ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 9 ไอเดียร่วมกัน
บทที่ 9 ไอเดียร่วมกัน
“หลินอิ่ง ไม่ยักรู้เลยว่านายจะรูมากถึงขนาดนี้” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับสบตา หลินอิ่ง
หลินอิ่ง ยิ้มแย้ม โดยไม่พูดอะไร
“อันที่จริงฉันมีแบบร่างที่ออกแบบค่อนข้างพอใจมากอันหนึ่ง แต่น่าเสียดายไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ ทำให้มันสามารถสร้างขึ้นมาได้” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“สร้อยคอเส้นนี้ต้องการเพชรที่ราคาแพงมากมาสร้างขึ้นมา ฉันไม่สามารถ และก่อนหน้านี้บริษัทก็ไม่เห็นด้วย….” จางฉีโม่ ค่อยๆพูดขึ้น พร้อมแสดงสีหน้าเสียดาย
เธอหยิบกล่องไม้ที่ประณีตกล่องหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก จากนั้นก็เปิดกล่องออก แล้วหยิบแบบร่างที่หนาม้วนหนึ่งออกมา
“นี่เป็นแบบร่างออกแบบที่ฉันพึงพอใจมากที่สุด แต่ฉันยังคิดตั้งชื่อสวยๆไม่ออก” จางฉีโม่ ยื่นแบบร่างให้กับ หลินอิ่ง
หลินอิ่ง ยื่นมือรับ แล้วเปิดดูด้วยความจริงจัง
ยิ่งเขาดูก็ยิ่งตกใจ
ต้องยอมรับว่า จางฉีโม่ มีพรสวรรค์ในด้านการออกแบบอัญมณีที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่เพราะไม่ถูกให้ความสำคัญในบริษัท และเงื่อนไขของครอบครัวเลยจำกัดความสามารถของเธอ
นี่เป็นแบบร่างออกแบบสร้อยคอที่วิจิตรงดงาม มีความเป็นเอกลักษณ์ ถ้าหากสามารถแสดงคงสร้างความตื่นเต้นแก่วงการอัญมณีโลกแน่
“อันที่จริง ในเรื่องของโครงสร้าง ผมคิดว่าสามารถเพิ่มการออกแบบเป็นเส้นโค้งรอบวงกลม รวมถึงการแกะสลักดอกไม้ขนาดเล็กอย่างละเอียดด้วย ในด้านวัตถุดิบ ต้องใช้เพรชระดับสูงที่สุดในการสรรสร้าง อีกอย่างต้องเป็นชิ้นส่วนขนาดใหญ่ ไม่สามารถผสมปนเปด้วย” หลินอิ่ง พูดแสดงความคิดเห็นของตัวเองด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“แต่มันจะฟุ้งเฟ้อเกินไปหรือเปล่า? หากราคาสูงเกิน อาจจะสร้างขึ้นมายากแน่เลย” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงลังเลขึ้น
“ไม่หรอก” หลินอิ่ง พูดขึ้น “คุณต้องมีความมั่นใจตัวเองว่าต้องเป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงและเป็นเครื่องประดับระดับสูงที่สุดในโลก”
“รายละเอียดบนสร้อยสามารถใช้ช่างฝีมือดีเลี่ยมด้วยเทคนิคมือ แบบนี้ไม่เพียงแฝงกลิ่นอายความเป็นโบราณ แล้วยังทันสมัยด้วย” หลินอิ่ง ค่อยๆชี้แนะถึงปัญหารายละเอียดขึ้น
เมื่อ จางฉีโม่ ได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งเผยสายตาเป็นประกายขึ้น พร้อมจ้องมอง หลินอิ่ง
ทั้งสองคนพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันเกือบครึ่งชั่วโมง….
สุดท้ายก็ได้แบบร่างตายตัว
จางฉีโม่ มีท่าทางพอใจมาก พร้อมจ้องมองแบบร่างออกแบบด้วยความปลาบปลื้ม
“ช่างดีเลิศจริงๆ หลินอิ่ง ความสามารถของนายไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” จางฉีโม่ พูดชื่นชมขึ้น
“เปล่าสักหน่อย แค่ให้คำแนะนำเท่านั้นเอง” หลินอิ่ง ยิ้มแย้ม “ทุกอย่างล้วนมาจากไอเดียของเธอ ผมแค่แนะนำรายละเอียดเท่านั้น”
“ไม่ นี่เป็นไอเดียร่วมกันของเราสองคน” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“ครับ ตามคุณเลยครับ” หลินอิ่ง พยักหน้าเล็กน้อย
“ฉันตัดสินใจแล้วว่า จะใช้แบบร่างออกแบบชิ้นนี้ไปสมัครงานกับประธานอู” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“แต่จะตั้งชื่ออะไรดีล่ะ?” จางฉีโม่ บ่นพึมพำขึ้น พร้อมครุ่นคิดอย่างจริงจัง
หลินอิ่ง ครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนพูดว่า “ราชาแห่งโลก”
“ราชาแห่งโลกหรอ?” จางฉีโม่ ซักถามขึ้น
“ใช่ ราชาแห่งโลก” หลินอิ่ง ยิ้มและพูดว่า “คุณเคยดูหนังไททานิคไหม? พระเอก Leonardo DiCaprio มักจะโอบกอดมหาสมุทรตรงหัวเรือบ่อยๆ นั้นถือเป็นมุมกล้องที่คลาสสิกมาก”
“ผมชอบประโยคคลาสสิกนี้มาก นั้นคือผมเป็นราชาแห่งโลก!”
“แน่นอนว่าฉันเคยดูหนังเรื่องไททานิค มุมกล้องและประโยคที่คุณพูดนั้นถือว่าไม่เลวเลย!” จางฉีโม่ เผยสายตาเป็นประกาย ในหัวสมองของเธอนึกถึงภาพฉากนั้น ชั่วพริบตาก็รับรู้ถึงอารมณ์นั้นขึ้น
ความคิดเห็นของ หลินอิ่ง นับว่าดีเยี่ยมมาก!
“ราชาแห่งโลก!” จางฉีโม่ พูดด้วยความตื่นเต้นขึ้น “งั้นก็ตั้งเป็นชื่อราชาแห่งโลกนี่แหละ!”
ขณะที่พูด จางฉีโม่ ก็เขียนชื่อเครื่องประดับที่ออกแบบชิ้นนี้ขึ้น
หลังจากที่ จางฉีโม่ จัดแบบร่างออกแบบเสร็จเรียบร้อย ก็ส่งแบบร่างออกแบบให้กับประธานอู ทางอีเมลล์
ในวันนี้ หลังจากที่ครอบครัวกินข้าวเย็นกันเสร็จ ก็ได้รับการตอบกลับ
ประธานอู ตอบว่า ถือเป็นไอเดียออกแบบที่เยี่ยมยอดมาก! พรุ่งนี้เธอมาเจอฉันที่ห้องทำงานของประธานหน่อย
เมื่อผลงานของตัวเองได้รับการยอมรับก็ทำให้ จางฉีโม่ รู้สึกดีใจมาก
……
วันต่อมา รุ่งเช้า
เพื่อทำตามความต้องการของ จางฉีโม่ หลินอิ่ง เลยไปบริษัทเป็นเพื่อน จางฉีโม่
ทั้งสองคนโบกนั่งแท็กซี่ไปตึกอาคารเป่าติ่ง
จางฉีโม่ มีท่าทางตื่นเต้นมาก นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เครื่องประดับอัญมณีที่ตัวเองออกแบบได้รับการยอมรับ อีกอย่างประธานบริษัทยังเป็นคนตอบกลับด้วยตัวเองด้วย!
“ตื่นเต้นจัง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่จะพบปะกับบุคคลประเภทประธาน” เบาะหลังรถ จางฉีโม่ พูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “ไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไรบ้าง ฉันกลัวตัวเองพูดผิด และไม่เอาแบบร่างของฉัน…..”
