ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 700 ความครึกโครมในตระกูลหลิน
ท่าทีของโครเมียร์ แอนนาและคุณชายโหมผู้ลึกลับคนนั้นเคารพหลินอิ่งมากกว่าเดิม
กระทั่งเกินกว่าที่หลินอิ่งคิดไว้ หลังจากออกหน้ามาช่วยเขาแล้ว ทั้งสองไม่เพียงไม่หวังผลตอบแทน ทั้งไม่พูดถึงเรื่องงานที่ขยับขยายในตี้จิงด้วย
ทั้งสองแค่ทักทายกับหลินอิ่ง ถ่ายทอดความนับถือของท่านเอิร์ลที่อยู่ไกลจากต่างแดนท่านนั้น
ทั้งยังบอกว่าตระกูลพวกเขายินดีรักษามิตรภาพกับหลินอิ่งสืบต่อไปอีกเนิ่นนาน เมื่อไหร่ที่มีความจำเป็นในประเทศหลุง พวกเขาก็พร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ
นี่ทำให้หลินอิ่งยิ่งนับถือท่านเอิร์ลผู้นั้นมากขึ้นไปอีก พร้อมกันนั้นก็เกิดความหวาดกลัวด้วย
ท่านเอิร์ลรู้ว่าเขาเป็นเทพหนุ่มนักรบประเทศหลุงที่ขึ้นชื่อลือชาต่างแดนในตอนนั้น และโลกมืดฝั่งตะวันตกก็จ้องประเทศหลุงตาเป็นมัน
การที่ท่านเอิร์ลออกตัวเป็นมิตรในช่วงเวลาแบบนี้ ช่างน่าคิดจริงๆ
สำหรับจุดมุ่งหมายของฉู่หยุนซานกับฉู่ฉู่นั้นง่ายกว่ามาก
ฉู่หยุนกับหลินอิ่งเคยต่อสู้มาด้วยกัน เมื่อพูดสัพเพเหระแล้วฉู่ฉู่ที่อยู่ด้านข้างก็เงียบเขินอาย
หลินอิ่งรู้ดี ว่าราชาแห่งยาจี้ชางรู้ความคิดของเขา
ราชาแห่งยาจี้ชางเคยมีไมตรีลึกซึ้งกับอาจารย์อยู่ช่วงหนึ่ง
เป็นคนในแวดวงลึกลับจำนวนไม่มากที่หลินอิ่งนับถือ
เรื่องที่อีกฝ่ายส่งมาบอก ก็คือให้เขาหาเวลาไปตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานสักครั้ง ดูเหมือนว่าเป็นสัญญาบางเรื่องของอีกฝ่ายกับอาจารย์ในตอนนั้น
หลินอิ่งพยักหน้าตอบตกลง
ฉู่หยุนซานกับฉู่ฉู่อยู่ตี้จิงเพื่อขยายการค้าของตระกูลฉู่ที่อยู่ด้านนอก
พร้อมกันนั้นก็แสดงออก ว่าหาหลินอิ่งมีเรื่องอะไร ตระกูลฉี่ก็ยินดีช่วยเหลือเต็มที่
ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน ตระกูลโครเมียร์ จ้าวเฉิงเฉียน
หลังจากเรื่องพวกนี้เสร็จสิ้นแล้ว หลินอิ่งก็แน่ชัดในความสัมพันธ์ของพันธมิตร
นี่ทำให้หลินอิ่งมีไพ่ดีในมือเพิ่มอีกหลายใบ
แน่นอนว่าที่เปิดเผยมากที่สุดก็คือตระกูลฉู่ เพราะการพูดของคุณท่านฉู่ทำให้หลินอิ่งรู้สึกเชื่อถือ
ส่วนตระกูลโครเมียร์อยากแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับเขา ยื่นมือเข้าประเทศหลุงมากขึ้น
ส่วนจ้าวเฉิงเฉียน คนผู้นี้เบื้องหลังซับซ้อน แผนร้ายมากมาย เขาเป็นทั้งคุณชายใหญ่ตระกูลจ้าวในตี้จิง และเป็นทั้งนายน้อยแก๊งหยางเหมิน
ตอนนี้หลินอิ่งเป็นเพื่อนที่ยืนอยู่ด่านหน้ากับเขา
แต่ต่อไปใครจะเอาแน่ได้เล่า?
หลังจากจัดการธุระในตี้จิงแล้ว หลินอิ่งก็มีเวลาผ่อนคลายสักที
เขาพาจางฉีโม่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ภูเขาเซียงซาน
จากนั้นก็ไปสำรวจจิวเวลรี่เทรดเซนเตอร์ที่ซิงเฉิงกับฉีโม่อีก
……
ขณะที่หลินอิ่งใช้ชีวิตสบายๆ อยู่ในตี้จิง มณทลชางโจวและตระกูลหลินแห่งลังยาก็เกิดความโกลาหลขึ้น
เรื่องที่เขาถูกแม่เฒ่าตั้งให้เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลทำให้คนตระกูลหลินแตกตื่นกันหมดแล้ว
แต่ไรมาตระกูลหลินก็มีผู้ท้าชิงแค่สองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือคุณชายใหญ่ อีกคนคือคุณชายรองแบ่งเป็นผลประโยชน์ของฝั่งผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสรอง
และมีแต่กำลังของสองฝั่งนี้เท่านั้น ที่สามารถสยบทุกคนในตระกูลหลินได้
แล้วหลินอิ่งเป็นใครกัน?
หลายคนในตระกูลเพิ่งรู้ว่ามีลูกหลานคนนี้ด้วยซ้ำ!
อยู่ๆ ก็ขึ้นตำแหน่งนี้อย่างไร้ซึ่งเหตุผล?
เห็นว่าเป็นลูกหลานที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอก? และเป็นลูกของหลินซูชิงที่ถูกตัดฐานะออกไปแล้ว?
เรื่องนี้ทำให้คนหนุ่มจำนวนมากในตระกูลหลินรู้สึกไม่พอใจมาก ด้วยการยุยงปลุกปั่น หลินอิ่งจึงแทบกลายเป็นศัตรูของตระกูลหลินไปเสียแล้ว
“เพล้ง!”
“อะไรนะ?! แม่เฒ่ายังจะให้หลินซวนหวากลับมา แถมเจาะจงจัดงานเลี้ยงขึ้นอีก?”
ณ ริมฝั่งแม่น้ำภูเขาชางซานเมืองชางโจว ในสวนอันมีชื่อที่สุดของเขานั้น จู่ๆ ก็มีเสียงไต่ถามที่ไม่พอใจดังออกมา จากนั้นก็เป็นเสียงแก้วเซรามิกแตก
“เหลวไหลสิ้นดี! แม่เฒ่าเลอะเลือนไปแล้วหรือยังไง?! ฮะ? ให้หลินอิ่งไอ้นอกคอกเป็นผู้สืบทอด แล้วยังจะให้พวกเราไปดูสีหน้าไอ้สิบสองนั่นอีก?!”
ชายวัยกลางคนในชุดฝึกกังฟูสีเหลืองอ่อน ที่นั่งเก้าอี้ปรมาจารย์ไม้จันทน์พูดขึ้นด้วยความเดือดดาล
“ผู้อาวุโสสองใจเย็นก่อน…เรื่องนี้มันอยู่นอกเหนือแผนการ คิดไม่ถึงว่าแม่เฒ่าจะให้ความสำคัญกับไอ้นอกคอกหลินอิ่งขนาดนี้!”
ภายในศาลาอันหรูหรา ชายวัยกลางคนก้มหน้า พูดอย่างระมัดระวัง
นอกจากนั้นยังมีชายหญิงวัยกลางคนอีกเจ็ดแปดคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่ทั้งสองข้าง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าดูไม่ได้ หวาดกลัวอย่างหนัก
ผู้ที่อยู่ตรงนี้ล้วนเป็นกำลังสำคัญของตระกูลหลินและมีอำนาจอยู่ในมือ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินเสวียนหมิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ปรมาจารย์แล้ว ถึงกับไม่กล้าหายใจเสียงดัง
ผู้อาวุโสสองหลินเสวียนหมิงกุมอำนาจหลักอยู่ในมือ ฆ่าล้างแย่งชิง มีความน่าเกรงขามถึงขีดสุด
ไม่มีใครกล้าล่วงเกินความน่าเกรงขามของเขา
“เฮอะ! แผน? แผนของพวกแกมีแต่ปากนะสิ! ไอ้พวกงี่เง่าทำงานกันยังไงฮะ? หลินเสวียนหมิงก่นด่า ไม่พอใจมาก”
ถูกต้อง! การที่หลินอิ่งและตาของเขากลับตระกูลหลิน ทำให้หลินเสวียนหมิงเกรี้ยวกราดมาก
คนระดับสูงที่จิตใจไม่อาจคาดเดา เสียกิริยาต่อหน้าผู้คนช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง
“ฉันให้หลินชิงเย่ลงเขา แล้วยังส่งหลินสวนถูไปช่วยอีก สุดท้ายคนหนึ่งหนีไปแล้ว ส่วนอีกคนกลับตระกูลหลินมาก็ไม่มีหน้ามาพบฉัน ไปหลบสำนึกผิดอยู่หลังเขา?” หลินเสวียนหมิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไอ้หลินอิ่งอายุน้อยๆ ก็ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว? ขนาดทั้งสองคนก็จัดการมันไม่ได้?”
“หลินเสวียนเฮ่อ! ชิงเย่เป็นลูกของแก แกสอนยังไงฮะ? แถมเรื่องนี้แกก็เป็นคนจัดการ แกเสนอให้ลูกแกลงเขาไปจัดการนี้เองนะ!” หลินเสวียนหมิงนั่งเก้าอี้ปรมาจารย์ มองทางชายในชุดคือจีนสีเขียวที่อยู่ด้านล่างด้วยความดุดัน
“เออ…พี่รอง เรื่องนี้ฉันสะเพร่าเอง” หลินเสวียนเฮ่อเหงื่อผุด “ที่ชิงเย่สู้หลินอิ่งไม่ได้ฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่ที่ฉันคิดไม่ถึงก็คือ แม้แต่พี่สวนถูก็สู้เขาไม่ได้ แถมยังถูกอีกฝ่ายบีบจนล่าถอย นี่…ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ”
“ตอนหลังพอฉันสืบข่าว ก็ได้ยินว่าหลินอิ่งเชิญทับหนุนมาเยอะ ไหนจะนายน้อยแก๊งหยางเหมิน ฉู่หยุนซานของตระกูลฉู่ แล้วยังยอดฝีมือจากตระกูลโครเมียร์…” หลินเสวียนเฮ่อพูดช้าๆ
“พอที!” หลินเสวียนหมิงขัดขึ้นอย่างวางอำนาจ พูดด้วยเสียงเย็น “นายน้อยแก๊งหยางเหมิน? ฉู่หยุนซาน? เจ้าสำนักหยางต้องเจียมตัวต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันแค่ไหนไม่รู้หรือยังไง? แล้วหลินสวนถูยังจะกลัวอะไรอีก?!”
“ขายหน้าจริงๆ! ตอนนี้พี่ใหญ่ก็พาลูกชายเขากลับจี้โจวมาแล้ว ทำผลงานที่จี้โจวได้ ยึดธุรกิจตระกูลเผย แล้วก็พอดีเลย พวกแกก็มาทำเรื่องงามหน้าให้ฉันอย่างนี้!” หลินเสวียนหมิงพูดเสียงเย็น “ไอ้นอกคอกหลินอิ่งหักหน้าฉัน ให้คนของพี่ใหญ่ทางนั้นมาเยาะเย้ยฉัน!”
“ฉินเหิงเยว่ก็ฉลาดเป็นกรด นั่งอยู่ตรงกลางคอยดูทิศทางลม บัญชีนี้ฉันต้องคิดกับเขาแน่” หลินเสวียนหมิงพูดอย่างเย็นชา
“เสวียนเฮ่อ ฉันจะให้โอกาสทำคุณถ่ายโทษ ครั้งนี้ งานเลี้ยงการกลับมาของหลินซวนหวา แกไปทำให้มันขายหน้า! อีกเรื่อง พอไอ้หลินอิ่งกลับมา แกก็เตรียมการให้พร้อม ทำให้มันรู้ซะ ว่าประตูตระกูลหลินไม่ใช่จะเข้ามาได้ง่ายๆ!”
“ครับ!” หลินเสวียนเฮ่อแวบความดุดันออกมาจากสายตา “พี่รอง ไม่งั้นฉันจะออกโรงเองสักครั้ง เก็บไอ้หลินอิ่งก่อนที่มันจะได้พบกับแม่เฒ่า ตัดไฟแต่ต้นลมเป็นไง?”