบการณ์ในแวดวงลึกลับของผม ไม่เคยได้ยินและพบเห็น”
“ส่วนคนแก่ที่กำลังภายในทรงพลังคนนั้น ผมพอดูออกบ้างเล็กน้อย”จ้าวเฉิงเฉียนพูดด้วยมุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“คนแก่คนนี้ วิธีการต่อสู้วุ่นวายมาก โดยเฉพาะวิชากำลังภายในทรงพลังอย่างมาก เพียงแค่ดูเหมือนเคยได้รับบาดเจ็บภายใน ดูแล้วท่วงท่าไม่ค่อยมั่นคงลื่นไหลนัก ช่วงที่เขารุ่งเรืองที่สุด ต้องเป็นความสามารถระดับรายการดินอย่างแน่นอน”จ้าวเฉิงเฉียนพูดตัดสิน “โดยเฉพาะ วิชาหมัดที่คนแก่นี้ใช้ ถ้าผมดูไม่ผิด น่าจะเป็นหมัดเทียนกัง”
“หมัดเทียนกัง?”
หม่าผิงชวนและเผยหวูหมิงสีหน้าเปลี่ยน แววตาประหลาดใจเล็กน้อย มองหน้าสบตากัน
“นายน้อย ท่านหมายความว่า?”หม่าผิงชวนพูดอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “คนแก่คนเป็นคนที่ชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงลึกลับเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลำดับที่สามสิบสองในรายการดินหมัดเทียนกังหวงชิงซาน?”
“ชื่อหมัดเทียนกังนี้ผมก็พอเคยได้ยินบ้าง”เผยหวูหมิงพูดอย่างเชื่องช้า “เท่าที่ผมรู้ หมัดเทียนกังหวงชิงซานไม่ได้ปรากฏตัวในยุทธจักรนานแล้ว หลังจากการเปลี่ยนรายชื่อรายการดินครั้งที่แล้ว ชื่อของเขาก็หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงตำนาน”
ยี่สิบปีก่อน หมัดเทียนกังหวงชิงซานเป็นคนโหดหน้าใหม่ในแวดวงลึกลับอย่างแน่นอน ห้าสำนักห้าแก๊ง รวบรวมคนในยุทธจักรก่อตั้งอำนาจขึ้นมาที่ไม่เล็กเลย สู้ขึ้นไปถึงรายการดินในแวดวงลึกลับ
เพียงแค่ต่อมา ก็หายสาบสูญจากยุทธจักร
“เหอะเหอะ เหล่าหม่า ยังคงเป็นคุณที่รอบรู้เยอะหน่อย หวงชิงซานน่าจะเป็นคนในยุทธจักรรุ่นเดียวกับคุณ”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “ในอดีต ที่นั่งลำดับในรายการแห่งดินดูเหมือนจะสูงกว่าคุณนิดหนึ่ง”
หม่าผิงชวนพยักหน้า พูดว่า “ถึงแม้ว่าไม่เคยเผชิญหน้ากับหวงชิงซาน แต่สมัยผมยังหนุ่ม แน่นอนว่าเขาโดดเด่นยิ่งกว่า”
“ผมจำหน้า สมัยหลายปีโน้นหวงชิงซานก่อตั้งโรงเรียนเทียนกัง รับลูกศิษย์หลายคน ยังมีลูกศิษย์อยู่ในแวดวงลึกลับ ถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควร หลายปีนี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีชื่อเสียงของโรงเรียนเทียนกังแล้ว”หม่าผิงชวนพูดอย่างครุ่นคิด
ถึงแม้หวงชิงซานจะถอนตัวนานแล้ว แต่ยังเคยก่อตั้งโรงเรียนเทียนกัง มีลูกศิษย์อยู่ในแวดวงลึกลับอยู่หลายคน อย่างน้อยก็ยังพอมีตัวตนอยู่ไม่น้อย
ทุกวันนี้ หายไปจากแวดวงลึกลับอย่างสิ้นเชิง
“การเปลี่ยนแปลงระหว่างนี้ คงมีเพียงหวงชิงซานและหลินอิ่งเท่านั้นที่รู้”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างใจเย็น “ไม่ว่ายังไงหวงชิงซานก็เป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโส ลูกศิษย์มากมาย หลินอิ่งกลับสามารถทำให้เขาทำงานให้ ไม่ธรรมดา”
“นี่มัน นายน้อย หวงชิงซาน เป็นไปได้ไหมว่าหลินอิ่งใช้ไพ่ตายของตระกูลฉี? เชิญออกมา?”หม่าผิงชวนพูดคาดคะเนต่อ
จ้าวเฉิงฉียนหัวเราะ พูดว่า “ครั้งที่แล้วตระกูลฉีถูกตระกูลเหวินฆ่าล้างตระกูลแล้ว ยังจะไปมีเบื้องหลังอะไรอีก?”
