ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 640 ก่อนเกิดสงครามใหญ่
“นายท่าน การเอาชนะหลินอิ่งมันถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลไปครับ ท่านวางใจได้เลย ขอแค่หลินอิ่งมาที่ภูเขาเจียงเยว่ ผมรับประกันได้เลยว่า ไม่มีทางทำให้มันได้หนีออกไปง่ายๆแน่นอน”นายพลงูพูดรายงานออกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
นิ่งชะงักไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นต่อ”หลินอิ่งในตอนนี้อ่อนแอแล้วจริงๆ ขนาดรับมือกับมุซาชิ จูโตะแห่งสำนักยุทธ์เชียนยังใช้พลังขนาดนั้น การที่มาเผชิญกับกับดักมากมายของพวกเราที่ภูเขาเจียงเยว่ด้วยพลังแค่นี้ มันไม่มีทางหนีพ้นแน่นอน”
ใช่แล้ว ในใจของนายพลงู การที่เผชิญหน้ากับหลินอิ่งที่กำลังอ่อนแอ เขามีความมั่นใจอย่างมาก แทบจะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่ว่ายังไง เขาเคยเห็นหลินอิ่งเผชิญหน้ากับมุซาชิ จูโตะที่ตี้จิงมาแล้วกับตาของตัวเอง การต่อสู้ยากเย็นสุดๆ กว่าจะจัดการพวกของมุซาชิ จูโตะลงได้
ตัวนายพลงูเอง เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของท่านมังกรดำ เคยฝึกฝนอบรมให้เป็นพิเศษ พลังบูโดไร้ขีดจำกัดก็เกือบเทียบเท่ารายการแห่งฟ้า ในอนาคตก็มีความหวังอย่างมากว่าจะสามารถทะยานขึ้นถึงระดับรายการแห่งฟ้าได้
ถ้าพูดถึงคุณสมบัติตามอายุ ตัวนายพลงูเอง ถือว่าเป็นชายมีพรสวรรค์ของแวดวงลึกลับของประเทศหลุง เป็นสิ่งของที่หายาก มีความมั่นใจในตัวเองอยู่พอสมควร
“นายพลงู นายอย่ามั่นใจมากเกินไป หลินอิ่งคนนี้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ แต่ ก็จะดูถูกมันไม่ได้เด็ดขาด”ท่านมังกรดำค่อยๆพูดขึ้น
“อย่างน้อย นายคนเดียว ก็ยังจัดการกับมันไม่ได้หรอก”
“เอ่อ……นายท่าน”นายพลงูน้ำเสียงไม่เข้าใจ พูดถามขึ้น”ดูจากการต่อสู้กันของหลินอิ่งกับมุซาชิ จูโตะเมื่อครั้งที่แล้วแล้ว พลังของมันไม่ได้อยู่ในระดับของรายการแห่งฟ้าเลยนะครับ”
“ดูจากระดับในตอนนั้น แค่ผมคนเดียวก็มีความมั่นใจมากแล้วว่าจะสามารถจัดการมันได้”นายพลงูพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“นายพลงู หลินอิ่งอยู่ในระยะวัฏจักรขึ้นลงไม่เสถียร”ท่านมังกรดำค่อยๆพูดขึ้น”ต่อให้หลินอิ่งจะสภาวะอ่อนแอขนาดไหน ไม่มีพลังระดับรายการแห่งฟ้า ก็ไม่มีทางจัดการมันได้อยู่ดี”
“แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ ไม่มีพลังระดับรายการแห่งฟ้าก็จัดการไม่ได้……”นายพลงูครุ่นคิด พูดถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้”นายท่าน แล้วถ้าเกิดหลินอิ่งอยู่ในช่วงที่เฟื่องฟูเต็มที่จะมีขีดจำกัดขนาดไหนกันเชียว?”
นายพลงูรู้ว่านายท่านมังกรดำมีพลังระดับรายการแห่งฟ้า ถึงขนาดที่อยู่เหนือรายการแห่งฟ้าด้วยซ้ำ
ท่านมังกรดำ ก็เป็นคนที่เขาเคยเห็นมาโดยปกติอยู่แล้ว ผู้แข็งแกร่งด้านบูโดที่แข็งแกร่งที่สุด
ส่วนหลินอิ่งในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุด
นายพลงูแอบสอดแนมการต่อสู้ของหลินอิ่งมาจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว ยังคงไม่สามารถระบุและตัดสินได้ว่าผู้แข็งแกร่งที่ลึกลับอายุน้อยคนนี้จริงๆแล้วอยู่ในระดับไหนกันแน่
เพราะว่าทุกการต่อสู้ของหลินอิ่งในแต่ละครั้ง ล้วนแต่ชนะทุกครั้ง แทบจะมองความลึกตื้นของบูโดใดๆไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แค่เห็นหลินอิ่งตามฆ่ากงจิ่วอย่างกล้าหาญที่แม่น้ำตี้เมื่อครั้งที่แล้ว บดขยี้ทำลายเรือ เดินออกมาจากระเบิดอย่างสะอาดสะอ้านไม่แปดเปื้อนแม้แต่น้อย ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของผู้ชายคนนี้แล้ว
ภาพเหตุการณ์นั้น ทิ้งความช็อกตกใจเอาไว้ภายในจิตใจของนายพลงูอย่างฝังลึก
“หลินอิ่งที่เฟื่องฟู……”นายท่านมังกรดำพูดพึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
หลินอิ่งที่อยู่ขั้นสูงสุด จะแข็งแกร่งขนาดไหนกันเชียว?
นี่เป็นคำถามยากที่ท่านมังกรดำเองก็ไม่อาจตัดสินได้
อย่างน้อย การทำให้ท่านมังกรดำหวาดกลัวไม่น้อย ยอมละทิ้งผลประโยชน์มากมาย หลีกเลี่ยงล่าถอย แล้วก็ไม่กล้าไปเผชิญหน้าตรงๆ ทำได้แค่หลบซ่อนคิดวางแผนการอยู่ในอย่างลับๆแบบนี้
เด็กหนุ่มแบบหลินอิ่งคนนี้ ในฐานะทายาทแก๊งมังกรเพียงคนเดียวที่ท่านประมุขแก๊งรุ่นก่อนกำหนดเอาไว้
แม้ว่าในแก๊งมังกร ก็มีเพียงแค่คนระดับสูงเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของคนคนนี้ คนหลายระดับในแก๊งมังกรไม่มีใครที่รู้ผลงานโดยละเอียดของเขาเลยสักคน ลึกลับมากๆ
แถม ภายในแวดวงลึกลับของประเทศหลุง หลินอิ่งชื่อนี้ก็ไร้ชื่อเสียงไม่เป็นที่รู้จัก ก็เหมือนกับคนเหี้ยมโหดที่โดดเด่นเกินผู้คน
แต่ ท่านมังกรดำก็สามารถคิดตระหนักได้
ท่านประมุขแก๊งคนก่อนในฐานะที่เป็นเทพผู้ไร้เทียมทานที่สามารถบังคับสั่งการได้ทั้งโลก สายตาระดับนั้น ทายาทที่เขาเลือกจะมีความต่างกันสักแค่ไหนกันเชียว?
หลินอิ่งอยู่อย่างสันโดษมาเป็นเวลาหลายปี หลังจากที่กลับออกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าพลังเทพนั้น ต้องฝึกฝนถึงความแข็งแกร่งระดับไหน
“หลินอิ่งที่ขั้นสูงสุด เป็นคนที่ไม่สามารถจะไปเป็นศัตรูได้เลย”ท่านมังกรดำค่อยๆพูดขึ้น”คนคนนี้ ไต่ขึ้นไปอยู่ด้านบนขีดจำกัดรายการแห่งฟ้าเรียบร้อยแล้ว……”
“ด้านเหนือรายการแห่งฟ้า จะเป็นขีดจำกัดแบบไหนกัน?”นายพลงูพูดถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ภายในแวดวงลึกลับ พลังระดับรายการแห่งฟ้า แทบจะเข้าใกล้ระดับตำนานแล้ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าคนที่สามารถอยู่ด้านเหนือรายการแห่งฟ้าได้ มีแค่เพียงอาจารย์กู้ต้าคนเดียวเท่านั้น เทียนหวางกู้ที่เป็นที่รู้จักไปทั่ว
“เหนือรายการแห่งฟ้า……”ท่านมังกรดำค่อยๆพูดขึ้น”นั่นเป็นขีดจำกัดที่นายไม่สามารถจินตนาการหรือคาดเดาได้เลย……”
“นายพลงู นั่นไม่ใช่เรื่องที่นายควรจะไปคาดเดา ตอนนี้ สิ่งที่นายควรคิดก็คือจะทำยังไงถึงไต่ขึ้นไปถึงระดับรายการแห่งฟ้าได้ ค้นหาพลังที่พุ่งทะยานถึงขีดจำกัดรายการแห่งฟ้าได้……”
“บูโด สิ่งที่ต้องห้ามที่สุดก็คืออยู่ไกลเกินเอื้อม”
พอได้ฟังการชี้แนะของท่านมังกรดำแล้ว นายพลงูก็เริ่มครุ่นคิดอย่างช่วยไม่ได้
“ใช่แล้ว นายท่าน ผมเข้าใจแล้วครับ”นายพลงูพูดขึ้นด้วยความเคารพ
ในใจของเขาก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ ว่าหลินอิ่งมีความสามารถที่น่าทึ่งยังไงบ้าง ถึงสามารถไต่ไปถึงระดับพลังรายการแห่งฟ้าด้วยอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าๆเท่านั้น
ตัวนายพลงูเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าระดับสูงสุดของรายการแห่งฟ้าเป็นยังไง แต่ว่า เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า การที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับรายการแห่งฟ้า มันยากขนาดไหน!