“ไม่ต้องตื่นเต้น เอาความคิดเห็นของตัวเองบอกเขาก็พอแล้ว” หลินอิ่ง พูดขึ้น
“ถ้าหากมีวันหนึ่งเครื่องประดับที่ฉันออกแบบด้วยมือของตัวเองสามารถโชว์ผ่านสายตาโลก และได้รับการชื่นชมจากคนจำนวนมากในนิทรรศการคงจะดีมากๆแน่เลย!” จางฉีโม่ เผยสายตาพึงพอใจขึ้น นี่เป็นความปรารถนาของเธอ
หลินอิ่ง พูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ไอเดียออกแบบของเธอต้องโชว์ผ่านสายตาโลกอย่างแน่นอน”
“จริงหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะดีมากเลย!” จางฉีโม่ มีท่าทางตื่นเต้น พร้อมเผยสีหน้าเฝ้ารอ
“หากการเจรจาครั้งนี้ผ่าน ต่อไปคุณก็จะกลายเป็นนักออกแบบอัญมณีจริงๆแล้ว สู้ๆ” หลินอิ่ง พูดขึ้น
“อืม ต้องสู้!” จางฉีโม่ พยักหน้าเล็กน้อย
ในใจของเธอแล้ว ความฝันของเธอคือการเป็นนักออกแบบอัญมณีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
ไม่นาน รถแท็กซี่ก็ขับมาถึงตึกอาคารเป่าติ่ง
หลังจากที่ทั้งสองคนลงจากรถ แล้วขึ้นลิฟท์ ไม่นานก็มาถึงภายในบริษัท
ชั้นยี่สิบแปด
ที่นี้เป็นชั้นห้องทำงานของประธานอู
ชั้นนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีการตั้งตกแต่งด้วยกระจก และยังมีการจัดแต่งโต๊ะเก้าอี้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย
ในเวลานี้ พนักงานก็เดินสัญจรอย่างเร่งรีบ ซึ่งมีพนักงานสวมชุดสูทจำนวนมากมาทำงานด้วย
ตอนที่ทั้งสองคนเดินเข้ามาในตึก ก็มีหลายสายตาแปลกประหลาดจ้องมองเข้ามา
“จางฉีโม่? คุณไม่ได้เป็นพนักงานแผนกการตลาดหรอ? ใครให้คุณมาที่นี้ ที่นี้เป็นสถานที่ห้องทำงานระดับผู้บริหารของบริษัท คุณไม่รู้หรอว่าตัวเองมีฐานะอะไรหรอ?” พนักงานหญิงระดับสูงคนหนึ่งที่เดินผ่านหยุดฝีเท้าลง เมื่อเห็น จางฉีโม่ ก็เผยสีหน้าไม่พึงพอใจขึ้น
“อ๋อ? จางฉีโม่เองหรอ? นายท่านด้านข้างของคุณไม่ใช่คือคนที่สร้างความอับอายให้กับตระกูลจาง ของเราหรอกหรอ ลูกเขยไร้ประโยชน์คนนั้นใช่ไหม สามีของเธอชื่อว่า หลินอิ่ง ใช่ไหม?” พนักงานระดับสูงที่นั่งที่โต๊ะทำงานคนหนึ่งหันหน้ามองด้วยสายตาหยอกเล่นขึ้น
“ฉันจำได้ว่า พี่หนิง เคยบอกว่าอย่าให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าพี่หนิง อีก แล้วคุณยังกล้าพาเขามาบริษัทอีกหรอ?”
“อืม! แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกคุณด้วย?” จางฉีโม่ ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคนเหล่านี้
ขณะที่พูดก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของประธานอย่างไม่สนใจ
“เดียวก่อน”
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
เธอสวมชุดเดรสสีม่วงอ่อน และสวมเครื่องประดับราคาแพงเต็มไม้เต็มมือเดินเข้ามา
เมื่อ จางฉีโม่ เห็นคนที่เดินเข้ามาก็ขมวดคิ้วขึ้น และรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
คนที่มาคือคนรู้จัก จางจี้หนิง พี่สาวคนโตของตระกูลจาง
จางจี้หนิง รับผิดชอบตำแหน่งรองหัวหน้าออกแบบบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ ขณะเดียวกันก็เป็นนักออกแบบอัญมณีของบริษัทด้วย
อีกอย่างเธอเป็นลูกสาวของคณะกรรมการบริหาร จางหงจูน ด้วย ดังนั้นเลยมีตำแหน่งในบริษัทค่อนข้างสูง
“พี่หนิง….” จางฉีโม่ กล่าวทักทายด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
“หุบปาก!” จางจี้หนิง พูดแทรกขึ้น พร้อมหันหน้าจ้องมอง หลินอิ่ง ด้วยสายตาเย็นชา “แกยังกล้ามาเสนอหน้าต่อหน้าฉันอีกนะ? ห่ะ?”
“พี่หนิง ขออภัยด้วย วันนี้ฉันกับ หลินอิ่ง มาทำธุระ เดียวพวกเราจะรีบไปเลย” จางฉีโม่ พูดด้วยน้ำเสียงกังวล พร้อมเผยสีหน้าเคร่งเครียด ในตอนนี้เธอทั้งรู้สึกหวาดกลัว และน้อยเนื้อต่ำใจตัวเอง ซึ่งเป็นเพราะถูกกดขี่ข่มเหงมาหลายปี
“ฉีโม่ คุณไม่ต้องกลัวเธอหรอก คุณไม่ได้ติดค้างอะไรเธอสักหน่อย” หลินอิ่ง พูดขึ้น
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าฉันได้ยังไง?” จางจี้หนิง เชิ่ดหน้าขึ้น พร้อมเหลือบมอง หลินอิ่ง ด้วยสายตาเหยียดหยาม “ครั้งก่อนฉันยังไม่คิดบัญชีกับเธอเลย ครั้งนี้กล้าอวดดีต่อหน้าฉันอีกหรอ?”
“ครั้งก่อนผมได้กล่าวขอโทษในงานแต่งงานของคุณแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนั้นผมไม่ได้ผิด” หลินอิ่ง พูดขึ้น
“เห่อเห่อ ปากดีนักนะ! หลินอิ่ง แกลืมแล้วหรอว่าแกเคยพูดอะไรไว้?” ทันใดนั้นก็มีเสียงเข้มหนึ่งดังขึ้น
ซูนเหิง เดินเข้ามา พร้อมจ้องมอง หลินอิ่ง กับ จางฉีโม่ ด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็เผยท่าทางสูงส่งขึ้น และพูดว่า “แค่ขอโทษจะสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้อย่างนั้นหรอ? ครอบครัวของพวกเธอเพิ่งกินข้าวอิ่มไม่กี่วันก็ลืมแล้วหรอว่า ตัวเองมีแซ่ว่าอะไร? เชื่อไหมว่า ฉันสามารถทำให้โรงงานอัญมณีของพวกเธอล้มละลายอีกครั้ง?”
ซูนเหิง ควักเงินก้อนใหญ่ลงทุนในบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ เลยใช้ฐานะกรรมการบริหารรับผิดชอบตำแหน่งรองประธานการบริหาร
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลซูน ที่เป็นตระกูลสูงศักดิ์อันดับหนึ่งของเมืองชิงหยูนด้วย ด้วยความสามารถของเขาแล้ว เพียงแค่ขยับนิ้วก็สามารถโค่นล้มครอบครัวของ จางฉีโม่ ได้เลย
จางฉีโม่ กัดริมฝีปากเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัว
“อ๋อ?” ทันใดนั้น จางจี้หนิง ก็แอบสังเกตเห็นแฟ้มเอกสารในมือของ จางฉีโม่ ขึ้น เลยเผยสีหน้าดูถูกพูดขึ้นว่า “เธอคงไม่พุ่งตัวหาประธานอู เพื่อสมัครงานหรอกนะ? และหวังให้เขาลงทุนกับไอเดียของเธอหรอกใช่ไหม?”
“ช่างน่าขันนัก เธอยากจนแบบนี้ยังกล้าเพ้อฝันกลายเป็นนักออกแบบอัญมณีอีกหรอ? หลายปีมานี้เธอพยายามเสนองานออกแบบตั้งหลายครั้ง ฉันดูมาหมดแล้วล้วนเป็นขยะทั้งนั้น ด้วยความสามารถอันต่อยต่ำของเธอชั่วชีวิตก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จหรอก!” จางจี้หนิง พูดประชดประชันขึ้น
“จางฉีโม่ ฉันขอใช้ตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกออกแบบของบริษัท และฐานะนักออกแบบอัญมณีหลักประกาศอย่างเป็นทางการต่อเธอว่า ตอนนี้เธอสามารถไสหัวออกไปได้แล้ว!” จางจี้หนิง พูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวดขึ้น “งานออกแบบของเธอ ฉันปฏิเสธ!”