ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 714 เคล็ดลังยา?
“หือ?” หลินอิ่งวางเฉย มองไปทางซือคงฟู่ “คุณซือคงอยากเพิ่มเงื่อนไขอะไรเหรอครับ?”
เขาเข้าใจความหมายในคำพูดของซือคงฟู่
เรื่องในวันนี้ใหญ่เกินไป
แค่ผลประโยชน์เล็กน้อยในเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง เส้นทางการค้าบางส่วนในเจียงเป่ยยังไม่พอ
ในเมื่อจะเป็นพันธมิตรทางผลประโยชน์แล้ว ก็ต้องให้สมราคาจึงจะถูก
ซือคงฟู่เอ่ย “ที่นี่ไม่เหมาะจะคุย ที่ชางโจวผมก็มีการค้านิดหน่อย เตรียมโต๊ะไว้แล้ว ไม่ทราบคุณชายอิ่งจะให้เกียรติได้ไหมครับ?”
หลินอิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า
ยี่สิบกว่านาทีให้หลัง
ขบวนรถของซือคงฟู่ก็มาถึงร้านชาที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่งในเมืองชางโจว
รถของหลินอิ่งก็จอดอยู่ที่นั่นด้วย
ร้านชานี้มีชื่อว่าหอชิ่นเซียง ตกแต่งได้โบราณคลาสสิกเรียบง่ายมาก
ซือคงฟู่เข้าด้านในก่อน สั่งให้ยอดองครักษ์มังกรเขียวที่อยู่ในการบังคับบัญชาเฝ้าปากประตูไว้
ดูแล้วนี่คงเป็นธุรกิจหนึ่งของเขาในชางโจว
หลินอิ่งพาจางฉีโม่เดินเข้าไป แต่เขาให้เธอรออยู่ห้องด้านข้าง
ระหว่างทางที่มา หลินอิ่งยังได้รับสายจากฉินเหิงเยว่ด้วย
เห็นชัดว่าผู้อาวุโสฉินท่านนั้นก็ตกใจกับการกระทำของหลินอิ่งมากเช่นกัน
ในสายเขาบอกเล่าสถานการณ์ภายในตระกูลหลินกับหลินอิ่งด้วยความหนักใจ ทั้งยังบอกให้เขาเตรียมขึ้นเขาลังยาในวันพรุ่งนี้ เขาจะมาหาหลินอิ่ง
ส่วนหลินอิ่งก็ตกปากรับคำ
แม้ต้องขึ้นเขาลังยาหลังจากที่สังหารหลินเซี่ยวไปแล้ว หลินอิ่งก็ไม่หวั่น
เดิมศึกผู้สืบทอดตระกูลลึกลับก็เป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายทารุณอยู่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับศึกชิงบัลลังก์ของราชวงศ์ในสมัยโบราณเลย
หลินเซี่ยวต่อสู้ตายด้วยมือของเขา ทางแม่เฒ่านอกจากจะเสียดายแล้วยังจะพูดอะไรได้อีก?
เพราะคนที่ตายไปแล้วก็ไร้คุณค่าให้พูดถึง
มีแต่ฝั่งผู้อาวุโสสองที่สู้อุตส่าห์บ่มเพาะหลินเซี่ยวเท่านั้นที่จะมาแก้แค้น
ไม่นาน หลินอิ่งก็มาถึงห้องVIP เรียบหรูห้องหนึ่ง
ซือคงฟู่นั่งสง่าอยู่บนเก้าอี้ปรมาจารย์ มือถือถ้วยชา
“คุณชายอิ่ง นี่คือใบชาอ่อนสีเหลือง ของขึ้นชื่อเมืองหวงไห่ หายากมากเลยทีเดียว เชิญชิมดู” ซือคงฟู่พูดพลางเผยรอยยิ้ม ยื่นถ้วยชามาให้ใบหนึ่ง
หลินอิ่งดื่มไปอึกหนึ่งด้วยใบหน้าเฉย
“คุณซือคง ที่คุณสนันสนุนผมให้ขึ้นตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน ที่จริงแล้วคุณต้องการอะไรจากตระกูลหลินกันแน่ พูดมาตามตรงเถอะ” หลินอิ่งเอ่ยปากถามไปตามตรง
ซือคงฟู่ดื่มชาอย่างละเมียดละไม ยิ้มเป็นเลศนัยแล้วกล่าว “เคล็ดลังยา”
“เคล็ดลังยา?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกสนใจ
“ถูกต้อง! เคล็ดลังยาสมบัติหวงแหนของตระกูลหลินนั่นแหละ!” ซือคงฟู่พูดอย่างหนักแน่น “ตามธรรมเนียมปฏิบัติของตระกูลหลิน มีแต่ผู้สืบทอดแต่ละรุ่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์เรียนเคล็ดลังยา”
“ถ้าคุณชายอิ่งเอาชนะในศึกชิงตำแหน่งผู้สืบทอด ก็จะได้เคล็ดนั่นมา”
“ผมจะสนับสนุนคุณชายอิ่งขึ้นแท่น และเมื่อถึงตอนนั้น ก็ขอแต่เคล็ดลังยาฉบับคัดลอกก็พอ” ซือคงฟู่พูดช้าๆ
หลินอิ่งนิ่งเฉย เคาะนิ้วมือกับโต๊ะเบาๆ
พูดกันตามจริง จุดประสงค์ของซือคงฟู่ก็เหมือนกับเขา
ที่หลินอิ่งกลับตระกูลหลิน นอกจากเพื่อพบตาหลินซวนหวาแล้ว จุดประสงค์หลักก็เพื่อเคล็ดลังยา
เคล็ดลังยาถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในพลังมหัศจรรย์ทั้งเก้า จัดอยู่ในรายการพลังมหัศจรรย์ทั้งเก้าเหมือนกับเคล็ดมังกรของแก๊งมังกร
จุดล้ำลึกของเคล็ดวิชานี้ยากจะคาดเดา
การที่นายท่านใหญ่ตระกูลหลินเป็นตำนานในตระกูลลึกลับได้ ก็เพราะได้ฝึกเคล็ดลังยาจนถึงขั้นสุดยอด เลื่อนขึ้นอยู่ในรายการแห่งฟ้า
สมัยก่อนแม้แต่อาจารย์ก็ยังชื่นชมเคล็ดลังยามาก เคยกล่าวยกย่องไว้ ว่าหากฝึกเคล็ดลังยาจนถึงขั้นสูงสุดได้ ฝีมือก็ไม่ด้อยไปกว่าเคล็ดมังกรเลย ทั้งกำลังสองสายยังจะช่วยเสริมกันอีก หากได้ฝึกทั้งสองเคล็ดวิชาก็จะผ่านระยะวัฏจักรได้อย่างสมบูรณ์
เคล็ดมังกรทรงอานุภาพร้ายแรง เป็นหนึ่งในใต้หล้า ทว่าเหล็กแข็งมักหักง่าย มังกรผยองได้สำนึก ทุกครั้งที่ผู้ฝึกก้าวไปอีกขั้นจำต้องเผชิญกับความทรมานของระยะวัฏจักร
แต่เคล็ดลังยา ล้ำลึกยากจะคาดเดา บ่มเพาะจิต รวมฟ้ากับคนเข้าด้วยกัน
ความวิเศษของเคล็ดวิชานี้ ก็คือสามารถฟื้นฟูเส้นลมปราณ ควบแน่นชี่กัง ทำให้ชี่กังในร่างกายหมุนเวียนไม่ขาดสาย
ดังนั้น เมื่อหลินอิ่งรู้ว่าแม่เกิดในตระกูลหลินแห่งลังยา และตนก็เป็นเหลนนอกของนายท่านใหญ่ตระกูลหลินแล้ว
หลินอิ่งยังถึงกับสงสัยว่าที่อาจารย์เลือกตนเป็นผู้สืบทอดแก๊งมังกรในตอนนั้น จะเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยหรือไม่?
ทว่า…การกระทำของอาจารย์ล้วนมีความหมายเชิงลึก ยากจะคาดเดา
จนถึงบัดนี้ก็ไม่รู้ที่อยู่ของอาจารย์ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
“คุณซือคงครับ คุณหวังมากเกินไปแล้ว” หลินอิ่งเอ่ยปากเรียบๆ “เคล็ดลังยาเป็นเคล็ดวิชาลับสุดยอดขนาดไหน อย่าว่าแต่ผมจะได้มาหรือเปล่าเลย ถึงผมได้นั่งตำแหน่งผู้สืบทอด ได้รับการยอมรับจากนายท่านใหญ่ ได้เคล็ดลังยามา แต่ตอนนั้นผมจะมอบให้คุณทำไมอีกล่ะ?”
“ฮ่าๆๆ!” ซือคงฟู่หัวเราะชอบใจ “คุณชายอิ่งเป็นคนตรงจริงๆ!”
“ใช่! หากคุณชายอิ่งได้รับการยอมรับจากนายท่านใหญ่ตระกูลหลิน ได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูล และได้เคล็ดลังยามาแล้ว แล้วคุณชายต้องมาตกลงสัญญากับผมซือคงอีกทำไมเล่า?” ซือคงฟู่หัวเราะเป็นสนุก
หยุดไปแพล็บหนึ่งแล้ว ซือคงฟู่ก็พูดจริงจัง “คุณชายอิ่ง ผมไม่เอาเคล็ดลังยาทั้งหมด ขอแค่ส่วนเดียวก็พอ อีกอย่าง คุณคิดว่าคุณจะได้เคล็ดลังยาทั้งฉบับเหรอ?”
“ถึงคุณจะได้เป็นผู้สืบทอดจริงๆ หรือกระทั่งได้เป็นเจ้าบ้านตระกูลหลิน คุณก็ไม่ได้เคล็ดทั้งหมดมาหรอก”
“เคล็ดนี้มีแต่นายท่านใหญ่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ทั้งหมด!”
หลินอิ่งขมวดคิ้ว ถามด้วยความสงสัย “คุณจะเอาแค่ส่วนเดียว? ส่วนเดียวจะมีประโยชน์อะไร?”
“ใช่! คุณไม่ต้องสนใจว่าผมจะเอาไปอะไร” ซือคงฟู่กล่าวเรียบ
เคล็ดลังยาส่วนเดียว เป็นส่วนที่อาจารย์กู้ต้าต้องการ จะมีประโยชน์อะไรนั้น แม้แต่เขาซือคงฟู่ก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน
“ตอนนี้ คุณชายรองหลินเซี่ยวก็ตายด้วยน้ำมือคุณแล้ว คุณชายอิ่งสร้างบารมีคุณชายสามแห่งตระกูลหลินได้แล้ว เหลือแต่คุณชายใหญ่ที่เป็นคู่แข่งของคุณ ขอแค่คุณเอาชนะเขาได้ ถึงตอนนี้ก็จะได้เคล็ดลังยาส่วนหนึ่งมา”
“นี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย” ซือคงฟู่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หลินอิ่งหน้านิ่ง “แล้วถ้าผมเอาชนะคุณชายใหญ่ไม่ได้ล่ะ?”
“เอาชนะไม่ได้?” ซือคงฟู่ส่ายหน้า “ผมเป็นประกันได้ว่ากองกำลังที่หนุนหลังคุณชายใหญ่ขัดขวางคุณไม่ได้แน่ แต่ถ้าคุณยังเอาชนะเขาไม่ได้อีก เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ งั้นผมก็จนปัญญาแล้ว”
“แน่ล่ะ ผมเชื่อว่าคุณชายอิ่งทำได้ แต่ถึงจะเอาชนะเขาไม่ได้จริงๆ เสียอำนาจในตระกูลหลินไป อย่างมากคุณก็แค่ย้ายสำนักเข้าแก๊งมังกรก็ได้ ถึงยังไงคุณชายอิ่งก็ร่อนเร่อยู่ด้านนอกมาแต่เล็ก ไม่มีความผูกพันอะไรกับตระกูลหลินอยู่แล้ว”
“เข้าแก๊งมังกร?” หลินอิ่งประหลาดใจขึ้นมา “ผมเข้าแก๊งมังกรได้ด้วยเหรอ?”
ซือคงฟู่หัวเราะ “เรื่องนั้นไว้ว่ากันทีหลัง ด้วยความสามารถของคุณชายอิ่ง เข้าแก๊งมังกรได้สบายๆ แต่ไหนมาอาจารย์กู้ต้าก็ชื่นชมคนรุ่นใหม่ ผมช่วยคุณจัดการสักหน่อย แค่หาตำแหน่งมาอยู่ในแก๊งมังกรไม่เป็นปัญหา”
หลินอิ่งหัวเราะแล้วพูด “ในเมื่อเป็นเรื่องในอนาคต งั้นก็ว่ากันทีหลังแล้วกันครับ”
ซือคงฟู่ก็หัวเราะด้วย มองหลินอิ่งลึกแล้วถาม “วันนี้ ที่คุณชายอิ่งฆ่าหลินเซี่ยวได้ก็น่าตกใจจริงๆ คุณชายอิ่งไม่ได้อยู่ในตระกูลหลินแต่เล็ก ไม่ทราบว่าบูโดร้ายกาจนี้เรียนมาจากไหนหรือ?”
ซือคงฟู่ฉงนใจอยากรู้จริงๆ นั่นแหละ
ด้วยอายุของหลินอิ่ง กลับมีกำลังบูโดถึงเพียงนี้ได้ ช่างน่าตกใจจริงๆ
อีกอย่าง ที่หลินอิ่งฆ่าหลินเซี่ยวได้ในเวลาอันสั้น นี่ก็ทำให้ซือคงฟู่ตะลึงอยู่เหมือนกัน
เขารู้สึกเสียดาย ตอนนั้นเขากำลังติดพันอยู่กับผู้อาวุโสตระกูลหลินอยู่ ไม่มีโอกาสดูชัดว่าหลินอิ่งใช้บูโดสำนักไหน