ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 172ผลิตภัณฑ์ใหม่
บทที่172ผลิตภัณฑ์ใหม่
“อ๋อ? เมื่อกี๊คุณพูดอะไรเหรอครับ?”หลินหยางแกล้งถาม
“พี่จู้บอก พวกมึงรีบเอาครีมแผลลายหนึ่งร้อยขวดมา พวกกูจะซื้อ!”ลูกน้องคนนึงของโจวจู้ตะโกน
“คนที่อยากซื้อครีมแผลลายรบกวนไปเข้าแถวอย่างรู้ตัวด้วยครับ ตามตามกฎระเบียบครับ”หลินหยางตอบอย่างราบเรียบ
“แหมๆๆ วันนี้เจอคนที่ไม่อยากกลัวตายจริงๆโว๊ย รู้จักพี่หยุนมั้ย? พี่เหลยหยุนว่าจะซื้อครีมแผลลายของพวกมึง คือให้หน้าพวกมึง อย่ามองข้ามความหวังดีของลูกพี่”
โจวจู้ชี้ไปที่หลินหยางแล้วตะโกน ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
หลินหยางพูดต่อ:“ซื้อของรบกวนเข้าแถวอย่างรู้ตัวด้วยครับ”
เห็นหลินหยางไม่มีความคิดที่ยอมถอย โจวจู้โกรธสุดขีดจนถึงขั้นกลายมาเป็นหัวเราะ เขาตบมือและพูด:“คนรอบๆไสหัวไปให้หมด ไม่งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะโว้ย!”
“คนที่สามารถซื้อครีมแผลลายได้ ล้วนแต่เป็นครอบครัวที่ฐานะสูงส่งร่ำรวย ถ้าทำให้พวกเขาโกรธไม่ว่าคุณจะเป็นเหลยหยุนหรือว่าเหลยหยู่ เกรงว่าก็คงต้องแบกรับกับผลที่ตามมาหมดมั้งครับ?”หลินหยางแบะปากอย่างไม่ไยดีและพูด
“ฮื้อ ไอ้เด็กเปรตพูดให้มันน้อยๆหน่อย ไสหัวไปให้หมด!”
“พวกคุณอยากซื้อของก็เข้าแถวดีๆ มาตะคอกอยู่ที่นี่ทำไม!” ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าคนนึงหันหน้ามาพูดด้วยความโกรธ ดูละเอียดแล้ว บนใบหน้าเธอก็มีแผลยาวอยู่แผลนึง คาดว่าคงให้ความสำคัญกับครีมแผลลายนี้มาก
ผู้หญิงคนนี้โกรธมากจริงๆ กว่าตัวเองจะเข้าแถวมาถึงข้างหน้าไม่ใช่ง่ายๆ ปรากฏก็มาเจอเรื่องแบบนี้ ตัวเองยังหวังว่าครั้งนี้จะซื้อครีมแผลลายได้และมากำจัดแผลเป็นบนใบหน้าทิ้ง
ความเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่รักสวยรักงามที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด นาทีนี้ได้ระเบิดออกมา
เห็นผู้หญิงคนนี้ต่อต้าน โจวจู้ที่เดิมทีในใจก็ค่อนข้างหดหู่อยู่แล้ว เขายกมือขึ้นก็จะไปทักทายที่ใบหน้าของผู้หญิงเลย:“นังตัวดี ไสหัวไปไกลๆจากกูหน่อย!”
“เพี้ยะ!”เสียงตบใสๆก้องมา ผู้หญิงคนนั้นหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง
เธอที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว จะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้ชายกำยำได้ยังไง? ?
แต่ว่าหลังจากเสียงนี้ดังขึ้น เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย รีบลืมตาขึ้น กลับพบว่าตรงหน้าของตัวเอง มีร่างเงาที่ตัวตรงสง่าผ่าเผยยืนอยู่
ถ้าเธอจำไม่ผิด คนๆนี้ก็คือหลินหยาง ประธานของเซียนเฉ่าเซวียน
“แม่ง มึงกล้าตบกู! กูจะเอามึงพิการเลย!”
โจวจู้ที่ดึงสติกลับมาโกรธกริ้วขึ้นมากะทันหัน เหลยหยุนเป็นตัวปัญหาใหญ่เบอร์ต้นๆของเมืองเจียงหลิง ส่วนตัวเองก็เป็นลูกน้องที่มีความสามารถในผู้ใต้บังคับบัญชาของเหลยหยุน ปกตินักการเมืองเห็นเขายังต้องเคารพเขาเลย เคยถูกประพฤติตัวใส่แบบนี้เสียที่ไหน?
“เพี๊ยะ!”ไม่เห็นหลินหยางลงมือยังไงเลยด้วยซ้ำ โจวจู้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไป บนใบหน้าก็ส่งเสียงใสๆมาอีกครั้ง
“ยังยืนเซ่ออยู่ทำไมวะ? ลุยสิวะ!”ในที่สุดโจวจู้ที่ถูกตีจนสมองเบลอก็ดึงสติกลับมา หันหน้าไปตะคอกใส่ลูกน้องของตัวเอง
ในเวลานี้ผู้ชายสิบกว่าคนนั้นถึงถือว่าดึงสติกลับมา เห็นลูกพี่ถูกตบ รีบกระโจนไปหาหลินหยางอย่างแยกเขี้ยวยิงฟัน
“ไม่ว่ามึงเก่งแค่ไหน สิบกว่าคนต่อยกับมึงคนเดียว มึงยังจะรับมือไหวอีกมั้ย?”
“รปภ. จัดการ!”เสียงเย็นชาของไป๋เซียนเฉ่าก้องมา รปภ.สิบคนรีบพุ่งเข้าไปทันที
ในสิบกว่าคนของโจวจู้ มีแค่โจวจู้ที่ฝีมือเก่งที่สุด กลับถูกหลินหยางตบไปสองทีจนแรงฮึดสู้หายไปหมด ไอ้พวกอันธพาลที่อยู่ข้างๆ ก็แค่เป็นตัวละครกระจอกที่ปกติชกต่อยคนเยอะหน่อย ส่วนรปภ.ของไป๋เซียนเฉ่า เป็นคนที่เกษียณออกมาจากกองทัพที่มีความสามารถไม่เลว รับมือกับผู้ชายสิบกว่าคนของฝ่ายตรงข้าม ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยหรอก
ไม่นาน ในท่ามกลางเสียงเห่าหอนหลายเสียง อันธพาลสิบกว่าคนของฝ่ายตรงข้าม ถูกซ้อมจนหมอบลงกับพื้นทั้งหมด
“ไสหัวไปไกลๆหน่อย!ต่อไปถ้าใครกล้ามาไร้เหตุผลที่เซียนเฉ่าเซวียนอีก จะฆ่าไม่เว้นเลย!”หลินหยางพูดอย่างมีแรงอาฆาตและความน่าเกรงขามเสร็จ ใช้แขนข้างนึงหิ้วคอของโจวจู้ไว้ จากนั้นก็โยนออกไปด้านนอก
ระยะห่างจากที่นี่ถึงประตูใหญ่ประมาณยี่สิบกว่าเมตร ไม่นึกเลยว่าจะถูกหลินหยางโยนออกไปอย่างไว!ผู้คนมองหลินหยางด้วยความเคารพและความยำเกรง เรี่ยวแรงและความกล้าหาญของพ่อหนุ่มคนนี้ ไม่ใช่แค่ใหญ่ธรรมดา
“ลากคนที่เหลือทั้งหมดนี้ออกไป!”หลินหยางสั่งการ
“รับทราบครับ!”รปภ.สิบคนก็ไม่ชักช้า ลากขาของคนพวกนั้นออกไปโดยตรง พอถึงหน้าประตูแค่โยนออกไปข้างนอก เสียงโหยหวนสิบกว่าเสียงก้องมาอีก ทำเอาฟังจนขนลุกซู่
“หลินหยาง จะเรียกรถพยาบาลมั้ย? ก่อเรื่องจนถึงขั้นมีคนตายมันไม่ดีเชียวนะ?”
เห็นโจวจู้ที่หลังจากถูกโยนออกไปแล้วไม่ขยับอีกเลย ไป๋เซียนเฉ่าเดินไปข้างหน้าและพูดเสียงเบา
“ไม่ถึงขั้นเอาชีวิตหรอกครับ แต่ว่าก็เรียกรถพยาบาลมาสี่ห้าคันเถอะ ถ้าอยู่ที่หน้าประตูไม่ยอมไป ค้าขายของเราก็ค้าต่อไปไม่ได้แล้ว”หลินหยางตบไหล่ของไป๋เซียนเฉ่าเบาๆแล้วพูด
“ก็ได้”กับคำพูดของหลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าวางใจมาก ในเมื่อเขาก็บอกแล้วว่าไม่ถึงขั้นเอาชีวิต ตัวเองก็ไม่ต้องรีบร้อน
สั่งการหลินชิง ถ้าผ่านไปยี่สิบนาทีคนพวกนั้นยังไม่ถูกลากไป งั้นก็เรียกรถพยาบาลมาเพิ่มอีกสักสี่ห้าคัน
“ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนนะครับ ความไม่รื่นรมย์ของเมื่อกี๊ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ทุกคนลงทะเบียนจองต่อเลยครับ”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของหลินหยางดูเหมือนมีพลังวิเศษที่ไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนที่ก่อนหน้านี้ยังวุ่นวายโกลาหล นาทีนี้ได้สงบลงมา แววตาที่ผู้คนมองหลินหยาง ก็มีแตกต่างกันออกไป บางคนรู้สึกว่าหลินหยางเป็นวัยรุ่นหัวร้อน ถึงแม้วันนี้ได้เปรียบกว่า แต่ยังไงซะเบื้องหลังของโจวจู้คือเหลยหยุน มีเรื่องกับหัวหน้าใหญ่ของสายมืด คาดว่าชีวิตวันข้างหน้าของเขา ต้องไม่ค่อยสงบสุขแน่นอน
ส่วนคนที่มากกว่ามองหลินหยาง เต็มไปด้วยความชื่นชมและความเคารพ คนที่แม้แต่เหลยหยุนยังกล้ามีเรื่องด้วย ผู้คนไม่เข้าสู่การประเมินผลภูมิหลังของไป๋เซียนเฉ่าใหม่ไม่ได้แล้ว
คนที่อยู่เบื้องหลังหลินหยางและไป๋เซียนเฉ่าคือใครกันแน่ ถึงให้ความกล้าหาญแก่เขาในการไปต่อต้านเหลยหยุน
หลินหยางไม่แคร์ว่าผู้คนจะคิดยังไง เขายืนอยู่ที่ว่างเปล่ามองดูคนอื่นเข้าแถว ทักทายกับผู้คนอยู่เป็นพักๆ
“อะไรนะคะ หมดแล้ว?”เสียงที่โศกเศร้าก้องมา ดึงดูดสายตาของหลินหยางทันที เห็นเพียงแต่ผู้หญิงที่ก่อนหน้านั้นรวบรวมความกล้าหาญตั้งคำถามกับโจวจู้ นาทีนี้กำลังยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยความผิดหวัง
สำรวจผู้หญิงคนนี้ไปครู่นึง อายุของหญิงสาวคนนี้ประมาณยี่สิบแปด เอวผอมเพรียวมาก หน้าทรงไข่ ดูแล้วสะอาดสะอ้านมาก เพียงแต่ใบหน้าด้านซ้ายมีแผลเป็นที่ชัดเจน มีผลกระทบกับความสวยนิดหน่อย
ถึงจะใช้เครื่องสำอางที่มากกว่า ก็ปกปิดไม่ได้อีกเช่นอยู่ แผลเป็นแบบนี้ นำมาซึ่งความกดดันทางจิตใจให้แก่ผู้หญิงไม่น้อยเลย
เห็นหน้าตาผู้หญิงเหม่อลอย หลินหยางเดินไปด้วยความใจอ่อน ตบไหล่ของผู้หญิงเบาๆแล้วถาม: “คุณผู้หญิง ไม่ทราบคุณชื่ออะไรครับ?”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อจิ่งตันค่ะ ขอบคุณสำหรับก่อนหน้านี้นะคะ”
เห็นหลินหยางเดินมา จิ่งตันก็ฟื้นกลับมาในสภาพปกติพอสมควรแล้ว
มองดูจิ่งตันที่ฟื้นกลับมาในพริบตา หลินหยางชื่นชมอยู่ในใจ บนตัวสามารถมีบุคลิกและบารมีแบบนี้ คาดว่าก็คงเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะไม่เลวเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรครับ นี่คือครีมแผลลายขวดนึง ก็ถือซะว่าเป็นของขวัญพิเศษที่มอบให้วันนี้เถอะครับ”
หลินหยางหยิบครีมแผลลายออกมาจากอ้อมอกขวดนึงและยื่นออกไป
ได้ยินคำพูดของหลินหยาง จิ่งตันเอ๋อเล็กน้อย อึ้งอยู่อย่างนั้นในชั่วขณะ ไม่ได้ยื่นมือไปรับ
“ไม่เอาเหรอครับ?”หลินหยางถามด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“เอาสิคะ ต้องเอาอยู่แล้ว เอาใบจองให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันจะกรอกข้อมูล รูดการ์ดค่ะ”
จิ่งตันพูดสะเปะสะปะ จากนั้นก็ได้หยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าใบนึงแล้วยื่นให้กับพนักงานขายที่อยู่ตรงหน้า
“ผมบอกแล้วไงว่านี่เป็นของขวัญที่มอบให้พิเศษในวันนี้ครับ คุณเอาการ์ดคุณคืนเถอะ”หลินหยางเอาการ์ดคืนให้จิ่งตันด้วยรอยยิ้ม
“แบบนี้จะได้ยังไงคะ สามารถซื้อสินค้านี้ได้ฉันก็ดีใจมากแล้ว ถ้าไม่ให้เงินอีก ฉันไม่สบายใจค่ะ”จิ่งตันส่ายหัวและพูด
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ คุณรับไว้อย่างวางใจเถอะ หวังแค่ถ้าแผลเป็นบนใบหน้าของคุณหายดีแล้ว ต่อไปช่วยเซียนเฉ่าเซวียนของเราโฆษณาหน่อย”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“นี่มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ เบอร์มือถือคุณเบอร์อะไรคะ ว่างๆฉันเลี้ยงข้าวคุณค่ะ”
จิ่งตันไม่ได้ปฏิเสธครีมแผลลายขวดนี้ เพราะเธอมีความต้องการมาก
แลกเบอร์กับหลินหยางด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็บิดเอวเพรียวบางจากไปอย่างมีความสุข
“แหมๆๆ รู้จักเอาอกเอาใจผู้หญิงแล้วนะ”ไป๋เซียนเฉ่าที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่น้ำเสียงฟังแล้วประชดประชันเล็กน้อย
“เปล่าสักหน่อย ผมเห็นบุคลิกของเธอไม่เลว ดูท่าฐานะทางครอบครัวก็น่าจะไม่เลว ถึงเวลาพอแผลเป็นบนใบหน้าเธอหายดีแล้ว จากนั้นก็โฆษณาหน่อย เป็นการโฆษณาที่ดีให้กับสินค้าของเราเลยนะครับ”หลินหยางพูดพร้อมยิ้มแหะๆ
“ดูสารรูปเข้าซิ!”ถึงแม้รู้ว่าหลินหยางพูดได้ไม่เลว แต่ในใจของไป๋เซียนเฉ่าก็ค่อนข้างไม่สบายใยอย่างแปลกประหลาด
“แหะๆ”หลินหยางแค่ยิ้ม แต่ไม่ได้โต้ตอบ
“แต่ก็ไม่มีอะไร ถ้าฉันดูไม่ผิดล่ะก็ คนๆนั้นก็คือลูกสาวของนายกเทศมนตรีเมืองซินไห่ ต่อจากนี้เราขยายการตลาด มีความสัมพันธ์ชั้นนี้ก็จะลดปัญหาได้ไม่น้อย ดังนั้นถ้าเธอชวนนายทานข้าวห้ามปฏิเสธเชียวนะ”ไป๋เซียนเฉ่าพูดกำชับ
หลินหยางได้ยินแล้วอึ้ง ถึงแม้ไม่รู้ว่าไป๋เซียนเฉ่ารู้ฐานะของคนอื่นได้อย่างไร แต่ฐานะเมืองซินไห่ที่เป็นเมืองใหญ่ระดับต้นๆ สามารถเป็นนายกเทศมนตรีของที่นั่น นั่นต้องมีพลังอำนาจมากขนาดไหน
ครีมแผลลายที่เหลือสองร้อยขวด ขายเกลี้ยงในทันที
มองผู้คนที่เสียใจเพราะซื้อครีมแผลลายไม่ได้ หลินหยางกับไป๋เซียนเฉ่าแสดงออกว่าเสียใจอย่างยิ่ง
หลังจากงานยุ่งมาทั้งวัน ไป๋เซียนเฉ่าถึงพูดด้วยรอยยิ้ม:“สองร้อยขวด แป๊บเดียวก็รับเงินมาหนึ่งร้อยล้านหยวน พริบตาเดียวเงินก็เต็มกระเป๋า รอครั้งหน้าปรุงครีมแผลลายออกมาแล้วขายหมด พี่ก็เตรียมจะขยายการตลาดของครีมแผลลายแล้ว”
“ครีมแผลลายที่เกรดต่ำ ผมคิดว่าช่วงนี้น่าจะคิดค้นออกมาได้ ถึงเวลาก็เข้าสู่ตลาดพร้อมกันเถอะครับ”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“อืม ทีนี้ก็ดูนายแล้ว แล้วก็ วันนี้นายซ้อมโจวจู้ ทางฝั่งของเหลยหยุนไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยายังไง ช่วงนี้นายระวังตัวหน่อย”ไป๋เซียนเฉ่าเตือน
“ฮื้อ มาครั้งนึงจะอัดครั้งนึง ทางที่ดีที่สุดอย่ามาหาเรื่องผม”สำหรับการกดขี่คนอื่นอย่างเหิมเกริมแบบนี้ หลินหยางเจ็บแค้นใจมาก
ทั้งสองคิดคำนวณอยู่ในออฟฟิศไปพักนึง หลินหยางก็ได้ขอตัวลากับไป๋เซียนเฉ่า และรีบกลับบ้านตัวเอง
หลังกลับมาถึงบ้าน หลินหยางเข้าไปในห้องต่อ คิดค้นวิธีปรุงครีมแผลลายเกรดต่ำ
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวันแล้ว เวลาสามวัน หลินหยางผ่านการปรุงครีมมานับร้อยครั้ง ในที่สุดก็ปรุงครีมที่มีประสิทธิผลใกล้เคียงกับครีมแผลลายออกมาได้
ต้นทุนของสมุนไพรชนิดนี้ค่อนข้างต่ำ ปริมาณของครีมหนึ่งขวด ต้นทุนของสมุนไพรแค่ไม่กี่ร้อยหยวนเอง แถมวิธีปรุงง่ายมาก สามารถเข้าสู่การผลิตอย่างเต็มตัว
พอเป็นแบบนี้ หักค่าแรง ค่าโอที ค่าสมุนไพรแล้ว ราคาของครีมขวดนึงแค่ประมาณสองร้อยหยวนเท่านั้น
แต่ว่าครีมตัวนี้ก็มีข้อด้อยใหญ่ๆอยู่ข้อนึง นั่นก็คือเห็นผลช้า ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน ถึงได้ประสิทธิผลเท่าครีมแผลลายหนึ่งขวด
หลินหยางเตรียมตั้งราคาที่ขวดละประมาณหนึ่งพันถึงสองพันหยวน พอเป็นแบบนี้ หนึ่งคอร์สก็ต้องใช้เงินหลักพันแม้กระทั่งหลักหมื่นหยวน
แต่ว่าเมื่อเทียบกับครีมแผลลายหนึ่งขวดแล้ว ราคาแบบนี้ก็ถือว่ารับได้อยู่
ในขณะที่หลินหยางกำลังอยากบอกเรื่องนี้กับไป๋เซียนเฉ่า จู่ๆมือถือของตัวเองกลับดังขึ้น “ฮัลโหล ประธานหลินหรือเปล่าคะ? ฉันจิ่งตันค่ะ บอกข่าวดีกับคุณอย่างนึงค่ะ ผลการรักษาแผลเป็นบนใบหน้าฉันเห็นได้ชัดมากแล้วค่ะ!”เพิ่งรับสายขึ้นมา ก็มีเสียงตื่นเต้นของจิ่งตันก้องมา
พริบตาเดียวหลินหยางก็นึกถึงผู้หญิงที่เจอในบริษัทคนนั้น จำได้ว่ายังเป็นลูกสาวของนายกเทศมนตรีเมืองซินไห่ด้วย
“มีอะไรเหรอครับ?”หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม