ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 696 หลินสวนถูยอมจำนน
“ผู้อาวุโสฉิน นี่…นี่เป็นการตัดสินใจของแม่เฒ่าจริงเหรอ?” หลินสวนถูนิ่งไปนาน จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างยอมรับไม่ได้
ใช่แล้ว! เรื่องที่หลินอิ่งกลายเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอด เป็นเรื่องที่หลินสวนถูไม่อาจยอมรับได้ และไม่อยากเชื่อด้วย
ถือดีอย่างไร?!
หลินอิ่งเป็นแค่ลูกหลานตระกูลหลินที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอก ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้ตระกูลเลยแม้แต่น้อย แต่กลับได้เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน ทะยานขึ้นฟ้าไปเสียนี่?
เป็นที่รู้กันดี ว่ามีคนเก่งอายุน้อยตั้งเท่าไหร่ที่ต้องสู้ศึกมรสุมเลือดนับไม่ถ้วนเพื่อแย่งชิงบัลลังก์นี้
แต่จนถึงวันนี้ ตระกูลหลินแห่งลังยาก็มีผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดที่แต่งตั้งเป็นทางการแค่สองคนเท่านั้น
รัชทายาททั้งสองแบ่งออกเป็นตัวแทนฝ่ายผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสอง เบื้องหลังมีอิทธิพลยักษ์ใหญ่หนุนหลัง
แล้วหลินอิ่งล่ะ? เขามีดีอะไร?
“สวนถู เรื่องแบบนี้เธอคิดว่าด้วยฐานะของฉันจะพูดไปเรื่อยได้เหรอ?” ผู้อาวุโสฉินพูดเสียงหนัก ไม่พอใจเล็กน้อย จ้องหลินสวนถูด้วยความเย็นชา
อย่างชัดเจน หลินสวนถูไม่ได้สติ สูญเสียความหนักแน่น พูดจาไม่เป็นเหตุเป็นผลไป
ฉินเหิงเยว่เป็นผู้อาวุโสของคณะกรรมการอาวุโสตระกูลหลิน จะแต่งคำสั่งแม่เฒ่าโดยพลการได้หรือ?
แน่นอน หลินสวนถูไม่อาจยอมรับข่าวนี้ และไม่อาจเข้าใจได้
เพราะแม้แต่ผู้อาวุโสฉิน เมื่อได้รับการแจ้งจากแม่เฒ่าก็ยังตกใจอยู่เหมือนกัน
การแต่งตั้งหลินอิ่งให้เป็นผู้ท้าชิงผู้สืบทอด…การกระทำนี้ของแม่เฒ่าสั่นสะเทือนไปทั้งตระกูลหลิน
การกระทำเช่นนี้ ช่างเหลวไหลจริงๆ
แต่หากคิดอย่างละเอียดแล้ว หมากตานี้ของแม่เฒ่าเดินได้ร้ายกาจยิ่งนัก
เดิมตระกูลหลินก็มีผู้สืบทอดอยู่แล้วสองคน สู้กันจนฟ้าถล่มดินทลาย เบื้องหลังทั้งสองฝ่ายก็เป็นผู้อาวุโสที่เป็นเสาหลักของตระกูล ถือเป็นการจับคู่ที่สมดุล
และการที่จู่ๆ แม่เฒ่าก็ยืนอยู่ฝั่งหลินอิ่งนั้น ก็เป็นการทำลายสมดุลนั้น
นี่ราวกับการโยนหินลงแม่น้ำ แต่จะทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขนาดไหนก็อยู่ที่ความสามารถของหลินอิ่ง
“นี่ นี่…”
จิตใจหลินสวนถูระส่ำระสาย พูดพึมพำ มุมปากเผยความขมขื่นอย่างหนัก
ตอนนี้เขารู้แล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินอิ่ง เขาไม่มีสิทธิ์ต่อสู้อีก
ถ้าเทียบกำลัง แค่สามคนที่อยู่ด้านหลังหลินอิ่งก็สยบเขาได้แล้ว
แม้แต่…เดิมที่นึกว่าใช้ไพ่ใบสุดท้าย เอาคำสั่งของแม่เฒ่าที่มีฐานะเป็นผู้อาวุโสตระกูลหลินมาบีบบังคับ ก็ยังต้องล้มไม่เป็นท่า หลินอิ่งกลายเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดไปแล้ว!
เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินอิ่ง หลินสวนถูไม่มีอะไรที่เหนือกว่าเลย
หลินสวนถูราวกับคนไร้วิญญาณ เงยหน้ามองทางหลินอิ่ง
ส่วนหลินอิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็นิ่งเฉย ไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ
ราวกับ…การถูกประกาศให้เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจอะไร
หลินสวนถูยิ่งมองหลินอิ่งก็ยิ่งหวาดหวั่น
นี่เป็นเพราะหลินอิ่งน้ำนิ่งไหลลึก จัดการเรื่องราวได้อย่างเยือกเย็น หรือที่จริงแล้ว…เขาไม่เห็นฐานะผู้สืบทอดตระกูลหลินอยู่ในสายตากันแน่?
หลินสวนถูก็ไม่ทราบได้
เขารู้แต่ว่าเขาเป็นหมูที่ขึ้นไปอยู่บนเขียงแล้ว สุดแต่หลินอิ่งจะเชือด…
เวลานี้ใบหน้าจ้าวเฉิงเฉียนกับฉู่หยุนซานก็มีความเปลี่ยนแปลง
พวกเขาเป็นคนในแวดวงลึกลับประเทศหลุง ต่างรู้ดีว่าผู้สืบทอดตระกูลหลินแห่งลังยานั้นมีความสำคัญเพียงใด
ฐานะนี้พอให้หลินอิ่งมีหน้าตาอยู่ในแวดวงลึกลับ ไม่มีอิทธิพลไหนกล้าไม่ให้เกียรติ
ใครก็รู้ว่าฉู่หยุนซานที่เป็นลูกชายคนโตของฉู่จี้ชัง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลฉู่เลย
ส่วนหลินอิ่ง แม้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน แต่กลับนิ่งเฉย ความหนักแน่นและจิตใจเช่นนี้ช่างน่ายกย่องยิ่ง
“หลินสวนถู คุณ ลุกขึ้น”
หลินอิ่งมองหลินสวนถูด้วยหน้านิ่ง พูดออกไปเรียบๆ
เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้อาวุโสฉินบอกกล่าวมา เขาก็ไม่ได้รู้มาก่อน
คิดไม่ถึงว่าแม่เฒ่าตระกูลหลินที่อยู่ไกลถึงชางโจวจะมีแผนการยอดเยี่ยมเช่นนี้
เมื่อได้ฟังข่าวแล้ว ปฏิกิริยาแรกของหลินอิ่งก็คือคาดเดา แม่เฒ่าผู้เฉียบแหลมท่านนั้นคิดให้เขาเป็นหินลับมีด ทดสอบความสามารถของคนหนุ่มภายในตระกูลหลิน
ทว่า…แม่เฒ่าท่านนั้นประเมินเขาต่ำเกินไป
หลินสวนถูตะลึงค้าง หน้าแข็งทื่อ เข้าใจความหมายของหลินอิ่งทันที ว่านี่เป็นการบังคับให้เขาก้มหัวยอมรับผิด
“สวนถู ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ทางที่ดีเธอคิดให้ดีนะ” ผู้อาวุโสฉินเอ่ยแนะนำ
หลินสวนถูข่มขื่นนัก สายตาเผยความเจ็บปวด ลุกขึ้นยืนด้วยความมุ่งมั่น หันไปทางหลินอิ่งแล้วก้มศีรษะที่หยิ่งผยอง…
“เฮ้อ…”
หลินสวนถูหลับตา ถอนหายใจยาว แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น สุมไฟอยู่เต็มอก
“คุณชายหลินอิ่ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ ผมเป็นคนผิดเอง ผมขอโทษอย่างใจจริง และขอโทษลูกน้องของคุณชายหลินอิ่งด้วย” หลินสวนถูก้มศีรษะ แทบกัดฟันยอมรับผิด
