ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 695 ผู้ท้าชิงผู้สืบทอดตระกูลหลิน
ณ ห้องประชุมตัวU อาคารเทียนหลง
ที่โต๊ะประชุมระดับสูง เก้าอี้ทุกตัวบุคคลที่มีฐานะสูงส่งและมีอำนาจในตี้จิงนั่งอยู่
คนเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญไม่มากก็น้อยกับเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง
พวกเขาต่างกลัวการกดดันของหลินสวนถู ถูกบีบให้มาร่วมการประชุม
เพราะทิศทางในตอนแรกนั้น เป็นหลินสวนถูขึ้นบังเหียนแทนหลินอิ่ง
พวกเขาจำต้องมาทำความเคารพทักทาย
แต่คิดไม่ถึงว่าถึงหลินอิ่งจะกลับมาในเวลาสำคัญ ทำให้สถานการณ์เกิดการหักเหเปลี่ยนแปลง
ที่โต๊ะการประชุม หลินอิ่งนั่งลงด้วยความองอาจ
เขาราวกับกลับสู่บัลลังก์ของตัวเอง แลมองทุกคนจากที่สูง
แม้แต่หลินสวนถูที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ยังต้องแพ้ให้ในเรื่องท่าทาง ด้วยเพราะความสูงที่น้อยกว่าไปเป็นคืบ
เวลานี้ คุณชายโหม จ้าวเฉิงเฉียน ฉู่หยุนซานต่างยืนเด่นเป็นสง่า เงียบนิ่งอยู่ด้านหลังหลินอิ่ง
แค่หลินอิ่งมองหลินสวนถูไปแบบธรรมดา หลินสวนถูก็เหงื่อแตกเต็มหน้าผาก ใบหน้าชุ่มไปด้วยน้ำ รับกับสถานการณ์นี้ไม่ไหว อึดอัดเหมือนถูกย่างอยู่บนเตาไฟ
เขามีเพลิงโทสะสุมอยู่เต็มอก แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมา
“หลินอิ่ง เรื่องของพวกหลินหวูเว่ย แกคิดจะอธิบายกับแม่เฒ่ายังไง? เรื่องนี้แม่เฒ่าโกรธมาก ต้องการให้แกกลับตระกูลหลินไปก้มหัวยอมรับผิด รับการลงโทษ!” หลินสวนถูทนไม่ไหวกับบรรยากาศตึงเครียดแบบนี้ เปิดปากพูดก่อน
หลินอิ่งยิ้มมุมปาก
เขารู้สึกได้ว่าท่าทีหลินสวนถูอ่อนลงไปแล้ว ขนาดเปิดปากพูดยังต้องอ้างแม่เฒ่า เห็นได้ว่าเขามีความกดดัน
“เรื่องของหลินหวูเว่ย ผมต้องไปอธิบายกับแม่เฒ่าอยู่แล้ว” หลินอิ่งพูดเรียบ “ว่าแต่คุณหลินสวนถูเถอะ มาฮุบธุรกิจของผมในตี้จิง จัดการลูกน้องผม แถมวันนี้ยังมาคุยโวอีก ว่าจะลงมือกับลูกน้องผมที่อาคารเทียนหลง? แถมยังจะให้ผมคุกเข่าสำนึกผิดที่อาคารเทียนหลงอีก?”
“เรื่องนี้คุณจะอธิบายกับผมยังไงมิทราบครับ?”
“เฮอะ!” หลินสวนถูไม่พอใจ “แกอยากได้คำอธิบายอะไรล่ะ?!”
“อะไรเรียกว่าฉันฮุบกิจการของแก? แกเป็นลูกหลานตระกูลหลิน ธุรกิจของแกก็คือธุรกิจของตระกูลหลิน ฉันเป็นปู่เจ็ดแก สั่งสอนลูกน้องแกยังต้องอธิบายอะไรอีก?”
“คุณ ขอโทษพร้อมชดใช้ให้พวกนิ่งซวนกับหยูจื๋อเฉิงตอนนี้ซะ ลุกขึ้นประกาศกับทุกคนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตี้จิงเป็นความผิดของคุณ” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา “จากนั้นก็ไสหัวออกไปจากตี้จิง!”
“ถ้าไม่ทำตามล่ะก็…ผมก็รับประกันได้เลย ว่าคุณออกจากที่นี่ไปไม่ได้แน่!”
“แก…จะรังแกกันมากไปแล้วนะ!” หลินสวนถูโมโหจนหนวดสั่น จ้องหลินอิ่งตาเขม็ง
พูดเป็นเล่นไปได้! หลินอิ่งเป็นผู้น้อย ถึงกับจะให้เขาไปขอโทษกับพวกไพร่ แล้วยังต้องยอมรับผิดชดใช้ต่อหน้าทุกคนอย่างนั้นเหรอ?
นี่ไม่ใช่จะเหยียบย่ำเขาให้จมดินหรืออย่างไร?!
“เป็นอะไรไปครับ? กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ?” หลินอิ่งมองทางหลินสวนถูด้วยสายตาเย็นชา “คุณเป็นคนทำร้ายพวกเขา เป็นคนก่อเรื่อง เป็นคนเปิดการประชุมอาคารเทียนหลงในวันนี้”
“อย่าลืม! ผมจะให้โอกาสคุณแค่ครั้งเดียว! เห็นแก่แม่เฒ่า ผมจะไว้หน้าคุณหน่อย”
หลินอิ่งพูดเสียงเย็น ไม่มากความ
ถูกต้อง! ที่หลินอิ่งไม่ได้จับกุมหลินสวนถูทันทีก็เพราะเห็นแก่แม่เฒ่า
ถึงอย่างไรแม่เฒ่าตระกูลหลินก็เป็นยายแท้ๆ ของแม่เขา
กับตนก็ถือว่ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดนิดหน่อย
“หนอย…แก!”
หลินสวนถูโกรธเป็นไฟ ใบหน้าแดงก่ำ แทบเป็นลมจับไปทันที
เขาเงยหน้าขึ้นจ้องหลินอิ่งพรึบ อยากก่นด่าออกไป
แต่ทันทีที่เห็นนัยน์ตาล้ำลึกของอีกฝ่าย และเห็นความเหี้ยมของยอดฝีมือทั้งสามที่อยู่ด้านหลังแล้ว
ความเพลิงโทสะในใจเขาก็ดับวอดไปอีกครั้ง
คนฉลาดย่อมรู้จักอดกลั้น หลักการนี้เป็นที่รู้กันดี
หลินสวนถูรู้ว่าหากลงมือไป ไม่เพียงพวกคุณชายโหมทั้งสามจะทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบาก
แผนการก่อนหน้านี้ก็ต้องล้มไม่เป็นท่า เขาไม่อาจโค่นหลินอิ่งได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ถ้าต้องก้มหน้ายอมรับผิดจริง เขาก็ทำไม่ลงด้วยเหมือนกัน
“คุณชายหลินอิ่ง คนตระกูลหลินเดียวกัน มีอะไรค่อยพูดค่อยจา ไยต้องบีบคั้นกันด้วยเล่า?”
ตอนนี้เอง เสียงใสหนึ่งก็ดังขึ้น
ไม่รู้ว่ามาตี้จิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้อาวุโสฉินแห่งคณะกรรมการผู้อาวุโสตระกูลหลิน นำชายหนุ่มชุดคอจีนสองสามคนเดินเข้าประตูมายังโต๊ะประชุม
ผู้อาวุโสฉินมองหลินอิ่งด้วยความเป็นมิตร กล่าว “คุณชายหลินอิ่ง ในเมื่อคุณก็คิดจะกลับตระกูลหลินอยู่แล้ว เช่นนั้นทำไมไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปเล่า? ผมจะเป็นผู้ให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้เอง ไม่ทราบคุณชายหลินมีความเห็นว่าอย่างไร?”
