ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 86 มีคนมาจากตระกูลหวาง?
บทที่ 86 มีคนมาจากตระกูลหวาง?
หลินอิ่งเหลือบมองไปที่จางหงจูน
หลังจากนั้น เขาก็มองไปที่จางฉีโม่ สายตาของเขาอ่อนโยนลงเล็กน้อยและพูดว่า “ฉีโม่ คุณเห็นด้วยกับการหย่าหรือไม่?”
การแสดงออกสีหน้าของจางฉีโม่ดูไม่ค่อยดีมาโดยตลอด และเมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลินอิ่ง การแสดงออกของเธอก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย
“ฉันไม่เห็นด้วย” จางฉีโม่กล่าวอย่างเคร่งเครียด “เรื่องของฉันไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาตัดสินแทนฉัน”
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย สายตาของเขาเย็นชามาก และเขามองไปที่คนในครอบครัวของตระกูลจางที่นั่งอยู่รอบๆ
“เรื่องที่ฉีโม่ไม่ตกลงนั้น ไม่มีใครสามารถบังคับเธอได้” หลินอิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นใคร จะอยู่ในฐานะอะไร ถึงเทพพระเจ้าจะมาก็ไม่มีประโยชน์!”
“ใครก็ตามกล้าที่จะบังคับความประสงค์ของฉีโม่ ผมก็จะไม่ปล่อยเขาไว้แน่ๆ!”
“คุณ?”
เมื่อหลินอิ่งกล่าวคำพูดนี้ออกมา พี่น้องสามคนจางหงจูนและพ่อแม่ของฉีโม่ ต่างก็ตกใจในทันที และอึ้งไปกับสายตาที่เย็นชาของหลินอิ่ง
แต่อึ้งไปเพียงชั่วครู่ พวกเขาทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม
ถ้าหวางจื่อเหวินผู้เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหวางพูดสิ่งนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว
เป็นหลินอิ่งไอ้ขยะนั่นเหรอ ยังอยากจะทำให้พวกเขากลัวงั้นหรือ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?
“คุณกำลังขู่ให้พวกเรารู้สึกกลัวเหรอ?” จางหงอี้พูดด้วยสีหน้าที่ดูถูก “ฉันรู้ว่าคุณเคยฝึกกังฟูมาก่อนเล็กน้อย คิดว่าตัวเองเก่งการต่อสู้มากงั้นเหรอ? โง่มากจริงๆ! ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว คุณกล้าที่จะตีฉันหรือไม่?”
“โอ้ย เขาก็เก่งได้เท่านี้แหละ ไม่มีความสามารถอะไรเลย เป็นเรื่องมวยนิดหน่อย ยังอยากจะฆ่าคนอื่นโดยไม่คิดอีกด้วย มันน่าขันจริงนัก” จางหงซวนกล่าวเย้ยหยัน
“ฉีโม่ ทำไมคุณถึงไม่เห็นด้วย? นี่คุณไม่ใช่หาเรื่องหรือ? ยังปล่อยให้หลิ่นอิ่งอยู่ที่บ้านเพื่ออะไร? ฝั่งตระกูลหวางได้เตรียมสินสอดไว้เรียบร้อยแล้ว” ลู่หย่าฮุ่ยพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ และพยายามเกลี้ยกล่อมจางฉีโม่ ถ้าหลินอิ่งไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ครอบครัวของพวกเขาจะเข้าสู่ในตระกูลที่ร่ำรวยได้อย่างไร? จะมีโอกาสอาศัยอยู่ในบ้านวิลล่าและขับรถสปอร์ตได้อย่างไร?