“ผมไม่รู้จักดูส่วนรวม ทำเรื่องน่าอายในตี้จิงมากมาย คุณชายหลินอิ่ง ผมจะสั่งออกไปเดี๋ยวนี้ ให้เอาทุกอย่างในตี้จิงส่งมอบให้คุณ วันนี้ถือซะว่าเป็นการต้อนรับคุณกลับมา หวังว่าคุณจะไม่ถือสา”
เมื่อหลินสวนถูพูดจาอ่อนจบแล้วก็หน้าแดงก่ำ แทบอยากแทรกแผ่นดินหนี เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้ามองสีหน้าหลินอิ่ง
“คุณชายหลินอิ่ง สวนถูก็… ไม่ทราบคุณจะปล่อยเขาไปก่อนได้ไหม? รอกลับตระกูลหลินแล้วค่อยเปิดการประชุมคณะกรรมการ ตัดสินบทลงโทษของสวนถูใหม่”ผู้อาวุโสฉินพูดให้เรื่องลงเอยด้วยดี
“แค่คำพูดไม่กี่คำก็คิดจะรอดตัวไปแล้วเหรอ? ปลดแขนตัวเองทิ้งข้างหนึ่งซะ” หลินอิ่งพูดเรียบ
“นี่!”
สีหน้าหลินสวนถูเปลี่ยนไปทันที แต่ขณะที่จะเกรี้ยวกราด สายตาเย็นยะเยือกของผู้อาวุโสฉินที่อยู่ด้านข้างก็กวาดมองมา ทำให้การระบายโทสะของเขาเป็นอันต้องหยุดชะงัก
หลินสวนถูหลับตา ซัดเข้าที่แขนขวาอย่างแรง เสียงกระดูกหักดังชัด ครั้นแล้วแขนข้างหนึ่งของเขาห้อยลงในบัดดล
ยอดฝีมือระดับนี้อย่างเขา แขนหักก็รักษาให้กลับมาเป็นดังเดิมได้ สิบวัน ครึ่งเดือนก็เป็นปกติแล้ว
แต่การทำลายแขนของตัวเองนั้นเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง
หลินอิ่งพูดหน้านิ่ง “คุณหลินสวนถู ต่อไปถ้าคุณยังเหยียบตี้จิงมาอีกก้าวเดียว ก็อย่าหาว่าผมโหดร้ายก็แล้วกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว หลินสวนถูก็กระตุกมุมปาก ทั้งโมโห ทั้งเจ็บปวด
เขาตบหน้าตัวเอง แล้วหลินอิ่งก็ยังเหยียบซ้ำเขาอีก
หลังจากเรื่องนี้แล้ว ไม่เพียงแต่หลินสวนถูจะขายหน้าไปทั่วตี้จิง มิหนำซ้ำกลับตระกูลหลินยังคุยโวไม่ได้อีก…
เขาเริ่มนึกย้อนเสียใจแล้ว ก่อนหน้านี้เขาสุดโต่งเกินไป ในสถานการณ์ที่แผนการยังไม่แน่นอนก็บีบคั้นหลินอิ่งอย่างหนัก ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องอัปยศขนาดนี้เหรอ?
“ไสหัวไปซะ”
หลินอิ่งพูดด้วยความเย็นชา
หลินสวนถูไม่กล้ามากความ เค้นรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าที่แข็งทื่อ จากนั้นก็พาคนหนุ่มในชุดคอจีนเดินออกอาคารเทียนหลงด้วยใบหน้าขมึงตึง
การประชุมในวันนี้ จบด้วยการที่หลินสวนถูยอมรับผิดและทำลายมือของตัวเอง
แผนการในตอนแรกของหลินสวนถู ไม่เพียงแต่ทำลายอิทธิพลและชื่อเสียงของหลินอิ่งไม่ได้ แต่กลับเวทีการกลับมาของหลินอิ่งอย่างอลังการ
และแม้แต่เขายังต้องกลายเป็นหินรองเท้าของหลินอิ่ง ทำให้ชื่อเสียงคุณชายหลินอิ่งแห่งตี้จิงโด่งดังพลุแตกอีกครั้ง