ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 737 นายเข้าใจความหมายของฉัน
พอเห็นหลินอิ่งยังไม่มีท่าทีใดๆ หลินหวูซินก็ตึงเครียดกดดันสุดๆ มองสำรวจการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของหลินอิ่งอย่างระมัดระวัง
ในเวลานี้เอง หลินอิ่งสีหน้าเย็นชา สร้างความกดดันอันใหญ่หลวงในใจของเธอ มีภาพลวงตาเหมือนกับกำลังเผชิญหน้าอยู่กับนายท่านใหญ่ตระกูลหลินที่เข้มงวดอยู่
หลินอิ่งกลับจากตี้จิงมาที่ตระกูลหลินแห่งลังยา การที่มาในครั้งนี้ได้รับมอบหมายจากแม่เฒ่าให้มาที่จี้โจวก็ยิ่งสร้างความโกลาหลวุ่นวายมากขึ้นไปอีก
สักพักชื่อเสียงของหลินอิ่งก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น หลินหวูซินก็ตั้งใจไปศึกษาทำความเข้าใจกับประวัติในอดีตของเจ้านายคนก่อนคนนี้มาเป็นพิเศษแล้วเหมือนกัน เป็นหลานชายของอาสิบสองหลินซวนหวา ลูกชายของอาซูชิง
เมื่อก่อนอยู่ที่ตี้จิงก็มีชื่อเสียงที่โด่งดังมากๆ คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงที่ทรงพลังและสง่างาม มั่งคั่งร่ำรวยเทียบเท่าระดับทรัพย์สินของชาติ มีพลังอำนาจมากมาย
ต่อมากลับมาที่ชางโจว ก็ฆ่าคุณชายรอง หลินเซี่ยวทิ้งเพื่อประดับบารมี ถึงขนาดที่อำนาจอิทธิพลที่มากมายขนาดนั้นแบบผู้อาวุโสสองก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้
มีข่าวลือมาจากข้างนอกว่า หลินอิ่งโหดเหี้ยมอำมหิต จิตใจโหดร้าย ฆ่าคุณชายรอง หลินเซี่ยวได้ลงคอ การกระทำท่าทีนี้แค่เห็นก็รู้ทั้งหมดแล้ว
แล้วตอนนี้ข้ารับใช้มาสร้างความลำบากให้กับหลินอิ่ง หลินหวูซินไม่มั่นใจจริงๆว่าหลินอิ่งจะเกรี้ยวกราดแล้วลงมืออย่างโหดเหี้ยมทารุณหรือไม่
“คุณชายสาม ผู้ถือหุ้นระดับสูงของบริษัททุกคนเตรียมมาต้อนรับท่านกันเรียบร้อยแล้ว จัดงานเลี้ยงไว้เสร็จแล้วด้วย ท่านจะไปดำรงตำแหน่งที่บริษัทกับฉันไหม? ฉันจะกลับไปทบทวนข้อบกพร่องในการทำงานของฉันค่ะ”หลินหวูซินสีหน้าตึงเครียดกดดัน พูดถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“เอ่อนี่มัน……”พอเห็นท่าทางที่ตึงเครียดอยู่ไม่สุขของหลินหวูซิน ใจของหวงลี่ก็ตื่นตระหนกไปหมด
อยู่ข้างกายของคุณหนูใหญ่หลินมานานขนาดนี้ เธอยังไม่เคยเห็นคุณหนูใหญ่ท่าทางตึงเครียดกดดันขนาดนี้มาก่อน
ตึ้ง!
จู่ๆ หวงลี่ก็คุกเข่าลง คุกเข่าลงที่เท้าของหลินอิ่งไปตรงๆ
“คุณชายสาม ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอให้ท่านให้อภัยฉันด้วยเถอะค่ะ ฉัน ฉันไม่ได้จงใจที่จะทำผิด ปากพล่อยๆนี้ของฉันควรจะโดนตบให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ”หวงลี่ตกใจจนน้ำตาแทบร่วงหล่น ขอร้องอ้อนวอน
หลินอิ่งส่ายหัว ขี้เกียจที่จะหันไปมองหวงลี่ กำลังที่จะพูดอะไรบางอย่างกับหลินหวูซิน
เสียงตี๊ดๆก็ดังขึ้นมา
ในตอนนี้ มือถือของหลินหวูซินดังขึ้นมา
เธอมองคนที่โทรมา สีหน้าสงสัย มองไปยังหลินอิ่ง พร้อมกับพูดรายงาน”คุณชายสาม คุณชายใหญ่โทรศัพท์มาหาฉันค่ะ”
“หลินเซวียนโทรหามา?”หลินอิ่งเริ่มรู้สึกสนใจ
จากท่าทางการแสดงออกของหลินหวูซินสามารถมองออกได้ว่า เธอบกพร่องในการทำงานจริงๆ ไม่ได้เตรียมการเรื่องการต้อนรับไว้จริงๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ตนเองยากลำบาก
ว่ากันตามลำดับความอาวุโสแล้ว หลินหวูซินเป็นหลานสาวของคุณชายใหญ่หลินเซวียน แต่แค่ว่าหลินเซวียนเป็นลูกนอกสมรส ความสัมพันธ์กับหลินหวูซินจึงไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันขนาดนั้น
“คุณชายสาม เมื่อตะกี้ฉันก็ได้รับสายจากคุณชายใหญ่ บอกว่าท่านมาถึงจี้โจวแล้ว เขาบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับท่านค่ะ”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
หลินอิ่งพูดตอบ”รับสายเถอะ”
หลินหวูซินพยักหน้า รับโทรศัพท์
“หวูซิน เธอเจอกับหลินอิ่งแล้วยัง?”
ในสาย มีเสียงที่เย็นชาและทรงพลังดังขึ้นมา
“เจอแล้วค่ะ ฉันเจอคุณชายสามแล้ว”หลินหวูซินพูดตอบกลับไปอย่างจริงจัง
“บอกหลินอิ่งว่าฉันต้องการคุยกับเขา”
“ค่ะ”
หลินหวูซินมองไปยังหลินอิ่งพร้อมกับพูดขึ้น”คุณชายสาม คุณชายใหญ่มีเรื่องจะคุยกับท่านค่ะ”
หลินอิ่งรับโทรศัพท์มา ยกมาไว้ที่ข้างหู
“น้องสาม ฉันทำธุระอยู่ที่ต่างแดน ไม่ได้อยู่ที่เมือง ไม่ไปรับนายแล้วกัน”หลินเซวียนพูดด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลย”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
หลินเซวียนพูดขึ้น”มาที่จี้โจวแล้ว นายไปบริหารจัดการหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยให้ดีๆ สมัยก่อนที่ตี้จิงนายก็เก่งในเรื่องการดำเนินจัดการวงการธุรกิจอยู่ไม่น้อย ฉันให้อำนาจกับนาย ส่งมอบงานทั้งหมดของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยให้นายเป็นคนจัดการ เรื่องอื่นๆ นายก็ไม่ต้องไปยุ่งแล้วเหมือนกัน”
“จัดการหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยเสร็จแล้ว ธุรกิจของวงการธุรกิจเป็นของนายทั้งหมด”
“อ๋อ? ให้อำนาจกับผม?”หลินอิ่งยิ้มๆ”คุณหมายความว่ายังไง?”
แค่หลินเซวียนอ้าปากพูด หลินอิ่งก็เข้าใจเจตนาของเขาแล้ว
ให้อำนาจทั้งหมดกับตัวเองในการดำเนินจัดการหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย เปิดการประชุมหกตระกูลลึกลับโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวอะไร หลินเซวียนคิดที่จะกำจัดตัวเองออกไป เขาจะได้จัดการเรื่องของแวดวงลึกลับเพียงคนเดียว
พูดง่ายๆก็คือ คิดที่จะให้ตัวเองยอมจำนนอยู่ที่จี้โจวซะ แล้วตักตวงผลประโยชน์จากวงการธุรกิจก็พอแล้ว
“นายไม่เข้าใจความหมายของฉัน”หลินเซวียนพูดยิ้มๆอย่างขี้เล่น
“นายทำหน้าที่ของตัวเองแต่โดยดีซะ เชื่อฟังฉัน ฉันก็จะเหลือที่ในตระกูลหลินไว้ให้กับนาย ให้นายได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งโรจน์และมั่งคั่งอย่างไม่รู้จบ”หลินเซวียนพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ”ของที่นายไม่ควรได้ นายก็อย่าคิดเพ้อฝันไปเลย นายมีคุณสมบัติพอที่จะมาสู้กับฉันหรือเปล่า นายเองก็รู้ดี เหมือนที่เขาว่ากันว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของคนก็คือการรู้จักตัวเองยังไงล่ะ”
“เหอะ”หลินอิ่งสบถออกมาอย่างเย้ยหยัน”ถ้าเกิดผมไม่เชื่อฟังคุณล่ะ?”
