ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 734 คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
“แกว่าไงนะ? แกบอกให้คุณหนูใหญ่หลินออกมาเจอแกอย่างนั้นเหรอ? แกนี่ช่างกล้าจริงๆนะ!”หญิงชุดสูทดำชำเลืองตามองหลินอิ่งด้วยสายตาดูถูก”แกรู้ไหมว่าคุณหนูใหญ่หลินที่นั่งอยู่ในรถมีสถานภาพอะไร?”
หลินอิ่งพูดถามขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก”สถานภาพอะไร?”
“อะไรนะ? หรือว่าแกไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่หลิน? แม้แต่หลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยก็ไม่รู้จัก?”หญิงชุดดำพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทีดูถูก”ช่างเป็นพวกแมลงที่น่าสมเพชสิ้นดี เป็นผู้ชายมีมือมีเท้าซะเปล่า แต่ยังมาเป็นมิจฉาชีพรีดไถ่เงินเลี้ยงชีพ ขนาดจะรีดไถ่ก็ยังไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่แหกตาดูว่าเป็นใคร กล้าจะมาขู่รีดไถ่เงิน?”
“ฉันจะพูดกับผู้ชายไร้ค่าแบบแกเป็นครั้งสุดท้าย รีบไสหัวไปซะ ถ้ายังมารบกวนการพักผ่อนของคุณหนูใหญ่หลินที่อยู่ในรถ แกก็เตรียมสูญหายไปจากจี้โจวได้เลย!”
หญิงชุดสูทดำสองมือกอดอก มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
สำหรับเธอแล้ว หลินอิ่งกับคนขับคนนี้ก็คือคนที่โง่เขลาสุดๆ ขู่เข็ญรีดไถ่เงินไม่คิดว่าจะมารีดไถ่ต่อหน้าของคุณหนูใหญ่หลิน ช่างไม่กลัวตายจริงๆ
ในจี้โจว มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่หลินบ้าง?
คุณหนูใหญ่หลินหวูซิน รองประธานของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย บุคคลหมายเลขสามของคณะประธานกรรมการ ไม่เพียงแต่จะถือครองทรัพย์สินที่มากมายแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่โดดเด่นจำนวนนับไม่ถ้วนของเจียงเป่ยอีกด้วย
ตอนที่คุณหนูใหญ่หลินหวูซินอยู่ที่ชางโจวก็ถูกขนานนามว่าสาวสวยอันดับหนึ่งสองปีก่อนมาปักหลักอยู่ที่จี้โจวแห่งเจียงเป่ย ก็ยิ่งมีชื่อเสียงที่น่าทึ่งมากขึ้น มีชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ความสามารถจำนวนนับไม่ถ้วนคอยตามจีบ ขนาดคุณชายใหญ่ของตระกูลเผยอันดับหนึ่งของจี้โจวก็ยังดิ้นรนไล่ตามจีบ
ผู้หญิงที่สูงส่งเฉียดฟ้าแบบนี้ จะให้คนธรรมดาสกปรกหยาบคายแบบนี้มาดูหมิ่นเหยียดหยามได้อย่างนั้นเหรอ?
ชายมิจฉาชีพคนนี้ยังกล้าให้คุณหนูใหญ่หลินออกมาเจอเขาอีก?
พฤติกรรมของเขา คำพูดคำจาทั้งหมดของเขา ถ้าเกิดดังไปถึงภายในแวดวงไฮโซของจี้โจวล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีลูกหลานที่ทรงพลังอำนาจมากมายที่จะโมโหขุ่นเคืองแทนคุณหนูใหญ่หลิน จัดการสังหารคนโง่เขลาแบบเขาไปซะ
“ผมก็จะพูดเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน ว่าให้เรียกคนในรถให้โผล่หัวออกมาเจอผม”หลินอิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
บ้าอำนาจไร้เหตุผล ขับรถมาชนรถของคนอื่น ไม่สนว่าจะทำคนได้รับบาดเจ็บไหม แล้วยังมีท่าทีแย่ๆแบบนี้อีก
เขาอยากจะดู ว่าคนของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย ที่นั่งอยู่ในรถโรลส์รอยซ์คันนั้นคือใคร ถึงได้ทำตัวสูงส่งหยิ่งยโสขนาดนี้
“แก!”หญิงชุดสูทดำสีหน้าระเบิดโมโห ยื่นมือชี้มาที่หลินอิ่ง”แกมารนหาที่ตายใช่ไหม? ถึงกล้ามาก่อเรื่องขนาดนี้?”
“หัวหน้างานหลิว ไปเรียกทีมบอดี้การ์ดที่อยู่หลังรถมา มาจัดการไอ้ผู้ชายมิจฉาชีพที่กล้ามาดูหมิ่นศักดิ์ศรีของคุณหนูใหญ่คนนี้ซะ เอาให้หนักเลย”หญิงชุดสูทดำพูดขึ้นอย่างโหดร้าย โบกมือสั่งบอดี้การ์ดชุดสูทที่อยู่ข้างๆ
บอดี้การ์ดชุดสูทที่รูปร่างสูงใหญ่คนนั้น มองหลินอิ่งอย่างเย็นชาหนึ่งที จากนั้นก็เดินตรงไป
“หวงลี่ ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?”
ในขณะนี้เอง ข้างหลังก็มีเสียงที่ไพเราะใสแจ๋วดังขึ้นมา
ด้านหน้าของรถโรลส์รอยซ์ มีชายชราชุดสูทถือร่มคนหนึ่งเปิดประตูรถออก รองเท้าส้นสูงที่ดูสวยงามคู่หนึ่งลงมาเหยียบพื้น
มีหญิงสาวที่งดงามทรงเสน่ห์เหนือใครลงมาจากรถ สวมชุดกี่เพ้าสีเขียวแกมน้ำเงิน ท่าทางสง่างาม
ดวงตาเรียวเล็กของเธอดูมีจิตวิญญาณ จ้องมองหลินอิ่ง กำลังมองสำรวจอะไรอยู่
“อา!คุณหนูใหญ่หลิน ท่าน ทำไมท่านถึงลงมาจากรถ ไอ้หมอนี่มันสมควรตายจริงๆ ถึงมารบกวนการพักผ่อนของคุณหนูใหญ่”
หวงลี่พูดขึ้นด้วยความตกใจ สีหน้าท่าทางตื่นตระหนกสุดๆ
พอเห็นหลินหวูซินไม่มีท่าทีใดๆ แค่จ้องมองหลินอิ่ง หวงลี่ก็ลนลานขึ้นมาทันที
“หัวหน้างานหลิว นายยังมัวอึ้งอะไรอยู่? ยังไม่ให้คนไปจัดการไอ้สารเลวที่ขัดหูขัดตานี่อีก? จะดึงดันรอให้คุณหนูใหญ่โกรธหรือไง?”
“พอได้แล้ว หวงลี่ ถ้าให้อภัยได้ก็ให้อภัยเถอะ อย่ากดขี่ข่มเหงคนมากเกินไป คุณผู้ชายท่านนี้กับคนขับรถก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย”
หลินหวูซินเปิดปากพูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย น้ำเสียงใสแจ๋วไพเราะผิดปกติ
พูดจบ หลินหวูซินก็มองมายังหลินอิ่ง พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”คุณผู้ชาย ฉันขอแสดงความขอโทษกับเรื่องรถชนในครั้งนี้ด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการค่าชดใช้อะไรไหม?”
หลินอิ่งมองหลินหวูซิน รู้สึกสนใจขึ้นมา
เขารู้สึกว่า หลินหวูซินสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองจี้โจวคนนี้ หน้าตาเหมือนกับแม่เฒ่าตระกูลหลินอย่างมาก โดยเฉพาะสองตาเรียวเล็กคิ้วละเอียดอ่อนคู่นั้น เหมือนกับแม่เฒ่าตอนสาวๆมาก
“ไอ้โจรใจหมา!ไม่คิดว่าแกจะกล้าจ้องมองคุณหนูใหญ่หลินแบบนี้? ถ้าขืนยังจ้องต่ออีกฉันจะควักลูกตาของแกออกมาซะ!”หวงลี่พูดด่าทอออกมาด้วยความโมโห”ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณหนูใหญ่จิตใจดีมีเมตตา จากการกระทำในตอนนี้ของแก ป่านนี้ตีแกตายคาที่ไปแล้ว!”
