ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่49 พลังแรงงานที่แข็งแกร่ง
ตอนที่49 พลังแรงงานที่แข็งแกร่ง
บรรจุไปได้หกถุง หลินหลางก็หยุดลง
“คุณตาจาง หกกระสอบพอมั้ย คนเฒ่าคนแก่ไม่สามารถบรรจุให้มากกว่านี้แล้ว” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
คุณตาจางที่หันมาในเวลานั้น ก็ยังคงประหลาดในใจ พูดชื่นชมออกมา “คนแก่อย่างฉันก็สามารถลากได้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ว่าหลินหยางร่างกายของนายนี่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ขนเต็มรถเข็นขนาดนี้แล้วยังลากคนเดียว พวกเราในหมู่บ้านวี่หลงไม่เคยปรากฏใครที่มีพลังแรงงานที่แข็งแรงแบบนี้!”
“ตอนเด็กเรียนศิลปะการต่อสู้กับปู่ กำลังแรงเลยเยอะกว่าคนอื่นนิดหน่อย ตอนนี้ได้นำมาใช้พอดี คุณตาจาง ฉันไปก่อนนะ คาดว่ามาอีกสักสองรอบก็น่าจะลากเสร็จ”หลินหยางยิ้มแล้วเตรียมตัวเดินไป
“อะไรนะ?ยังเหลืออีกสองครั้ง? เจ้าหนุ่มคนนี้วันนี้ไปหักข้าวโพดมาแล้วเท่าไหร่เนี่ย” คุณตาจางถามอย่างประหลาดใจ
“หักเสร็จหมดแล้ว นี่ก็ไม่ใช่เริ่มที่จะลากแล้วหรอ?” หลินหยางตอบอย่างยิ้มๆ ทิ้งให้คุณตาจางตกตะลึงจนตาค้างแล้วลากรถเดินออกไป
“คุณพระช่วย! เสี่ยวหยางนี่เหมือนกับวัวจริงๆ ทั้งร่างกายและพละกำลัง หลังจากนี้ไปขอสาวคนไหนคงทำให้สาวคนนั้นสบายจนตายแน่!” คุณตาจางอุทานชื่นชมขึ้น
“ไปให้พ้น แก่จนจะตายแล้ว ยังทำตัวไม่น่าเคารพ” คุณย่าจางที่อยู่ข้างๆจ้องมองที่สามีของตน
“ไม่ใช่แบบนี้หรอ? ตอนนั้นที่ฉันแข็งแรงและกระฉับกระเฉง ไม่ใช่เธอหรอที่ร้องฉันอยาก ฉันอยากทุกวัน” คุณตาจางขำหัวเราะแล้วลากรถเข็นกลับไปทางหมู่บ้าน
เมื่อได้ยินคุณตาจางพูด คุณยายจางก็รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ เอาเท้าเรียวเล็กเตะไปที่คุณตาจางแล้วต่อว่าด้วยความเขินอาย โทษฐานที่พูดสุ่มสี่สุ่มห้า “ตาเฒ่าไร้สาระ!”
ถึงแม้ว่าจะโดนเตะแต่คุณตาจางก็ไม่โกรธ มองไปที่ภรรยาที่โกรธเหมือนหญิงสาวที่แต่งงานตอนอายุยังน้อยแล้วหัวเราะขำขันลากรถเข็นไปทางหมู่บ้าน
“คุณพระช่วย เสี่ยวหยาง นายเป็นวัวจริงๆด้วย ลากข้าวโพดมาเยอะขนาดนี้” จางหุ้ยฉุ้ยที่อยู่ร้านค้าหน้าหมู่บ้าน เห็นหลินหยางเดินมาทางนี้ตั้งแต่ไกล จ้องมองหลินหยางแล้วพูด
“ฮิฮิ ฉันอาจจะแข็งแรงกว่าวัวก็ได้” หลินหยางยิ้มออกมา
“รีบเข้ามากินน้ำสิ” จางหุ้ยฉุ้ยพูดขึ้น
“ไม่ดีกว่า ยังเหลืออีกสองครั้งก็จะลากเสร็จแล้ว ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ไม่เสียเวลาแล้วดีกว่า” หลินหยางยิ้มบอกลาแล้วเดินไปทางบ้านหลี่ยิง
ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำ บางบ้านก็พึ่งกลับมาจากไร่ เมื่อเห็นหลินหยางลากรถเข็นที่บรรทุกข้าวโพดมาอย่างเต็มเอี๊ยด ต่างก็อุทานอย่างตื่นตะลึงกันอย่างเซ็งแซ่ถึงพละกำลังของหลินหยาง
ปกติคนในหมู่บ้านจะช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันจึงถือว่าเป็นความคุ้นชินตา หลินหยางไปช่วยหลี่ยิงหักข้าวโพดจึงไม่มีใครสงสัยว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษและด้วยความที่อายุห่างกันมาก ทั้งสองคนจะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
ไม่มีใครสงสัย หลินหยางทำด้วยความเต็มใจ เมื่อลากรถเข็นมาถึงบ้านป้าหลี่ก็นำเอาข้าวโพดจากกระสอบทิ้งลงและแบออกในลานบ้าน เก็บกระสอบแล้วกลับไปที่ไร่อีกครั้ง
เมื่อเห็นหลินหยางกลับมาโดยเร็ว หลี่ยิงก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย “กลับมาเร็วจัง ฉันพึ่งบรรจุเสร็จแค่สองกระสอบเอง”
“ป้าหลี่ ป้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้ฉันบรรจุใส่คนเดียวเถอะ” หลินหยางหยิบกระสอบขึ้นมาแล้วบรรจุข้าวโพดใส่อย่างคล่องแคล่วฉับไว
หลังจากที่ท้องฟ้าดำมืดสนิทแล้ว สุดท้ายหลินหยางและหลี่ยิงก็กลับเข้าหมู่บ้าน เวลานี้ไร่บริเวณหนานหูได้หักข้าวโพดลงมาหมดแล้ว
“ป้าหลี่ ป้ายังมีไร่ตรงไหนอีกที่ยังไม่ได้เก็บ พรุ่งนี้ฉันจะไปช่วยป้า” หลินหยางพูดพลางยิ้ม
“ยังเหลือที่เขตเป่ยหู ตรงนั้นแยกปลูกข้าวโพดไว้นิดหน่อย ไม่เยอะ ฉันทำคนเดียวได้ นายไม่ต้องไปช่วยฉันแล้ว” หลี่ยิงยิ้มแล้วพูด
“ที่ตรงเขตเป่ยหูหรอ? งั้นฉันไม่ไปแล้ว ถ้าป้าอยากให้ช่วยก็ไปตามฉันได้” หลินหยางรู้ว่าไร่ตรงเขตเป่ยหูของหลี่ยิงไม่ใหญ่ หลี่ยิงทำครึ่งวันเช้าก็น่าจะเสร็จแล้ว
“ได้ น่าจะไม่ลำบากมาก” หลี่ยิงพูดไปพลางถีบสามล้อไปตามหลังรถเข็นของหลินหยางมุ่งหน้าไปทางข้างในหมู่บ้าน ข้างบนบรรทุกข้าวโพดไว้สองกระสอบ
พอมาถึงที่หน้าหมู่บ้านก็พบเห็นจางหุ้ยฉุ้ยกำลังยกถ้วยกินโจ๊ก
ทันทีที่เห็นหลินหยางและหลี่ยิงผ่านมา จางหุ้ยฉุ้ยก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ยิงจื่อ ครั้งนี้เธอสบายขึ้นเยอะเลย”
“ก็ใช่ละสิ ข้าวโพดตรงหนานหูถูกหักหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็ยุ่งอีกครึ่งเช้า คาดว่าก็แทบจะเสร็จแล้ว” ถึงแม้หลี่ยิงจะเหนื่อย แต่หักข้าวโพดบริเวณหนานหูเสร็จในหนึ่งวัน ในใจก็มีความสุขมาก
“ ยอดเยี่ยมเลย เธอน่าจะเป็นคนที่ทำเสร็จก่อนพวกเราในหมู่บ้านแน่นอน”
“หลินหยางพละกำลังเยอะ รูปร่างเหมือนกับวัวไม่มีผิด” หลี่ยิงมองไปที่ตาของหลินหยาง ในแววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจและความชอบเล็กน้อย
“ใช่แล้ว สามารถลากข้าวโพดได้เยอะแยะขนาดนี้ ร่างกายต้องแข็งแรงมากแน่นอน เวลาอยู่บนเตียงแรงอาจจะเยอะกว่านี้ก็ได้ ยิงจื่อ คืนนี้เธออยากลองอะไรสดใหม่มั้ย” จางหุ้ยฉุ้ยพูดล้อเล่นอย่างใจกล้า
เมื่อได้ยินที่จางหุ้ยฉุ้ยพูด ใบหน้าของหลี่ยิงก็แดงเล็กน้อย หัวใจเต้นสั่น แท้ที่จริงแล้วคืนนี้ตนเองมีความคิดที่จะใช้ร่างกายในการขอบคุณหลินหยาง ยังไงหลินหยางก็ช่วยเหลือตนเองมาเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นตรงนั้นของหลินหยางก็ใหญ่มากมาก คนที่ทำด้วยก็รู้สึกสบาย ทำเรื่องอย่างว่ากับหลินหยางนั้นได้วกวนอยู่ในความคิดของหลี่ยิงมาตลอด เดิมทีเธออยากที่จะให้หลินหยางนอนเป็นเพื่อนเธอในทุกทุกวัน
แต่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตน ไม่สามารถพูดออกมาได้โดยธรรมชาติ จึงมองจางหุ้ยฉุ้ยอย่างดูถูกแล้วพูดว่า “เธอมันไม่น่าเคารพ ถ้าเธอต้องการ คืนนี้ให้หลินหยางไปปีนที่เตียงเธอสิ ให้เธอได้ลองว่าหลินหยางแท้จริงแล้วยอดเยี่ยมมั้ย”
“ฉันก็อยาก แต่เธอไม่สะดวกมากกว่าหรอ คืนนี้หลังจากกลับไป ปิดกลอนประตู แล้วให้หลินหยางขี่บนตัวเธอลิ้มลองรสซักหน่อย”
“ไปตายเลยไป ไร้สาระ ไม่สนใจเธอแล้ว” หลี่ยิงถูกจางหุ้ยฉุ้ยชี้ทางใหม่ให้ก็เขินหน้าแดงจ้องมองรถสามล้อแล้วเดินทางกลับบ้าน
หลินหยางมองไปที่จางหุ้ยฉุ้ยอย่างจนปัญญา แต่กลับพบว่าจางหุ้ยฉุ้ยเป็นจังหวะที่หลี่ยิงไม่ได้สนใจตัวเองนั้นจึงถกเสื้อตัวเองขึ้น หน้าอกที่อวบอิ่มขาวนวลปรากฏออกมาที่สายตาของหลินหยางในทันทีทันใด
ผู้ที่สายตาดีมากอย่างหลินหยางก็มองเห็นอย่างชัดเจน สองอกเอิบอิ่มทรงกลมนั้นกระตุ้นทัศนวิสัยที่แรงกล้าของหลินหยาง
หลินหยางทำท่าเอาก้นไปข้างหน้า ยิ้มหัวเราะแล้วก็เดินจากไป ทิ้งไว้แต่ความเขินอายหน้าแดงของจางหุ้ยฉุ้ย
หลังจากที่กลับไปถึงบ้านของหลี่ยิง ทั้งสองก็ยุ่งอยู่กับการนำเอาข้าวโพดออกมา จนเหงื่อไหลย้อยออกมาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าวันนี้เสื้อผ้าของหลี่ยิงได้เปียกไปด้วยเหงื่อแล้วกี่ครั้ง ในตอนนั้นรู้สึกไม่สบายตัวที่เสื้อผ้าได้แนบชิดไปกับร่างกาย เลยปิดประตูลานบ้านแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกทิ้งไว้ที่ในกะละมัง
“ป้าหลี่ป้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ อากาศร้อนขนาดนี้” หลินหยางพูดเกลี้ยกล่อม
“เดี๋ยวรอพวกเราทำข้าวโพดพวกนี้ให้เสร็จก่อนแล้วฉันค่อยไป” ป้าหลี่พูดอย่างยืนหยัด
หลินหยางได้ยินก็ไม่ปฏิเสธ ยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ ฉันเทเอาข้าวโพดออกมา ป้าก็แบแผ่ออกมา”
หลี่ยิงตอบตกลง หลินหยางเปิดปากกระสอบออก แล้วใช้แรงนำเอาข้าวโพดที่อยู่ข้างในทั้งหมดทิ้งออกมา
หลี่ยิงเมื่อเห็นข้าวโพดไหลออกมา ก็รีบใช้ไม้คุ้ยแบข้าวโพดออก เนื่องจากไม่ได้สวมเสื้อผ้า สองก่อนเนื้อนุ่มนิ่มกลมๆก็กระโดดโลดเต้นอยู่กลางอากาศ
มองไปที่คลื่นกลิ้งกลิ้งอันนั้น หลินหยางก็กลืนน้ำลาย กลืนแล้วกลืนอีก แล้วทิ้งข้าวโพดออกมาต่อ
หลี่ยิงรับรู้โดยธรรมชาติว่าหลินหยางจ้องมองมาที่หน้าอกของตน แม้ว่าจะเขินอายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ใช้มือปกปิด
ทั้งสองคนได้จัดการข้าวโพดอย่างรวดเร็ว หลี่ยิงมองไปที่หลินหยางแล้วพูด “นายอย่าพึ่งไปไหนนะ อาบน้ำที่นี่ก่อน ฉันจะทำกับข้าวให้นายกิน”
“อยู่กินข้าวสักมื้อ” หลินหยางก็เห็นด้วย
“ป้าหลี่ ป้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ป้าเหงื่อท่วมตัวไปหมดแล้ว” หลินหยางพูดอย่างยิ้มๆ
หลี่ยิงได้ยินดังนั้นในใจก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่น สายตาซาบซึ้งมองไปที่หลินหยาง แล้วพยักหน้า
“ได้ ฉันจะอาบให้เร็วหน่อย”
“ไม่ต้องรีบก็ได้” หลินหยางพูดด้วยเสียงเบา
เมื่อมองไปเห็นประตูลานบ้านได้ปิดล็อกแล้ว หลินหยางก็เดินเข้าไปในห้อง เข้ามาเปิดไฟแล้วนั่งบนโซฟา
บ้านป้าหลี่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เป็นบ้านชั้นเดียว ถึงแม้ว่าในห้องจะไม่ร้อนมาก แต่ก็ไม่ได้เย็นสบาย ทั้งหมดมีสามห้อง ห้องโถงตรงกลางเป็นห้องรับแขก ที่เหลือสองห้องไว้เป็นห้องพัก
ในบ้านจัดเรียงสิ่งของเรียบง่ายสบายๆ ดูแล้วถือว่าสวย บนพื้นสะอาดมาก คิดดูแล้วปกติป้าหลี่น่าจะทำความสะอาดบ่อยๆ
ควักล้วงโทรศัพท์ของตนเองออกมา กำลังอยากจะเปิดเพลงก็ได้รับข้อความหนึ่งข้อความ
เมื่อดูไปที่ข้อความ คาดไม่ถึงว่าเซี่ยหลินหลินเป็นคนส่งมา เมื่อเปิดดูข้างในข้อความ ข้างในได้พิมพ์ไว้ว่า “ครีมแผลลายได้ผลดีมาก จนถึงวันนี้ สีผิวบนใบหน้าได้ฟื้นคืนกลับมาเหมือนตอนแรกแล้ว หลังจากที่ผสมครีมแผลลายเสร็จแล้ว กรุณารีบโทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาฉัน ฉันจะรับสินค้าอย่างโดยเร็ว”
ดูไปที่ท้ายข้อความยังพิมพ์ชื่อ เซียงเฉ่า สองคำนี้ไว้อีกด้วย ทันใดนั้นในหัวหลินหยางก็กลับไปคิดถึงลำตัวของเซี่นหลินหลิน
ก่อนหน้านี้ได้ทำการนวดให้กับเธอ ผิวที่นิ่มนวลจนไม่มีอะไรมาสามารถเปรียบเทียบได้ รูปร่างที่ละเอียดประณีตมีเสน่ห์น่าสนใจ บริเวณที่นูนขึ้นเด้งตึงอย่างไม่มีที่ติ
เมื่อนึกถึงเซี่ยหลินหลิน หลินหยางก็คิดถึงแม่บ้านของเซี่ยหลินหลินอีกครั้ง เธอชื่อ จางฟาง ถึงแม้ว่าจางฟางจะอายุมากกว่าตน แต่เนื่องจากดูแลตัวเองดีมากก็ดูไม่ออกว่าแก่กว่าเท่าไหร่ จางฟางที่รูปร่างเจริญงอกงามอย่างเต็มที่นั้นก็ทำให้หลินหยางขบคิดไม่หยุด
เมื่อหลินหยางมีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายหลี่ยิงก็อาบน้ำเสร็จแล้วและเดินเข้ามาที่ห้อง
หลอดไฟประหยัดพลังงานแสงไฟจ้ามาก ลำแสงสีขาวสองแสงไปบนร่างกายของหลี่ยิง ทิวทัศน์ของหน้าอกและถ้ำดอกท้อต่างสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน
หยดน้ำบนเส้นผมที่หยดไหลลงมาเล็กน้อย สองแก้มที่แดงก่ำ ผิวที่นุ่มขาว เหมือนกับบัวที่ผุดขึ้นมา ทำให้ดึงดูดหลินหยางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนนี้หลินหยางเพียงแค่เลือดลมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างล่างก็เด้งขึ้นเหมือนเต้นท์อย่างฉับไว
หลี่ยิงใช้ผ้าขนหนูเช็ดน้ำที่เปียกบนผมแล้วเดินมานั่งที่ข้างๆหลินหยาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “นายไปอาบน้ำเถอะ”
เมื่อได้กลิ่นหอมจางๆออกมาจากบนตัวของหลี่ยิง ใจของหลินหยางก็เต้น รูปร่างสูงและตรงสีขาวของสิ่งนั้นเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น มือของหลินหยางอดไม่ไหวจึงอ้อยอิ่งขึ้นลงอยู่บนนั้น
หลี่ยิงได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนหน้านี้แล้วจึงไม่ได้ปฏิเสธ รีบเช็ดผมที่เปียก นั่งพิงไปที่บนโซฟาแล้วหลับตาเพื่อเสพสุขจากการลูบคลำของหลินหยาง
เคล้าคลึงอยู่บนเนื้อขาวๆซักครู่นึง หลินหยางก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาทำต่อ”
“ฉันช่วยนายถอดเสื้อผ้า” หลี่ยิงหน้าแดงแล้วลุกขึ้น หลังจากถอดเสื้อของหลินหยางออกแล้วจึงดึงกางเกงลงมาพร้อมกับกางเกงในด้านใน
มองไปที่ช่องว่างระหว่างขาของหลินหยาง ใจของหลี่ยิงก็เต้นขึ้นมาอย่างรุนแรง จากเดิมที่หน้าแดงอยู่แล้วตอนนี้ก็ยิ่งแดงเปล่งออกมา ในสายตาเต็มไปด้วยการมองเห็นที่เหลือเชื่อ
ยื่นมือออกไปกุมจับแล้วจัดการสิ่งที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นป้าหลี่ก็เอ่ยปากชมขึ้น “หลินหยาง ของนายมันช่างเป็นลูกวัวจริงๆ มิน่าละสามารถทำให้ฉันจดจำไม่มีวันลืม”
“ป้าลองชิม” หลินหยางพูดอย่างยิ้มๆ
มองดูหลินหยางอย่างเคืองเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำขอของหลินหยาง ความรู้สึกจากข้างล่างได้ส่งผ่านความสบายมาให้กับหลินหยาง
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ป้าหลี่อ้วกออกมาแล้วพูดว่า นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวเรากินข้าวเสร็จแล้วฉันจะทำให้นายใหม่
หลินหยางก็ไม่ได้ว่าอะไร หลินหยางใส่รองเท้าสานอยู่แล้วจึงไม่อยากเปลี่ยนรองเท้าเลยออกไปอาบน้ำข้างนอก ป้าหลี่ก็ไปห้องครัวทำกับข้าวโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
คนในหมู่บ้านน้อยคนนักที่ในบ้านจะมีตู้เย็น ดังนั้นจึงไม่มีเนื้อสัตว์อะไรมาก แต่ป้าหลี่ฝีมือทำอาหารพอใช้ได้ ผัดใส้กรอกหนึ่งจาน เห็ดผัดไข่หนึ่งจาน ก็สามารถทานได้แล้ว
ใช้เวลาไม่นานหลินหยางก็อาบน้ำเสร็จอย่างเร็ว หลังจากที่ป้าหลี่ยกอาหารมาให้นั้น ทั้งสองก็นั่งลงกินอาหาร
“นายก็ไม่ใส่เสื้อผ้าหรอ อันที่ห้อยๆนั้นอายมั้ย?” ป้าหลี่กวาดตามองหลินหยาง ถามอย่างหน้าแดง
“ไม่ใช่ว่าป้าจะไม่เคยเห็น พึ่งจะกินเข้าไปเมื่อกี้ มีอะไรน่าอาย พูดก็พูดเถอะ ป้าจริงใจกับฉัน ฉันจะกล้าซ่อนไว้ได้ยังไง” หลินหยางจ้องมองที่ร่างกายอันเรียบเนียนของป้าหลี่อย่างพินิจพิเคราะห์แล้วยิ้มหัวเราะ