ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่82บทหลงเฟิ่งเจว๋ระดับกลาง
ตอนที่82บทหลงเฟิ่งเจว๋ระดับกลาง
“ไม่เป็นไรครับ อดทนหน่อยก็ได้แล้ว” หลินหยางหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น
“เธอต่ออีกหน่อยก็ได้นะ ฉันทนได้ และอีกอย่างฉันเองก็…..ฉันเองก็อยากเหมือนกัน……” จางเยว่เอ่ยขึ้นอย่างเบาๆและหน้าแดง
เวลาที่ผู้หญิงยิ่งเขินอาย ก็จะยิ่งดึงดูดความสนใจให้กับผู้ชายมากขึ้น ประโยคที่ดูเขินอายนี้ของจางเยว่ นับว่ากระตุ้นความต้องการของหลินหยางได้สำเร็จ
มองดูร่างบางที่อยู่บนเตียง จางเยว่ที่งดงามราวกับดอกไม้ หลินหยางจะทนได้เสียที่ไหนกัน เขานั่งลงบนเตียงแล้วถือโอกาสกดตัวลงไปทางจางเยว่
เดิมทีผืนป่าที่เฉอะแฉะอยู่แล้ว ก็ได้รับรู้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าผืนนั้นอีกครั้ง ปากก็เริ่มส่งเสียงออกมาอีกครั้งด้วยเช่นกัน
และผ่านไปอีกสิบนาที ก่อนหน้านี้ที่จางเยว่ทิ้งโอกาสไปแล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนี้เวลานั้นเร็วยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ร่างกายกระตุกขึ้น ตัวเกร็งและกอดหลินหยางเอาไว้
รับรู้ถึงความฮึกเหิมที่ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมเช่นนี้ของหลินหยางแล้ว ในใจของจางเยว่เองก็รับรู้แล้วว่าที่เขาเคยบอกไว้ว่าเขาต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง เขาคงจะไม่ได้หลอกเธอแล้วจริงๆ ทั้งตัวของเธอนั้นนอนอยู่บนเตียง แววตาที่มีเสน่ห์มองไปยังหลินหยางพลางเอ่ยขึ้น : “เสี่ยวหยาง ฉันไม่ไหวแล้ว เธอยกโทษให้ฉันด้วยนะ”
“รู้ว่าจะทนไม่ไหวแล้วใช่ไหมครับ?” หลินหยางเอ่ยถามอย่างหยอกล้อ
“รอให้ร่างกายฟื้นฟูแล้ว จะต้องทำสงครามใหญ่กับเธอได้สามวันสองคืนได้อย่างแน่นอน” เมื่อพูดจบแล้ว ใบหน้าของจางเยว่ก็ยิ่งแดงระเรื่อขึ้น
ถึงแม้ว่าว่าดาบของหลินหยางจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้เป็นเวลานาน แต่ร่างกายของจางเยว่นั้นก็อ่อนเพลียอยู่บ้างก็จริงอยู่ ไม่เหมาะกับที่จะทำต่อไปเช่นนี้ หลินหยางจึงทำได้เพียงต้องลุกขึ้น
มองดูความยาวของสิ่งที่อยู่ตรงหว่างขาของหลินหยางที่สามารถทำให้คนใจสั่นได้นั้น จางเยว่จึงเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ : “ต่อไปใครที่ได้แต่งงานกับเธอ จะไม่รู้สึกสบายก็ให้รู้ไปสิ”
“ฮ่าๆ คุณพักผ่อนเถอะครับ” หลินหยางเอ่ยพลางหัวเราะ
“แล้วคืนนี้เธอจะยังมาอีกไหม?” จางเยว่หน้าแดงแล้วเอ่ยถามออกมา
“คุณเหนื่อยขนาดนี้แล้ว คืนนี้ผมคงไม่มาแล้วล่ะครับ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ” หลินหยางบอกฝันดีกับจางเยว่แล้วจึงเดินออกไปด้านนอก
และเมื่อเพิ่งจะผลักประตูเปิดออกนั้น หลินหยางก็ตกใจขึ้นมา เพียงแค่ไม่คิดว่าด้านนอกจะมีใครคนหนึ่งยืนอยู่
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูนั้นก็ไม่คิดเช่นกันว่าจู่ๆหลินหยางจะเปิดประตูออกมาเช่นนี้ ตกใจเสียจนกระโดดถอยหลังออกไป หลินหยางจ้องมอง คนที่หลบอยู่ตรงหน้าประตูนั้น ก็คือหลี่หรูนั่นเอง
เวลานี้หลี่หรูที่ตกใจตอนหลินหยางเปิดประตูออกมานั้น หากไม่ใช่ว่าใช้มือปิดปากเอาไว้อยู่ก็คงจะร้องส่งเสียงออกมาแล้ว
กลัวว่าจางเยว่จะสังเกตเห็น หลินหยางแสร้งเดินออกไปทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร และหลังจากที่ปิดประตูห้องลงแล้วนั้นจึงดึงมือของหลี่หรูเดินเข้าไปยังห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออกนั้น
เข้าไปในห้องปิดประตูลงแล้ว หลี่หรูมองหลินหยางด้วยใบหน้าที่คลุมเครือไม่ชัดเจน พูดขึ้นอย่างใจแคบ : “หลินหยาง ก่อนหน้านี้เธอทำอะไรที่ห้องของพี่เยว่น่ะ?”
“ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ” หลินหยางเอ่ยถามอย่างจริงจัง : “เมื่อกี้คุณไปแอบฟังที่หน้าประตูห้องคนอื่น คุณมีชอบทำแบบนี้ด้วยหรือครับ”
“ไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรือ? แล้วที่ฉันได้ยินสถานการณ์ตอนอยู่ในห้อง ไม่เหมือนกับเธอไม่ได้ทำอะไรอย่างที่บอกเลยนะ?” หลี่หรูมองหลินหยางแวบหนึ่งแล้วเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “อีกอย่าง นี่ก็จะโทษฉันทั้งหมดก็ไม่ได้ ฉันรอเธออยู่ที่ห้องตั้งนาน รวมๆแล้วก็ราวครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว จะให้ฉันไม่ออกไปหาเธอได้ไงกัน เมื่อกี้พี่เยว่อยู่ในห้องก็ร้องเสียงดังขนาดนั้น บังเอิญฉันได้ยินเสียงนั้นก็เลยอยู่ฟังอีกซักพักนึงน่ะ”
พูดถึงตรงนี้แล้วเธอหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย : “เสี่ยวหยาง เมื่อกี้เธอทำอะไรกับพี่เยว่น่ะ เขาถึงได้ร้องออกมาซะขนาดนั้น”
“ร่างกายของเขายังไม่ฟื้นฟูดีเลย จะทำอะไรได้?” ในเมื่อโดนหลี่หรูจับจุดอ่อนได้แล้ว หลินหยางเองก็ไม่อยากจะปิดบังอีก
มองดูสภาพทั่วๆไปตรงหว่างขาของหลินหยางแล้ว หัวใจของหลี่หรูก็เต้นแรงขึ้นมา ยิ้มขึ้นพลางเอ่ยถาม : “ครั้งนี้ทำไมเธอถึงออกมาเร็วจัง ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้หาทางออกหรอกนะ”
“ใช่ครับ นี่ผมก็รีบออกมาหาคุณแล้วไม่ใช่หรือ?” หลินหยางหัวเราะออกมา แล้วกอดหลี่หรูที่อยู่ข้างๆเอาไว้ สองมือก็สอดเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ ไม่นานก็สัมผัสกับก้อนเนื้ออันอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือนั่น
ปลดตะขอเสื้อชั้นในออกแล้วนั้น หลินหยางก็ลูบคลำก้อนทั้งสองนั้นอยู่ในมือ ความรู้สึกนุ่มนิ่มเช่นนั้นทำให้อารมณ์ตอบสนองของหลินยางนั้นมีเพิ่มมากขึ้น
ภายใต้การกระตุ้นอย่างไม่หยุดของหลินหยางนั้น ลมหายใจของหลี่หรูนั้นก็ยิ่งหอบถี่ขึ้น มองหลินหยางด้วยใบหน้าทีแดงระเรื่อ ริมฝีปากพุ่งไปหาหลินหยางในทันที
ทั้งสองคนทิ้งตัวล้มลงบนเตียงในทันที จูบรับกันอย่างร้อนแรง สองมือใหญ่ของหลินหยางนั้นนวดคลึงอยู่บนคลื่นสองลูกใหญ่นั่นของเธอ และเธอก็ดึงกางเกงของหลินหยางลงอย่างไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็นัวเนียอยู่ด้วยกันเช่นนั้น การรับรู้ความรู้สึกที่ยิ่งมีมากขึ้น หลี่หรูห้ามตัวเองที่จะไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้เลย
“เสี่ยวหยาง ไม่ใช่ว่าเธอจะทาครีมโต้วโค่วให้ฉันหรอกหรือ ยังไม่ทันได้รักษาคนไข้เลย เธอก็คิดที่จะเอาเปรียบกันแล้ว?” หลี่หรูเอ่ยถามออกมาอย่างไม่มีแรง
หลินหยางได้ยินดังนั้นแล้วจึงหยุดร่างกายของตัวเอง แล้วหยอกล้อพูดขึ้นมา : “ถ้าอย่างนั้น ผมรักษาให้คุณก่อนไหม?”
หลี่หรูได้ยินแล้วนั้นก็อดที่จะกรอกตามองหลินหยางไม่ได้ แล้วพูดขึ้นอย่างอายๆ : “ทำภารกิจของเธอไปก่อน!”
หลินหยางหัวเราะออกมา และควบม้าบนร่างของเธอ ผ่านไปเป็นเวลาชั่วโมงกว่า หลี่หรูนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง ปากก็พึมพำออกมาฟังไม่รู้เรื่อง
รอจนกระทั่งหลินหยางหยุดร่างกายของตัวเองลงนั้น หลี่หรูกอดหลินหยางไว้ร่างบางเอ่ยพูดขึ้นมา : “เสี่ยวหยาง นับวันนี่เธอยิ่งจะเก่งขึ้นทุกทีๆแล้วนะ เธอว่าถ้าฉันรักเธอเข้าจริงๆจะทำยังไง?”
“คาดว่าแฟนของคุณก็คงจะตามฆ่าผมสิครับ” หลินหยางหัวเราะแล้วเอ่ยถาม : “ทำไมครับ คุณคิดอยากจะคบชู้อย่างนั้นหรือ”
“บ้าสิ แฟนของฉันดีกับฉันออก และฉันกับเขาก็ยังดีๆกันอยู่ด้วย แล้วอีกอย่างจะว่าไปแล้วถ้าฉันเลิกกับเขา ก็ใช่ว่าเธอจะต้องการฉันเสียหน่อย” นิ้วมือของหลี่หรูวนไปมาอยู่ตรงหน้าอกของเขา
“ฮ่าๆ สุภาพบุรุษไม่แย่งของคนอื่นหรอกครับ ภรรยาของคนอื่น ถ้าผมแย่งมา ก็ไม่สบายใจอยู่ดี” หลินหยางว่าพลางหัวเราะออกมา
หลี่หรูมองหลินหยางอย่างเคืองๆพลางเอ่ยว่า : “เธอชอบกินอาหารป่าแบบนี้ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรสินะ”
“ก็ไม่ใช่เพราะคุณสวยเกินไปหรอกหรือครับ ถ้าหากคุณไม่สวย ผมก็คงจะไม่ชอบหรอก” หลินหยางหัวเราะพร้อมกับเอ่ยขึ้น
หลี่หรูได้ยินดังนั้นแล้วก็รู้สึกถูกใจ มองหลินหยางพลางเอ่ยขึ้น : “เธอทาครีมโต้วโค่วให้ฉันหน่อยสิ”
หลินหยางพยักหน้า แล้วหยิบขวดครีมโต้วโค่วออกมา แต้มครีมแผลลายเล็กน้อย แล้วทาลงบนองุ่นสีม่วงนั้นของเธอ
ความรู้สึกชาๆเกิดขึ้น ร่างกายของหลี่หรูนั้นไว้ต่อความรู้สึกมาก เวลานี้เองเธอก็ได้ร้องออกมาเบาๆอีกครั้งหนึ่ง
ระยะเวลาประมาณ7-8นาที หลี่หรูเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว ให้หลินหยางกล่อมเธออยู่ซักพัก ไม่นานลมหายใจก็เริ่มจะสม่ำเสมอ ชัดเจนว่าเธอหลับไปเรียบร้อยแล้ว
มองดูหลี่หรูที่หลับสนิทแล้ว หลินหยางจึงออกมาจากห้อง แล้วเดินไปยังห้องของจางเยว่ หลังจากที่เห็นว่าจางเยว่ก็หลับไปแล้วเช่นกัน เขาถึงได้วางใจแล้วกลับไปยังห้องทางทิศตะวันออก ห้องนั้นที่จางฟางนอนเมื่อคืนนี้ เขานั่งไขว่ห้างลงบนเตียง
ช่วงเวลานั้นหลินหยางรู้สึกจุดชีพจรสำคัญนั้นมีความอิ่มเอม สงบจิตใจลงเพื่อให้ชี่แท้ได้ไหลเวียนภายในร่างกายของเขา
บทหลงเฟิ่งเจว๋เดิมทีแล้วเป็นวิธีการฝึกพลังระหว่างชายหญิง นับดูแล้ว หลินหยางได้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นสิบกว่าคนแล้ว พลังหยวนยินไตก็ได้รับมาไม่น้อยแล้ว หลินหยางนั่งทำสมาธิอยู่ทุกคืน ถึงจุดอิ่มตัวช่วงระดับต้นของบทหลงเฟิ่งเจว๋ตั้งแต่แรกแล้ว
วันนี้เขาได้พัวพันอยู่กับผู้หญิงทั้งสามคน พลังหยวนยินไตที่สะสมไว้เต็มเปี่ยม หลินหยางรู้สึกเพียงว่าคืนนี้ความเร็วในการทำงานของบทหลงเฟิ่งเจว๋นี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไป ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้น เมื่อแสงสว่างแรกที่สาดส่องเข้ามาแทนท้องฟ้ามืดๆนั้น แสงตะวันจากทางทิศตะวันออก ไม่ได้เข้าสู่ภายในร่างกายของหลินหยางโดยตรง
ร่างของหลินหยางสั่นเล็กน้อย รู้สึกเพียงแค่ว่าชีแท้กำลังไหลวนอยู่ในร่างกายของเขา เมื่อรวมเข้ากับจุดชีพจรสำคัญแล้ว จุดชีพจรเดิมก็เหมือนเป็นคลื่นซัดสาดมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ทุกอย่างเกิดขึ้นไปอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับเงื่อนไขทุกอย่างพร้อมแล้ว เข้ากันได้ดีไปหมด
หลินหยางค่อยๆลืมตาขึ้น แสงสีม่วงที่ค่อยๆทะลุผ่านรูม่านตา ค่อยๆปรับสภาพชัดเจนขึ้น
หวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงกลางคืน หลินหยางจึงรีบตรวจสอบชี่แท้ที่อยู่ภายในร่างกายของตัวเอง พบว่าเมื่อทำงานแล้ว มีพลังมากกว่าก่อนหน้านี้ ในใจรู้สึกสั่นไหวขึ้นมา
ตัวเองสามารถบรรลุกระดับกลางได้แล้ว!
ศักยภาพก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นแล้ว นั่นก็แสดงว่าเทคนิคทางการแพทย์ของตัวเอง สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น หรือบางทีปัญหาที่ไม่มีวิธีแก้ของตัวเองนั้น อาจจะเป็นเพราะความสามารถที่พัฒนาของตัวเองสามารถที่จะแก้ปัญหาได้
ลมหายใจยาว หลินหลางยืนขึ้น รู้สึกได้ถึงภายในร่างกายที่มีพลังมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน และร่างกายที่ยิ่งเบาขึ้นกว่าเดิม หลินหยางหัวเราะออกมา แล้วสวมใส่เสื้อผ้ามาลานกว้างเพื่อมาฝึกรำมวย
หลังจากที่ฝึกซ้อมบทหลงเฟิ่งเจว๋ไปสองสามรอบแล้วนั้น หลินหยางก็พ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับเข้าไปอาบน้ำ
และเมื่ออาบน้ำเสร็จก็เป็นเวลาเก้าโมงแล้ว เห็นว่าผู้หญิงทั้งสองคนนั้นยังไม่ตื่น หลินหยางฝืนยิ้มออกมา แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องของจางเยว่อย่างลังเล
เมื่อเดินมาเห็นแล้วนั้น หลินหยางเลือดกำเดาแทบจะพุ่งออกมา
เห็นเพียงร่างที่เปลือยเปล่าของจางเยว่ เธอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง สองขาอ้าออกจากกัน สภาพของป่าผืนนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งก้อนเนื้อทั้งสองก้อนตรงนั้นยังมีความยืดหยุ่นมากอีกด้วย
มองดูเรือนร่างที่เร้าร้อนนี้แล้ว หลินหยางกลืนน้ำลาย แล้วถอยออกไปจากห้อง เขากลัวว่าหากขืนเขาอยู่ต่ออีกเพียงแค่นิดเดียว ตัวเองจะทนไม่ไหว แล้วกินจางเยว่เข้าเสียก่อน
หลังจากที่ปิดประตูห้องลงแล้วนั้น หลินหยางเดินไปยังห้องทางทิศตะวันออก เพื่อดูว่าทำไมหลี่หรูถึงยังไม่ตื่นเสียที
เมื่อผลักประตูเข้าไปนั้นหลินหยางก็แทบจะเลือดกำเดาพุ่งอีกครั้ง ตอนนี้ผู้หญิงไม่รู้เป็นอะไรกันไปหมด ทำไมไม่ชอบใส่เสื้อผ้านอนกัน
เวลานี้เองหลี่หรูกำลังนอนตะแคงอยู่ เนื้ออวบอิ่มทางด้านขวามือแนบชิดลงบนเตียง ช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก ต้นขายกขึ้นไปทางด้านหน้าข้างหนึ่ง สะโพกที่ยกขึ้นเล็กน้อย ช่างเป็นการยั่วยวนเสียเหลือเกิน
หลินหยางยังไม่ได้ออกไป เขายังอยากจะเห็นประสิทธิผลของครีมโต้วโค่ว ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคนหรือเปล่า
เมื่อเดินมาข้างๆเธอแล้ว มองดูก้อนเนื้อทั้งสองตรงด้านบนนั้น เดิมทีองุ่นสีม่วงๆขนาดเล็กตรงนั้น สีอ่อนลงไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสีแดงอ่อนๆ แต่ดูแล้วก็ได้ผลไม่น้อยเลยทีเดียว เชื่อว่าอีกซักสองสามครั้งก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูได้แล้ว
เขามองไปยังผืนป่าตรงนั้นอีก สีตรงนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีอ่อนลงไปมากแล้ว หลินหยางพยักหน้าอย่างพอใจ
มองหลี่หรูที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ในใจของหลินหยางนั้นยิ้มออกมา แล้วทันใดนั้นเองก็ยื่นนิ้วออกไปด้านในของป่าผืนนั้นของเธอ
เพียงไม่นานป่าแห้งผืนนั้นก็เปียกชุ่มขึ้นมาบ้างแล้ว ขาของหลี่หรูหุบเข้าหากัน ปากก็พึมพำ : “ที่รัก อย่าทำสิ ฉันขอนอนต่อก่อน รอฉันตื่น จะทำอะไรก็ทำเลย เสี่ยวหรูเป็นของเธออยู่แล้วนะ……”
ได้ยินคำพูดที่ยั่วยวนแล้วนั้น ดาบเล่นนั้นของหลินหยางก็แข็งขึ้นมาในทันที ดาบนี้จะลงโทษหลี่หรู ในระหว่างนั้นเองที่หลินหยางเองก็รู้สึกโชคดี ที่หลี่หรูพึมพำออกมานั้นคือสามีของเธอไม่ใช่หลินหยาง ถ้าหากถึงตอนนั้นที่แฟนของเธอยั่วยุเธอเช่นนี้ แต่ปากของเธอกลับเรียกชื่อของเขาออกมา ถึงตอนนั้นเรื่องทุกอย่างก็คงจะอธิบายยากแล้ว
“คนขี้เกียจ ตอนนี้เก้าโมงแล้ว คุณยังไม่ตื่นอีก ถ้าไม่ลุกผมจะเข้าไปแล้วนะ?” หลินหยางตอบกลับหลี่หรูไปอย่างขี้เล่น
“ไม่เอา เดี๋ยวค่อยทำนะ แล้วฉันจะปรนนิบัติคุณอย่างดีเลย” หลี่หรูเอ่ยขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมรอให้คุณปรนนิบัติผมแล้วกันนะ” หลินหยางได้ยินแล้วอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
ได้ยินเสียงหัวเราะนั้น หลี่หรูก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา เมื่อคืนนี้จริงๆแล้วเธอนอนเร็วมาก สามทุ่มครึ่งเธอก็หลับแล้ว ตอนนี้ถือว่าพักผ่อนเพียงพอแล้ว
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองดูคนตรงหน้าให้ชัดๆ ว่าเป็นแฟนของตัวเองหรือเปล่า แต่กลับเป็นใบหน้าของหลินหยางเสียอย่างนั้น เธอหน้าแดงพลางเอ่ยขึ้น : “เธอนี่ร้ายจริงๆ มาทำอะไรคนอื่นแต่เช้าแบบนี้กัน”
ว่าแล้วเธอก็ยื่นมือออกไปเพื่อบิดขี้เกียจ หน้าอกที่ตั้งที่ตั้งชัน ยื่นออกมาไปตามแรงบิดขี้เกียจนี้ หลินหยางที่มองอยู่ตลอดนั้นอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป
ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่อามรมณ์ของคนเราค่อนข้างคึกคักมีชีวิตชีวา เดิมทีแล้วทั้งสองคนไม่ได้เคยอยู่ด้วยกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลี่หรูก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรนัก ถูกหลินหยางจับลูบคลำเช่นนั้นไม่ใช่เพียงจะไม่ปฏิเสธ แต่กลับบิดตัว ราวกับกำลังจะทำให้หลินหย่างถูกใจอย่างไรอย่างนั้น
“ใช่แล้ว คุณลองดูหน้าอกคุณสิครับ สีอ่อนลงไปเยอะเลย” หลินหยางหัวเราะพลางเอ่ยเตือน