ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 596 แบบแผนของโลกกำลังเปลี่ยนไป
พอได้ฟังแบบนั้น หลินอิ่งก็มองคุณชายโหมด้วยสายตาเย็นชา พูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์”ที่เมืองก่างผมแค่อนุญาตให้พวกคุณดำเนินธุรกิจตามปกติได้”
ทางด้านของเมืองก่าง หลินอิ่งอนุญาตให้ตระกูลโครเมียร์เข้ามาอยู่ได้ นั่นก็เพราะว่า เขามีความมั่นใจอย่างแน่วแน่ที่จะควบคุมเมืองก่างเอาไว้
แม้ว่าตระกูลโครเมียร์อยากที่จะทำการใหญ่อะไร ตัวเองก็จะสามารถยับยั้งได้
นอกจากนี้ ชัยชนะของสงครามในตอนนั้น สนธิสัญญาชัยชนะ
นั่นเป็นประเทศที่หลินอิ่งตีมาได้ด้วยมือของตัวเอง!
ได้หรือไม่ได้ อยู่ที่ความคิดของเขาเท่านั้น
คุณชายโหมเหงื่อไหลอาบเต็มหน้าผาก พูดขึ้น”คุณหลิน ได้โปรดคุณอย่าเข้าใจผิดเลย ที่ตระกูลโครเมียร์ของพวกเราเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่ตี้จิง ก็แค่อยากจะมาทำธุรกิจตามปกติเท่านั้น ไม่มีสัญญาณอื่นใดแน่นอน”
“เรื่องนี้ไม่ต้องพูด”หลินอิ่งพูดขึ้นนิ่งๆ
“เอ่อ……”คุณชายโหมขมวดคิ้ว สายตาเคร่งขรึม รับแรงกดดันอันมหาศาลภายในจิตใจ
ในฐานะที่ตี้จิงเป็นเมืองหลวงของประเทศหลุง เป็นสถานที่ที่สำคัญและมีอิทธิพลมากในนานาชาติ มหานครที่คึกคักมีผู้คนพลุกพล่านแบบนี้ มีโอกาสทางธุรกิจซ่อนเอาไว้มากมาย
ในฐานะที่เป็นตระกูลชั้นสูงที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่เนื่องจากถูกจำกัดด้วยสนธิสัญญาผู้แพ้ในตอนนั้น ทำให้ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายการพัฒนาของตี้จิงได้
นี่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ตระกูลโครเมียร์รู้สึกไม่ยอมและไม่เต็มใจ
“คุณหลิน แบบแผนของโลกกำลังเปลี่ยนไป สนธิสัญญาในตอนนั้นก็ใกล้จะถึงกำหนดแล้ว……”คุณชายโหมค่อยๆพูดขึ้น”เรื่องเรื่องนี้ คุณจะไม่ให้ที่ว่างในการเจรจาพูดคุยใดๆเลยจริงๆเหรอ?”
หลินอิ่งแววตานิ่งลึก นิ้วมือเคาะโต๊ะเบาๆ
เห็นได้ชัดว่าตระกูลโครเมียร์คิดหาวิธีที่จะหยั่งรากและพัฒนาอยู่ที่ตี้จิง
ตระกูลที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่มีพื้นหลังที่แข็งแกร่งหาที่เปรียบไม่ได้แบบนี้ ถ้าเกิดเข้ามาหยั่งรากอย่างมั่นคงในตี้จิงแล้ว สถานการณ์ในภายหลัง ผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็อาจจะเกินความคาดเดาได้
“แบบแผนของโลกกำลังเปลี่ยนไป……”หลินอิ่งค่อยๆพูดขึ้น”อะไรเปลี่ยน?”
พูดตามตรง หลังจากที่ผ่านสงครามเมื่อตอนนั้นมาแล้ว เขาก็ล่าถอยกลับไป แม้แต่ทั้งแก๊งมังกรก็กลับเข้าสู่สภาวะพักตัวกันหมด
ตอนนี้หลังจากที่ออกจากงานมาแล้ว ก็ไม่เคยได้รับข่าวกรองระดับโลกของแก๊งมังกรเลย จึงไม่รู้เรื่องราวเบาะแสของแวดวงลึกลับของประเทศหลุงและโลกมืดของต่างประเทศเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”คุณน่าจะรู้ ว่าใกล้จะถึงเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้ในตอนนั้นแล้ว ตอนนี้อำนาจอิทธิพลของตระกูลโลกมืดในตะวันตกก็เตรียมที่จะลงมือเคลื่อนไหวแล้ว ส่วนแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ยังไม่มีตัวแทนลุกขึ้นมาสักคน”
“ไม่ว่าจะเป็นแวดวงลึกลับของประเทศหลุงหรือว่าทางฝ่ายทหาร ไม่มีใครยอมที่จะออกมาต่อสัญญาต่อสู้ต่อเลยสักคน ในสถานการณ์แบบนี้ โลกมืดของทางตะวันตกก็ค่อยๆเข้ามาก้าวก่ายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แล้วในสถานการณ์แบบนี้ ตระกูลของเราก็ถูกบีบบังคับให้หมดหนทางเหมือนกัน ไม่สามารถละทิ้งสถานที่ทางยุทธศาสตร์แบบประเทศหลุงไปได้นะครับ แน่นอนว่า ขอให้คุณเชื่อในตระกูลของพวกเรา ว่าไม่มีความมุ่งร้ายใดๆต่อประเทศหลุงแน่นอน”
“ไม่มีใครลุกขึ้นยืนหยัดออกมาเลย……”หลินอิ่งพูดพึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนว่าความทรงจำที่แสนยาวนานจะหวนคืนกลับมา
จนถึงตอนนี้ แวดวงลึกลับของประเทศหลุง กับโลกมืดของตะวันตกก็เป็นปฏิปักษ์กันมาตลอด ระหว่างทั้งสองฝ่ายแอบต่อสู้แก่งแย่งช่วงชิงทรัพยากรทางโลกกัน
ห้าปีก่อน หลินอิ่งเป็นตัวแทนของประเทศหลุง สู้รบช่วงชิงมาได้ครึ่งประเทศ ได้รับชัยชนะมาตั้งแต่สงครามครั้งแรก
เขาได้กลายเป็นเขตแดนของประเทศไปอย่างสง่างาม ปกป้องพิทักษ์อาณาเขตในนามที่สูงส่งแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้อำนาจอิทธิพลมืดทางฝั่งตะวันตกต่างพากันตื่นตระหนกหวาดกลัว
นี่ก็ใช่ ทำไม แม้ว่าหลินอิ่งจะไม่อยู่ฝ่ายทหาร แต่กลับมีตำแหน่งสถานภาพในฝ่ายทหารของประเทศหลุงที่สูงขนาดนี้
แล้วทำไมตอนนี้ ประเทศหลุงถึงไม่มีใครเลยสักคน?
“คุณหมายความว่า ตระกูลของพวกคุณไม่ก้าวก่ายประเทศหลุง อำนาจอิทธิพลของตระกูลอื่นๆทางตะวันตกก็จะไม่เคลื่อนไหวลงมือเช่นกันสินะ?”หลินอิ่งพูดขึ้นนิ่งๆ
“ถูกต้อง”คุณชายโหมพยักหน้า พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”นี่เป็นข้อพิพาทที่เลี่ยงไม่ได้ จากที่พวกคุณประเทศหลุงพูดมา ที่เรียกว่าแวดวงลึกลับ การต่อสู้ระหว่างแวดวงลึกลับ ก็คือผู้ที่อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาโดยตลอด”
“ผ่านไปห้าปีแล้ว ตอนนี้พลังความแข็งแกร่งของแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้โลกทางฝั่งตะวันตกยำเกรงแล้ว”
“อ้อ?”
หลินอิ่งมองคุณชายโหมอย่างเย็นชา
“ขอโทษครับ!คุณหลิน” คุณชายโหมรีบลุกขึ้นยืนทันที หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ จู่ๆก็ตระหนักขึ้นมาได้ ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองนั้นคือก็คือเทพแห่งสงครามของประเทศหลุง คำพูดคำจาแบบนี้มันดูไม่เหมาะสม
“คุณหลิน ตระกูลของพวกเรามีความเคารพยำเกรงต่อคุณมากๆเลยนะครับ”คุณชายโหมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง”แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตระกูลที่มีชื่อเสียงของทางฝั่งตะวันตกตระกูลอื่นๆ จะต้องเคารพยำเกรงเหมือนกัน”
สงครามในตอนนั้นตระกูลโครเมียร์เป็นตระกูลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุด ท่านเอิร์ลเข้าใจความสุดยอดของหลินอิ่งเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงส่งคุณชายโหมมาสอบถามลองเชิงดูก่อน
“ผมถึงขนาดที่บอกคุณได้เลยว่า อำนาจอิทธิพลมากมายจากฝั่งตะวันตกได้วางแผนจัดการไปตามมณฑลต่างๆของประเทศหลุงเรียบร้อยแล้ว ถึงขนาดที่มีคนร่วมมือกับพวกเขาแล้วด้วย”
คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”นี่มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว คุณกับตระกูลของพวกเราร่วมมือกันอย่างเปิดเผย แล้วก็จะไม่มีคนสงสัยด้วย”
“ยิ่งไปกว่านั้น” คุณชายโหมก้มหน้าลง พูดเสริมขึ้นมาต่อ”จากที่ผมทราบมา คุณหลินที่เคารพ ในรายชื่อสวรรค์ของแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ไม่มีคุณอยู่ในนั้น”
“เหอะ”หลินอิ่งยิ้มอย่างเย้ยหยัน ส่ายหัว
จากคำพูดของคุณชายโหม เขารู้แล้วว่ามันคือสถานการณ์อะไร
แวดวงลึกลับของประเทศหลุง ถดถอยแล้วจริงๆ
ความหมายในการอยู่ต่อของแวดวงลึกลับ ก็คือการต่อต้านโลกมืดของทางฝั่งตะวันตก
ช่วงหลายปีที่ตัวเองนิ่งเงียบ แม้แต่พรมแดนที่ล่องหนนั้น ก็ยังกันไว้ไม่ได้
พูดแล้วก็น่าขำสิ้นดี แก๊งมังกรไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของหลินอิ่งคนนี้แล้ว
หลินอิ่งในแวดวงลึกลับ ในตอนนี้กลายเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรแล้ว ไม่มีน้ำหนักในการพูด แล้วก็แทนใครไม่ได้เลยด้วย
“คุณหลินที่เคารพ ผมไม่กล้าไปคิดพิจารณาเรื่องของคุณ ได้แต่หวังว่า คุณจะสามารถรับมิตรภาพของตระกูลโครเมียร์ของพวกเอาไว้ พวกเรามีความจริงใจอย่างมาก” คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“นี่เป็นจดหมายที่ท่านเอิร์ลของพวกเราเขียนกับมือของตัวเอง ได้โปรดอ่านดูด้วยครับ”
พูดพลาง คุณชายโหมก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย ยื่นกล่องคริสตัลสีดำออกไปด้วยความเคารพนอบน้อม
หลินอิ่งสีหน้าไร้อารมณ์ รับกล่องมา หยิบจดหมายออกมาจากข้างใน
ในจดหมาย เป็นภาษาต่างประเทศที่เขียนด้วยปากกา
หลินอิ่งเก่งหลายภาษา สามารถอ่านออก
ผ่านไปสักพัก
หลินอิ่งก็วางจดหมายลง ค่อยๆจิบชาอย่างช้าๆ สองนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ
ท่านเอิร์ลของตระกูลโครเมียร์ เจตนาที่แฝงไว้ในจดหมาย ก็ชัดเจนไม่น้อยเหมือนกัน
กำลังบอกเป็นนัยกับตนเองว่า ยินดีที่จะสมคบคิดกับตระกูลโครเมียร์หรือไม่
บอกกับตนเองว่า อยากได้อำนาจอิทธิพลมาสนับสนุนหรือไม่ ตระกูลพวกเขายินดีที่จะสนับสนุน……
ตระกูลโครเมียร์คิดที่จะหยั่งรากและพัฒนาที่ประเทศหลุง ส่วนตัวเอง ต้องการที่จะกลับขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของแวดวงลึกลับ
ตามหลักความไว้เนื้อเชื่อใจของทั้งสองฝ่าย ท่านเอิร์ลคนนั้นกำลังบอกเป็นนัยว่า จะยกโครเมียร์ แอนนาให้กับตนเอง รวมถึงผลประโยชน์และข้อแลกเปลี่ยนอีกมากมาย……
“เหอะ ท่านเอิร์ลของพวกคุณสายตาเฉียบแหลมจริงๆนะ “หลินอิ่งมองคุณชายโหมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ในแววตาแฝงไปด้วยเจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว
ความสามารถในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของตระกูลโครเมียร์แข็งแกร่งเก่งกล้ามาก
บวกเข้ากับสติปัญญาและสายตาที่เฉียบแหลมของท่านเอิร์ลคนนั้น
คำพูดในจดหมาย ตัดสินตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นคนที่สูญเสียอำนาจในแวดวงลึกลับไปไม่น้อย แถมยังพูดถึงประมุขคนปัจจุบันของแก๊งมังกรอาจารย์กู้ต้าเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจแต่ว่าตั้งใจ เพื่อที่จะลองเชิงตนเองอีกด้วย……
สิ่งต้องห้ามที่สุดของหลินอิ่งก็คือ การที่มีคนอื่นมาก้าวก่ายคิดพิจารณาตัวตนของเขา
โดยเฉพาะ ประมุขแก๊งมังกร สถานภาพที่สำคัญที่สุดระดับนี้……