“หลังจากหลินอิ่งกลับสู่ตี้จิงแล้ว ตระกูลฉีที่ได้กลับมานั้นก็มีแค่เปลือก มีอุตสาหกรรมการเงินเท่านั้น ไม่มีรากฐานอะไรของตระกูลชั้นสูงเลย พึ่งเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น”จ้าวเฉิงเฉียนค่อยๆพูด “ถึงแม้ตระกูลฉีจะมีเบื้องหลังอะไรอยู่บ้าง พ่อของหลินอิ่ง ครั้นนั้นที่เปิดศึกกับตระกูลเหวิน ก็ใช้ความสัมพันธ์จนหมดสิ้นแล้ว”
หม่าผิงชวนพยักหน้า เห็นด้วยกับวิธีการพูดของจ้าวเฉิงเฉียน
“อย่าลืมนะ ว่านายหรงหยัง ก็มาที่ตี้จิงจากเมืองก่าง ถูกหลินอิ่งส่งไปทำงานที่เขตหัวหยาง”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างใจเย็น “หลินอิ่งแม้แต่หรงหยังก็ไม่ได้เรียกมา แม้กระทั่งยอดฝีมือของตระกูลนิ่งก็ไม่ได้เรียกใช้”
“นายน้อย ความหมายของท่านคือ? พวกเราจะหาหรงหยังในตี้จิงสักหน่อยไหม? ตักเตือนเขาหน่อย?”เผยหวูหมิงพูดแนะนำ “คนคนนี้หักหลังแก๊งหยางเหมิน เปลี่ยนชื่อสำนัก ถึงแม้ไม่ฆ่ามัน ก็ต้องตักเตือนสักหน่อย”
“เหอะ เสี่ยวเผย นายยังคงอายุน้อยเกินไป”จ้าวเฉิงเฉียนส่ายหัวพูด
“ตอนนี้หลินอิ่งกับนายน้อยเป็นสัมพันธมิตรกัน เรื่องเล็กๆอย่างหรงหยัง จะไปกระทบแผนการใหญ่ของนายน้อยได้ยังไง?”หม่าผิงชวนพูดเคร่งขรึม “นายต้องมองการณ์ไกลหน่อย”
“เหล่าหม่า ยังคงเป็นคุณที่หนักแน่น”จ้าวเฉิงเฉียนพยักหน้าพูด
“มิได้ นายน้อย ท่านต่างหากที่สายตายาวไกล ไปมาหาสู่กับหลินอิ่งแต่แรก ตกลงเรื่องที่จะไปมณฑลจี้โจวแล้ว”หม่าผิงชวนพูดจาประจบ
“เรื่องมณฑลจี้โจว?”เผยหวูหมิงพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เหล่าหม่าพูดถูก ทางด้านตระกูลเผยจี้โจว ฉันตัดสินใจจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และเรียนเชิญหลินอิ่งแล้ว”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง
“เผยหวูหมิง ตอนนี้นายยังรู้สึกว่า เข้าไปข้องเกี่ยวของเรื่องของตระกูลเผย ความสามารถของหลินอิ่งยังไม่มีสิทธิ์เหรอ?”จ้าวเฉิงเฉียนหัวเราะ
เผยหวูหมิงพยักหน้า พูดว่า “ขอโทษครับ ก่อนหน้านี้วิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล ความสามารถของหลินอิ่งมีสิทธิ์เพียงพอแล้ว”
จ้าวเฉิงเฉียนไปมาหาสู่แบบนี้กับหลินอิ่ง ก็เพื่อจะดึงตัวหลินอิ่ง มีปรึกษาหารือเรื่องใหญ่
ก่อนหน้านี้เผยหวูหมิงยังคัดค้านอย่างเด็ดขาด รู้สึกว่าคนนอกเข้ามาอย่างบุ่มบ่าม ความสามารถยังไม่พอ
ทุกวันนี้ ในใจเผยหวูหมิงก็เลื่อมใสอย่างจริงใจแล้ว
หลินอิ่งไม่เพียงความสามารถในวิชาการต่อสู้สูงส่งไม่อาจคาดเดาได้ แม้แต่ลูกน้องในมือ ก็สามารถเรียกยอดฝีมือชั้นสูงระดับรายการดินออกมาได้อย่างง่ายดาย อำนาจขนาดนี้ วางไว้ในแวดวงลึกลับก็ดูถูกไม่ได้
ปัง
ขณะเดียวกัน มีเสียงดังกึกก้องมาจากอาคารที่อยู่ไกลโน่น
เห็นเพียงอาคารครึ่งชั้นถล่มลงมา กระแทกจนฝุ่นฟุ้งกระจาย
การฆ่าฟันระหว่างเย่เฮยและจั่วฉวนทั้งสองฝ่าย เข้าสู่วินาทีแห่งความรุนแรง ร่างที่เคลื่อนไหวไม่คงที่ ต่างก็หยุดลงมาประชันหน้ากัน
“ดูเหมือนพวกเขาสู้กันพอประมาณแล้ว นายน้อย พวกเราจะเข้าไปช่วยไหม? จะได้มีน้ำใจต่อกัน?”เผยหวูหมิงพูดแนะนำอยู่ด้านข้าง
“ไม่”จ้าวเฉิงเฉียนพูด “ยกเว้นหวงชิงซานทั้งสองคนรับไม่ไหวแล้ว มิเช่นนั้นอย่างยุ่งเกี่ยว ไม่เพียงแค่ไม่ได้ผลดี แต่กลับทำให้หลินอิ่งแสลงได้”
ทั้งสามกำลังพูดอยู่
ทันใดนั้น มีร่างหนึ่งที่เหมือนดั่งปีศาจร้ายลงมาจากฟ้า ปรากฏตัวในอาคารร้างทางโน้น ปรากฏตัวที่มุมครู่หนึ่ง จากนั้นก็หายไป ดูเหมือนจะวิ่งขึ้นบนดาดฟ้า
“นั่นคือ? กงจิ่ว?”
หลังจากเห็นเงาดำปรากฏตัว จ้าวเฉิงเฉียนตาดำหดอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นจากเก้าอี้ปรมาจารย์ทันที