ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 685 เส้นตาย1วัน
สนามอาคารหลินซื่อ ภูเขาฉางชิง
รถตู้สีดำคันหนึ่งจอดข้างๆ ประตูทางเข้า และมีชายหนุ่มดวงตาแหลมคมค่อยๆ เดินออกมาจากรถ
คนที่อยู่ด้านหน้าสุดสวมชุดราชวงศ์ถังปักลายสไตล์โบราณ อายุ50ปีกว่าๆ สายตาดูซับซ้อนดุดัน
เขาคือหลินสวนถู ที่เคยมาข่มขู่นิ่งซวนที่ภูเขาฉางชิง
“พวกคุณเป็นใคร?มาอาคารหลินซื่อทำไม……”
ขณะที่หลินสวนถูกำลังนำพรรคพวกเดินเข้ามาในอาคารอย่างดุดัน
ทหารลับตระกูลนิ่งที่เฝ้าประตูอยู่ เดินเข้าไปขวางพวกเขาด้วยท่าทีเอาจริง
“ไสหัวไป!”
หลินสวนถูพูดเสียงเย็นชา พลางยกมือขึ้น
ตูม!
เสียงระเบิดดังก้อง และทันใดนั้นลมแรงก็พัดไปทั่วทั้งห้องโถง
เสียงอึกทึกครึกโครม เสียงแรงระเบิดทำให้กระจกทั้งห้องโถงแตกละเอียด และร่วงลงกับพื้น
ส่วนทหารลับตระกูลนิ่งสองสามคนที่เดินมาขวางทาง ล้วนโดนลอยกระเด็นออกไปในพริบตา และร่วงลงบนพื้นอย่างจัง เลือดเจิ่งนอง ชักกระตุกไปทั้งตัว
ทุกคนไม่แม้แต่จะได้แตะชายเสื้อของหลินสวนถู ก็ถูกจัดการล้มลงไปกับพื้นในพริบตา
พลังภายในอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ อยู่ในระดับที่คาดไม่ถึงจริงๆ
ฉากนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนในห้องโถงชะงัก สีหน้าค่อยเผยความหวาดกลัวออกมา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงนั้น ล้วนเป็นกองกำลังที่ตระกูลนิ่งให้ทำงานสกปรกอย่างลับๆ แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดา
แต่เมื่อเทียบกับหลินสวนถู และพี่ใหญ่ที่ออกมาจากแวดวงลึกลับ ยังห่างกันมาก
แค่พบกันครั้งเดียว ก็ถูกทำให้สยบได้แล้ว
พวกเขารับรู้ได้ถึงรังสีอันตรายที่ชายในชุดราชวงศ์ถังตรงหน้าคนนี้เผยออกมา
ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางหลินสวนถูอีก
หลินสวนถูเดินนำกลุ่มชายเกรียงไกรขึ้นลิฟต์อาคารหลินซื่อ
ในขณะเดียวกัน
ภายในห้องประชุมอาคารหลินซื่อชั้น19
ตรงโต๊ะประชุมยาว มีผู้ชายไม่ธรรมดาสีหน้าจริงจัง4-5คนนั่งอยู่
นิ่งซวน หยูจื๋อเฉิง เย่เฮย หวงชิงซาน และหรงหยัง
เหล่าคนสำคัญที่หลินอิ่งจัดให้อยู่ตี้จิง ล้วนนั่งอยู่ตรงนี้
หากหยิบยก1ใน5คนนี้มาคนหนึ่ง พวกเขาไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่อำนาจสะเทือนฟ้า และน่าเกรงขามในตี้จิงหรอกเหรอ?
