ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 578 ปะทะลมโต้คลื่น
“เร็ว คิดหาวิธีหยุดมัน ขับเรือเร็วอีกหน่อย”กงจิ่วตะโกนโมโหใส่ลูกน้อง สีหน้าค่อยๆซีดลง
สิ่งที่กงจิ่วภาคภูมิใจที่สุดก็คือวิชาตัวเบา แล้วก็วิชาซ่อนตัว
พวกนี้ ล้วนเป็นวิชาประจำของสำนักยุทธเชียน
ถึงจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา ก็ใช่ว่าจะสามารถจับตัวเขาได้
แค่ลำพังวิชาการข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียว กงจิ่วไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นที่อยู่ต่ำกว่ารายการแห่งฟ้าในแวดวงลึกลับของประเทศหลุง
แต่วันนี้ กลับได้เปิดหูเปิดตา……
ความสามารถทุกด้านของหลินอิ่ง นั้นล้วนกดทับเขาหมด
ปังปังปัง
ภายใต้การบัญชาการของกงจิ่ว คนต้าเหอทั้งกลุ่มแบกปืนยาวขึ้นอีกครั้ง กราดยิงอย่างบ้าคลั่ง ยิงจนเสียงสนั่นท้องฟ้า
กระสุนเป็นนัดๆ เหมือนถูกลมแรงกีดขวางไว้ เหมือนดั่งถูกคลื่นที่ตะบึงอย่างบ้าระห่ำกลืนกินแล้ว
คนต้าเหอพวกนี้ มีความสิ้นหวังในแววตา เบิกตามองคลื่นน้ำยักษ์นั้นยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามา
โคร่ง
ทันใดนั้น คลื่นยักษ์บนผิวแม่น้ำกระจายหายไปกะทันหัน ร่างที่เหมือนดั่งสายฟ้าลงมาจากสวรรค์ ลงมาอยู่บนเรือเร็ว
ทันใดนั้น สะเทือนเป็นเสียงดังโคร่งเหมือนสายฟ้าแลบ
เรือเร็วที่น้ำหนักสิบกว่าตันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสมือนทนรับหลินอิ่งคนเดียวไม่ไหว ตึงเครียดทันทีอยู่กลางแม่น้ำ
ต่อมา คลื่นเสียงระเบิดไปตามเรือ สะเทือนไปทั่ว
“เอื้อก”
“อ้าก”
เสียงร้องอันน่าเวทนากึกก้องออกมา
หลินอิ่งลอยลงมาบนเรือเร็ว สีหน้าเย็นชา ยืนรับลมมือไขว้หลัง
คนต้าเหอบนเรือสิบกว่าคน แต่ละคนตะคริวทั่วร่างไร้เรี่ยวแรงนอนอยู่กับพื้น หู จมูก ปาก ทวารทั้งเจ็ดของพวกเขาต่างก็มีเลือดไหลออกมา
วินาทีที่หลินอิ่งตกลงมา พวกเขาถูกคลื่นเสียงสะเทือนหูตา ถูกกำลังภายในที่กระจายออกมา สะเทือนจนอวัยวะแตกละเอียด
“เอื้อกเอื้อก……”
กงจิ่วยืนห่างจากหลินอิ่งสิบกว่าเมตร จับหัวไว้ ร้องด้วยเสียงอย่างเจ็บปวดสุดขีด
เขาตัวสั่นไปทั้งร่าง ในร่างกายเหมือนทนรับต่อแรงอันมหาศาลที่หาที่เปรียบไม่ได้
“บอกยาถอนพิษมา แกจะได้ตายอย่างสงบ”หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าเย็นชา ในแววตาส่อแววสังหาร ทำให้คนไม่กล้าสบตา
กงจิ่วมองหลินอิ่งอย่างไม่พอใจ สายตาเต็มไปด้วยความโหดร้าย
หลินอิ่งภายใต้ความโกรธ กลับน่ากลัวถึงเพียงนี้
นี่เป็นสิ่งที่กงจิ่วไม่เคยคาดคิดถึง ประเมินความน่ากลัวของคนคนนี้ต่ำไปจริงๆ
ถ้ารู้มาก่อนว่าฝีมือการต่อสู้ของหลินอิ่งน่ากลัวขนาดนี้ เขาไม่มีวันปรากฏตัวเองแน่นอน
“แกอย่าคิดที่อยากจะเอายาถอนพิษไปจากฉันได้”กงจิ่วพูดอย่างเคร่งขรึม
ปัง
หลินอิ่งพุ่งเข้าไปกระโดดถีบ ถีบจนกงจิ่วล้มลงบนเรืออย่างแรง ชนจนดาดฟ้าเรือแบนลงไป
“พู๊ด”
กงจิ่วยังไม่ตาย กระอักเลือดอย่างรุนแรง
ร่างกายอันเล็กเตี้ยของเขา ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตา คดงอจนเปลี่ยนรูป
ภายในร่างกาย กระดูกแต่ละโคนถูกถีบจนหัก กระดูกอ่อนก็แตกอย่างละเอียด
ความเจ็บปวดแบบนี้ คนทั่วไปไม่อาจคาดคิดได้
“อ้ากอ้ากอ้าก แกไอ้ปีศาจ แกฆ่าฉันเถอะ”
กงจิ่วคำรามเสียงดังก้อง ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
“แกอยากตาย?”หลินอิ่งมุมปากแสดงความโหดเหี้ยม
เพี๊ยะ
หลินอิ่งตบไปที่หน้าของกงจิ่ว ตบจนคอเขาเอียงไปด้านข้าง คอก็เปลี่ยนรูปทันที
จากนั้น หลินอิ่งดึงหัวของกงจิ่ว มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
“ยังไม่ยอดพูด แกจะเสียใจที่เคยเกิดบนโลกนี้”
คำพูดเรียบเฉยของหลินอิ่ง แต่กลับเผยความสิ้นหวังที่ทำให้คนตัวสั่น
กงจิ่วสะดุ้ง จากนั้นก็ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดขึ้นมา
ความกลัวระดับนี้ คนธรรมดาตายไปตั้งนานแล้ว แต่สำหรับคนเรียนวิชาการต่อสู้อย่างเขา คือวิธีการทรมานอย่างสาหัส
“เหอะเหอะเหอะ……หลินอิ่ง แกโหดมาก”
“แกก็ตายพร้อมฉันละกัน”
กงจิ่วแสยะยิ้ม สายตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังที่ไม่พอใจ
วินาทีที่คำพูดจบลง เปลวเพลิงอันเจิดจ้า ท่วมท้นไปทั่วเรือ
โคร่งโคร่ง
เสียงดังอันกึกก้อง เรือเร็วบนแม่น้ำ ระเบิดกะทันหัน สาดซัดฟองคลื่นมโหฬารพันลึก โอบล้อมด้วยควันดำ รุกเป็นเพลิงไหม้อันใหญ่ยักษ์……
“นี่?”
