ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่83 หลี่หรูที่ตื่นเต้น
ตอนที่83 หลี่หรูที่ตื่นเต้น
จุดประสงค์หลักที่หลี่หรูมาหาหลินหยางนั้นก็คือต้องการจะมาขอยา ที่ทำให้หัวนมสีเข้มและตรงจุดซ่อนเร้นของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นสีชมพู
ได้ยินคำพูดนี้ของหลินหยางแล้วนั้น หลี่หรูจึงรีบก้มลงมองดู หลังจากตอนที่เห็นสีตรงหน้าอกของตัวเองแล้วนั้น ก็เบิกตาโตขึ้น ร่างของเธอนั้นสั่นเล็กน้อย
“เปลี่ยนเป็นสีอ่อนแล้วจริงๆด้วย หลินหยาง ได้ผลจริงๆ!” หลี่หรูร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น
ถึงแม้ว่าหลินหยางจะรู้ว่าเมื่อหลี่หรูรู้ข่าวเรื่องนี้แล้วเธอจะต้องดีใจ แต่ปฏิกิริยาของหลี่หรูนั้นอยู่ในระดับที่รุนแรง ยังคงเกินไปจากที่หลินหยางคิดเอาไว้มาก
“เอาล่ะครับ เรื่องเล็กๆแค่นี้เอง คุณดูสิคุณจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลย” หลินหยางเอ่ยพลางหัวเราะขึ้น
หลี่หรูกอดหลินหยาง หน้าอกของเธอก็แนบไปกับร่างกายของเขาโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกต ไม่นาน น้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธอ
“เสี่ยวหรู เป็นอะไรไปครับ?” ไม่คิดว่าจะเห็นหลี่หรูร้องไห้ออกมา หลินหยางจึงรีบช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอ เช็ดน้ำตาไปพลางและเอ่ยปลอบใจเธอไปพลาง : “สีอ่อนลงแล้ว คุณควรจะดีใจไม่ใช่หรือครับ?”
“ใช่ ฉันดีใจ ตื่นเต้นจนร้องไห้ออกมาเลย” หลี่หรูเช็ดน้ำตาอย่างรู้สึกอายอยู่บ้าง แต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาไม่หยุด
หลินหยางก็ไม่ได้บีบบังคับเธอ เพียงแต่กอดเธอไว้ แล้วลูบหลังเธอเบาๆ
ราวกับหลินหยางสามารถให้ความรู้สึกที่เชื่อใจและสบายใจกับผู้หญิงได้ ภายใต้อ้อมกอดของเขา ไม่นานหลี่หรูก็สงบลงได้
เธอมองหลินหยางอย่างรู้สึกเกรงใจ หลี่หรูเอ่ยพูดออกมาเสียงเบา : “เสี่ยวหยาง อย่าหัวเราะฉันได้ไหม ฉันตื่นเต้นมากเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง”
“ไม่ใช่โรคที่จะรักษาไม่หายเสียหน่อย ดูคุณตื่นเต้นซะ” หลินหยางหัวเราะพลางบีบจมูกหลี่หรูเบาๆ
“ถึงจะไม่ใช่โรคที่จะรักษาไม่หาย แต่ก็ทำให้ลำบากนะ เธอไม่รู้หรอกว่าหลายปีมานี้ในใจของฉันต้องได้รับกับความลำบากมาขนาดไหน” หลี่หรูนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ตัวเองผ่านมา : “เมื่อก่อนฉันเคยคุยๆกับผู้ชายอยู่สองสามคน พอเห็นว่าตรงนั้นของฉันเป็นสีดำ ต่างก็พากันคิดว่าฉันไม่รู้จักตรวจดู ซึ่งสำหรับฉันที่มีความรักอย่างไม่มีความสุข ความรู้สึกที่ถูกสงสัย เธอไม่รู้หรอกว่ามันยากลำบากขนาดไหน”
