ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 715 เหยียบเขาลังยา
เมื่อได้ฟังการลอบถามของซือคงฟู่แล้ว
หลินอิ่งก็ทำหน้านิ่ง เกิดความระแวดระวัง
ฐานะของซือคงฟู่ ทำให้เขาต้องปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวัง
“การต่อสู้ของผมกับหลินเซี่ยวในวันนี้ คุณซือคงมองไม่ออกเหรอครับ?” หลินอิ่งถามหน้านิ่ง
หลินอิ่งรู้ว่าซือคงฟู่เป็นคนในสำนักโหมวของแก๊งมังกร งานหลักของสำนักนี้ก็คือการคิดแผนรายงานข่าว ไม่แตกฉานด้านบูโดสักเท่าไหร่
ซือคงฟู่หัวเราะ “คุณชายอิ่งเห็นผมเป็นพวกสามเศียรหกกรหรือไงกัน? รับมือกับสองอาวุโสตระกูลหลิน แล้วยังมีตาไปมองศึกของคุณชายอิ่งอีกหรือ?”
การต่อสู้กับหลินเซี่ยวในวันนี้ เขาใช้แค่กระบวนท่าธรรมดาเท่านั้น ตอนสุดท้ายที่ซัดจุดตายถึงได้ใช้พลิกทะเลพิชิตมังกรของทางมังกรเหลือง
อย่าว่าแต่ซือคงฟู่ที่กำลังติดพันกับคนอื่นอยู่แล้ว ถึงเขาจะแสดงต่อหน้าซือคงฟู่อีกครั้ง อีกฝ่ายก็ยังจับทางไม่ได้อยู่ดี
การต่อสู้นั้นไวดุจสายฟ้า ดวงตาเห็นแต่ภาพติดตาเท่านั้น
อีกทั้งบูโดในแก๊งมังกรมากมายหลายแขนง ห้าสำนักสิบสองฝ่ายล้วนไม่เชื่อมโยงกัน ต่างฝ่ายต่างพัฒนา รับผิดชอบต่อประมุขคนเดียวเท่านั้น
แม้ซือคงฟู่ที่เป็นทูตที่อยู่ข้างตัวอาจารย์กู้ต้า และเคยติดต่อกับนักพรตมังกรเหลือง ก็ยังมองวิชาของมังกรเหลืองไม่ออก
ครั้นแล้วหลินอิ่งจึงเอ่ย “ถ้าคุณซือคงอยากรู้ ผมจะบอกให้ก็ได้”
“บูโดของผมได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ เป็นเคล็ดวิชาตระกูลหลินไม่กี่บท เรียนมาตั้งแต่ยังเด็ก พออยู่กับตระกูลฉีก็ได้อาจารย์ดังท่านหนึ่งให้คำชี้แนะ ทางบูโดก็เลยหลากหลาย” หลินอิ่งพูดหน้านิ่ง
ซือคงฟู่พยักหน้าเล็กน้อย และไม่ถามมากความอีก
เขาพิจารณาคำพูดของหลินอิ่ง… ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาตระกูลหลินมาไม่กี่บท? ตระกูลฉีเชิญอาจารย์ดังมา?
ฟังดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี เพราะตระกูลหลินแห่งลังยาเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งบูโด วิชามากมายหลายหลาก ตระกูลฉีก็มีธุรกิจใหญ่โต มีเงินทองบารมีชุบเลี้ยงผู้ฝึกบูโด
หลินอิ่งออกจากตระกูลแต่เล็ก เติบใหญ่ในที่เล็กๆ มีพรสวรรค์บูโดเชื้อจากตระกูลหลิน ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ก็ไม่ถือว่าเกินเลยไปนัก
เมื่อนั้นซือคงฟู่จึงไม่สงสัยหลินอิ่งอีก
เพราะซือคงฟู่เป็นคนหยิ่งในตน เขาไม่เชื่อว่าอยู่กับหลินอิ่งแล้ว หากหลินอิ่งเป็นเป้าหมายที่สงสัยจริงจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้!