พวกเขาทุกคนล้วนแบกรับงานสำคัญที่หลินอิ่งมอบให้อยู่ คือแบ่งเบาภาระธุรกิจขนาดใหญ่ของหลินอิ่งในตี้จิง
วันนี้มารวมตัวกัน ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมสุดๆ
เพียงเพราะการมาของศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างหลินสวนถู
หลินสวนถูไม่เพียงมีฝีมือบูโดอันน่าสะพรึงกลัว เบื้องหลังเขายังมีตระกูลหลินแห่งลังยาที่สามารถสยบโลกธรรมได้
ในขณะที่ยังไม่ได้รับข่าวคราวของหลินอิ่ง พวกเขาทั้ง5คนก็ไม่อาจตัดสินใจได้ ทำได้เพียงร่วมกันปรึกษาและวางแผนร่วมกัน
“แฮะแฮ่ม”หรงหยังไอแห้งสองสามที ทำลายบรรยากาศที่เงียบเชียบ แล้วเริ่มพูดขึ้น”ทุกท่าน ตอนนี้ประธานหลินยังไม่กลับมา หลินสวนถูก็มากดดันอีก”
“ทุกคนล้วนตัดสินใจไม่ได้ พวกเรามิสู้หลีกเลี่ยงปลายดาบ หลบหลินสวนถูไปก่อน รอให้ประธานหลินกลับมา แล้วค่อยตัดสินใจกันก็ยังไม่สาย เพราะเรื่องของเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงนั้นสำคัญมาก หากตัดสินใจผิดพลาด เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมา แล้วประธานหลินตำหนิลงมา พวกเราไม่รู้จะอธิบายยังไง”
หรงหยังแสดงความคิดเห็นของตนออกมาอย่างรอบคอบ
ในบรรดาทั้ง5คน สถาณะของหรงหยังต่ำที่สุด เขารู้สถานะตัวเองในกองกำลังของหลินอิ่งดี
เมื่อเทียบกับหยูจื๋อเฉิงและนิ่งซวนผู้เก่งกาจที่ติดตามหลินอิ่งมาตั้งนาน โดยไม่คำนึงถึงความสามารถส่วนบุคคล ระดับของความไว้วางใจยังน้อยกว่ามาก
ส่วนเย่เฮยกับหวงชิงซาน ความสามารถส่วนบุคคลนั้นสูงกว่าเขาไปขั้นหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นซ่องโจรของหรงหยังก็อยู่เมืองก่าง เพียงแค่ถูกหลินอิ่งเลือกให้มาทำงานที่ตี้จิงอย่างกะทันหัน ไม่คุ้นเคยกับงานที่ตี้จิง
เวลาพูดจึงค่อนข้างระมัดระวังรอบคอบ
“หรงหยัง ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ!”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างเฉียบขาด”เราสามารถละทิ้งบริษัทอุตสาหกรรมอื่นๆ ในตี้จิง รวมถึงอำนาจในพื้นที่สีเทาได้ แต่จะปล่อยเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงให้หลินสวนถูไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นเมื่อท่านอิ่งกลับมา พวกเราจะมีหน้าที่ไหนไปพบท่านอิ่ง?”
เมื่อได้ยินการคัดค้านของหยูจื๋อเฉิง สีหน้าของหรงหยังก็ยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปอีก ไม่รู้จะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลังยังไงดี
“ลูกพี่หยู ความเห็นส่วนตัวของผมเป็นเช่นนี้ แต่จะตัดสินใจยังก็คงให้ทุกคนปรึกษากัน”หรงหยังพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“นิ่งซวน คุณคิดว่าไง?ท่านอิ่งให้คุณจัดการดูแลเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงมาโดยตลอด คุณลองว่ามา”หยูจื๋อเฉิงถามอย่างจริงจัง สายตาค่อนข้างเป็นกังวล
นิ่งซวนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น:”เมืองเทคโนโลยีเทียนหลงเกี่ยวข้องกับหลายส่วนไม่อาจละทิ้งได้แน่นอน เรื่องนี้นี่ไม่ต้องสงสัยเลย”
“เรื่องด้านวงการธุรกิจ ผมสามารถจัดการได้ แต่คนอย่างหลินสวนถูนี่สิ ผมไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง”
หยุดไปครู่หนึ่ง นิ่งซวนมองไปยังเย่เฮยทั้งสอง แล้วถามอย่างจริงจัง:”ท่านปู่หวงกับคุณเย่คิดยังไงกับส่วนนี้?”
จากนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปยังเย่เฮยและหวงชิงซาน
เพราะสองคนนี้เป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง
ตอนนี้กองกำลังในบังคับบัญชาของหลินอิ่ง มีแค่สองคนนี้ที่สามารถประจันหน้า สู้รบปรบมือกับหลินสวนถูได้
“ผมสามารถสู้เพื่อคุณชายอิ่งอย่างไม่เสียดายชีวิตได้”หวงชิงซานแสดงทัศนคติ ไม่เวิ่นเว้อ
นิ่งซวนมองเย่เฮยพลางพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง
“สหายเย่ล่ะว่ายังไง?”
สีหน้าเย่เฮยไม่ค่อยแสดงท่าทีอะไร เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรเงียบๆ
ทุกคุณล้วนรอเย่เฮยพูดออกมา
เย่เฮยมีความลึกลับมาในกลุ่มลูกน้องของหลินอิ่ง และยังมีนิสัยลึกลับคล้ายๆ ท่านอิ่ง ทำให้ผู้คนรู้สึกยากที่จะคาดเดา
ในใจทุกคนนั้นรู้ดี ว่าเย่เฮยต่างหากที่เป็นคนที่หลินอิ่งไว้ใจมากที่สุด
“ผมขวางหลินสวนถูได้แค่เวลาหนึ่งก้านธูป”เย่เฮยค่อยๆ พูดขึ้น”จะบุกหรือถอย ล้วนมีช่องทางเหลืออยู่”
“มันยากมากๆ ถ้าคิดจะกำจัดหลินสวนถู”
“สำหรับแผนวันนี้ นอกจากถ่วงเวลา ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว”
เย่เฮยพูดอย่างขมขื่นและจนปัญญา
การมาของหลินสวนถูทำให้เขาปวดหัวเช่นกัน จนปัญญากับคนคนนี้จริงๆ
เพียงแต่ยังไงเย่เฮยก็เคยเป็นหัวหน้าองครักษ์มังกรดำ เคยเจออะไรมามากมาย จึงไม่ค่อยสับสนวุ่นวายเท่าไหร่
ตูม!
ทันใดนั้นเอง ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกษาหารือกัน จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังมาจากด้านนอกห้องประชุม
เห็นเพียงผนังซีเมนต์ตรงโถงทางเดินถูกระเบิดออก แตกเป็นรูขนาดใหญ่หลายรู
หลินสวนถูมาแล้ว
เขายิ้มเยาะมุมปาก พลางมองนิ่งซวน เย่เฮยและพวกที่นั่งอยู่อย่างเหยียดหยาม
ด้านหลังเขายังมีชายหนุ่มอีกหลายคนตามมาด้วย
“ประชุมอะไรกันอยู่?ปรึกษากันว่าจะต้อนรับผมยังไงงั้นเหรอ?”
หลินสวนถูยิ้มเยาะ ลากเก้าอี้ข้างๆ โต๊ะประชุมโครมครามๆ แล้วนั่งลงอย่างตรงไปตรงมา
เขาชำเลืองมองทุกคนอย่างเฉยเมย แล้วพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน:”พวกคุณล้วนเป็นลูกน้องของหลินอิ่ง พวกคุณคงรู้ดีว่าผมมาทำไม”
“ผมจะไม่พูดอะไรไร้สาระ”
“มอบทั้งหมดของเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงให้ผมภายใน1วัน”
“ไม่งั้นพวกคุณทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ต้องตาย”
น้ำเสียงที่ไม่รีบร้อนของหลินสวนถู แต่กลับเผยรังสีอำมหิตออกมาอย่างเยือกเย็น ทำเอาอากาศทั้งห้องประชุมแข็งตัวลงทันที