“ช่างมันเถอะ หลินอิ่งไม่ยอมเซ็นชื่อก็ดีเหมือนกัน! พวกเราก็ผ่านกระบวนการทางกฎหมายกันโดยตรงเถอะ จ่ายค่าครองชีพให้เขาเก้าหมื่นหยวนยังไม่รู้จักขอบคุณ” จางหงจูนพูดด้วยความเย่อหยิ่ง “เขาคิดว่าตัวเองต่อสู้เก่งมาก พอดีเลย ผมจะโทรคุณชายหวางให้เขามาที่นี่ แล้วปล่อยให้หลินอิ่งไปสู้กับบอดี้การ์ดของคุณชายหวาง”
“คุณประธานจาง คนของตระกูลหวางมาแล้วอยู่นอกประตู!”
ในขณะนี้ บอดี้การ์ดในชุดสูทเข้ามาอย่างเร่งรีบ และรายงานให้กับจางหงจูน
“พึ่งพูดถึงผู้มีอุปการคุณ ผู้มีอุปการคุณก็มาถึง” จางหงจูนกล่าวด้วยสีหน้าได้ใจ “ไปกันเถอะ พวกเราออกไปต้อนรับกัน! คุณชายหวางน่าจะส่งสินสอดมาแล้ว หลินอิ่ง คุณอยากจะตีคนไม่ใช่เหรอ? คนของคุณชายหวางมาแล้ว คุณไปต่อสู้กับบอดี้การ์ดของคุณชายหวาง!”
“ยังจะต่อสู้เหรอ? ฉันว่านะเขาไม่กลัวจนฉี่ราดใส่กางเกงก็ดีแค่ไหนแล้ว” จางหงอี้พูดพร้อมกับเยาะเย้ย ขณะที่เดินออกไปนอกประตู “อีกอย่าง หลินอิ่ง คนในตระกูลหวางก็มาถึงแล้ว วันนี้ถ้าคุณไม่เรียกผู้หญิงคนนั้นมาคุกเข่าหน้าประตูและขอโทษ คุณก็อย่าคิดว่าจะได้จากไป!”
“หืม หลินอิ่ง คุณก็คอยรอดูแล้วกัน ดูว่าความน่ากลัวของคุณชายหวาง คุณทำให้คุณชายหวางขุ่นเคือง พวกเขามาที่นี่ก็จะมาหาเรื่องของคุณในครั้งนี้ คุณตายแน่ๆ!” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างเย็นชา และวิ่งไปต้อนรับที่หน้าประตูอย่างเร่งรีบ อยากจะสร้างความประทับใจให้กับลูกเขยผู้ร่ำรวยในอนาคตคนนี้
เธออยากให้หวางจื่อเหวินเอาชนะหลินอิ่งจนคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว จนให้เขาเสียความมั่นใจในตนเอง และออกจากตระกูลจางอย่างเชื่อฟัง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับคุณชายหวาง
“หลินอิ่ง คุณจากไปทางประตูหลังเถอะ หวางจือเหวินคนนี้กำลังมาอย่างอุกอาจ เขาจะต้องพาคนมาหาเรื่องของคุณแน่ๆ” จางฉีโม่กล่าวด้วยสีหน้าที่กังวล
“ไม่เป็นไร ออกไปดูให้หน่อยว่า หวังจือเหวินอยากจะเล่นกลเม็ดอะไร” หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น และก็เดินไปที่ทางประตู
ตอนเช้าก็ให้เสิ่นซานจัดกลุ่มกำลังพลแล้ว และรถยนต์สิบสองคันติดตามหวางจือเหวินอย่างลับๆตลอดเวลา เขาจะเล่นกลอะไรได้อีก?
หลังจากนั้นไม่นาน คนก็เดินมาถึงที่หน้าประตูบ้านหลังเก่าของตระกูลจาง
“หลินอิ่ง คุณโทรหาหญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้ และบอกให้เธอมาคุกเข่าขอโทษทันที มิฉะนั้นเธอจะแย่กว่านี้ ถ้าฉันพบเธอ! ก็คือผู้หญิงคนที่ไปเกลือกกลั้วที่ห้อง หลังจากที่คุณออกมาจากหมิงเป่าซวนในวันนั้น ได้ยินมาว่ายังใช้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบด้วยเหรอ?” จางหงอี้พูดเยาะเย้ย ทำสีหน้าเยอะหยิ่ง เท้าเอวแล้วยืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้านหลังเก่า
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมไม่เห็นคุณชายหวางจือเหวินมาเลย?” จางหงจูนมองอย่างงงงวย และมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นใครอยู่แถวๆนั้นเลย
ก่อนหน้านี้หวางจือเหวินไม่ใช่บอกว่าเขาจะนำบอดี้การ์ดหลายสิบคนมาจัดการกับหลินอิ่งหรือ?
