ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่132 ได้ยินข่าวก็ออกปฏิบัติการทันที
บทที่132 ได้ยินข่าวก็ออกปฏิบัติการทันที
คนๆหนึ่งเป็นตัวแทนตระกูลผู้ดีชั้นสูง หมายความว่าไง?
นี่มันเลิศเลอซะยิ่งกว่าหัวหน้าครอบครัวตระกูลผู้ดีพวกนั้นเสียอีก ตระกูลฉีก็มีท่านอิ่งคนเดียว สนับสนุนทั้งตระกูลผู้ดี บอกว่ารวยอันดับหนึ่งในประเทศหลุง ก็ไม่เวอร์เลยสักนิด ตระกูลผู้ดีพวกนั้นยังมีทรัพย์สินของตระกูลพวกชนเผ่ามากมาย ธุรกิจทุกอย่างของตระกูลฉี ต่างอยู่ภายใต้ชื่อของท่านอิ่งคนเดียว!
ตอนนี้ท่านอิ่งคือตำนานที่เล่าขานต่อกันมาของตี้จิง ว่าเป็นวัยรุ่นที่ร่ำรวยที่สุด แล้วก็มีวิธีการและความสามารถที่สุด อายุน้อยขนาดนั้น ได้ยินว่ายังไม่แต่งงาน ก็ดึงดูดการเยินยอของคุณหนูผู้ดีในตระกูลผู้ดีใหญ่ๆแต่ละตระกูลของตี้จิงได้แล้ว!
ส่วนตัวเอง จู่ๆก็เป็นมือขวาเบอร์หนึ่งที่ติดตามท่านอิ่ง เป็นฮีโร่ที่ติดตามเขาทำเรื่องใหญ่ๆ!
หยูจื๋อเฉิงรู้สึกว่าตัวตนของตัวเอง พัฒนาขึ้นอยู่หลายรอบนับไม่ถ้วน ถึงเมื่อก่อนจะมีหลายหมื่นล้าน ที่ดินแดนตี้จิงนี้ และก็เป็นเจ้าถิ่นเศรษฐีใหม่ จะทำความรู้จักกับพวกคนรวยพวกนั้นได้ไงกัน?
ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว เขาได้เป็นคนที่อยู่รับหน้าของตระกูลฉี!พูดได้ว่าเป็นข้ารับใช้ของตระกูลฉี!
ทั้งหมดนี้ เพราะว่ารู้จักกับท่านอิ่ง ทำให้คนตัวเล็กๆอย่างเขา เดินไปถึงจุดสูงสุดของประเทศหลุงตอนนี้!
“ไม่ต้องสนใจพวกคนมีอิทธิพลพวกนั้น ผมไม่ปรากฏตัวในตระกูลร่ำรวยของตี้จิง”หลินอิ่งพูดเรียบๆ“ต่อไป ทุกเรื่องในตี้จิงก็ให้คุณจัดการ เข้าใจไหม?”
“ท่านอิ่ง เข้าใจแล้วครับ”หยูจื๋อเฉิงพยักหน้าอย่างเคารพ จากนั้นก็มีสายตาสงสัย
“ท่านอิ่ง ท่าน หรือว่าไม่คิดจะอยู่ตี้จิง?”หยูจื๋อเฉิงถาม
“พรุ่งนี้ผมจะไปจากตี้จิง เกิดอะไรขึ้น ก็ใช้โทรศัพท์ที่เข้ารหัสที่ผมให้คุณ โทรหาผม”หลินอิ่งพูดนิ่งๆ
“พรุ่งนี้?”หยูจื๋อเฉิงดูตกใจ
เกิดอะไรขึ้น?ธุรกิจที่ตี้จิงใหญ่ขนาดนี้ ท่านอิ่งยังจะอยากไปไหนอีก?
หรือว่าประเทศหลุงยังมีที่สนุกกว่าตี้จิง?นี่เป็นเมืองหลวงเชียว!
“ทำงานดีๆ”หลินอิ่งลุกขึ้น ตบไหล่หยูจื๋อเฉิง“ส่งผมไปจื่อหลงซาน มีปัญหาที่จัดการไม่ได้ ค่อยโทรหาผม”
พูดไป หลินอิ่งก็ออกจากประตูไป หยูจื๋อเฉิงยังไม่ได้สติคืนมา ตามออกไปด้วยสายตาสงสัย
ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน
เขาเตรียมตัวไปเจอปู่ที่จื่อหลงซาน แล้วก็กลับเมืองตุงไห่ จัดการตระกูลหวางที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั่นให้เรียบ
ส่วนทางด้านตี้จิง ความสามารถของหยูจื๋อเฉิงก็เพียงพอที่จะรักษาไว้ก่อนได้ แม้แต่ตระกูลเหวินก็ยังหนีหายไปทั้งตระกูล ตระกูลผู้ดีตระกูลใหญ่อื่นๆไม่รู้รายละเอียดของตัวเอง ก็ไม่กล้าผลีผลามลงมือกับธุรกิจของตระกูลฉี
ยังมีอีกเรื่อง ก็คือทางด้านนิ่งซวน นิ่งซวนดูเหมือนจะได้รับความกดดันอย่างสูงจากตระกูลนิ่ง ถูกบีบให้กลับไปตี้จิง
หลินอิ่งคือคนที่มีทั้งความดีและความผิด เรื่องนี้ ต้องยกมือขอความช่วยเหลือนิ่งซวน ถึงตอนนั้นโทรหาให้หยูจื๋อเฉิงจัดการให้เรียบร้อย
ติ๊งต่อง
ลิฟต์เปิดออก มาที่อาคารชั้นหนึ่ง
ชายชุดสูทที่ดูท่าทีไม่ธรรมดากลุ่มหนึ่ง ต่างล้อมรอบเข้ามา ในมือถือการ์ดเชิญเลี่ยมทองกับป้ายชื่อ โค้งตัวลงด้วยความเคารพ
“ประธานหยู ท่านช่วยส่งบัตรเชิญให้ประธานฉีให้ผมได้ไหม ตระกูลหูของพวกเราอยากเชิญประธานฉี”
“แล้วก็มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุงเทียนของพวกเราด้วย อยากคุยเรื่องความร่วมมือกับประธานหยู”
แป๊บเดียว ชายชุดสูทหลายคนก็ล้อมรอบเข้ามา ท่าทางเคารพ พร้อมกับรอยยิ้ม อยากให้หยูจื๋อเฉิงรับคำเชิญพวกเขา
อย่ามองว่าท่าทางต่ำต้อยตอนนี้ คนพวกนี้เดินอยู่ข้างนอกต่างเป็นคนที่น่าหวาดกลัว นั่นไม่ใช่มูลค่าสุทธิเป็นพันล้านเหรอ?ไม่งั้น ก็ไม่มีคุณสมบัติอยู่ที่ห้องโถงรับแขกของอาคารเจ๋อเฉิง
มองคนพวกนี้แล้วตลกมาก ไม่กล้าเอาพวกกล้องอะไรมาถ่าย หลินอิ่งก็ไม่พูดอะไรมาก ส่งสายตาไปที่หยูจื๋อเฉิง
“ทุกท่าน ตอนนี้ผมมีธุระต้องไปก่อน มีธุรกิจอะไร รอผมกลับมาแล้วค่อยคุยกัน”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างจริงจัง
“โอเค!ประธานหยู คำเชิญกับของขวัญพวกเราวางไว้ที่เคาน์เตอร์ ท่านว่างก็ลองดู ช่วยส่งให้ประธานฉีให้ผมด้วย”
ชายชุดสูทหลายคนต่างเปิดทางให้
หลินอิ่งกับหยูจื๋อเฉิงนั่งรถเบนท์ลีย์สีน้ำตาลคันนั้น หยูจื๋อเฉิงอยู่ตำแหน่งคนขับ สตาร์ทรถไป กำลังเตรียมออก
ทันใดนั้น ที่ข้างถนนก็มีบอดี้การ์ดลงมาจากรถหรูสิบกว่าคัน ค่อยๆเปิดประตูทีละบาน ท่าทางดูน่ากลัว
หยูจื๋อเฉิงขมวดคิ้ว กำลังเตรียมโทรเรียกคนลงมาจัดการ ในใจคิดว่าใครกันทำไมตาไม่มีแววอย่างนี้ กล้าก่อเรื่องที่หน้าอาคารเจ๋อเฉิง?ไม่รู้จักเจ๋อเฉิงกรุ๊ปตอนนี้ ที่เป็นอำนาจของท่านอิ่งวางไว้ตรงหน้าตระกูลฉีเหรอ?
พริบตาเดียวมองดูดีๆ หยูจื๋อเฉิงก็มีสายตาแปลกๆ แล้วก็พบว่า ที่แท้รถหรูสิบกว่าคันนี้ต่างเป็นสีชมพูสีแดงสีส้ม แล้วก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ท่านอิ่ง ท่านดู เรื่องนี้จัดการอย่างไร ลูกสาวคนรวยพวกนี้มาเพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างซีเรียส ไม่กล้าตัดสินใจมั่วๆ
“ท่านอิ่ง ตอนเช้า ผมได้ยินเรื่องเล่ากันว่า ลูกสาวเศรษฐีตระกูลคนรวยหลายๆคน ต่างให้ผู้สูงอายุโทรมาหาผม บอกว่าจะมาทำงานที่เจ๋อเฉิงกรุ๊ปบ้าง มาเป็นเลขาให้ท่านอิ่งบ้าง”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างจริงจัง“เรื่องนี้ผมก็ไม่กล้าตัดสินใจแทนท่าน ไม่คิดว่าลูกสาวเศรษฐีพวกนี้จะมาหาถึงที่”
พูดจบ หยูจื๋อเฉิงก็มองสาวสวยน่าทึ่งที่แต่งตัวงดงามฉูดฉาดทีละคนๆ ใบหน้าสวยใสอย่างกับสาวแรกแย้มในฤดูใบไม้ผลิ เดินเข้ามาด้วยสายตาคาดหวัง ในใจรู้สึกถอนหายใจ นี่ก็คือท่านอิ่ง ที่อายุน้อยแล้วยืนอยู่ที่จุดสูงสุด มีสาวสวยนับไม่ถ้วนต่างวิ่งถลาเข้ามาในอ้อมแขน แทบอยากจะจุนเจือ
“ออกรถ ไปจื่อหลงซาน”หลินอิ่งพูดนิ่งๆ ไม่มองผู้หญิงที่อยู่นอกกระจกรถสักนิด
“ต่อไปถ้ามีเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก คุณไม่ต้องสน”หลินอิ่งกำชับ
“ครับ ท่านอิ่ง”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างซีเรียส ในใจรู้สึกแปลกใจ
ทั้งแถบนี้มีแต่สาวสวยหลายสิบคน ไม่ใช่ผู้หญิงเสเพลทั่วไป หน้าตาและรูปร่างระดับดารา แล้วยังเป็นคนรวยอีก มาขอเป็นเพื่อนเองถึงที่ ท่านอิ่งกลับไม่แลเลย
หยูจื๋อเฉิงถอนหายใจข้างในใจ นี่คือช่องว่างของวิสัยทัศน์สินะ
ได้รับคำสั่งก็ทำอย่างรวดเร็ว หยูจื๋อเฉิงขับรถไปจากอาคารเจ๋อเฉิงอย่างรวดเร็ว ปล่อยสาวสวยลูกเศรษฐีในตี้จิงพวกนั้นทิ้งไว้ข้างถนน
“ประธานหยูทำไมหนีไปไวขนาดนี้?ไม่ทักทายหน่อยเหรอ?ผู้ชายแก่ก็ไร้มารยาทแบบนี้”สาวสวยท่าทางไม่ธรรมดา สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ บ่นอุบอิบ“ยังอยากมาเจอฉีหยิ่นที่พูดถึงสักหน่อย อายุยังน้อยก็เก่งขนาดนี้ เป็นไอดอลจริงๆ”
“เห้อ โง่จริงๆเลย ไม่เห็นเหรอ เมื่อกี๊ประธานหยูขับรถเอง ด้านหลังยังมีชายวัยรุ่นอีกคน นั่นไม่ใช่คุณชายฉีหยิ่นเหรอ ไม่งั้นใครจะกล้าให้ประธานหยูเป็นคนขับรถ?”หญิงสาวหน้าตาสวยใสดูมีชีวิตชีวาพูด ตาเป็นประกาย
“เมื่อกี๊ฉันเห็นฉีหยิ่นชัดๆแล้วว่าหน้าตาเป็นไง เขาเผชิญหน้ากับสาวสวยมากมายขนาดนี้ ใบหน้าท่าทางไร้อารมณ์ก็ยังหล่อสุดๆ นี่น่าจะเป็นผู้ชายผู้กอบกู้โลกในตำนานสินะ?”
“เห้อเห้อเห้อ คุณอย่าเพ้อฝันเลยน่า คุณเคยเห็นแล้วมีประโยชน์อะไร คุณชายฉีหยิ่นรู้จักคุณไหม?เดี๋ยวฉันจะไปหายัยกงซุนชิวอวี่นั่น เธอเป็นน้องสาวฝ่ายแม่ของฉีหยิ่น ไปเอาเบอร์ติดต่อของฉีหยิ่นจากเธอ รับประกันว่าได้ผล