หลินอิ่งทำเฉย ไม่ตอบผู้อาวุโสฉิน
การปรากฏตัวของผู้อาวุโสฉินเป็นเรื่องที่เขาคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว
เขารู้ดีว่าคนผู้นี้นั่นแหละ ถึงจะเป็นตัวแทนที่แม่เฒ่าส่งลงเขามา
ทันทีที่ฉินเหิงเยว่เดินถึงโต๊ะประชุม คุณชายโหม จ้าวเฉิงเฉียนและฉู่หยุนซานต่างเบิกตาโพลง ท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
พวกเขารู้สึกได้ว่าผู้อาวุโสฉินมีพลังบูโดแข็งแกร่งเพียงใด
เกรงว่าตาแก่คนนี้น่าจะมีกำลังพอคว่ำโต๊ะได้เลย
“ผู้อาวุโสฉิน คุณมาพอดีเลยครับ! คุณเป็นคนที่แม่เฒ่าให้ลงเขามาเป็นการเฉพาะ ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของหลินอิ่งที่โอหังไร้มารยาทคนนี้ ในฐานะที่คุณเป็นผู้อาวุโสในคณะกรรมการ ก็น่าจะสั่งสอนเขาหน่อยใช่ไหมครับ?” หลินสวนถูพูดเป็นจริงเป็นจัง
การปรากฏตัวของฉินเหิงเยว่ทำให้หลินสวนถูเห็นความหวังในการพลิกสถานการณ์
ขอแค่ผู้อาวุโสฉินยอมยื่นมือเข้าช่วย ถึงหลินอิ่งจะเก่งกาจแค่ไหนก็ต้องยอมหยุดแต่โดยดี
“แคกๆ…” ผู้อาวุโสฉินไอแห้งแล้วมองทางหลินสวนถู พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “สวนถู เธอทำตามที่คุณชายหลินบอก ขอโทษชดใช้เงิน ยอมรับความผิดของตัวเองซะดีกว่า”
“อะไรนะ?!”
หลิยสวนถูมองอาวุโสฉินด้วยความเหลือเชื่อ
“ผู้อาวุโสฉิน นี่คุณหมายความว่ายังไง? คุณไม่รู้ความประสงค์ของผู้อาวุโสสองเหรอ? คุณจะช่วยหลินอิ่งมาข่มผม?
หลินสวนถูคิดไม่ถึงเลย ว่าผู้อาวุโสฉินที่เป็นคนสุขุมอย่างนี้จะยืนอยู่ฝั่งหลินอิ่ง
“ฉันต้องรู้อยู่แล้ว” ผู้อาวุโสฉินพูดเรียบ
“ในเมื่อคุณรู้ความประสงค์ของผู้อาวุโสสอง งั้นก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นปู่เจ็ดของหลินอิ่ง ตระกูลหลินมีกฎให้ผู้ใหญ่มาขอโทษยอมรับผิดกับผู้น้อยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หลินสวนถูถาม
ผู้อาวุโสฉินหัวเราะเป็นเลศนัย “สวนถู นี่เป็นความประสงค์ของแม่เฒ่า”
“ฉันกำลังจะแจ้งข่าวเธออยู่พอดี เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของแม่เฒ่าที่ประกาศกับตระกูลหลินภายใน และแวดวงลึกลับ”ผู้อาวุโสฉินค่อยๆ เอ่ย “เมื่อคืนนี้ แม่เฒ่าตัดสินใจจะให้คุณชายหลินเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดคนที่สามของตระกูลหลิน…”
พูดจบ ผู้อาวุโสฉินก็มองหลินสวนถูแบบหยอกเย้าเล็กน้อย “เธอก็รู้ ว่า ‘ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอด’ หมายถึงอะไร? ตามกฎของตระกูล คุณชายอิ่งมีสิทธิ์สั่งการเธอ”
“อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะ แม่เฒ่ากำชับเองว่าให้เธอขอโทษคุณชายหลินอิ่ง ส่งมอบทุกอย่างในตี้จิงคืนคุณชายหลิน แล้วรับคุณชายหลินกลับเขาลังยา!”
เมื่อฟังคำพูดผู้อาวุโสฉินจบ หน้าสีหลินสวนถูก็ขาวเป็นกระดาษไป ยืนตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกฟ้าผ่า
แม่เฒ่าแต่งตั้งให้หลินอิ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน…
ไม่อยากจะเชื่อ!
หลินสวนถูรู้ดีว่ากฎตระกูลหลินแห่งลังยาเข้มงวดแค่ไหน แบ่งแยกยศศักดิ์ชัดเจน
ผู้สืบทอดตระกูลหลิน สำหรับในตระกูล ฐานะนี้ก็เทียบเท่ากับรัชทายาทแห่งราชวงศ์
หรือจะบอกว่าเป็นรัชทายาทตระกูลหลินก็ไม่เกินไป
ถึงหลินสวนถูจะมีศักดิ์สูงกว่าหลินอิ่งมาก อายุก็มากกว่า แต่ก็ยังต้องฟังคำสั่งหลินอิ่งอย่างนอบน้อม…