“ไม่เชื่อฟัง?”หลินเซวียนก็ยิ้มอย่างเย็นชา”ที่ภูเขาลังยาฉันก็พูดกับนายชัดเจนแล้วนะ”
“เชื่อฟังฉันก็มีชีวิตอยู่ต่อได้ ถ้าไม่ชื่อฟังฉันก็ตายซะ”
หลินเซวียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”คุณต้องการอะไร ผมก็จะอยู่ไปด้วยกันกับคุณจนถึงที่สุด”
พูดจบ หลินอิ่งก็วางสาย คืนมือถือให้กับหลินหวูซิน
พอหลินหวูซินได้ฟังบทสนทนาของหลินอิ่งกับหลินเซวียนแล้ว สีหน้าก็หนักอึ้งไม่น้อย
เธอฟังออกว่าหลินอิ่งมีความขัดแย้งกับคุณชายใหญ่ ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ค่อยลงรอยกัน
แม้ว่าหลินหวูซินจะเป็นหลานสาวของผู้อาวุโส แต่ในความจริงแล้วความสัมพันธ์กับหลินเซวียนก็ปกติธรรมดามาก
การขัดแย้งต่อสู้กันของสองบุคคลที่ยิ่งใหญ่สองคนนี้ เธอจะไม่มีทางเอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวแน่นอน
“คุณชายสาม ตอนนี้กลับบริษัทไหม? คืนนี้ฉันอยากที่จะเชิญท่านชายไปงานเลี้ยง แล้วก็ให้เหล่าไฮโซของจี้โจวได้รู้ว่าท่านมาดำรงตำแหน่งบริหารดูแลหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย”หลินหวูซินพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง
หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”ได้ กลับบริษัทตอนนี้ ผมมีธุระต้องจัดการพอดี”
ไม่นาน
หลินอิ่งก็กลับมาถึงหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยพร้อมกันกับหลินหวูซิน
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินเคียงกันเข้าไปในอาคารแล้ว ก็ดึงดูดสายตาที่ตกตะลึงของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะพนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์คนนั้นก็ยิ่งตกใจจนอ้าปากค้าง
พวกเขาเพิ่งจะเห็นภาพฉากที่หวงลี่ก้าวก่ายหลินอิ่งทำให้เขาลำบากใจอยู่เลย แล้วตอนนี้กลับเห็นหลินอิ่งกลับมายังบริษัทภายใต้การนำของคุณหนูใหญ่หลินซะอย่างนั้น ส่วนหวงลี่ก็เดินตามคอตกด้วยความหดหู่ท้อแท้อยู่ข้างหลัง ใจของพวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
หลังจากผ่านไปห้านาที ภายในห้องทำงานท่านประธานชั้นที่หกสิบแปด
นี่เป็นห้องทำงานของหลินหวูซิน การตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์ภายในสวยงามหรูหรา ภายในห้องทำงานยังมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย
“คุณชายสาม ห้องทำงานของท่านยังกำลังเตรียมการอยู่ ตอนนี้ท่านใช้ห้องทำงานของฉันชั่วคราวก่อนก็แล้วกันนะคะ”หลินหวูซินยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย นั่งลงที่เก้าอี้เจ้านาย จิบกาแฟไปหนึ่งคำอย่างช้าๆ
“คุณชายสาม คืนนี้ฉันจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กับท่านที่สโมสรจื่อจิน เชื้อเชิญพันธมิตรในวงการธุรกิจที่ให้ความร่วมมือที่สำคัญต่อธุรกิจของบริษัทมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับการดำรงตำแหน่งของท่าน ขอให้ท่านได้โปรดมาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยค่ะ”หลินหวูซินพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ได้”หลินอิ่งพยักหน้า”ใช่แล้ว ข้อมูลการร่วมงานกันทั้งหมดของบริษัทกับตระกูลเผยอยู่ที่ไหน? เอามาหน่อย”
“เอ่อ……”หลินหวูซินพูดขึ้นอย่างลำบากใจ”คุณชายสามคะ ก่อนหน้านี้สามสี่วันคุณชายใหญ่ปิดผนึกข้อมูลโปรเจกต์การร่วมงานกันของหลินซื่อกับตระกูลเผยไปหมดแล้ว ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตรวจดูเหมือนกันค่ะ”
หลินอิ่งพยักหน้า”ออกไปก่อน”
“ค่ะ”หลินหวูซินตอบรับ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานแล้วปิดประตูไป
หลินอิ่งพิงลงที่เก้าอี้ มองไปยังวิวทิวทัศน์ที่อยู่นอกหน้าต่างของอาคาร จุดบุหรี่หนึ่งมวน
ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็โทรไปหาจ้าวเฉิงเฉียน นอกจากนี้ก็ใช้โทรศัพท์ใส่รหัสผ่านส่งข้อความไปหาซือคงฟู่ด้วยเหมือนกัน