อีกอย่าง ตอนนี้ก็จับมือเป็นพันธมิตรกับหลินอิ่งแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยชักจูงแนะนำให้อาจารย์กู้ต้ารู้จัก
ถึงจะเล็ดลอดสายตาเขาไป แต่ก็พ้นสายตาอาจารย์กู้ต้าไม่ได้หรอกมัง?
เมื่อไร้ความกังวลแล้ว การพูดคุยของซือคงฟู่จึงผ่อนคลายลงมาก
“คุณชายอิ่งไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” ซือคงฟู่พูดเนิบ “ตอนผมอายุเท่าคุณ แค่ขึ้นรายการแห่งคนได้ก็ดีใจกระโดดโลดเต้นแล้ว ภูมิใจเสียไม่มี ”
“แต่คุณชายอิ่งกลับมีพลังถึงรายการแห่งดินขั้นสูงแล้ว ต่อไปต้องขึ้นถึงรายการแห่งฟ้าขั้นสุดยอดได้แน่”
หลินอิ่งกล่าวไปแบบธรรมดา “แต่การที่คุณซือคงมีตำแหน่งสูงในแก๊งมังกรได้ นี้ก็เห็นแล้วว่าต้องฝึกสำเร็จในภายหลัง”
“คุณซือคงก็น่าจะรู้คำพูดนี้ดี เบื้องล่างรายการแห่งฟ้าก็เป็นแค่มดแมลง ผู้ฝึกบูโดที่ไม่สามารถถึงรายการแห่งฟ้าได้ อย่างไรก็เงยหน้าไม่ขึ้น ”
ซือคงฟู่กำลังหยั่งเชิงหลินอิ่ง
ทว่าคำพูดหลินอิ่งประโยคนี้ก็กำลังหยั่งเชิงเขาเช่นกัน
เพราะจนถึงตอนนี้หลินอิ่งก็ยังมองพลังของซือคงฟู่ไม่ออก ตาแก่คนนี้ปกปิดเสียมิดชิดเชียว
“ฮ่าๆ!” ซือคงฟู่หัวเราะชอบใจ ราวกับถูกหลินอิ่งพูดโดนจุด ท่าทางภาคภูมิใจมาก “ถูกต้อง! ตอนนั้นผมเป็นคนธรรมดาในกลุ่มรุ่นเดียวกันของสำนัก แต่สุดท้ายก็ได้แสดงความโดดเด่นออกมา”
“รายการแห่งฟ้าน่ะนะ โอกาสหายาก ขั้นนี้ได้แต่พบพานไม่อาจขอ” ซือคงฟู่ค่อยวาที “หากคุณชายอิ่งโชคดีได้เคล็ดลังยามา บางทีอาจเข้าถึงความล้ำลึกได้บ้าง”
“ก็ขอให้เป็นอย่างที่หวังล่ะครับ” หลินอิ่งหัวเราะ ดื่มชาอึกหนึ่ง
“ด้วยความสามารถของคุณชายอิ่ง ต้องได้อย่างที่หวังแน่” ซือคงฟู่ก็หัวเราะดื่มชาด้วย
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยสัพเพเหระ
ตอนนี้หลินอิ่งแน่ชัดแล้ว ว่าฝีมือซือคงฟู่ต้องถึงระดับรายการแห่งฟ้า
ก่อนที่เขาจะคืนกำลังตามเดิม จะผิดใจกับคนผู้นี้ไม่ได้เด็ดขาด
อีกอย่าง ซือคงฟู่ก็มีประโยชน์มาก ไม่เพียงแต่เป็นอาวุธร้ายชิ้นหนึ่ง แถมยังเลาะถามเรื่องอาจารย์กู้ต้าได้จากเขาอีก
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง หลินอิ่งก็เหมือนมีเรื่องพูด “คุณซือคงครับ ยังมีอีกเรื่อง ก่อนหลินเซี่ยวจะตาย เขาบอกว่าอาจารย์ของเขานักพรตมังกรเหลืองจะมาแก้แค้นให้เขา”
เมื่อได้ยินดังนั้นซือคงฟู่ก็แวบความเย็นชาออกมา เอ่ย “มีเรื่องเช่นนี้ ก็หลินเซี่ยวเป็นลูกศิษย์ของนักพรตมังกรเหลืองนี่”