“โอ้ คุณหนูใหญ่อย่างข้าอยู่ที่นี่ คนไร้ประโยชน์อย่างหวางจือเหวินจะกล้ามาที่นี่หรือ?”
เสียงผู้หญิงเย็นชาดังออกมา
ไอ้หกและไอ้เจ็ดเปิดประตูรถยนต์ และหวางหงหลิงก็ลงมาจาก Bugatti Veyron สีแดงกุหลาบอย่างกระตือรือร้น ปรับคอเสื้อให้เรียบร้อย และมองไปที่กลุ่มคนของตระกูลจางด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“ยายตัวแสบยังกล้าต่อว่าคุณชายหวางจือเหวิน? ผู้หญิงที่ไร้ยางอายอย่างแก ยังกล้าที่จะอยู่ที่นี่หรือ?” ลู่หย่าฮุ่ยดูหมิ่นหวางหงหลิงและมองไปรถยนต์ที่อยู่ข้างหลังตัวเธอ “ยังทำเหมือนของจริงสักด้วย รถหรูคันนี้เช่ามาหรือเปล่า? อยากจะมาขู่คนเหรอ?”
“พี่สาวสอง ใช่ผู้หญิงคนนี้ ที่ผลักตัวฉันก่อนหน้านี้ และยังกล้าตีฉันที่หน้าบ้านของตระกูลจางด้วย คุณพึ่งบอกว่าจะตามหาเธอ ตอนนี้ไม่ต้องตามหาตัวเธอแล้ว และช่วยฉันแก้แค้นที!” ลู่หย่าฮุ่ยบ่นกับจางหงอี้ “รีบเรียกคนจับเธอไว้ทันที วันนี้เธอต้องคุกเข่าอยู่หน้าบ้านตระกูลจางให้ได้ และยอมรับว่าเธอเคยมีอะไรกับหลินอิ่ง!”
จางหงอี้มองไปที่หวางหงหลิง ด้วยสีหน้าซีดเซียว ผลักมือของลู่หย่าฮุ่ยออกไป และพูดอย่างโหดเหี้ยม “ยัยผู้หญิงปากร้ายรีบหุบปากไปซะ! คุณไม่ห้ามปากตัวเองบ้าง! นี่คือคุณหนูคนโตของตระกูลหวางชื่อว่าหวางหงหลิง คุณอยากหาที่ตายเอง อย่าลากฉันไปด้วย!”
“อ๊ะ! คุณหนูคนโตของตระกูลหวางเหรอ?” ลู่หยาฮุ่ยหน้าซีดด้วยความตกใจ มองไปที่หวางหงหลิงด้วยความไม่น่าเชื่อ ขาแทบจะอ่อนแรงลง
มันจะเป็นไปได้ยังไง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่หลินอิ่งหาอยู่ข้างนอกเหรอ? แม้แต่น้ำหอมกลิ่นกุหลาบบนร่างกายของหลินหยินในคืนนั้นก็ตรงกันแล้ว เหตุใดเธอจึงกลายเป็นคุณหนูคนโตของตระกูลหวางอีกครั้ง?
คนอย่างไอ้ขยะนั่นหลินอิ่ง รู้จักกับคุณหนูคนโตของตระกูลหวางได้อย่างไร?
