ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่358 หลินอิ่ง ใครจะเทียบได้?
สถานการณ์วันนี้ หลินอิ่งจะฆ่าเขาตาย มันง่ายเหมือนมดในมือ!
ตอนแรกแค่จะมาช่วยคุณชายแห่งชีซิงกรุ๊ปและช่วยน้องสี่ออกหน้า แต่สุดท้าย ตัวเองก็โดนไปด้วย?
พฤติกรรมของหลินอิ่ง ไม่สนใจตำแหน่งเขาที่เป็นผู้นำตระกูล
“ผม……เรื่องนี้ผมผิดไปแล้ว ผมก้มหัวให้คุณ ผมพร้อมจะรับฟังคำตำหนิ!” สวีไป๋เห้อกัดฟันพูดเสียงสั่น “และยังขอให้คุณชายอิ่งยกโทษให้!”
คุกเข่าลงต่อหน้าคนมากมาย ศักดิ์ศรีของสวีไป๋เห้อรับไม่ได้!
สวีไป๋เห้อก้มหัวอันหยิ่งยโสลง ก้มหัวลงเก้าสิบองศาต่อหน้าหลินอิ่งเพื่อขอโทษ
“คุณชายอิ่ง! สวีถันโจวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมีเรื่องกับคุณชายอิ่ง คุณตีขาเขาหักผมไม่พูดอะไร เรื่องของชีซิงกรุ๊ป ผมก็จะไม่ถามอีก แล้วแต่คุณชายอิ่งจะจัดการยังไง” สวีไป๋เห้อก้มหัวพูด
เขารู้ดี ถ้าตอนนี้ไม่ก้มหัวจะต้องตายแน่!
“ถึงจุดนี้แล้ว ยังจะถอนตัวออกไป!” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา “สายไปแล้ว”
“ฉันพูดเป็นครั้งสุดท้าย นายสวีไป๋เห้อ เป็นตัวแทนตระกูลสวี คุกเข่าลง!”
เสียงเย็นชาของหลินอิ่ง ลอยเข้าไปในหูสวีไป๋เห้อ ตัวสั่น หัวใจเต้นแรง
ยิ่งใหญ่เกินไป
ไม่ให้หน้าแม้แต่นิด!
สวีไป๋เห้อ เป็นถึงผู้นำตระกูลสวีรุ่นที่สองแห่งตี้จิง คำพูดและการกระทำก็เป็นตัวแทนตระกูลสวีในตี้จิง
แม้แต่เขาหาว ตี้จิงก็ต้องสั่นสะเทือน
แต่ว่าโดนบีบบังคับให้คุกเข่าต่อหน้าโดยมีคนดูเป็นร้อยกว่าคน! ต้องคุกเข่าให้หลินอิ่ง?
นี่คือ! จะทำลายชื่อเสียงเขาอย่างหมดสิ้นแล้ว!
“คุณชายอิ่งอย่าทำขนาดนี้เลย ผมเป็นผู้นำตระกูลสวี สวีไป๋เห้อ ผมคุกเข่าได้ แต่ตระกูลสวีคุกเข่าไม่ได้!” สวีไป๋เห้อกัดฟันพูดใบหน้าแดงขึ้น
“นายมีสิทธิ์มาคุยเงื่อนไขกับฉัน?”หลินอิ่งถามน้ำพูดเสียงเย็นชา
สิ่งที่เขาต้องการ ก็คือตระกูลสวีคุกเข่า!
สวีไป๋เห้อเหงื่อเม็ดโตไหลออกมาจากหน้าผาก ต้องแบกรับความกดดันมหาศาล
ใช้แล้ว เขาจะทนไม่ได้กับความกดดันจากหลินอิ่ง
นี่ไม่ใช่แค่ความตายอัปยศของเขาคนเดียว แต่เกี่ยวกับคนที่อยู่ข้างกายเขา ญาติมิตรของเขา เกี่ยวกับความตายของตระกูลสวีทั้งหมด!