ภายในแวดวงลึกลับ ยอดฝีมือของรายการแห่งฟ้าล้วนแต่หายากมากๆ เป็นช่องว่างที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ ถ้าเกิดไต่ขึ้นมาได้แล้ว นั่นก็คือสามารถฝึกฝนวิทยายุทธ์จนเก่งกล้าแล้ว
ระดับรายการแห่งฟ้า ก็เป็นพลังที่สายตาโลกธรรมไม่สามารถเข้าใจได้ มีพลังเหนือธรรมชาติที่น่าเหลือเชื่อมากมายหลายประเภท
“นายพลงู พอหลินอิ่งมาถึงภูเขาเจียงเยว่แล้ว นายก็อาจจะได้เห็น ว่าอะไรคือการต่อสู้ของพลังระดับรายการแห่งฟ้า……”ท่านมังกรดำค่อยๆพูดขึ้น ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเอาไว้
……
ในขณะเดียวกัน
ณ อำเภอเจียงเยว่
ร้านอาหารโบราณแห่งหนึ่ง ในถนนสายเก่าที่คึกคักพลุกพล่าน
ในห้องน้ำชาชั้นสอง หลินอิ่งนั่งอยู่บนที่นั่ง สีหน้าของเขาไร้อารมณ์ สองตาแฝงไปด้วยความเยือกเย็นที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
ฝั่งตรงข้าม เสิ่นซานกับเจียงฉีกำลังนั่งอยู่ด้วยท่าทางกระวนกระวายอยู่ไม่สุข
ทั้งสองคนรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่สุข สีหน้าท่าทางเคร่งเครียด
พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกได้ว่า ภายใต้สีหน้าท่าทางที่นิ่งสงบของหลินอิ่ง แอบซ่อนไปด้วยความอาฆาตที่น่าสะพรึงกลัวไว้แค่ไหน
เรื่องที่คุณนายหลินถูกลักพาตัวไป เท่ากับมากระตุกหนวดเสือของประธานหลินชัดๆ
“ท่านหลิน……เรื่องนี้ผมประมาทเลินเล่อเอง เชิญท่านลงโทษผมเลยครับ” เสิ่นซานเปิดปากพูดขึ้นก่อน สีหน้ารู้สึกผิด ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดขึ้น”ทุกสิ่งทุกอย่างของผม ท่านหลินเป็นคนสร้างให้กับผมทั้งหมด ถ้าท่านหลินโกรธ ก็มาลงโทษผมเถอะครับ ผมยอมแบกรับรับผิดชอบทั้งหมดเอง”
“ประธานหลิน เรื่องนี้ผมก็มีส่วนรับผิดชอบ……ผมไม่คัดค้านอะไร ให้ประธานหลินจัดการได้เลยครับ”
เจียงฉีก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน พูดก้มหน้าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
พวกเขาทั้งสองคนล้วนแต่เป็นบุคคลที่ทรงพลังของมณฑลตุงไห่แท้ๆ ผลที่ได้กลับปกป้องคุ้มกันคุณนายหลินไม่ได้เลย ไปพูดที่ไหน มีแต่ขายขี้หน้าที่นั่น
หลินอิ่งไม่ได้พูดอะไร ยกแก้วชาขึ้นมา ค่อยๆจิบไปหนึ่งคำ
เขาไม่ได้ลงโทษเจียงฉีกับเสิ่นซาน
เพราะว่าคนที่ลงมือคือท่านมังกรดำ ผู้มีอำนาจอิทธิพลใหญ่ที่มาจากแวดวงลึกลับ ขนาดตระกูลฉีแห่งตี้จิงยังไม่อาจรับมือกับพลังที่ดุร้ายรุนแรงนั่นได้ ถูกฆ่าตายยกตระกูล แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขาทั้งสองคน
คนในโลกธรรม เผชิญหน้ากับคนระดับนั้นแบบท่านมังกรดำ ไม่มีที่ที่จะให้ลงมือสวนกลับเลยด้วยซ้ำ