ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 659 ความวุ่นวายในตี้จิง
“จัดการคุณชายอิ่ง?”
เมื่อฟังการข่มขู่ของหลินชิงเย่ สีหน้าของเย่เฮยและหวงชิงซานก็เปลี่ยนสีทันที
นี่เป็นเรื่องตลกอะไรกันนี่?
กล้าที่จะพูดว่าจะจัดการคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงผู้มีอำนาจหรือ?
แน่นอนว่า ขณะที่หวงชิงซานและเย่เฮยรู้สึกตกใจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกังวลแทนหลินอิ่ง
เพราะอย่างไรเสีย เด็กหนุ่มและคนชราที่อยู่ตรงหน้า ล้วนเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทาน ซึ่งน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงรายการแห่งฟ้าแล้ว
โดยเฉพาะ พวกเขายังแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าตนเองมาจากตระกูลไหน ทั้งสองคนมาจากตระกูลในแวดวงลึกลับ ตระกูลหลินแห่งลังยา
หวงชิงซานและเย่เฮยนั้นได้ยินชื่อเสียงของตระกูลหลินแห่งลังยามาแล้ว
โดยเฉพาะ ดูเหมือนว่าคุณชายอิ่งจะมาจากตระกูลหลินแห่งลังยา ตามที่คนเหล่านี้กล่าว คุณชายอิ่งกับตระกูลหลินแห่งลังยายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
สถานการณ์ที่นี่ค่อนข้างซับซ้อน
หวงชิงซานเคยคิดว่าคุณชายอิ่งมีฐานะภูมิหลังที่น่าอัศจรรย์ซ่อนอยู่ แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินแห่งลังยา และตอนนี้ยังมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อีกด้วย
ยอดฝีมือของตระกูลหลินสองคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ในตี้จิง ถ้าอาศัยฝีมือของพวกเขาสองคนนั้นไม่สามารถต้านทานได้เลย
ถึงแม้ว่าเย่เฮยจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้ามากนัก
เพราะเขารู้ฐานะตัวตนของหลินอิ่งที่เป็นประมุขแก๊งมังกร
ฝีมือการต่อสู้ของหลินอิ่งนั้นแข็งแกร่งถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อ
เขาอาจจะสามารถต่อสู้กับตระกูลหลินแห่งลังยาทั้งหมด ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่
เพียงแต่ว่า ตอนนี้คุณชายอิ่งไม่ได้อยู่ในตี้จิง บางทีตี้จิงอาจถูกคนสองคนนี้ทำให้เกิดความโกลาหลอลหม่าน
“เอาล่ะ ผมไม่มีเวลาคุยกับคนกระจอกอย่างพวกคุณสองคน ปู่เจ็ด ทุกอย่างที่ตี้จิงมอบให้คุณเป็นคนจัดการ”
หลินชิงเย่กล่าวลอย ๆ ด้วยท่าทางที่ไม่เห็นพวกเขาสองคนอยู่ในสายตา
หลังจากพูดจบ หลินชิงเย่พาผู้ติดตามพวกนั้นขึ้นรถอย่างจองหอง เตรียมเดินทางไปที่สนามบินตี้จิง และแทบจะรอไม่ไหวที่จะบินไปที่มณฑลตุงไห่เพื่อจัดการหลินอิ่ง
เพราะอย่างไรเสีย ที่คราวนี้เขาออกมาจากตระกูลหลินด้วยภารกิจ
แม่เฒ่าคระกูลหลินได้ออกคำสั่งเด็ดขาดว่าต้องจับหลินอิ่งกลับไปลงโทษที่ตระกูลหลินให้ได้
แม้กระทั่งโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกกับอะไรบ้าง
นอกจากยอดฝีมือทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ตระกูลหลินแห่งลังยายังส่งกลุ่มยอดฝีมือลึกลับมาซุ่มอยู่ในที่ลับ ทุกคนล้วนมีทักษะฝีมือที่เก่งจนน่าตกใจ
การเตรียมการด้านการรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นกองกำลังลึกลับที่สามารถทำลายกองกำลังทั่วไปของโลกได้เลย
หลินชิงเย่คิดว่า การจัดการกับหลินอิ่งคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรต้องกังวลมาก
ยิ่งไปกว่านั้น การที่หลินอิ่งกลับสู่ตระกูลหลิน เขาจะใช้อำนาจบารมีกดขี่ให้หลินอิ่งยอมสยบให้ตนเอง
มิฉะนั้น ไม่รู้ว่าหลินอิ่งจะเย่อหยิ่งเพียงใด ที่เขาสามารถจัดการผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินก่อนหน้านั้นได้
“ชิงเย่ คุณวางใจเถอะ มีผมอยู่ตี้จิงแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป” หลินสวนถูกล่าวอย่างมั่นใจ
หลังจากพูดจบ หลินสวนถูมองไปที่หวงชิงซานและเย่เฮยอย่างเย็นชา ด้วยสายตาที่มีเจตนาฆ่า
“จะให้โอกาสพวกคุณสองคน คุกเข่าลงและยอมจำนน ผมจะให้อนาคตที่ดีแก่พวกคุณทั้งสองคน”
หลินสวนถูกล่าวอย่างเผด็จการบ้าอำนาจ เพื่อบีบบังคับเย่เฮยและหวงชิงซานทั้งสองคน
เย่เฮยกับหวงชิงซานมีสีหน้าที่เคร่งขรึม และมีเม็ดเหงื่อตกลงมาจากหน้าผาก
ถูกต้อง ตอนนี้พวกเขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
หลินสวนถูยืนอยู่ตรงนั้น ทำให้ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก
“คุณไม่เคยเห็นพวกเราอยู่ในสายตา? และอยากให้พวกเรายอมจำนนโดยง่าย ๆ หรือ?”
“นอกจากนี้ พวกคุณคิดว่าจะสามารถจัดการคุณชายอิ่งได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? พวกคุณจะทำอะไรที่นี่ก็ได้หรือ? มาบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือในตี้จิง ไม่กลัวว่าจะไม่สามารถรับผลที่จะตามมาได้หรือ?”
เย่เฮยกล่าวด้วยความโมโห
คนตระกูลหลินแห่งลังยา หยิ่งยโสเกินไปแล้ว
แสดงท่าทางที่หยิ่งยโส และไม่เคยเห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
“อ้อ? ไม่สามารถรับผลที่จะตามมาได้ คืออะไร?
หลินสวนถูหัวเราะเบา ๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็พุ่งไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าไปที่เย่เฮยและหวงชิงซาน
บูม! บูม! บูม!
วินาทีนี้ อากาศสั่นสะเทือนและเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น
ชั่วพริบตาเดียว ทั้งสามได้ต่อสู้กัน และมีคลื่นผันผวนชี่กังที่น่ากลัว สั่นสะเทือนจนพื้นของลานกว้างแตกไปทั่ว
เมื่อเห็นภาพที่น่าตกใจเช่นนี้ ทำให้กลุ่มผู้คุ้มกันที่ใส่ชุดสูททั้งหมดนั้นแสดงสีหน้าตกใจ
ตอนนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหยิบปืนออกจากกระเป๋าเสื้อ
เพราะการต่อสู้ในระดับนี้มันช่างน่ากลัวจริง ๆ
สำหรับยอดฝีมือระดับนี้ การใช้ปืนพกนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
หลังจากนั้นไม่นาน หลินสวนถูก็ต่อสู้กับเย่เฮยและหวงชิงซานไม่ต่ำกว่าห้าสิบกระบวนท่า
เกิดเสียงดังสนั่น
มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นกลางอากาศ และกระจกหน้าต่างทั้งหมดที่อยู่ใกล้ ๆ กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที
เย่เฮยและหวงชิงซานถูกหมัดของหลินสวนถูจนกระเด็นถอยหลังไปห้าสิบเมตร และโซเซไปมา
เวลาเพียงชั่วครู่ เลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาจากมุมปากของคนทั้งสองคนนี้
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับหลินสวนถูแบบตัวต่อตัวได้
“คุณหยู รีบพาคนออกไปก่อน! พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา……” หวงชิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“นี่……”
เมื่อมองดูภาพนี้ หยูจื๋อเฉิงรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าจะสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ได้
กลุ่มคนที่มีพลังแข็งแกร่งมาอย่างกะทันหัน ถล่มอาณาเขตของท่านอิ่งในตี้จิงทันที ซึ่งแม้แต่ท่านปู่หวงก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้
“แล้วธุรกิจของท่านอิ่งในตี้จิงล่ะ? จะให้คนพวกนี้แย่งไปตามอำเภอใจหรือ?” หยูจื๋อเฉิงกล่าวด้วยความลังเล
“อนาคตยังอีกยาวไกล รอให้ท่านอิ่งกลับมาตี้จิงก่อน จะต้องมีวิธีจัดการแน่นอน” เย่เฮยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
กล่าวจบ ทั้งสองก็พาหยูจื๋อเฉิงหายตัวไปจากลานกว้างของอาคารดวงดาวอย่างรวดเร็ว
หลังจากการต่อสู้ เย่เฮยและหวงชิงซานทั้งสองคนได้ตัดสินใจโดยปริยาย และตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงความได้เปรียบของพวกเขา
มียอดฝีมืออย่างหลินสวนถูอยู่ ซึ่งเป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ หากพวกสู้ตาย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องเสียชีวิต มันจะส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมต่อไปในอนาคตของท่านอิ่งด้วย
หลินสวนถูยืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่เดิม หรี่ตาและมองดูพวกเย่เฮยหนีไป และไม่คิดที่จะขัดขวางหรือตามไล่ล่าแต่อย่างไร
“ฮ่า ถือว่ารู้จักเอาตัวรอด”
หลินสวนถูมองตามเสียงของพวกเขาที่วิ่งหนีไปในระยะไกล แล้วหัวเราะเยาะเย้ยด้วยดวงตาเต็มที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
จุดประสงค์ของเขาคือการบีบบังคับให้ยอดฝีมือของหลินอิ่งที่อยู่ในตี้จิงถอยหนี
จากนั้นค่อยครอบครองธุรกิจทั้งหมดของหลินอิ่งในตี้จิง
ขั้นตอนต่อไปคือการนำพาชื่อเสียงและอำนาจของตระกูลหลินแห่งลังยาเข้ามาในตี้จิง
ใช้รากฐานที่ดีของหลินอิ่งขยายอำนาจบารมีของตระกูลหลิน
อาจกล่าวได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมในการทำผิดเรื่องผิดราว
……
หลายวันต่อมา คนของตระกูลหลินแห่งลังยา ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในตี้จิงแล้ว
เข้าควบคุมธุรกิจของหลินอิ่งในตี้จิง และจัดการประชุมขององค์กรตระกูลใหญ่ เพื่อประกาศอำนาจเบ็ดเสร็จของตระกูลหลิน
พวกเขาประกาศกับคนภายนอกว่า หลินอิ่งก่ออาชญากรรม และถูกตระกูลหลินจับตัวกลับไปลงโทษแล้ว
หลังจากนั้น กิจการทั้งหมดของหลินอิ่งในตี้จิงคนของตระกูลหลินครอบครอง
หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ไม่เพียงแต่ผู้คนในแวดวงตกใจ แต่พวกเขายังรู้สึกสับสน ตระกูลหลินดำรงอยู่อย่างไร?
สรุป เป็นที่ชัดเจนว่าเกิดเรื่องโกลาหลในตี้จิงแล้ว…..
……
อำเภอเจียงเยว่
ห้องไอซียูของโรงพยาบาลประจำอำเภอ
หลินอิ่งได้รับการช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ตื่น
จางฉีโม่นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยด้วยใบหน้าซีดเซียว ด้วยแววตาที่มีความหวัง ตั้งตาตั้งตารอหลินอิ่งตื่นด้วยความกังวล