“แต่คุณชายอิ่งไม่ต้องกังวลไป นักพรตมังกรเหลืองไม่กล้าออกจากมณฑลหวงไห่ง่ายๆ หรอก เขาไม่มาหาเรื่องคุณเพราะศิษย์คนนี้แน่ และถึงเขาจะมา คุณชายอิ่งก็วางใจได้เลย มีผมซือคงฟู่อยู่ จะไม่ให้เขามาอาละวาดได้แน่” ซือคงฟู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เหรอครับ?” หลินอิ่งชักสนุก เหมือนซือคงฟู่จะมีความขัดแย้งกับนักพรตมังกรเหลืองเล็กน้อย
หลินอิ่งรู้ความเป็นมาของนักพรตมังกรเหลือง แต่ไม่รู้จักกับเขา และไม่รู้สถานการณ์ในแก๊งมังกรตอนนี้ด้วย
“เท่าที่ผมรู้มา นักพรตมังกรเหลืองเป็นที่ยกย่องในแก๊งมังกร เป็นผู้อาวุโสที่มากด้วยประสบการณ์ มีคุณธรรมสูงส่ง คุณซือคงจะเอาเขาอยู่หรือ?” หลินอิ่งพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“เหอะๆๆ” ซือคงฟู่หัวเราะแห้ง คิดว่าหลินอิ่งแค่ระมัดระวังเท่านั้น “คุณชายอิ่ง แก๊งมังกรมีอาจารย์กู้ต้าเป็นประมุข ถึงมังกรเหลืองจะมีคุณธรรมสูงส่ง เป็นที่นับหน้าถือตายังไงก็ต้องดูสถานะของตัวเอง พูดในอีกแง่มุมหนึ่ง คุณชายอิ่งเป็นพันธมิตรกับผม ก็ถือว่าร่วมมือกับอาจารย์กู้ต้าด้วย เขากล้าขัดขวางอาจารย์กู้ต้าหรือ?”
“การที่คุณชายอิ่งฆ่าศิษย์ของมังกรเหลืองก็เป็นความต้องการของผมเหมือนกัน! พูดตามตรง คนที่ผมพามาคือองครักษ์ของมังกรเขียว เขาเองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ด้วย ก็เลยให้การสนับสนุนคุณกับผมที่ชางโจว คาดว่าคุณชายอิ่งน่าจะรู้ว่ามังกรเขียวเป็นใคร คุณกับเขาก็อยู่ตี้จิงเหมือนกัน เอาไว้เสร็จเรื่องที่นี่แล้วผมค่อยแนะนำให้คุณรู้จัก ”
ว่าแล้วซือคงฟู่ก็หัวเราะสะใจ จิบชาสบายอารมณ์
ถูกต้อง! ที่หลินอิ่งสังหารหลินเซี่ยว ซือคงฟู่ก็อยากเห็นผลลัพธ์แบบนี้นี่แหละ ชอบใจนัก
เขากับนักพรตมังกรเหลืองมีความแค้นดั่งขุนเขา การเอาคืนทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
หลินอิ่งพูดไปเรียบๆ “งั้นก็ดีครับ”
ซือคงฟู่เหมือนกำลังคิดถึงอะไร พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พรุ่งนี้คุณชายอิ่งยังต้องขึ้นเขาลังยาอีกละสิ? ผมยังไม่สะดวกจะไปกับคุณ คุณชายอิ่งต้องระวังให้มาก ผมจะรอคุณอยู่ที่ชางโจว”
“ครับ” หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย “ได้เวลาแล้ว คุณซือคงรอฟังข่าวจากผมเถอะ”
ครั้นแล้วทั้งสองก็แยกทางกัน
หลินอิ่งพาจางฉีโม่กลับไปนอนพักที่โรงแรม
เช้าวันถัดมา…
เมื่อหลินอิ่งและจางฉีโม่ตื่นนอนและลงจากตึก
ฉินเหิงเยว่ได้ขับรถมารออยู่ที่ชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว เขามารับหลินอิ่งและคุณนายหลินไปเขาลังยา