ต้องรู้ว่า หลินอิ่งฆ่าล้างตระกูลเหวิน ไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว บอกฆ่าก็ฆ่าเลย
ก่อนหน้านี้ คนในสวีฉางเฟิงแค่ทำลูกน้องของหลินอิ่ง โรงแรมจงเทียนของถังฮุย ก็โดนเขาระเบิดขุมทรัพย์ของตระกูลสวี และระเบิดเรือขนสินค้าร้อยกว่าลำในแม่น้ำตี้เจียง
อารมณ์ของหลินอิ่งดูก็รู้
ไม่ต้องไปมีเรื่องกับเขา ถ้ามีเรื่องแล้วจะต้องคืนสิบเท่า! ผลที่ตามมาไม่อาจจะคิด!
“ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอครับ? คุณชายอิ่ง ถ้าคุณบีบตระกูลสวีให้ตายแบบนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณเลย” สวีไป๋เห้อพูดอย่างอ่อนน้อม “ผมคนเดียว ยอมจะรับผิดชอบทุกอย่างในวันนี้ พรุ่งนี้จะไปรับโทษด้วยตัวเอง จะให้คำตอบที่พอใจกับคุณชายอิ่งแน่นอน แต่ว่าผมคุกเข่าไม่ได้……”
“หึ” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา สวีไป๋เห้อถึงตอนนี้ยังไม่ยอมปล่อยศักดิ์ศรีอันน่าสงสารนั้นลง
“คุณชายอิ่ง ทำอะไรก็เหลือหนทางไว้บ้าง วันหน้าจะได้พบกันดี……” สวีไป๋เห้อขอร้อง
หลินอิ่งให้เขาแค่สองทาง ตาย หรือว่าคุกเข่า
ทางสองทางนี้ เขาก็ยอมรับไม่ได้
“คำว่าฉีหยิ่นออกมา ยังมีทางอื่นอีกหรือ?” หลินอิ่งมองสวีไป๋เห้อ พูดเสียงเรียบ
สวีไป๋เห้อตกใจลืมตาขึ้นมา เงยหน้ามองหลินอิ่ง ในใจทรมานอย่างหาคำเปรียบไม่ได้
มีตาหามีแววไม่ เขาสวีไป๋เห้อนับว่าเป็นคนมองคนเหนือใคร แต่กลับมองของหลินอิ่งไม่ออก!
ก่อนหลินอิ่งยังไม่เปิดเผยฐานะว่าเป็นฉีหยิ่น ไม่ได้ใช้อำนาจมาจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ แบบนี้ ก็ยังพอมีหนทางให้กลับมาเหมือนเดิมได้
จะโทษก็โทษตัวเอง ที่มีตาหามีแววไม่
ตอนนี้ คำว่าฉีหยิ่นสองคำนี้ออกมา
จะต้องให้ความเคารพถึงที่สุด!
ก็เหมือนกับ ฮ่องเต้ยังไม่ออกคำสั่ง ทุกอย่างยังปรึกษาได้
ถ้าฮ่องเต้ออกคำสั่ง ทุกคนจะต้องทำ นี่ก็คืออำนาจของฮ่องเต้!
ก็เหมือนกับนี่คืออำนาจของฉีหยิ่น!
ไม่ยอม ก็ต้องตาย
“ผม……ผม” สวีไป๋เห้อพูดอย่างติดอ่าง ภายใต้ความกดดันมหาศาล สติไม่ดี ตอนนี้เรียบเรียงคำไม่ถูกแล้ว
ปัง!
หลินอิ่งฟาดแส้ลงไป เสียงดัง ฟาดลงหัวเข่าสวีไป๋เห้อลงทันที
เสียงดังคั๊ก สวีไป๋เห้อสีหน้าขาวซีดทันที สองขาคุกเข่าลงกับพื้น คุกเข่าต่อหลินอิ่ง ก้มหัวตัวสั่นไปทั้งร่าง หายใจด้วยความเจ็บปวด ฟันสั่น
ชีวิตนี้ทั้งชีวิต เขาจะยืนไม่ได้อีกแล้ว
“นี่! นี่!”
ท่านสองภูเขาชิงซานสายตาตกใจ ในหัวยังตอบสนองไม่ทันว่าหลินอิ่งมีที่ไปที่มายังไงนึกไม่ถึงว่าจะล้มผู้นำตระกูลสวีไปโดยตรงเช่นนี้
“คุกเข่าลง” หลินอิ่งมองทั้งสองด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ท่านสองภูเขาชิงซานสีหน้าตกใจ ไม่กล้าโต้แย้งกับหลินอิ่ง
ลำพังฝีมืออันร้ายกาจของหลินอิ่งเมื่อครู่ ก็ทำให้พวกเขายากที่จะลืมแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินอิ่ง พร้อมบีบพวกเขาเหมือนมดตลอดเวลา
ตง!
ท่านสองภูเขาชิงซานก้มหัวและคุกเข่าลง คุกเข่าโดยไม่สู้ หน้าแดงด้วยความอาย
“สวีไป๋เห้อ คุกเข่าให้ครบหนึ่งชั่วโมง เพื่อเป็นตัวอย่าง” หลินอิ่งน้ำเสียงใจเย็น “คนที่ทำฉัน จะเป็นแบบนี้!”
พูดเสร็จ หมุนตัวและมือไว้ข้างหลัง ไม่สนใจสายตาตกตะลึงของผู้คนที่อยู่ในนี้
หยูจื๋อเฉิงเปิดประตูด้วยตัวเอง หลินอิ่งขึ้นรถ จากไปอย่างสง่า
นิ่งซวนก็พาทหารลับของตระกูลนิ่ง ขบวนรถออกจากถนนตี้เจียงอย่างรวดเร็ว
แต่พวกเผียวซิ่วชวนพวกเขาสีหน้าขาวซีด ต่างก็สีหน้าเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น
พวกเขาเหล่านี้ หัวเข่าทุกคนถูกทำลายจนพิการ ชีวิตนี้ ก็คงจะยืนขึ้นมาไม่ได้อีก!
สวีไป๋เห้อคุกเข่าไว้ที่เดิม สมองเบลอ จนไม่สามารถคิดอะไรได้
นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด เรื่องราวใหญ่โตแค่ไหนเขาก็เคยเจอมาแล้ว แต่ครั้งนี้ โดนพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง!
คนตระกูลสวี ในใจทุกคนยังคงหวาดกลัว ยังมีความหวาดกลัวหลินอิ่งอยู่ ไม่มีใครกล้าที่จะไปพยุงตัวสวีไป๋เห้อที่คุกเข่าอยู่กับพื้น
แม้แต่สวีไป๋เห้อเอง ก็ไม่กล้ายืนขึ้น!
หลินอิ่งบอกหนึ่งชั่วโมง นั่นก็คือห้ามขาดแม้แต่นาทีเดียว
ตระกูลสวีคุกเข่าแล้ว
นี้คือเรื่องที่ทุกคนอยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ
หลังจากวันนี้ จะต้องมีเรื่องลือกันไปในวงการไฮโซของตี้จิง เป็นถึงผู้นำตระกูลสวี โดนฉีหยิ่นบังคับให้คุกเข่าลง ก้มหัวเคารพเขา
ยังมีความแค้นของฉีหยิ่นกับชีซิงกรุ๊ป ก็จะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันอย่างแน่นอน
เวลาเดียวกัน ทุกคนก็รู้สึกถึงพายุที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดที่กำลังสาดมาพร้อมสายลมฝน
เมื่อฉีหยิ่นโกรธ ทั้งเมืองตี้จิงจะต้องสั่นสะเทือน!
จ้าวหลินเอ๋อร์กำลังคิดบางอย่างอยู่ เธอไม่สามารถลืมท่าทางที่ไม่มีใครเทียบเท่าได้ของหลินอิ่ง
นี่ก็คือ ผู้ชายที่เธออยากได้
อะไรคือแบมือเป็นเมฆ อะไรคือคล่ำมือเป็นฝน?
ก็หลินอิ่ง
ชีซิงกรุ๊ป ตระกูลสวีในตี้จิง ต่างก็เป็นบริษัทมหาอำนาจที่ทำให้ตี้จิงสั่นสะเทือนได้ โดนเขาทำเหมือนกับมดที่จะบีบเล่น
ห้าองค์กรตระกูลใหญ่ ตระกูลจ้าว ตระกูลนิ่ง ตระกูลฉี ก็ให้เขาสั่งการได้ทุกอย่างเหมือนดั่งสั่งการลมและฝน
ฆ่าล้างตระกูลเหวิน ตั้งตระกูลฉี ทำลายตระกูลสวี ช่วยตระกูลนิ่ง! ช่วงนี้ตี้จิงเกิดเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างทั้งหมด ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับหลินอิ่งตลอด!
โครงสร้างในตี้จิง เสมือนกับถูกเขากำเล่นไว้ในกำมือ
“ท่านฉู่ ท่านคิดว่า หลินอิ่งเป็นยังไง?” จ้าวหลินเอ๋อร์มองฉู่จิงหยุนที่ยืนเงียบอยู่ข้างกายเปิดปากถาม
ฉู่จิงหยุนสีหน้าเคร่งขรึม สายตาเต็มไปด้วยความเคารพ
“คุณหนู ผม ผมไม่กล้าออกความคิดเห็นสำหรับท่านนี้” ฉู่จิงหยุนสีหน้า ละอายใจ ถอนหายใจพูด “หรือจะพูดว่า ผม ไม่คู่ควรที่จะแสดงความคิดเห็นสำหรับท่านนี้!”
จ้าวหลินเอ๋อร์สายตามอง นึกไม่ถึง ความคิดเห็นที่ท่านฉู่ที่มีต่อหลินอิ่งคือ เขาไม่คู่ควรที่จะแสดงความคิดเห็น!
จะต้องรู้ ท่านฉู่ตามนายท่านตระกูลจ้าวของตัวเองมาหลายสิบปี จ้าวหลินเอ๋อร์ก็เคยฟังคุณปู่พูดถึง ถ้าไม่ใช่เมื่อก่อนเคยช่วยชีวิตท่านฉู่ ความสามารถในวิชาการต่อสู้ของท่านฉู่ ตำแหน่งในกองกำลังลึกลับ ไม่มีวันที่จะมาเป็นพ่อบ้านของตระกูลจ้าวได้
ท่านฉู่ ในกองกำลังลึกลับ คือคนที่มีเบื้องหลังที่ลึก!
แม้แต่ท่าน ต่อหน้าหลินอิ่ง ก็ยังถ่อมตัวเองขนาดนี้!
“ท่านฉู่ ถ้าอย่างนั้น ท่านดูความสามารถในวิชาการต่อสู้ต่อสู้ของเขาออกไหม?” จ้าวหลินเอ๋อร์ถามอย่างสงสัย
ฉู่จิงหยุนส่ายหัวพูด “ผมดูคนนี้ไม่ออก แม้คนนี้จะยังอายุน้อย แต่ลึกจนวัดไม่ได้ การต่อสู้เป็นถึงครูได้ ถ้าเป็นวิชาการต่อสู้ ผมอาจจะต้องเรียกเขาว่ารุ่นพี่”
เมื่อคิดถึงวิชาการต่อสู้ที่หลินอิ่งใช้นั้น ฉู่จิงหยุนพูด “ท่านนี้ ใครหรือจะเทียบเท่าได้?”
จ้าวหลินเอ๋อร์ที่ฟังแล้ว ในใจสงสัยและมีความไม่พอใจ หลินอิ่งเก่งขนาดนั้นเลยหรือ? งั้น เธอยังมีโอกาสจีบหลินอิ่งติดไหม?