ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 644 เจรจา

“เอื้อกเอื้อก!!”

นายพลงูส่งเสียงคำรามที่ทุ้มลึกออกมา เหมือนกับเครื่องจักรที่ทำงานหนักจนเกินไป ร่างกายเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังออกมาจากทั่วตัว

เขาถูกหลินอิ่งจับไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว กำลังภายในที่ทรงพลังนั่นกำลังหลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่คนระดับเขาจะสามารถทนรับได้เลย

หลินอิ่งทำหน้าเรียบเฉย ใช้มือข้างหนึ่งจับข้อมือของนายพลงูเอาไว้ กำลังภายในชี่กังได้พุ่งออกไปอย่างต่อเนื่อง ราวกับกำลังจะฉีกร่างของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ

การที่นายพลงูมั่นใจที่ในตัวเองโดยการยื่นมือออกมาเพื่อจับตน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมอบบทเรียนที่สาสมให้เขา

การสัมผัสร่างกายกันอย่างใกล้ชิด รวมกันก็คือพื้นฐานอย่างหนึ่งของบูโด

ถึงแม้หลินอิ่งจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ แต่ด้วยพื้นฐานสมรรถนะของร่างกายที่ดี มันก็ไม่ใช่อะไรที่ยอดฝีมือฝึกหัดอย่างนายพลงูจะสามารถเทียบเคียงได้อยู่ดี

ตูม!

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ หลินอิ่งก็เตะขาออกไป เตะเข้าไปที่ช่องท้องของนายพลงู จนเกิดเสียงระเบิดที่ดังราวกับฟ้าผ่า

จากนั้น ร่างกายของนายพลงูก็สั่นสะท้าน กระดูกดังสนั่น เหมือนกระดูกในร่างจะหักไปหลายท่อน ร่างกายก็บิดงออย่างผิดรูป

“เอื้อก!”

จากนั้น นายพลงูก็ทนไม่ไหวจนกระอักเลือดออกมาเฮือกใหญ่ มุมปากยังมีฟองขาวๆ ผุดออกมาเป็นทาง

เห็นได้ชัดว่า เขานั้นทนต่อการโจมตีของหลินอิ่งที่อยู่ในระดับนี้ได้อีกไม่ไหวแล้ว

เขาแค่กำลังต่อต้านอย่างสุดชีวิตเท่านั้น

“ละ หลินอิ่ง คุณรีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้!” นายพลงูพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างลนลาน “ถ้าเกิดผมตาย ผู้หญิงของคุณก็ต้องมีอันเป็นไปอย่างแน่นอน!”

“หรือว่า คุณไม่ได้สนใจความปลอดภัยของจางฉีโม่ภรรยาของคุณเลยเหรอ?”

พอได้ยินน้ำเสียงที่แฝงด้วยการข่มขู่ของนายพลงู สีหน้าของหลินอิ่งยังคงเดิม แต่ในแววตานั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารที่เหลือล้น

ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่ว่าเขากำลังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของฉีโม่ละก็

ตอนนี้ เขาก็สามารถสังหารนายพลงูได้ทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้นายพลงูได้ต่อต้าน สังหารด้วยการอัดกำลังภายในเข้าไป

“คุณคิดว่าชีวิตของคุณ เมื่อเอามาวางอยู่บนโต๊ะเจรจาของผมกับท่านมังกรดำนั้น มันมีประโยชน์อย่างนั้นเหรอ?”

หลินอิ่งขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ ยกมือขึ้นมาบีบไปอย่างแรง

ทันใดนั้น เสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“เอื้อก!”

นายพลงูส่งเสียงอวดครวญออกมาอีกครั้ง ราวกับกำลังเผชิญกับการทรมานที่ไม่อาจทนได้ สีหน้าซีดเซียว เหงื่อเย็นไหลออกจากหน้าผากอย่างบ้าคลั่ง

ชี่กังที่คลุมตัวของเขา ไม่สามารถต้านทานกำลังภายในที่หลินอิ่งระเบิดออกมาได้เลย มันถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว และกระแทกเข้ากับร่างกายอย่างแรง

นี่แหละคือความแข็งแกร่งด้านพื้นฐานที่ห่างชั้นกันของทั้งคู่

“ได้โปรดปราณีกันด้วย! หลินอิ่ง ถ้าคุณยังอยากทำการเจรจากับนายท่านอยู่ ก็อย่าบีบบังคับกันถึงขนาดนี้!” นายพลงูนั้นทนต่อแรงกดดันที่มากมายแบบนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาจึงร้องขอชีวิตออกมา

การประมือในครั้งนี้ มันก็ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของหลินอิ่งแล้ว รู้ซึ้งแล้วว่า ระดับของตัวเองนั้นห่างชั้นกับหลินอิ่งแค่ไหน

ในที่สุดตอนนี้เขาถึงเข้าใจ ว่าทำไมท่านมังกรดำถึงได้หวาดกลัวหลินอิ่งถึงขนาดนี้ ต่อให้เป็นหลินอิ่งที่อยู่ในช่วงอ่อนแอ แต่ถ้าไม่มีความสามารถระดับรายการแห่งฟ้า ก็ไม่มีทางเอาชนะได้อย่างแน่นอน

ถูกต้อง การฝึกฝนกำลังภายในชี่กังของหลินอิ่งนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาเลย

มันมีแรงกดดันที่สูงส่ง

กำลังภายในที่ทั้งสองฝึกฝนออกมา มันได้ต่างกันราวฟ้ากับดิน

“ฮึ” หลินอิ่งขำออกมาอย่างไม่ชอบใจด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

การที่เขากล้าทำร้ายนายพลงูจนถึงอยู่ในสภาพนี้ เขาเองต้องรู้ลิมิตอยู่แล้ว

ท่านมังกรดำนั้นจับฉีโม่เป็นตัวประกัน ดังนั้นเขาจึงฆ่านายพลงูไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็อาจก่อให้เกิดบทสรุปอะไรที่ไม่ดีก็ได้

แต่ถ้าแค่ทำร้ายนายพลงูจนบาดเจ็บ ท่านมังกรดำก็ไม่มีทางโมโหเพราะเรื่องนี้จนหันไปทำอะไรกับฉีโม่แน่นอน

เพราะ ท่านมังกรดำยังไม่ได้เคล็ดลับของแก๊งมังกรไปครอบครอง

ตราบใดที่เขายังคงรักษาเคล็ดลับของแก๊งมังกรไว้ในมือ ฉีโม่ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยแน่นอน

ที่สำคัญ การเล่นงานนายพลงูจนสาหัสนั้น ก็อยู่ในแผนที่วางไว้เหมือนกัน

ถ้าไม่เด็ดปีกของท่านมังกรดำออกบ้าง แล้วมันจะทำให้กู่ชางไห่บุกเข้ามาได้อย่างราบรื่น แล้วช่วยฉีโม่ออกไปในจังหวะที่ตัวเขากำลังถ่วงท่านมังกรดำไว้ได้ยังไง

“หลินอิ่ง นี่คุณฟังที่ผมพูดไม่เข้าใจรึไง? หรือคุณไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของภรรยาจริงๆ?” นายพลงูถามออกมาด้วยความรีบร้อน ในใจก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาแล้ว

ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป

แรงที่มือของหลินอิ่ง ก็ยังไม่เคยผ่อนลงแม้แต่นิดเดียว

กำลังภายในอันรุนแรงที่เข้ามาเรื่อยๆ ร่างกายของนายพลงูนั้นใกล้จะแหลกสลายแล้ว

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงจะโดนหลินอิ่งบีบจนร่างกายระเบิดแน่นอน

“ท่านมังกรดำ นี่คุณยังไม่ยอมออกมาคุยกันอีกเหรอ”

หลินอิ่งพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย พร้อมบิดมืออีกครั้ง

มีเสียงโครมครามดังขึ้น เสียงดังราวกับสายฟ้าฟาด ร่างกายของนายพลงูเหมือนคนที่โดนฟ้าผ่า แล้วหล่นลงจากอากาศมาคุกเข่าอยู่ที่พื้น

เสียงตุ้บดังขึ้น นายพลงูได้คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของหลินอิ่ง เลือดเนื้อไหลไปทั่วร่าง ลมหายใจแปรปรวน และไม่สามารถควบคุมกำลังภายในเพื่อให้ต่อต้านหลินอิ่งได้อีกแล้ว สีหน้าก็ซีดเป็นพักๆ

เขาในตอนนี้ ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ถูกหลินอิ่งเล่นงานจนปางตาย

และมือที่บาดเจ็บอย่างหนักของเขา ได้ส่งผลกับรากฐานบูโดของเขา ส่งผลต่อโอกาสที่จะได้ก้าวไปถึงขั้นรายการแห่งฟ้าของนายพลงูเป็นที่เรียบร้อย

นี่คือสิ่งที่ทำให้นายพลงูรับไม่ได้ที่สุด กับชายหนุ่มที่มีความสามารถอย่างเขา กับการให้ความสำคัญต่อเส้นทางของบูโดนั้น ได้เกินกว่าชีวิตของตัวเองไปแล้ว

“เอื้อกๆๆๆ!”

นายพลงูไม่อาจทนต่อแรงกดดันที่อยู่ในใจได้อีกแล้วและได้คำรามออกมาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว

หลินอิ่งทำหน้าเรียบเฉย จิตสังหารเปี่ยมล้นอยู่ในตา พลิกฝ่ามือแล้วซัดลงไปกลางกะโหลกของนายพลงู

การโจมตีในครั้งนี้ ถ้าพูดไม่น่าฟังก็คือต้องการที่จะปลิดชีพเขา

รูม่านตาของนายพลงูนั้นหดเล็กลง และมองหลินอิ่งด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ

ในใจของเขารู้ดี ฝ่ามือนี้มากพอที่จะปลิดชีพเขาได้

ฟู่!

ในช่วงเวลาที่หน้าสิ่วหน้าขวานนั่นเอง ก็มีลมพายุที่รุนแรงเกิดขึ้นในลานกว้าง

ร่างของคนคนหนึ่งได้พุ่งออกมาจากในเงามืดราวกับสายฟ้าที่พาดผ่าน

ตูม!

เงาของบุคคลนิรนามเข้ามาในสมรภูมิ และได้รับการโจมตีนั้นแทนนายพลงูไป

เกิดเสียงที่ทุ้มต่ำดังขึ้น หลังจากที่คนทั้งสองปะทะฝ่ามือเข้าด้วยกัน หลินอิ่งก็ถูกกระแทกจนต้องถอยหลังไปเป็นสิบเมตร ตรงกับโซเซไปทีหนึ่ง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่บุคคลนิรนามได้ช่วยชีวิตของนายพลงูเอาไว้ เขาก็เหวี่ยงแขนทีหนึ่ง จนนายพลงูถูกโยนออกไปไกลเป็นสิบเมตร

ส่วนตัวเขานั้น ก็ยืนมือไขว้หลัง ยืนตระหง่านประชันหน้ากับหลินอิ่งโดยตรง

“นายพลงู คุณถอยไปก่อน ทุกคน ช่วยดูแลเขาด้วย”

ท่านมังกรดำออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ทันใดนั้น องครักษ์มังกรดำที่อยู่ด้านหลังเขากลุ่มหนึ่งก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พาตัวนายพลงูที่บาดเจ็บสาหัสออกไปข้างๆ แล้วหายตัวเข้าไปในความมืด

“คุณ ก็คือท่านมังกรดำอย่างนั้นเหรอ?”

หลินอิ่งทำหน้าเรียบเฉย จ้องมองไปยังชายนิรนามที่สวยชุดคลุมสีดำ แล้วถามออกไป

เขาสามารถวิเคราะห์จากรังสีที่ส่งออกมาจากคนคนนี้ว่า นี่แหละคือท่านมังกรดำที่คอยบงการทุกอย่างคนนั้น

รังสีของคนคนนี้ ค่อนข้างลึกล้ำ ยากที่จะหยั่งถึง และได้อยู่เหนือรายการแห่งฟ้าไปแล้ว

“ถูกต้อง”

ท่านมังกรดำตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย และมองหลินอิ่งด้วยสายตาที่เย็นชา

“หลินอิ่ง ในเมื่อคุณยังหลงเหลือกำลังอยู่บ้าง งั้นก็สามารถคุยเรื่องเคล็ดลับของแก๊งมังกรได้แล้วสิ……”