สำหรับเธอแล้ว หลินอิ่งนี่ช่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเลยจริงๆ คุณหนูใหญ่หลินอุส่ามีความเมตตาไม่ถือโทษต่อแล้ว แถมยังพูดดีๆกับเขาอีกด้วย แต่ไอ้สารเลวนี่กลับกล้ามาจ้องมองคุณหนูใหญ่อย่างไร้ยางอายแบบนี้อีก นี่มันหลงเสน่ห์ตื่นตาตื่นใจกับความงามของคุณหนูใหญ่ แล้วเกิดความคิดมิดีมิร้ายขึ้นมาชัดๆ
“พอได้แล้ว หวงลี่ เธอถอยไปก่อน”หลินหวูซินพูดขึ้นมาหนึ่งประโยคด้วยความไม่สบอารมณ์ แล้วก็หลบสายตาของหลินอิ่งด้วยความอับอาย
หลินหวูซินเคยเห็นชายหนุ่มมีพรสวรรค์มากความสามารถมามากมาย หลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ ต่างก็มองไม่ละสายตาไปไหนทั้งนั้น เธอมักจะไม่ชอบพวกคนประเภทนี้ แต่หลินอิ่งไม่เหมือนกัน แสงสว่างในแววตา มันบริสุทธิ์ ลึกซึ้งเกินคาดเดา กลับทำให้ในใจของเธอรู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ไม่น้อย
หลินอิ่งหันสายตากลับมา พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”คุณควรจะควบคุมลูกน้องของตัวเองให้ดีๆหน่อยนะ ขบวนรถของคุณมาชนรถของคนขับรถคนนี้เสียหาย ก็ควรจะชดใช้ให้เขา เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ”
หลินหวูซินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น”ที่คุณพูดมาก็ถูก หวงลี่ ขอโทษคนขับซะ ส่วนรถที่ชนเสียหาย เอาเงินให้เขาสองแสน”
หวงลี่ขมวดคิ้ว ขอโทษคนขับด้วยความไม่เต็มใจ จากนั้นก็ให้เงินเป็นค่าตอบแทน
คนขับวัยกลางคนสีหน้าตกใจ รับเงินมาอย่างระมัดระวังและเกรงกลัว มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
หลินอิ่งก็ไม่ได้พูดอะไร หันตัวเดินจากไป ขวางด้วยรถแท็กซี่หนึ่งคัน
แม้หลินหวูซินจะมาจากตระกูลชั้นสูงทรงเกียรติ เขาก็ไม่อยากถือสาเอาความอะไรมากมายกับผู้หญิงเพียงเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้
“คุณหนูใหญ่ ไอ้หมอนั่นจะต้องเป็นพวกเดียวกับคนขับแน่ๆ เป็นพวกมิจฉาชีพ ท่านเกรงใจขนาดนี้กับพวกมันทำไม แถมยังปล่อยพวกมันไปอีก ให้มันได้รีดไถ่เงินไปอย่างสาสมใจด้วย”หวงลี่พูดอยู่ข้างๆ รังเกียจหลินอิ่งสุดๆ
“ผู้ชายไร้ค่าแบบนี้ ควรจะตายไปเร็วๆซะ!เพื่อที่จะไม่ต้องไปทำร้ายคนอื่นอีก”
“มีปัญหาน้อยมันก็ดีแล้ว ไม่ต้องไปใส่ใจเยอะเกินไปหรอก กลับบริษัทกันก่อนเถอะ วันนี้ยังมีธุระอีก”หลินหวูซินพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ไม่ได้พูดอธิบายอะไรอีก หันกลับขึ้นรถไป
หลินหวูซินก็ไม่มีทางโผล่หน้าออกมาเพียงเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้เหมือนกัน แต่ เธอถูกรูปร่างหน้าตาของหลินอิ่งดึงดูดเข้า เกิดรู้สึกดีกับชายแปลกหน้าคนนี้ขึ้นมา
แววตาที่ลึกของหลินอิ่งคู่นั้น มันเหมือนกับทวดมากๆ บุคลิกลักษณะก็คล้ายๆกันด้วย มันทำให้หลินหวูซินรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในตัวของหลินอิ่ง
ตอนเด็กเธอเป็นที่รักที่โปรดปรานที่สุดของตระกูลหลินแห่งลังยา เป็นหลานสาวของนายท่านใหญ่ตระกูลหลิน นายท่านใหญ่ตระกูลหลินอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ตำแหน่งในตระกูลสูงส่งมาก
หลังจากผ่านไปยี่สิบกว่านาที
หลินอิ่งก็นั่งรถมาถึงอาคารหลินซื่อ สำนักงานใหญ่ของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย
อาคารหลังนี้มีแปดสิบกว่าชั้น ตั้งตระหง่านกว้างใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองที่คึกคักคนพลุกพล่าน
หลินอิ่งหันไปมอง ก่อนจะเข้าไปในล็อบบี้อย่างช้าๆ
ภายในล็อบบี้ชั้นหนึ่ง ชายหญิงที่โดดเด่นมีความสามารถสวมชุดสูทรองเท้าหนังเดินไปมาเต็มไปหมด
หลินอิ่งไขว้สองมือ กำลังเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์
จู่ๆ ก็มีผู้หญิงชุดสูทสีดำคนหนึ่งเดินตรงเข้ามา หยุดอยู่ตรงหน้าของหลินอิ่งทันที สีหน้าเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโมโหขึ้นมา
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ไอ้มิจฉาชีพแบบแกคิดที่จะทำอะไร?”
คนที่มาก็คือผู้ติดตามของหลินหวูซิน หวงลี่นั่นเอง พอเห็นหลินอิ่งเธอก็ร้องเรียกออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นสีหน้าก็รังเกียจ
“แกคงจะไม่ได้มาคุกคามก่อกวนคุณหนูใหญ่หลินหรอกใช่ไหม? ทำไม? เงินสองแสนที่คุณหนูใหญ่หลินให้แกไปไม่พอที่จะเฉดหัวแกไปเหรอ? ถึงได้ยังกล้ามาก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายถึงหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย?”หวงลี่สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน พูดถึงหลินอิ่งเหมือนกับตัวเองรู้เรื่องรู้ราวเป็นอย่างดี