“อีกอย่างเวลาไปอาบน้ำ คนอื่นที่มองหน้าอกฉันที่มีสีเข้มแบบนั้น ก็พากันซุบซิบนินทาทำให้ฉันไม่กล้าที่จะไปอาบน้ำในห้องน้ำสาธารณะแบบนั้นเลย…….” สิ่งที่หลี่หรูผ่านมาในช่วงหลายปีมานี้นั้น เธอพูดมันออกมาทีละนิดๆ หลินหยางที่ได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน
สีของตรงนั้นของผู้หญิง สีเข้มบางครั้งก็ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นเพราะการไม่รู้จักตรวจดูเสียหน่อย แต่อย่างสถานการณ์ของหลี่หรูเช่นนี้ ดูแล้วน่าจะเกิดจากธรรมชาติและการที่ไม่ได้ตรวจดูด้วยนั่นเอง
คำพูดนี้หลินหยางไม่ได้เอ่ยพูดออกไป ทั้งยังกอดหลี่หรูเอาไว้ในอ้อมกอด เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของหลินหยางอยู่เงียบๆ
“คนเลว!” หลินหยางกอดหลี่หรูอยู่ไม่นาน มือใหญ่ก็เริ่มตะเกียกตะกายไปตรงเนื้อนุ่มๆที่อยู่ตรงหน้าอกของเธออีกครั้ง นิ้วมือบีบอยู่ตรงเม็ดมุกทั้งสอง หลี่หรูส่งเสียงร้องออกมา แก้มทั้งสองข้างเป็นสีแดง ราวกับภาพก้อนเมฆที่อยู่ทางทิศตะวันตก ช่างสวยงามมีเสน่ห์เหลือเกิน
“ฮ่าๆ สีสวยขนาดนี้ ให้ผมลิ้มลองรสชาติหน่อยนะว่าจะเหมือนเดิมหรือเปล่า” หลินหยางหัวเราะ แล้วแทบจะกลืนกินเม็ดองุ่นนั้นเข้าไปเสียอย่างนั้น
“อือ….”หลี่หรูส่งเสียงร้องออกมา ทำท่าทางว่าจะผลักหลินหยางออก แต่หลินหยางที่มีแรงมากกว่านั้น ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอนั้นไม่สามารถผลักหลินหยางออกไปได้เลย ขณะที่เธอยื้อกันไปมาอยู่นั้น หลินหยางและหลี่หรูก็ได้หยอกล้อกันอยู่บนเตียงกันเป็นที่เรียบร้อย
ภายใต้การกระตุ้นอย่างไม่หยุดของหลินหยางนี้ หลี่หรูนอนอยู่บนเตียง เธอมองหลินหยางด้วยแววตาที่หยาดเยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยการหยอกล้อ มือสองข้างที่ยื่นออกไปใช้แรงดึงก็ทำให้กางเกงของเขาหลุดลงมาแล้ว
มองไปยังดาบเล่มที่ยื่นออมานั้น ดวงตาของหลี่หรูก็เป็นประกายและมีความรู้สึกรอคอย เธอเอ่ยถามขึ้น : “หลินหยาง เป็นผู้ชายใช่ไหม?”
“เดี๋ยวคุณก็รู้แล้ว” เมื่อเผชิญกับการยั่วยุเช่นนี้ของหลี่หรูแล้วนั้น หลินหยางเองก็ไม่ยอมแพ้ ร่างของเขาจึงกดไปบนร่างของเธอในทันที
ได้รับรู้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของลำธารที่ไหลออกมานี้แล้วนั้น หลี่หรูเองก็รู้สึกสบายเสียจนต้องหลับตาลง
เป็นเวลาชั่วโมงกว่า หลินหยางและหลี่หรูจึงได้หยุดลง หลี่หรูมองหลินยางด้วยความเขินอาย แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ : “เสี่ยวหยาง ฉันรู้สึกว่าเมื่อกี้ที่เราทำมันรู้สึกสบายกว่าครั้งก่อนๆอีกนะ”
หลินหยางได้ยินดังนั้นแล้วถึงกับอึ้งไป ความสุขนี้ หรือจะเป็นเพราะสาเหตุจากที่ตัวเองได้เข้าสู่บทหลงเฟิ่งเจว๋ระดับกลางแล้ว?
“สบายแค่ไหนครับ?” หลินหยางเอ่ยถามต่อ
“ก็สบายนั่นแหล่ะ!” หลี่หรูรู้สึกอายจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเงยหน้าขึ้นมามองหลินหยางแล้วพูดอีกครั้งว่า : “อีกอยากฉันพบว่าวันนี้หากเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆอยู่นะ ส่วนที่ว่าอะไรเปลี่ยนไปนั้น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“ทำไมครับ? แก่ขึ้นหรือ?” หลินหยางลูบเนื้อนุ่มๆนั้นพลางเอ่ยถาม
“ไม่ใช่เสียหน่อย เหมือนกับว่ามีออร่าขึ้น ส่วนที่ว่าออร่าอะไรนั้นฉันเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ถึงอย่างไรซะก็ทำให้คนชอบก็แล้วกัน” หลี่หรูกอดหลินหยางพลางเอ่ยบอกกับเขา
ถึงแม้ว่าหลินหยางจะไม่ชอบให้คนอื่นมาประจบประแจง แต่ในเมื่อคำพูดประจบประแจงเหล่านี้นั้นคือความจริง ก็จะทำให้คนรู้สึกเหลิง หลินหยางที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก
“เอาล่ะ ตอนนี้จะสิบโมงแล้ว คุณพักก่อน แล้วเดี๋ยวลุกขึ้นไปทานข้าวนะครับ” หลินหยางเองก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่เข้าสู่บทหลงเฟิ่งเจว๋ระดับกลางด้วยเช่นกัน
ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วเขาก็มายังห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก มองดูจางเยว่ที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่เธอก็ลืมตาขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นว่าหลินหยางเดินเข้ามา เธอก็รีบหาผ้าห่มบางๆมาปกปิดร่างกายของเธอไว้ พลางเอ่ยถามขึ้นอย่างอายๆ : “เธอจะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อนล่ะ”
“ผมกลัวว่าคุณจะยังไม่ตื่นน่ะครับ เคาะประตูแล้วทำคุณตื่นนั่นก็คงจะเป็นการทำผิดกับคุณอีก” หลินหยางหัวเราะ แล้วเดินมานั่งลงข้างๆเตียงของจางเยว่ มองเธอ เมื่อเทียบสีหน้าของจางเยว่กับก่อนหน้านี้แล้วนั้น มีความวาวมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ได้รับน้ำค้างเมื่อคืนนี้ วันนี้ดูงดงามขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
มองดูหลินหยางที่กำลังจ้องมองตัวเองอยู่แล้วนั้น ในใจของจางเยว่ยิ่งรู้สึกเขินอายมากขึ้น แล้วเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ : “เธอมองอะไรน่ะ!”
“ดูดีขึ้นมากจริงๆ” หลินหยางอุทานออกมา ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามมากเสียจริงๆ โดยเฉพาะท่าทางที่ดูสบายๆเช่นนั้น ยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น
“เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ?” หลินหยางเอ่ยถามเบาๆ
เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์บ้าคลั่งเช่นนั้นระหว่างตัวเองกับหลินหยางแล้ว ในใจของจางเยว่ก็รู้สึกอึดอัด จึงพยักหน้ารับ : “ก็โอเคนะ นอนหลับสบายมากเลย เพิ่งจะตื่นเมื่อกี้เอง”
“หิวแล้วสินะครับ เดี๋ยวผมไปทำอาหารก่อนนะ” หลินหยางลุกขึ้น
“เดี๋ยวก่อน ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำ” จางเยว่ยื่นแขนออกไป เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าจะให้หลินหยางอุ้มเธอไปนั่นเอง
“ได้ครับ” หลินหยางเปิดผ้าห่มบางๆบนร่างกายของเธอออก ทันใดนั้นเองเรือนร่างของจางเยว่ก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่ตรงหน้าเขา
ถึงแม้ว่าจะมีอะไรกับหลินหยางมาแล้วครั้งนึง แต่ถูกหลินหยางมองเรือนร่างตัวเองในเวลากลางวันแสกๆแบบนี้ ในใจของจางเยว่นั้นยังคงมีความรู้สึกอับอายอยู่บ้าง ก้มหน้าลงไม่กล้ามองหน้าเขาเลย อย่างไรก็ตามหลินหยางก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำอยู่ดี
รอจนจางเยว่จัดการธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น หลินหยางก็อุ้มเธอกลับไปยังทางทิศตะวันตก
“ว้าว! พี่เยว่ ไม่คิดเลยว่าหลินหยางจะอุ้มพี่โดยที่พี่ไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้!” หลินหยางที่เพิ่งจะเดินเข้ามายังห้องโถง ทันใดนั้นเองประตูห้องทางด้านทิศตะวันออกของหลี่หรูก็เปิดออกมา หลี่หรูที่ยืนอยู่หน้าประตูร้องเรียกออกมาอย่างดูเกินจริง
จางเยว่ไม่คิดว่าหลี่หรูที่ไม่ออกมาให้เร็วหรือช้ากว่านี้ แต่กลับเลือกที่จะเดินออกมาในช่วงเวลานี้ หรือดวงชะตาของเด็กคนนี้จะไม่ถูกกันกับเธอกัน?
ใบหน้าแดงก่ำเอาศีรษะซุกไว้ตรงไหล่ของหลินหยาง แล้วเอ่ยเร่งหลินหยาง : “รีบๆเข้าไปในห้องสิ”
มองดูจางเยว่ที่เป็นเหมือนนกกระจอกเทศที่คอยหลบหนีความจริงเช่นนี้แล้ว หลินหยางจึงส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา เขาอุ้มจางเยว่แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง
“ว้าว พี่เยว่ พี่ว่าพี่กับหลินหยาง พัฒนากันไปถึงขั้นไหนแล้วกัน? เมื่อคืนพวกพี่สองคนคงจะไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่มีใครรู้กันหรอกใช่ไหม?” หลี่หรูร้องเรียกขึ้นจากทางด้านหลังของหลินหยาง เดิมทีจางเยว่ที่มีเลศนัยอยู่นั้น ได้ยินแล้วก็ยิ่งรู้สึกอายไปมากกว่าเดิม
หลังจากที่หลินหยางวางจางเยว่ลงบนเตียงแล้ว จางเยว่เอากำปั้นทุบไปที่เตียงอย่างโกรธๆ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “เคราะห์ร้ายจริงๆ ถือว่าเป็นความซวยของฉันเลยนะที่มาเจอเขาน่ะ”
หลินหยางได้ยินดังนั้นแล้วเพียงแค่หัวเราะออกมา ลูบศีรษะของจางเยว่พลางเอ่ยขึ้น : “ถึงอย่างไรเธอก็เห็นแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นก็ทำใจกว้างยอมรับไปสิครับ ยิ่งคุณคิดจะปิดบัง เธอก็ยิ่งอยากจะหยอกล้อกับคุณนะ”
“เธอพูดนี่ดูสบายจังเลยนะ ฉันผู้หญิงที่แก่กว่าก็ย่อมอายเด็กสาวๆน่ะสิ” จางเยว่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา มองดูหลินหยางที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ให้จางเยว่จัดการสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ในห้อง แล้วหลินหยางก็ออกไปทำอาหาร
อาหารเช้าหลินหยางทำอย่างเรียบง่าย เพียงแค่ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวและมีผัดผักอีกหนึ่งอย่าง แต่ฝีมือการทำอาหารของหลินหยางนั้นยอดเยี่ยมมาก พวกเขาทั้งสามคนรับประทานกันอย่างออกรส
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วนั้น หลินหยางก็เริ่มฝึกเขียนตัวอักษร และหลังจากที่ฝึกฝนเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เขาก็พาหญิงสาวทั้งสองคนไปเดินเล่นในหมู่บ้าน อากาศในชนบทนั้นบริสุทธิ์กว่าในเมืองมาก หญิงสาวทั้งสองคนมายังชนบทแบบนี้ไม่บ่อย มองดูวิวทิวทัศน์รอบๆแล้วรู้สึกแปลกใหม่ยิ่งนัก
เมื่อเห็นคนที่คุ้นเคย หลินหยางก็ยิ้มและเอ่ยทักทายพวกเขา ในสถานการณ์ที่สบายอกสบายใจเช่นนี้ หญิงสาวทั้งสองคนก็รู้สึกชื่นชมด้วยเช่นกัน
“ต่อไปฉันจะมาอยู่ในชนบทแบบนี้บ้าง เงียบสงบดีจริงๆ” สองมือของหลี่หรูมาประสานกันไว้ แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
“รอให้คุณมาอยู่ที่นี่จริงๆซักระยะหนึ่งแล้ว คุณจะอยากกลับไปอยู่ในเมือง” หลินหยางหัวเราะออกมา ผู้คนในตอนนี้ก็มักจะเป็นเช่นนี้ ต่อให้เป็นสถานที่ที่ดีกว่านี้ อยู่เป็นระยะเวลานานๆก็จะรู้สึกวุ่นวายใจเอง
“หลินหยางพูดถูก อยู่ที่นี่จนชินแล้ว ก็จะพบกว่าที่นี่ไม่สะดวกสบาย ก็จะอยากกลับเข้าไปอยู่ในเมือง” จางเยว่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับความคิดนี้ของหลินหยาง
สองวันต่อมา หลินหยางที่พักอาศัยอยู่กับผู้หญิงทั้งสองคน ทุกคืนเขาจะแยกตัวเองไปตะลุมบอนกับพวกเธอคนละชั่วโมงกว่าๆ จางเยว่คิดมาตลอดว่าหลี่หรูจะไม่รู้ความลับของเธอกับหลินหยาง ไม่รู้เลยว่าครั้งแรก หลี่หรูก็ได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจนเสียแล้ว
เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จางเยว่สามารถเดินได้เป็นปกติ ส่วนสีของหน้าอกและตรงนั้นของหลี่หรู ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีอมชมพูแล้วเช่นกัน
หลี่หรูใช้ครีมโต้วโค่วไปทั้งหมดสองขวด ตอนที่เธอจะกลับไปนั้นก็ได้เอาไปด้วยอีกหนึ่งขวด เดิมทีแล้วหลินหยางจะไม่เก็บเงิน เพราะในเมื่อทั้งสามวันที่ผ่านมานี้ ตัวเองก็ได้ไปเอาเปรียบร่างกายของเธอทุกคืน
แต่หลี่หรูเป็นคนที่ไม่ชอบเอาเปรียบใคร ประกอบกับฐานะทางครอบครัวของเธอนั้นก็นับว่าไม่เลว ก่อนหน้านี้หลินหยางเคยบอกเธอไว้แล้วว่ายานี้ราคาไม่ถูก เธอจะให้เงินเขามาไว้ห้าพันอีกด้วย
และหลินหยางพูดชักแม่น้ำทั้งห้าแล้ว สุดท้ายเธอจึงให้หลินหยางไปสามพัน เธอกล่าวขอบคุณหลินหยาง แล้วเช้าตรู่วันที่สี่ ก็ให้หลินหยางไปส่งเธอที่ตำบลไป๋ซาน โดยนั่งรถที่จะไปเมืองเจียงหลิง
รอจนหลังจากที่หลินหยางไปส่งหลี่หรูกลับไปแล้วนั้น จางเยว่กอดหลินหยางพลางเอ่ยขึ้น : “ในที่สุดตอนนี้ก็ไม่มีคนมารบกวนโลกของเราสองคนแล้ว ต่อไปเราจะทำอะไรกันทุกคืน ก็ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆแล้วนะ”
หลินหยางได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอใจ เรื่องราวของตัวเองกับจางเยว่นั้น หลี่หรูรู้ทุกอย่างตั้งแต่แรกแล้ว แต่หลินหยางไม่ได้เปิดเผยออกมา ยิ้มแล้วเตรียมอาหารเย็นให้กับจางเยว่
ฟื้นฟูมาเป็นระยะเวลากว่าสัปดาห์แล้ว ภายใต้การดูแลเป็นอย่างดีของหลินหยาง ร่างกายของจางเยว่นั้นหายเป็นปกติแล้ว ถ้าหากไม่ใช่การออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เรื่องอื่นๆก็สามารถจะทำได้หมด
วันนี้ จางเยว่นั่งอยู่ตรงลานกว้าง มองดูหลินหยางที่ฝึกฝนเขียนตัวอักษรเสร็จแล้วนั้น จึงเอ่ยถามเสียงเบาว่า : “เสี่ยวหยาง ร่างกายของฉันฟื้นฟูจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว ฉันอยากจะหาเวลากลับบ้าน พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงฉันมากแน่ๆ”
หลินหยางบ่นพึมพำพักหนึ่ง แล้วพยักหน้าพลางเอ่ยขึ้น : “ครับ คุณเองก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน อยู่กับผมที่นี่ พ่อแม่ของคุณจะต้องเป็นกังวลมากอยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเราจะกลับกันเมื่อไหร่ดีล่ะ?” จางเยว่มองหลินหยางพร้อมกับเอ่ยถาม
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ก็แล้วกันครับ” หลินหยางตบปากรับคำ
“ไม่สิ อยู่ต่ออีกซักสองวัน อีกสามวันข้างหน้าค่อยกลับ ฉันยังทำใจที่จะไปจากเธอไม่ได้เลย” จางเยว่ก้มหน้าลงพลางเอ่ยออกมาอย่างเขินอาย แก้มที่ขาวๆ ตอนนี้ได้มีสีแดงระเรื่อไปเสียแล้ว
มองดูจางเยว่ที่งดงาม ในใจของหลินหยางเองก็รู้สึกสั่นไหว เขาเอาโทรศัพท์มือถือส่งให้เธอ : “ถ้าอย่างนั้นคุณโทรบอกพ่อแม่ของคุณก่อนว่าอีกสามวันข้างหน้าคุณจะกลับไป พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”