ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 616 เมื่อต้นไม้ล้มกับฝูงลิงที่หนีกระเจิง
ในใจของทุกคนนี้เต็มไปได้ความหวาดผวา
โดยเฉพาะกลุ่มตัวแทนต่างๆ ที่ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับตระกูลสวี ที่ในตอนนี้ภายในใจเกิดความรู้สึกปะปนกันไปหมด ราวกับหัวใจจะชาไปเกือบครึ่งดวง
เห็นได้ชัดเลยว่าตระกูลสวีได้สูญเสียอำนาจใหญ่ไปแล้ว แม้แต่สวีจิ่วหลิงยังถูกแรงกดดันบีบคั้นจนตาย ไม่มีอย่างไร้ทางหนีทีไล่
ความแข็งแกร่งของหลินอิ่งแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
นี่คือการพลิกเกมที่ไม่มีใครคิดถึงเลย
ทางที่กำลังเห็นแล้วว่าการประชุมสุดยอดเทียนหลงได้สิ้นสุดลงแล้ว ตาสุดท้ายหลินอิ่งกลับปรากฏตัวมาพร้อมกับคนอื่น ทั้งยังผลักไสให้ ตระกูลสวีให้ลงสู่หุบเหวลึก
ในอนาคตของตี้จิง จะยังมีใครกล้าแข่งขันกับหลินอิ่งหรือเปล่า ?
“คุณท่าน ไม่มีลมหายใจแล้ว ……”
“แล้ว!แล้วนี่ยังสามารถส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลได้หรือเปล่า?”
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
กลุ่มคนตระกูลสวีที่มาล้อมรอบร่างของสวีจิ่วหลิงเอาไว้ต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตกใจ และหวาดกลัวอย่างไร้ขีดจำกัด
คนตระกูลสวีทุกคนต่างก็ใช้สายตาที่หวาดกลัวมองไปยังร่างของหลินอิ่ง ……
พวกเขาไม่รู้เลยว่าหลินอิ่งกำลังทำคดีอะไร
และก็ไม่รู้เลยว่ากัปตันของกองพิเศษเว่ยอันที่อยู่ข้างกายหลินอิ่งคนนั้นได้พูดอะไรกับคุณท่านด้วย
เมื่อเขาคนนั้นพูดจบ คุณท่านก็จากไปพร้อมความโกรธเกลียดซะแล้ว?
ซั๊บ
ในตอนที่ตระกูลสวียังไม่ทันได้ตั้งสติกลับมา สมาชิกกองพิเศษเว่ยอันก็ได้เดินขึ้นมาแล้ว พร้อมกับจับกุมพวกเขาทุกคน
รวมทั้งเหล่าคนระดับสูงของชีซิงกรุ๊ปเองก็ถูกจับกุมกับที่ด้วยเหมือนกัน
ทุกคนที่อยู่เหตุการณ์ต่างส่งตกใจหนักจนพูดไม่ออก อกสั่นขวัญแขวน มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ
และเพียงไม่นาน คนตระกูลสวีจำนวนมากและคนระดับสูงของชีซิงกรุ๊ปต่างก็ถูกพาตัวออกไปจนหมด
บรรยากาศภายในงานกลายเป็นความหดหู่ทันที
“ประธานหลิน ลูก ลูกชิวอวี่ของผมทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง คงจะไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหม ?” กงซุนเฟยหงที่อยู่ข้างๆ ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
คนใหญ่โตของตระกูลกงซุนคนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลินอิ่ง ก็รู้สึกแทบจะไม่สามารถต่อต้านกับแรงกดดันนั้นได้เลย จึงต้องพูดด้วยถ้อยคำที่ระมัดระวังอย่างมาก
หลินอิ่งตอบกลับอย่างสุขุม:”ทางฝั่งของชิวอวี่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วครับ คนของผมได้ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว แต่แค่ได้สูดธูปสลดเข้าไปเท่านั้น เลยต้องไปพักดูแลอาการอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร ตอนนี้คุณสามารถโทรติดต่อกลับไปเพื่อสอบถามสถานการณ์ได้แล้วล่ะครับ”
“ได้ๆๆ !ประธานหลิน ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่เข้ามาช่วยเหลือ ในวันข้างหน้าหากมีภารกิจที่จะต้องทำในตี้จิง ประธานหลินแค่สั่งการมาก็เพียงพอแล้ว” กงซุนเฟยหงพูดอย่างชื่นใจ ก่อนจะรบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อหาลูกสาวของตัวเองทันที
“คุณชายอิ่ง ยินดีด้วยที่ทำเรื่องใหญ่สำเร็จเสียที” จ้าวเฉิงเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวยินดีอย่างนอบน้อม
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขุม สำหรับความแข็งแกร่งของหลินอิ่งนั้นได้ทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิดใหม่อีกครั้ง
จ้าวเฉิงเฉียนไม่คิดเลยว่าหลินอิ่งจะใช้วิธีการนี้มาจัดการกับตระกูลสวี……
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินว่าหลินอิ่งกับสวีจิ่วหลิงพูดคุยอะไรกัน และไม่รู้ว่าคดีอะไรทำให้ที่กองพิเศษเว่ยอันต้องออกมาปรักปรำ
แต่หลินอิ่งนั้นเป็นคนที่ไม่มีอะไรสามารถมาหยุดยั้งเขาได้ ไม่ใช่เพียงแค่ได้กุมเมืองเทียนหลง แต่ยังสามารถทำลายรากฐานนานนับร้อยปีของตระกูลสวีจนไม่เหลือ ทั้งยังกดดันจนสวีจิ่วหลิงตายในเหตุการณ์อีก
หลินอิ่งพยักหน้าเบาๆ พร้อมตอบกลับ:”หลังงานนี้สิ้นสุดลง จากความมีสติในการยืนหยัด คุณจะได้รับส่วนแบ่งสามสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ผมเคยได้ตกลงเอาไว้”
“ครับ คุณชายอิ่งครั้งนี้ขอบคุณที่คุณยื่นมือเข้ามาช่วย” จ้าวเฉิงเฉียนพยักหน้ารับ
จากนั้นหลินอิ่งก็กวักมือเรียกนิ่งซวน
“ประธานหลิน คุณมีคำสั่งอะไรหรือเปล่าครับ?” นิ่งซวนรีบวิ่งเข้ามายังโต๊ะเจรจาด้วยอารมณ์ที่ตื้นตันใจ
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าประธานหลินจะนำเอาเหตุการณ์ใหญ่โตแบบนี้มาด้วย ……
ก่อนหน้านี้เขายังกังวลใจอยู่เลย ว่าประธานหลินที่ต่อสู้กับพวกคนต้าเหอ จะเกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรหรือเปล่า แต่ตอนนี้ดูแล้วทุกอย่างล้วนถูกจัดการอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว
“เรื่องนี้ คุณทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “ตอนนี้ไม่มีตระกูลสวีอีกแล้ว คุณจงรับช่วงต่อการเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดเทียนหลง”
“รับทราบ!” นิ่งซวนพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม
หลังจากสั่งการเสร็จเรียบร้อย หลินอิ่งก็พากัปตันหันหลังเดินออกไปจากอาคารเทียนหลงอย่างเชื่องช้าภายใต้การจับตามองของผู้คน
ทุกคนพากันลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพให้กับหารจากไปของหลินอิ่งอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเดินออกมาจากอาคารเทียนหลง หลินอิ่งก็หยิบเอาบุหรี่ออกมาอย่างผ่อนคลาย โดยมีกัปตันที่ยืนอยู่ข้างๆ จุดไฟให้
“คดีของตระกูลสวี คุณไปจัดการให้เรียบร้อย” ดวงตาของหลินอิ่งล้ำลึก พลางพ่นควันบุหรี่ออกมา ก่อนจะพูดต่ออย่างเรียบง่าย “ในช่วงเวลาจากนี้ผมจะไม่ออกมาปรากฏตัวสักระยะ พอผ่านไปสักพักแล้วผมจะไปคุยกับผู้บัญชาการเอง”
“ครับ คุณวางใจได้ คดีของตระกูลสวีผมจะจัดการให้ดีที่สุด” กัปตันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้ ตระกูลสวีไม่มีทางได้โอกาสหนีรอดแน่นอนครับ”
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย พลางขึ้นรถแล้วเดินทางกลับไปยังเขตจงเทียน
และลแวทุกอย่างก็สิ้นสุดลงแบบนั้น สวีจิ่วหลิงตายแล้ว คนระดับสูงของตระกูลสวีก็ติดคุกแล้ว ประธานของชีซิงกรุ๊ปก็ติดคุกแล้วเช่นกัน
คู่แข่งทั้งหมดในตี้จิง ตอนนี้ล้วนถูกกำจัดจนหมดแล้ว
ส่วนภารกิจที่ของเมืองเทียนหลงที่เหลือ ให้นิ่งซวนกับจ้าวเฉิงเฉียนจะเป็นคนจัดการทุกอย่างก็พอ
เหตุการณ์ใหญ่สงบลงเสียที
แต่ทว่าในใจของหลินอิ่งกลับซ่อนความไม่สบายใจบางอย่างเอาไว้
พลังภายในของเขาเคลื่อนไหวอย่างไม่มั่นคง เข้าสู่ระยะวัฏจักร สถานะทางร่างกายอ่อนแอลงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเป็นแบบนี้สำหรับหลินอิ่งแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความบกพร่องที่ร้ายแรงที่สุด
ทั้งเรื่องของตระกูลเผยแห่งจี้โจวที่จ้าวเฉิงเฉียนเคยพูดเอาไว้ รวมทั้งเรื่องการเดินทางไปหาตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน ล้วนต้องชะงักลง
ตอนนี้สถานถาพทางพลังของหลินอิ่งนั้นไม่เหมาะสมที่จะไปต่อกรอะไรกับคนแวดวงลึกลับ
และก็ไม่เหมาะที่จะไปขยายดินแดนในแวดวงลึกลับอีกด้วย
โดยเฉพาะท่านมังกรดําzลึกลับที่ไม่เคยออกมาปรากฏตัวอีก
ไม่รู้เลยว่าเจ้าหมอนั่นได้สังเกตเห็นว่าตัวเขานั้นเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอแล้วหรือยัง……
อีกฝั่งหนึ่ง
หลังจากที่รอจนหลินอิ่งออกจากอาคารเทียนหลงไป
ผู้คนในงานถึงค่อยๆ ตั้งสติกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ อยู่ในใจ
การมาถึงของหลินอิ่งเป็นเหมือนกับเทพมังกรลงมาบังเกิด มีพลังกดดันที่ทำให้ทุกคนไม่สามารถหายใจออกมาได้
จนกระทั่งหลินอิ่งจากไป พวกเขาถึงค่อยได้รู้สึกถึงภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับพวกเขาไว้ได้หายไปทันที
ผู้ชายคนนั้น
ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะไปประจันหน้าด้วย
“อะแฮ่ม!” นิ่งซวนกระแอมออกมา แล้วลุกขึ้นไปยืนอยู่บนโต๊ะเจรจา ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่สุขุม “ทุกท่าน ตระกูลสวีและชีซิงกรุ๊ปมีส่วมร่วมในการคดีใหญ่ จนถูกกองพิเศษเว่ยอันนำตัวไปแล้ว แบบนี้ทุกท่านจะยังเลือกที่จะร่วมงานกับพวกเขาอีกไหมครับ?”
“คุณชายอิ่งได้สั่งการลงมาแล้ว ความผิดทั้งหมดเป็นของตระกูลสวี ผู้ที่ติดตามตระกูลสวีก่อนหน้านี้ ถ้าหากยอมจำนนได้อย่างทันการณ์ อย่างนั้นจะไม่มีการตำหนิใดๆ ในภายหลัง” นิ่งซวนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา ผู้คนในงานส่วนหนึ่งก็มีสีหน้าซีดเผือดพร้อมกับแสดงออกถึงความประหลาดใจ
“คุณนิ่ง?คุณชายอิ่งพูดอย่างนั้นจริงหรอครับ?ได้!ผมจะรีบเปลี่ยนการลงนามทันที พวกเราจะสนับสนุนโครงการของหลินซื่อกรุ๊ปในเมืองเทียนหลง!”
“ในเมื่อตระกูลสวีทำผิดกฎหมาย อย่างการลงนามความร่วมมือกับตระกูลสวีก็ต้องถือเป็นโมฆะ!พวกเราล้วนตัดสินใจที่จะให้ความร่วมมือกับหลินซื่อกรุ๊ป”
“คุณนิ่ง ได้โปรดกล่าวขออภัยกับคุณชายอิ่งแทนพวกเราถึงเรื่องการเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ด้วย หลังจากนี้เมืองเทียนหลงจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณชายอิ่ง !”
แต่ละคนต่างลุกขึ้นยืนผายอกพูด และไม่ลังเลที่จะยืนฝ่ายเดียวกับหลินอิ่ง ถึงแม้ว่าโครงการที่นิ่งซวนได้เสนอนั้นพวกเขาจะไม่ได้ดูอย่างละเอียดก็ตาม
ใช่แล้ว เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
แม้แต่ผู้มีอิทธิพลอย่างตระกูลสวีกับชีซิงกรุ๊ปที่ร่วมมือกันแล้ว ยังถูกหลินอิ่งกดขี่ได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น แล้วคนอย่างพวกเขา มีหรือที่จะกล้าไปบาดหมางกับหลินอิ่ง ?
ครั้งนี้ ตระกูลสวีก็คือต้นไม้ที่ล้มจนฝูงลิงของพวกเขาหนีกระเจิงจนหมด
เมื่อสถานการณ์พลิกกลับไปอย่างสิ้นเชิง ทุกคนจึงต้องสนับสนุนหลินอิ่งอย่างไม่มีเงื่อนไข