“หงหลิง ทำไมคุณถึงมาที่นี่? คุณป้าไม่ได้เจอคุณมาตั้งนานแล้ว สวยขึ้นเยอะเลย” จางหงอี้พูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
ถึงจะเป็นสมาชิกของตระกูลหวางเหมือนกัน และก็มีความแตกต่างมากระหว่างสฐานะ หวางหงหลิงเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้านายของตระกูลหวาง สฐานะและอำนาจของเธอนั้นสูงกว่าหวางจือเหวิน พ่อของเธอหวางเฉิงเฉียนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในตระกูลหวาง!
และพ่อของหวางจือเหวินหวางกั๋วคางเป็นคนรับใช้ของผู้บังคับบัญชาของผู้อาวุโสของตระกูลหวาง และหวางโจงสามีของเธอ ซึ่งทำงานเลี้ยงชีพอยู่ภายใต้ของหวางกั๋วคาง ด้วยสฐานะของเธอที่อยู่ในตระกูลหวาง เธอจะกล้าทำให้หวางหงหลิงขุ่นเคืองได้อย่างไร และไม่กล้าที่จะแสดงความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เลยสักนิด
“คุณจะเรียกฉันว่าหงหลิงได้หรือ?” หวางหงหลิงจ้องมองจางหงอี้อย่างเย็นชา และเต็มไปด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย
“ขอโทษค่ะ คุณหนูใหญ่ ฉันเรียกผิดไป ฉันควรจะเรียกว่าคุณหนูใหญ่” จางหงอี้พูดด้วยรอยยิ้ม เธอสามารถแสดงความยิ่งใหญ่อยู่ข้างนอกได้ แต่เมื่อเธอได้พบกับหวางหงหลิง สฐานะของเธอเกือบจะเหมือนกับสาวใช้ของตระกูลหวางไปเลย
“สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้ ฉันได้ยินหมดแล้ว! คุณบอกว่าจะตามหาฉัน และให้ฉันคุกเข่าที่หน้าบ้านของตระกูลจางและขอโทษงั้นเหรอ?” หวางหงหลิงถามอย่างเย็นชา “คุณบอกว่าฉันกับหลินอิ่งมีอะไรกันอยู่ในห้องหรือ? ว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นอีกหรือ?”
เมื่อกี้นี้เธอถูกลู่หย่าฮุ่ยเยาะเย้ยมาก่อนจนกั้นความโกรธไว้ที่นี้ เพราะไว้หน้าของหลินอิ่งเธอจึงไม่ได้โกรธ คราวนี้จางหงอี้เยาะเย้ยและใส่ร้ายเธออยู่ข้างนอก และเธอก็ได้ยินพอดี ครั้งนี้ความโกรธของเธอก็เป็นเหมือนเสียงฟ้าร้องทันที!
ภรรยาของหวางโจง ไอ้ขยะนั่นที่ทำงานอยู่ภายใต้ของหวางกั๋วคางเหมือนสุนัขตัวนึ่ง กล้าดูถูกต่อว่าหวางหงหลิงต่อหน้าเช่นนี้หรือ? ไม่รู้จริงๆแล้วว่าตัวเองกำลังกินข้าวของบ้านไหนอยู่!
ใบหน้าของจางหงอี้ซีดเซียว เหงื่อออกที่หน้าผาก เธอไม่คาดคิดว่าหลินอิ่งไอ้ขยะนั่นจะรู้จักกับหวางหงหลิง และผู้หญิงที่สงสัยว่าหลินอิ่งกำลังมีอะไรด้วยอยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้ จะเป็นนางมารของตระกูลหวางคุณหนูหวางผู้นี้! ยังเยาะเย้ยอยู่ต่อหน้าและหวางหงหลิงก็ได้ยินพอดี?
“คุณหนูใหญ่ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคุณจะเป็นเพื่อนกับหลินอิ่ง” จางหงอี้พูดด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ “คุณหนูใหญ่ ขอโทษจริงๆ ฉันขอโทษ”
“จางหงอี้ เหยียดใบหน้าของคุณออกมา!” หวางหงหลิงพูดด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า ยกฝ่ามือขึ้น น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก