ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 618 จัดการอย่างเหมาะสม
“ตระกูลฉู่กับตระกูลโครเมียร์……” ดวงตาของหลินอิ่งนิ่งลึก พร้อมกับจิบชาดำ และพึมพำกับตัวเอง
ทั้งสองตระกูลนี้ล้วนมีความน่ารำคาญใจเสียจริง
ทางฝั่งของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน ตัวเขานั้นยังมีหนี้บุญคุณอันใหญ่หลวงกับพวกเขา ซึ่งก็คือการไปนำเอาตัวยาของพวกเขามา
และความต้องการของฉู่จี้ชังพ่อมหอคนนั้นคือการจับคู่เขากับฉู่ฉู่หลานสาวของตัวเอง
แผนเดินทางไปยังเตียนหนานจำเป็นต้องไป
แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ส่วนทางด้านตระกูลโครเมียร์ ในใจของหลินอิ่งยังคงต้องมีความระวังรอบคอบอยู่เสมอ
เพราะท่านเอิร์ลแห่งตระกูลโครเมียร์ มีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวตนของเขามากเกินไป
และยิ่งกว่านั้น ในตอนนั้นที่เขาได้เผชิญหน้าปราบมือกับชายคนนี้ ท่านเอิร์ลก็นับได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือระดับรายการแห่งฟ้าเลยทีเดียว แถมยังเป็นโหดเหี้ยมเลือดเย็นที่ควบคุมโลกแห่งความมืดทางทิศตะวันตกอีกด้วย
และในตอนนี้หลินอิ่งก็ไม่สามารถคาดเดาได้ถึงความคิดที่แท้จริงท่านเอิร์ล
ถ้าหากอยู่ในช่วงรุงเรืองที่สุด เขาก็ยังพอที่จะจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้
ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าหากท่านเอิร์ลคนนั้นเดินทางมายังประเทศหลุงด้วยตัวเองจริงๆ ความโกลาหลวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นอาจจะไม่สามารถควบคุมได้
“เชิญพวกเขาเข้ามาให้หมดเถอะ จัดให้อยู่คนละห้องรับรอง เดี๋ยวผมจะไปต้อนรับเอง” หลินอิ่งกล่าวสั่งอย่างแน่วแน่
“ครับ!” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้าอย่างเคารพ
สิบนาทีผ่านไป
ภายในห้องรับรอง อาคารดวงดาว
ฉู่ฉู่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างกระสับกระส่าย โดยมีชายวัยกลางคนอีกสองคนที่สีหน้าเคร่งขรึมกำลังนั่งอยู่ด้วย
หลี่ผูที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามาเสิร์ฟน้ำชาให้กับพวกเขา
และในตอนนั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออก ก่อนที่หลินอิ่งจะเดินเข้ามา แล้วดึงเก้าอี้ไท่ซืออกพร้อมกับนั่งลงไปอย่างสง่าผ่าเผย
ฉู่ฉู่หน้าแดงระเรื่อเหลือบมองไปยังหลินอิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน:”คุณหลินคะ คุณลุงทั้งสองของฉันต้องการที่จะพูดคุยกับคุณ อย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
หลินอิ่งพยักหน้ารับเบาๆ โดยไม่พูดอะไร
จากนั้น ฉู่ฉู่กับหลี่ผูก็เดินออกจากประตูไป
ภายในห้องรับรอง เหลือเพียงแต่หลินอิ่งที่กำลังเผชิญหน้ากับฉู่หยุนซานของตระกูลฉู่ที่เคยพบกันมาก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าสงบมั่นคง
“ไม่ทราบว่า ทั้งสองท่านเดินทางมาไกลขนาดนี้ เพราะมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
หลินอิ่งพูดอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะยกกาต้มชาขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อรินชาให้กับตัวเอง
“หลินอิ่ง ผมจะไม่คุยเรื่องอื่นกับคุณแล้ว” ฉู่หยุนซานมองไปยังหลินอิ่งพลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องที่ช่วงนี้คุณได้ทำขึ้นในตี้จิง พวกเราเองก็พอจะได้ยินมาบ้างแล้ว”
“เรื่องที่เกิดขึ้นคราวที่แล้ว ผมสามารถให้อภัยกับความสะเพร่าของคุณ ตอนนี้คุณมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าสู่ตระกูลฉู่ของเราแล้ว” ฉู่หยุนซานพูดอย่างผ่อนคลาย “การมาตี้จิงในครั้งนี้ ผมกับคุณท่านได้มีการปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว”
ฉู่หยุนซานมักจะติดตามการเคลื่อนไหวในตี้จิงอยู่ตลอดเวลา
หลังจากการมายังตี้จิงในครั้งนี้ ก็ได้รู้ถึงพลังอำนาจที่สุดยอดของหลินอิ่งด้วยเช่นกัน
หลังจากชั่งน้ำหนักในใจแล้ว เขาก็นับว่ายอมรับในตัวหลินอิ่งแล้ว
อย่างน้อยก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่เขาจะดูถูกหลินอิ่งเจ้าเด็กกระจอกจากโลกธรรมนี้
หลังจากนิ่งไปสักพัก ฉู่หยุนซานก็พูดขึ้นต่อ:”ผมขอถามอะไรคุณก่อนว่า เรื่องของฉู่ฉู่ในตี้จิงนี่มันเกิดอะไรขึ้น ?ทำไมถึงได้เจอกับการลอบฆ่าจากคนอื่นถึงสองครั้งด้วย?ได้ยินมาว่าเป็นกลุ่มคนต้าเหอ?แล้วเป็นมายังไง”
หลินอิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ:”เรื่องที่ฉู่ฉู่ต้องเจอกับการถูกลอบฆ่า ผมรู้สึกขอโทษตระกูลฉู่เป็นอย่างยิ่ง คนต้าเหอพวกนั้นล้วนพุ่งเป้ามาที่ผม”
“อืม” ฉู่หยุนซานตอบ” อืม” เพียงคำเดียว ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไร “ที่นี่คือตี้จิง พื้นที่ของคุณ คุณควรที่จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น นี่ยังโชคดีที่ฉู่ฉู่ไม่ได้เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลฉู่ไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่”
ฉู่หยุนซานแสดงออกถึงความไม่พอใจเรื่องนี้อย่างมาก ทั้งยังมีความหมายเชิงเตือนสติหลินอิ่งถึงเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบ
อย่างไรเสีย กำลังความแข็งแกร่งของหลินอิ่งก็มีมากเกินไป
แต่เพราะคุณท่านของตัวเขาต้องการให้หลินอิ่งเป็นลูกเขยของตระกูลฉู่ อย่างนั้นจึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้หลินอิ่งแข็งแกร่งเกินไป
หลินอิ่งไม่ส่งเสียง และไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
เขารู้ดีว่า ฉู่หยุนซานแสดงออกมาถึงการบังคับ และวางท่าของตระกูลฉู่อยู่
“จริงด้วย แล้วคนต้าเหอมีความเป็นมาอย่างไร ?ถึงได้กล้ามาลงมือกับคนตระกูลฉู่ของเรา เรื่องนี้จะต้องกลับไปเอาคืน” ฉู่หยุนซานเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีพร้อมถามอย่างจริงจัง
หลินอิ่งตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง:”คนต้าเหอกลุ่มนั้น มาจากสำนักยุทธ์เชียน”
“สำนักยุทธ์เชียน?” ฉู่หยุนซานขมวดคิ้วเล็กน้อยแสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมา
เขาในฐานะคนภายในแวดวงลึกลับ แน่นอนว่าเคยไปยินเรื่องราวการมีอยู่ของสำนักยุทธ์เชียน
นั่นเป็นกลุ่ม
นั่นเป็นหนึ่งในสามกองกำลังอำนาจมืดแห่งประเทศต้าเหอเลยทีเดียว
ประเทศต้าเหอถึงแม้จะเป็นเพียงประเทศเล็กๆ หนึ่งเท่านั้น แต่กองกำลังอำนาจมืดภายในประเทศกลับมีรากฐานต้นกำเนิดที่อยู่มาอย่างยาวนาน เมื่อนำมาจัดอันดับในโลกถึงว่าสามารถจัดเป็นอันดับต้อนๆ เลยเชียว
“กับคนอย่างคุณก็ไปท้าทายกับสำนักยุทธ์เชียนด้วยงั้นหรอ?นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉู่หยุนซานถามอย่างประหลาดใจ
การประลองฝีมือคราวที่แล้ว หลังจากที่ถูกหลินอิ่งแย่งชิงชัยชนะไปได้ ตอนนี้เขาจึงต้องวิเคราะห์หลินอิ่งในเชิงที่ลึกมากขึ้น
เมื่อลองดูจากภายนอก หลินอิ่งเป็นคนที่ไม่ได้มีเบื้องหลังเกี่ยวกับแวดวงลึกลับเลย แถมยังไม่มีชื่อเสียงที่นั่นด้วย
แต่กลับสามารถกลายเป็นเจ้าพ่อตี้จิง กวาดล้างกำลังอำนาจลึกลับบางส่วนในตี้จิงได้อีก
แถมยังมีมีทักษะที่น่าเกรงขามอีกด้วย ถึงขั้นที่คุณท่านของเขาบอกว่าเคยได้พบกับเด็กแบบนี้มาก่อน
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คนหยุดคิดไม่ได้ และทำให้ในใจของฉู่หยุนซานเกิดความสงสัยอย่างมาก
“ไม่อาจจะบอกเล่าได้ครับ” หลินอิ่งตอบกลับอย่างเฉยชา
ฉู่หยุนซานสบถเสียงเย็นชาออกมา:”คุณไม่พูดก็ช่างเถอะ สำนักยุทธ์เชียนได้มาท้าทายตระกูลฉู่ของพวกเรา แน่นอนว่าตระกูลฉู่จะตามไปเอาเรื่องกับพวกเขา”
“แล้วคุณ คิดว่าเมื่อไหร่ถึงจะกลับไปคารวะกับคุณท่านของพวกเราตระกูลฉู่?”
หลินอิ่งตอบกลับ:”ผมกำลังจะบอกเรื่องนี้กับตระกูลฉู่ให้ชัดเจนพอดีเลยครับ”
“ที่ตี้จิงยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ผมจะไม่ว่างสักพัก” หลินอิ่งพูดอย่างจริงใจ “หลังจากผ่านช่วงนี้ไปแล้ว ผมจะนำเอาของขวัญมุ่งหน้าไปยังตระกูลฉู่ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ”
“ดังนั้น ขอให้พวกคุณพาฉู่ฉู่กลับไปยังเตียนหนานด้วย และฝากกล่าวทักทายกับคุณท่านฉู่แทนผมด้วย”
“อะไรนะ?คุณไม่ว่าง?” สีหน้าของฉู่หยุนซานเปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าเต็มด้วยความไม่พอใจ “หลินอิ่ง คุณหมายความว่ายังไง?คิดว่าตระกูลฉู่ของเราเป็นของเล่นหรือไง ?”
“คุณดึงดันยึดยาไปแล้ว พวกเราตระกูลฉู่ยังไม่ทันได้สะสางบัญชีกับคุณเลย นี่คุณว่าบรรลุเป้าแล้วจะเตะพวกเราทิ้งงั้นหรอ ?ไม่คิดจะไว้หน้าตระกูลฉู่เลยหรือ?”
หลินอิ่งยังคงนิ่ง พร้อมกับหยิบบัตรเครดิตสีเงินออกจากกระเป๋าเสื้อแขนของเขาแล้วพูด:”นี่คือของกำนัลจากหลินซื่อกรุ๊ปของผม ผมรับไว้เถอะ แล้วก็ไปหานิ่งซวนหรือหยูจื๋อเฉิงที่เมืองเทียนหลงด้วยนะครับ”
“ภายในเมืองเทียนหลง ผมได้เหลือที่แห่งหนึ่งให้ตระกูลฉู่เอาไว้ วันข้างหน้าใช้เป็นการเปิดธุรกิจยาในตี้จิง สามารถเข้าออกไปตามอำเภอใจ นี่คือของขวัญตอบแทนเล็กน้อยจากผมสำหรับความช่วยเหลือของตระกูลฉู่คราวที่แล้ว”
“นี่คุณคิดว่าตระกูลฉู่ของเราขาดเงินเหม็นเน่าจำนวนหรือไง ?” ฉู่หยุนซานพูดอย่างเย็นชา ใบหน้าแสดงถึงความไม่พอใจที่มากขึ้น “หลินอิ่ง คุณท่านบอกแล้วว่าให้คุณร่วมทางกับพวกเราไปยังเตียนหนาน ตอนนี้คุณกลับไม่ยอมไป แล้วเอาของแบบนี้มาเล่นกลับกลอกกับผมงั้นหรอ ? นี่คุณทำเรื่องแบบไหนกัน?”
หลินอิ่งจ้องมองฉู่หยุนซาน แล้วพูดอย่างเฉยชา:”สำหรับเรื่องนี้ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถร่วมทางด้วย”
“แต่การเปิดเส้นทางสู่เมืองเทียนหลง ไม่ได้เป็นเพียงกองเงินเหม็นเน่าหรอกนะครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉู่หยุนซานก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน พลางครุ่นคิด
อันที่จริง ถ้าหากตระกูลฉู่สามารถเข้ามาทำธุรกิจยาในเมืองเทียนหลง อย่างนั้นก็จะกลายเป็นการตีตลาดในตี้จิง ทั้งยังสามารถขยายผลกระทบต่อตระกูลฉู่ทางตอนเหนือของประเทศหลุงด้วย
และอีกอย่าง ขอบเขตอิทธิพลของเตียนหนานตระกูลฉู่ก็ได้ถูกจำกัดไว้ให้อยู่แค่เพียงทางตะวันออกเฉียงใต้และบริเวณมหาสมุทรทางใต้เท่านั้น
ถ้ากสามารถแทรกเข้าไปครอบครองพื้นที่ในเมืองเทียนหลง ถือเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างมาก