ขณะนี้ ที่ไกลออกไป ในผืนป่ามืดครึ้มข้างแม่น้ำ มีเสียงอันตกใจดังขึ้น
ร่างในชุดดำสองคนอันเลือนราง ยืนอยู่ในป่าไม้ กำลังแบบมองสถานการณ์บนแม่น้ำ
หนึ่งในนั้น ยืนตรงสง่าผ่าเผย มือไขว้หลัง ส่วนอีกคนหนึ่ง ก้มตัวยืนอยู่ด้านข้างเหมือนข้ารับใช้
“ท่านมังกรดำ กงจิ่วแห่งสำนักยุทธเชียนคนนี้โหดเหี้ยมกุศโลบายถึงขนาดนี้ แม้แต่บนเรือก็ฝังระเบิดไว้ หลินอิ่ง คงไม่ได้ถูกระเบิดตายแล้วมั้ง?”คนชุดดำที่ก้มตัวพูดอย่างระมัดระวัง
“ถ้าหากเป็นนายที่อยู่บนเรือ นายจะตายไหม?”ท่านมังกรดำพูดอย่างเรียบเฉย พูดด้วยเสียงอันแหบแห้งและต่ำ
“นี่……สถานการณ์แบบนี้ ผมมีความมั่นใจเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่สามารถรอดชีวิต ถึงแม้ไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส”คนชุดดำพูดอย่างเคารพ
“ถ้าหลินอิ่งตายง่ายขนาดนี้ ก็ไม่คู่ควรที่ให้ฉันเปลืองสมองมาประเมินเขาขนาดนี้”
“อย่าลืมนะ คนนี้ ตอนแรกควรเป็นท่านประมุขแก๊งของพวกเรา……เหอะ”
ท่านมังกรดำหัวเราะเย็นชา น้ำเสียงน่ากลัวมาก
“ถ้าเช่นนั้น ท่าน โอกาสที่หายากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ฉวยโอกาสลงมือจับตัวหลินอิ่ง?”คนชุดดำพูดอย่างระมัดระวัง
“นายคิดง่ายไปแล้ว เมื่อวิชาการต่อสู้ของนาย ถึงระดับรายการแห่งฟ้า ก็จะรู้ว่าเหนือรายการแห่งฟ้าขึ้นไป มันแตกต่างกันขนาดไหน”ท่านมังกรดำพูดอย่างเชื่องช้า
“ผมขาดประสบการณ์แล้ว”คนชุดดำก้มหัวพูด
“ทางด้านยามมังกรเขียวตี้จิง นายดูเรียบร้อยแล้ว?”ท่านมังกรดำถาม
ชายชุดดำพูด “ท่าน ยามมังกรเขียวตี้จิงไม่รู้ว่าพวกเรามา เขาก็ไม่ได้สังเกตถึงคุณชายอิ่งตระกูลฉีแห่งตี้จิง”
“จากที่ผมคอยสังเกตข่าวกรองของมังกรเขียว ครั้งที่แล้วยามมังกรเขียวตี้จิงของพวกเขาเกิดความวุ่นวาย ยอดฝีมือในสาขาย่อยแห่งหนึ่งในตี้จิงเชือดคอฆ่าตัวตายสองคน ตามที่ผมคาดเดา น่าจะถูกหลินอิ่งบีบจนตาย “คนชุดดำพูดอย่างเชื่องช้า “มังกรเขียวโยกย้ายยามมังกรเขียวในตี้จิงอย่างลับๆตลอด ตามสืบเรื่องนี้ เป้าหมายที่เขาสงสัย รู้สึกจะอยู่บนตัวตระกูลจ้าว สงสัยว่าเป็นจ้าวเฉิงเฉียนลูกชายที่โดดเด่นแก๊งหยางเหมินเป็นคนทำ”
“อืม”ท่านมังกรดำพยักหน้า “นายต้องชักนำมังกรเขียวให้สงสัยไปในทิศทางที่ผิด ฐานะที่แท้จริงของหลินอิ่ง ให้เขารู้ไม่ได้ มิเช่นนั้น จะทำการใหญ่ของฉันเสียได้”
“ครับท่าน”คนชุดดำก้มตัวพูดอย่างเคารพ
“อีกอย่าง ทุกครั้งที่หลินอิ่งลงมือ การเคลื่อนไหวของทุกท่า จดบันทึกเรียบร้อยหมดหรือยัง?”
“ท่านครับ การเปลี่ยนแปลงของทุกท่าที่หลินอิ่งลงมือ และการตอบสนองของกงจิ่ว ผมบันทึกอย่างละเอียดแล้วครับ”
“ดีมาก อาจจะไม่ต้องรอนานมาก ก็สามารถคาดคะเนได้ ระยะวัฏจักรของหลินอิ่ง ว่าเป็นตอนไหน……”
“ครับ”
ในป่าไม้อันมืดครึ้ม หลังจากที่ทั้งสองคุยกันแล้ว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย