ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 183 ไม่เหมือนกัน
บทที่ 183 ไม่เหมือนกัน
หนานกงหยูนนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ สายตามองดูหลินหยาง ฉันไม่ต้องการทำให้ตัวเองดูอ่อนแอแม้สักนิด หลินหยางกลับเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ เอามือกุมหัวแล้วก็อยู่ตรงขอบอีกด้านของอ่างอาบน้ำ
เดิมหนานกงหยูนคิดว่าตนทำถึงขนาดนี้ ถือเป็นการลดตัวยั่วยวนเขาแล้ว แต่เจ้าคนนี้กลับไม่รู้เรื่องเลย ยังกล้าที่จะวางท่า
หลินหยางก็ไม่ใช่วางท่า เพียงแต่การกระทำของคุณหนูหนานกงค่อนข้างไม่สมดุล ในเมื่อมาให้ถึงที่แล้ว ก็ต้องให้อย่างที่สุดสิ หนานกงหยูนกัดฟันแน่น แล้วลุกขึ้นยืน
“คุณจะไม่ขยับมาจริงๆใช่ไหม?” หนานกงหยูนพูดเหมือนเป็นคำขาด
“ผู้ชายอกสามศอก นอนอยู่สบายจะตาย” หลินหยางตัดสินใจตอบกลับ
หนานกงหยูนพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “คุณไม่มา ฉันจะมาเองนะ”
อ่างอาบน้ำที่กว้างนี้เป็นสิ่งที่หลินหยางพอใจที่สุด ทั้งสองคนนอนอยู่ด้วยกันก็ไม่รู้สึกอึดอัด แต่ว่าหนานกงหยูนกลับไม่ได้ขยับมา แต่เป็นการควบอยู่บนตัวหลินหยาง
ภาพแบบนี้อยู่ในอ่างค่อนข้างแปลก หลินหยางนอนอยู่ด้านล่างมองดูอยู่อย่างแปลกใจ ส่วนหนานกงหยูนนั่งคร่อมตักอยู่แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ
ต่อไปต้องทำยังไง? หนานกงหยูนค่อนข้างลังเล เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เดิมเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วว่า คืนนี้จะให้เขาทุกอย่าง เรื่องมาถึงขนาดนี้ หนานกงหยูนไม่รู้จะทำยังไงต่อ มองดูด้านล่าง ในใจตกตะลึง
ที่แท้หลินหยางก็ถอดเสื้อผ้าจนหมดแล้ว ถึงแม้เจ้าปืนใหญ่จะยังไม่ตื่น แต่รูปร่างขนาดนี้กลับทำให้หนานกงหยูนค่อนข้างหวาดกลัว หากสิ่งนี้มุดเข้าไปจะเจ็บขนาดไหน
“คุณ…จะทำอะไร?” หลินหยางถามทั้งๆที่ก็รู้ดีแก่ใจ
มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะทำอะไรได้? หนานกงหยูนใช้ความกล้าทั้งหมดที่มีคร่อมขึ้นมาแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ร่างกายจึงค่อยๆนอนลงบนตัวหลินหยาง
ก้อนเนื้อนุ่มๆสองก้อนแนบชิดกาย ในใจหลินหยางร้อนรุ่ม จึงพูดล้อเธอเล่นว่า “นี่คุณเหนื่อยแล้ว หรือว่าไม่มีแรงแล้ว?”
“ใครบอกว่าไม่มีแรงแล้ว คุณอย่าจับไปเรื่อย” หนานกงหยูนพูดขึ้นอย่างงอล
หลินหยางหัวเราะพร้อมพูดว่า “คุณคร่อมขึ้นมาก็ดี ท่านี้อยู่ในน้ำสบายดี เรามาลองกันไหม?”
ท่าอะไรกัน หนานกงหยูนรู้เรื่องเสียที่ไหน เธอรู้เพียงว่าวันนี้เธอยอมทุกอย่างแล้ว เธอใช้แรงพยุงตัวเองขึ้นมานั่ง จ้องมองเขาแล้วพูดว่า “ไม่ได้ ในใจวันนี้ฉันเป็นคนเริ่มก่อน ยังไงก็ต้องให้ฉันเป็นคนตัดสินใจ คุณหลับตาก่อน”
หลินหยางไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงหลับตา ที่จริงแล้วสายตาเขาแง้มแอบดูว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แล้วหนานกงหยูนก็กำมือทั้งคู่ ค่อยๆถอดกางเกงในออกมาอย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นเธอก็พิจารณาดูเจ้าปืนใหญ่ ดูท่าแล้วก็เหมือนกำลังคิดอยู่ว่า จะสอดเข้าไปยังไง
มือนุ่มน้อยๆค่อยจับดูเจ้าปืนใหญ่ ร่างกายหลินหยางเกร็ง แล้วก็ตั้งแข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ อาวุธเดิมที่คอตกอยู่ ตอนนี้กลับตั้งขึ้นอย่างแข็งแรง สูงเด่นเป็นสง่า รูปร่างใหญ่ขึ้นเป็นเท่า คราวนี้หนานกงหยูนยิ่งเครียดกว่าเดิม ใหญ่เกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถรับได้
ในใจหลินหยางดีใจอย่างมาก หนานกงหยูนกลับไม่มีความดีใจเลย บ่นพึมพำอยู่อย่างเสียอารมณ์ว่า “คุณ…นี่ใหญ่เกินไปไหม”
เมื่อลืมตาขึ้น หลินหยางพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “คุณยังเคยเห็นของคนอื่นหรือ?”
หนานกงหยูนส่ายหัวพูดขึ้นว่า “คุณไม่รู้ตัวหรือ? นี่จะใหญ่เท่าแขนของฉันแล้วนะ”
หลินหยางหันไปดู เมื่อก่อนตนเองก็ไม่เคยสังเกต ตั้งแต่ฝึกวิชาบทหลงเฟิ่งเจว๋ พลังยิ่งอยู่ก็ยิ่งล้ำลึก ตรงนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลง เห็นทีประโยชน์ไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว
“บอกคุณในฐานะที่เป็นหมอ ถึงแม้ตรงนี้ของผมจะใหญ่ แต่ผู้หญิงสามารถรับได้ยิ่งมีมากกว่า” หลินหยางพูดขึ้น
หนานกงหยูนตัดสินใจลองดูสักตั้ง เธอค่อยๆขยับร่างกายไปใกล้ หลินหยางมองดูอยู่อย่างแปลกใจ
“ใครให้คุณดู คนเลว” หนานกงหยูนร้อนรุ่มไปทั้งตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ
หลินหยางทำได้เพียงหลับตาต่อ ปล่อยให้เธอทำตามใจ หลังจากคุณหนูหนานกงหยูนลองอยู่สักพัก ในที่สุดก็เจอทางเข้า อยากที่จะนั่งลงไปทันที แต่เจ้าโลกนี่กลับสูงใหญ่เกินกว่าที่เธอประเมินไว้อย่างมาก
ความเจ็บปวดที่ฉีกขาดบาดไปถึงใจ หนานกงหยูนล้มนอนลงบนตัวหลินหยางอย่างทนไม่ไหว
“บอกคุณแต่แรกแล้ว อย่าทำไปเรื่อย นอนอยู่เฉยๆนะ” หลินหยางลูบหลังเธอเบาๆ
ไม่รู้ทำไม เมื่อนอนอยู่ในอ้อมอกของหลินหยาง หนานกงหยูนก็รู้สึกค่อนข้างอุ่นใจ บวกกับคำปลอบใจอันแผ่วเบาของเขา ความหดหู่และความไม่พอใจที่สะสมอยู่ในใจก็วิ่งหายไปทันที
หลินหยางวางเธอไว้ด้านข้าง จากนั้นก็ใช้พลังจากฝ่ามือปกป้องหน้าอกของหนานกงหยูนไว้ บวกกับใช้พลังบทหลงเฟิ่งเจว๋ ทำให้ร้อนรุ่มอย่างมาก หนานกงหยูนไม่กล้าจ้องมองหลินหยาง ยอมปล่อยให้มือของเขาลูบจับไปมาบนร่างกายของตน
น้ำในอ่างอาบน้ำโคลงเคลงไปมา ในใจหนานกงหยูนก็เต้นอย่างไม่สม่ำเสมอ เพราะมือของหลินหยางลูบไปมา ข้างหนึ่งจับลูกองุ่นน้อยไว้ ข้างหนึ่งมาถึงตรงหว่างขา
ความรู้สึกจักจี้กับความชาไปทั้งตัวมาเยือน เหมือนร่างกายลอยขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือเธออยากที่จะส่งเสียงร้องออกมา ดีที่หลินหยางจูบเธอไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูจากตระกูลใหญ่ได้ลิ้มรสการผสมผสานกันทางอารมณ์
ลิ้นถูกหลินหยางสอดแทรกเข้าไปแลกเปลี่ยนกันขึ้นมา หนานกงหยูนโอบกอดแผ่นหลังของหลินหยางไว้อย่างไม่รู้ตัว หลังจากจูบกันอย่างดุเดือดแล้ว ใบหน้าหนานกงหยูนเหมือนดั่งดอกท้อ ใจเต้นเหมือนฟ้าผ่า
“คุณ…นี่เป็นพลังภายในอะไร?” หนานกงหยูนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนฝ่ามือหลินหยาง
“มรดกตกทอดจากตระกูล อย่าพูดอะไร มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ” หลินหยางพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม
เหมือนกับกำลังสอนเด็กน้อยอยู่ หลินหยางนำพาหนานกงหยูนที่เป็นเหมือนนักเรียนคนนี้ ลิ้มรสความพิเศษของร่างกาย โดยเฉพาะความสุขที่งดงามของเรื่องแบบนี้
คนอยู่ในน้ำอุ่น ร่างกายง่ายต่อการผ่อนคลาย แต่ในใจกลับอ่อนไหวอย่างมาก ดังนั้นเมื่อหลินหยางมาถึงปากทางเข้า หนานกงหยูนก็รีบรัดเขาไว้ทันที
“โถ่ รีบคลายออก นี่คุณจะตัดมือของผมหรือ” หลินหยางพูดขึ้น
หนานกงหยูนถึงคลายออก ความต่อต้านที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อกี้ทำให้เห็นได้ถึงความตื่นเต้นภายในใจของเธอ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเจ้าปืนใหญ่ที่ใหญ่ขนาดนั้น หลินหยางรับรู้ได้ถึงความติดเล่นของเธอในทันที จึงใช้มือลูบคลำเธออย่างแผ่วเบาต่อ เรื่องแบบนี้ ขอเพียงตกหลุมรักไปแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามธรรมชาติเอง
และแล้ว หนานกงหยูนก็ถูกฝ่ามือของหลินหยางลูบไล้จนครางออกมา ยิ่งน่ารักไปกว่านั้นก็คือสาวคนนี้ถามขึ้นมายังตกใจว่า “เมื่อกี้เป็นเสียงของฉันหรือ?”
“ไม่ใช่ เมื่อกี้เป็นเสียงยุงร้อง” หลินหยางหัวเราะ
รู้ว่าหลินหยางแกล้งตน หนานกงหยูนจึงกัดแขนของเขา ถึงจะไม่เจ็บ แต่ก็ทิ้งรอยเขี้ยวเล็กๆไว้
ทำให้ดีๆไม่ชอบชอบทุกบังคับใช่ไหม หลินหยางยกก้นขึ้นมา แล้วแยกขาทั้งสองข้างของเธอออกจากกัน เมื่อลองดู ก็ไม่เหมือนกับตอนที่ตนลองก่อนหน้านี้ หนานกงหยูนรู้สึกเหมือนอะไรอุ่นๆสอดเข้าไปในร่างกายของตนเอง
ยังไงหลินหยางก็ยังทะนุถนอมเธออยู่ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง หยุดนิ่งอยู่สักพัก
หนานกงหยูนยื่นมือไปลูบ หลับตาลงและมีความสุขกับมัน แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ทำแบบนี้เองหรือ?”
“ไม่แน่นอน นี่แค่เริ่มต้น” หลินหยางดีใจมาก สาวคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ดีที่หนานกงหยูนไม่ใช่คุณหนูอ่อนต่อโลก การกระทำของหลินหยางก็อ่อนโยนอย่างมาก ไม่นานทั้งสองคนก็รับรู้ถึงจังหวะของกันและกัน
การกระทำก็ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง ในที่สุดทั้งสองคนก็สามารถรับรู้ได้ถึงความสุขของกันและกัน แต่หลินหยางกลับรู้สึกได้ถึงความอันตรายในร่างกายของตนเอง ที่เหมือนกำลังจะเอาระเบิด นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ไม่นานหนานกงหยูน ก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของหลินหยาง เธอยื่นมือไปจับ ก็รู้เลยว่าร่างกายของหลินหยาง กำลังอยู่ระหว่างยกระดับ
“กลั้นลมหายใจไว้ ร่างกาย…อย่าผ่อนคลาย” หนานกงหยูนรีบพูดขึ้น
หลินหยางรีบรวบรวมพลังภายในของร่างกาย ป้องกันหัวใจและปอดไว้ ในที่สุดความรู้สึกเดือดร้อนในสายเลือดก็จางลง ร่างกายกลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการปะทุ หลินหยางไม่พูดอะไร ตั้งหน้าตั้งตาเข้าสู่การต่อสู้
ความรู้สึกสมหวังค่อยๆปรากฏขึ้น หนานกงหยูนร้องออกมาอย่างมีความสุข เหมือนหลายปีมานี้ แทบไม่เคยมีอะไรสามารถทำให้ตนมีความสุขได้ขนาดนี้
ไม่นาน ภายในอ่างอาบนี้ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของใคร่
รอเมื่อทุกอย่างถูกปลดปล่อย สิ่งที่ทำให้หลินหยางดีใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ ในที่สุดตนเองก็บรรลุยกระดับขึ้นอีกขั้นแล้ว เข้าสู่ระดับสองตอนต้น ความเปลี่ยนแปลงนี้หนานกงหยูนก็ดูออก
หนานกงหยูนนอนอยู่ร่างกายของหลินหยาง แล้วพูดขึ้นว่า “พลังภายในของคุณนี้ ยังสามารถใช้วิธีแบบนี้บรรลุได้ด้วย?”
“การฝึกวิชามีเป็นหมื่นเป็นพันวิธี นี่เป็นเพียงหนึ่งในวิธีเท่านั้น เรื่องนี้ก็เป็นอย่างหนึ่งในนั้นเท่านั้นเอง” หลินหยางพูดขึ้นอย่างสุขุม
มีอ่างอาบน้ำนี้ถูกครั้งแรกของเธอทำให้แดงไปหมด ยังไงหนานกงหยูนก็มาจากตระกูลใหญ่ ในเวลาแบบนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย มองดูเจ้าปืนใหญ่ที่เมื่อกี้กระทบเธออยู่อย่างรุนแรง ตอนนี้พ่นน้ำใสๆออกมาแล้วก็ล้มนอนไปแล้ว
ขยับเบาๆ แล้วหนานกงหยูนก็คร่อมขึ้นมา จับตรงนี้แล้วก็พูดขึ้นอย่างกล้าหาญว่า “คราวนี้ฉันจะอยู่ข้างบน”
ความต้องการแบบนี้ ทำให้หลินหยางมองจนตาค้าง แต่ไม่ทันรอให้เขาได้พูดปฏิเสธ หนานกงหยูนก็จับมือของเขาไปทาบบนหน้าอกของเธอ
ความรู้สึกแบบนี้ ความเต่งตึงนี้ ทำให้เจ้าปืนใหญ่ที่หลับใหลไปฟื้นตื่นขึ้นมาทันที
ในที่สุดความหวังภายในใจของหนานกงหยูนก็เป็นจริง คร่อมอยู่บนตัวหลินหยาง แล้วก็ตอบโต้กลับจนประสบความสำเร็จ
เมื่อทั้งคู่ต่างก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง ก็นอนหลับไปในอ่างอาบน้ำ ตอนเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา หลินหยางก็ไม่เห็นเงาร่างของหนานกงคนสวยแล้ว เขาถูกแช่หนาวจนขนลุกไปทั้งตัว จึงรีบลุกขึ้นมาเช็ดตัว
ถึงแม้จะนอนอยู่อย่างนี้ทั้งคืน หลินหยางกลับยังเต็มไปด้วยพลัง มีกำลังภายในระดับสองขั้นต้นปกป้องร่างกาย ทำให้มีชีวิตชีวาอย่างล้นเหลือ
ขับรถมาเซราติสุดเท่ห์ หลินหยางก็มาถึงเซียนเฉ่าเก๋ออีก เมื่อวานยังมีเรื่องอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้ปรึกษากับไป๋เซียนเฉ่า เมื่อผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของเธอ เขาก็มองเห็นหลินชิงกำลังก้มหัวพูดอะไรซักอย่างอยู่กับไป๋เซียนเฉ่า
“สวัสดี สาวทั้งสอง” หลินหยางพูดทักทายขึ้น
“สิบโมงสิบห้าแล้ว ยังเช้าอยู่หรือ?” ไป๋เซียนเฉ่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
หลินชิงหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมา แล้วรีบพูดขึ้นว่า “ประธานโจว พวกคุณคุยกันตามสบาย ดิฉันขอตัวก่อน”
ตอนที่เดินผ่านหลินหยาง หลินชิงหยิกก้นเขาหนึ่งที ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าจริงๆ กลับไปจะต้องสั่งสอนเสียหน่อย
เมื่อนั่งลงแล้ว หลินหยางก็ถามขึ้นว่า “นี่คุณเป็นอะไรหรือ? ทำไมถึงอารมณ์เสียแต่เช้าแบบนี้?”
“เมื่อวานคุณพูดเองไม่ใช่หรือ? ว่าประจำเดือนฉันมา” ไป๋เซียนเฉ่าพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
หลินหยางยกมือพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พูดเข้าเรื่องกัน พวกเจียงหัวมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม?”
พอพูดเข้าเรื่อง ไป๋เซียนเฉ่าค่อยเปลี่ยนสีหน้า แล้วยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้เขาดู หลินหยางรับมาดู แล้วก็อึ้งไป เป็นข้อเสนอการเทคโอเวอร์
เมื่ออ่านดูอย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นเจียงหัวกับหลิวจิ่น ร่วมมือการส่งเอกสารเทคโอเวอร์มา หลินหยางถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เทคโอเวอร์? เขาอาอะไรมาเทคโอเวอร์ มีสิทธิ์อะไรมาเทคโอเวอร์”
“ตอนที่ฉันก่อตั้งเซียนเฉ่าเก๋อได้กู้ยืมเงินมาส่วนหนึ่ง เงื่อนไขที่เจรจากับธนาคารคือพวกเขาจะซื้อหุ้นด้วยหนี้ เข้ามามีหุ้นส่วนหนึ่ง ตอนนี้พวกเจียงหัวได้หุ้นส่วนนี้ไป จึงได้ส่งเอกสารเทคโอเวอร์ฉบับนี้มา” ไป๋เซียนเฉ่านวดขมับพร้อมพูดขึ้น