ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 199 คอยประสมโรง
บทที่ 199 คอยประสมโรง
หลินหยางเห็นฉีเยนเอ๋อร์นั่งอยู่อีกข้าง และกำลังคุยกับไป๋เซียนเฉ่า
ผู้หญิงคนนี้มาได้อย่างไร หลินหยางแทรกเข้ามา เขายิ้มและพูดว่า “มีแขกมาเหรอ”
“ไม่ได้เจอกันนานนะ ประธานโจว ตอนนี้คุณกลายเป็นหุ้นส่วนกับประธานไป๋แล้ว” ฉีเยนเอ๋อร์พูดแล้วยื่นมือออกมา
หลินหยางยื่นมือออกไปกุมมือของอีกฝ่ายเบาๆ มือของเธอนุ่มและเนียนมาก ใจของหลินหยางเริ่มมีความรู้สึก และหวนคิดไปถึงภาพตอนที่ดูแลอาการป่วยให้เธอที่ร้านยาสารพัด
ไป๋เซียนเฉ่ากลอกตาใส่หลินหยาง “คุณฉีเยนเอ๋อร์อยากเจอนายอยู่พอดี เราคุยกันอยู่นาน และบ่นเรื่องที่นายไปก่อเรื่องใหญ่เอาไว้ เธอนึกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับนายแล้ว”
“หาผมเหรอ” หลินหยางถามอย่างประหลาดใจ
“ใช่ รถที่ปู่ของฉันให้นาย จู่ๆ มันก็เป็นข่าว ตอนนั้นฉันตกใจมาก ต่อมาพอฉันได้รู้ว่านายไม่เป็นอะไร ตอนแรกฉันมาเพราะครีมแผลลาย คิดไม่ถึงว่านายจะรอดจากความตาย นายนี่สุดยอดจริงๆ หลินหยาง” ฉีเยนเอ๋อร์พูดด้วยความตกใจ
“ฮ่าฮ่า มันก็แค่เรื่องที่คาดไม่ถึง คุณมาอุดหนุนธุรกิจของเราใช่ไหม” หลินหยางพูด
ฉีเยนเอ๋อร์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องรอง หลักๆ แล้วฉันมาหานาย”
ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างตรงไปตรงมา คิดไม่ถึงว่าไป๋เซียนเฉ่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับเลิกคิ้วขึ้น
หลินหยางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ เขาจับมือของไป๋เซียนเฉ่าแล้วพูดว่า “เซียนเฉ่าไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไรนัก คิดไม่ถึงว่าเธอจะได้เป็นเพื่อนกับคุณ”
“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ แต่ว่าตั้งแต่ตอนนี้ไปเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ฉันพูดถูกไหมประธานไป๋” ฉีเยนเอ๋อร์ยิ้มและพูดออกมา
มือของไป๋เซียนเฉ่าถูกจับเอาไว้แน่น เธอสบายใจไม่น้อย จากนั้นจึงยิ้มและพูดออกมาว่า “ไม่ใช่แค่เพื่อนหรอก คุณฉีเยนเอ๋อร์มาสั่งครีมแผลลายยี่สิบขวด นับว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรา”
สงครามการต่อปากต่อคำระหว่างผู้หญิงคือควันที่มองไม่เห็น หลินหยางรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะอยู่ที่นี่ เขาจึงพูดออกมาว่า “งั้นเธอก็อยู่รับแขกละกัน ฉันไปก่อน”
“ไม่ต้องไป ทำไมถึงไม่อยู่ต้อนรับแขกคนสำคัญแบบนี้ จะไปทำอะไรน่ะ พวกเรามาคุยเรื่องในอดีตกันดีกว่า” ไป๋เซียนเฉ่าเอามือเท้าคางแล้วพูดออกมา
หลินหยางหลุบตาลง แล้วนั่งมองเล็บตัวเองอย่างเงียบๆ สิ่งที่หนานกงหยูนบอกเขาตอนที่กำลังเสริมหล่อให้เขาว่าผู้ชายต้องดูดี อย่าทำตัวไม่รู้เรื่องไปวันๆ ข้อปฏิบัติของตระกูลใหญ่มีมากมายจริงๆ แต่ว่าการทำเล็บก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผ่อนคลายไม่น้อย
“หมอโจว ฉันขอถามหน่อย ตอนที่ฉันสลบและไม่ยอมฟื้นขึ้นมา นายรู้สาเหตุของอาการได้ยังไงเหรอ” ฉีเยนเอ๋อร์จ้องเขาแล้วถามขึ้น
หลินหยางรีบนั่งหลังตรง แล้วพูดว่า “ทักษะยังต่ำต้อย ไม่มีควรค่าแก่การเอ่ยถึง การแพทย์แผนจีนพิถีพิถันเรื่องการมอง การสูดดม การสอบถามอาการและการจับชีพจร คุณไม่ต้องเกรงใจ เรียกชื่อผมได้เลย ผมวิเคราะห์ปัญหาของคุณจากสีหน้า ลักษณะของชีพจรและอาการของคุณ สุขภาพของคุณไม่ดีตั้งแต่อยู่ในท้องของแม่ แต่ตอนนี้หายเป็นปกติและดูสดใสเป็นอย่างมาก”
“เมื่อได้ยินที่นายพูด ฉันก็รู้แล้วว่าควรส่งการ์ดเชิญให้ใคร” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างปลาบปลื้ม เขาหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าชาแนลของตัวเอง
พอเปิดดู หลินหยางจึงรู้ว่าเป็นงานสัมมนาเกี่ยวกับการพัฒนาแพทย์แผนจีน หลินหยางเคยได้ยินเกี่ยวกับงานสัมมนาระดับสูงเช่นนี้ แพทย์แผนจีนที่อาวุโสมักจะถูกเชิญไปเป็นหน้าเป็นตา แต่สิ่งที่พวกเขาพูดล้วนเป็นอะไรที่จอมปลอม ไม่มีอะไรที่มีสาระเลย
“เชิญผมไปคงจะไม่เหมาะสมหรอกมั้ง ผมเป็นแค่ลูกศิษย์ในสำนักการแพทย์เท่านั้น แถมยังเรียนไม่จบอีกด้วย” หลินหยางสบตากับแววตาที่ไม่พอใจของไป๋เซียนเฉ่า
“หลินหยาง การประชุมครั้งนี้ไม่เหมือนการประชุมทั่วไป งานครั้งนี้ปู่ของฉันกับผู้เชี่ยวชาญอาวุโสหลายคนร่วมกันจัดขึ้น ต้องการแพทย์ที่มีประสบการณ์แบบนายไปร่วมงาน ถ้านายสนใจ ฉันหวังว่านายจะมาร่วมงานได้ งานจะจัดขึ้นมะรืนนี้ การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนายาจีนในอนาคตและจัดการเกี่ยวกับการออกใบสั่งยาแบบโบราณ” ฉีเยนเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าคาดหวัง
หลินหยางรับการ์ดเชิญมา แน่นอนว่างานประชุมใหญ่ขนาดนี้ทำให้เขาสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากจะได้พูดคุยกับแพทย์จีนอาวุโสแล้วเขายังได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองออกไปได้อีกด้วย จะได้ทำให้คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับสิ่งล้ำค่านี้ใหม่อีกครั้ง
ไป๋เซียนเฉ่าเห็นสีหน้าของหลินหยาง เธอไม่ห้ามเขาอีก กลับกันเธอยังพูดเชียร์หลินหยางด้วย “งั้นก็ไปสิ นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากนะ”
หลินหยางจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นก็โอเค ผมไปแน่นอน”
“นายจะไม่เสียเปล่าแน่นอน การประชุมครั้งนี้มีทั้งเนื้อหาและคุณค่ามากมาย นายต้องเตรียมความสามารถของตัวเองให้พร้อมนะ ฉันเชื่อว่าหลินหยางจะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน” ฉีเยนเอ๋อร์พูดเยินยอเขา
หลินหยางถูกใจคำพูดของเธอ เขายิ้มอย่างปลาบปลื้มจากนั้นจึงพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว แผลเป็นของเซียนเฉ่าในตอนแรกผมเป็นคนรักษาให้หาย มีตัวอย่างที่เป็นสาวสวยแบบพวกคุณทั้งสองคนอยู่”
“เหอะ อย่าได้ใจไปหน่อยเลย เมื่อถึงตอนนั้นอย่ายอมแพ้แล้วกัน สองวันนี้นายไม่ต้องยุ่งเรื่องที่บริษัท ไปเตรียมตัวสำหรับการประชุมครั้งนี้ให้ดี ไม่แน่ฉันกับคุณฉีเยนเอ๋อร์อาจจะไปให้กำลังใจนายที่งานด้วย” ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มแล้วพูดออกมา
“ประธานไป๋ เราไปดูว่าที่ ซื่อนูเก๋อ กันดีกว่าว่ามีสินค้ารูปแบบใหม่วางจำหน่ายหรือเปล่า” ฉีเยนเอ๋อร์พูดเสนอขึ้น
เมื่อพูดถึงเรื่องชอปปิ้ง แน่นอนว่าไป๋เซียนเฉ่าสนใจ ผู้หญิงเป็นสิ่งที่ประหลาด ถึงก่อนหน้านี้จะรู้สึกแปลกๆ แต่พอพูดถึงเรื่องที่สนใจเหมือนกันก็ลืมทุกอย่างไปหมด
ซื่อนูเก๋อ อยู่อีกย่านธุรกิจหนึ่งในเมืองเจียงหลิง ใช้การตกแต่งที่หรูหราและทันสมัยเป็นจุดขาย เป็นหนึ่งในแหล่งชอปปิงที่ไป๋เซียนเฉ่าชื่นชอบ ซื่อนูเก๋อ เป็นตึกเล็กๆ หกชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางย่านธุรกิจ นอกจากข้างในจะมีเสื้อผ้าแบรนด์หรูแล้ว ยังมีร้านขายเสื้อผ้าที่ตัดเย็บโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้ดึงดูดไป๋เซียนเฉ่าเป็นอย่างมาก
ฉีเยนเอ๋อร์เดินชอปปิงกับไป๋เซียนเฉ่าตั้งแต่ชั้นหนึ่ง พูดให้หลินหยางฟังไม่หยุด หลินหยางปวดหัวกับเรื่องนี้มาก ฉีเยนเอ๋อร์เหมือนจะเข้าใจเขา แล้วพูดขึ้นมาว่าพวกเธอสองคนจะไปชอปปิง ให้หลินหยางไปรอที่สำหรับนั่งพัก
ราวกับเขาได้รับการปลดปล่อย หลินหยางประสานมือไว้ที่หน้าอกจากนั้นก็วิ่งหนีไป
ไป๋เซียนเฉ่าส่งเสียงหึ “ผู้ชายนี่ไม่มีความอดทนเอาเสียเลย”
“ก็ไม่แน่หรอก ความอดทนของผู้ชายมันไปอยู่ตอนที่ใส่เสื้อผ้าให้ผู้หญิงหมดแล้วไม่ใช่เหรอ” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างขี้เล่น
ไป๋เซียนเฉ่าขำพรืด “คิดไม่ถึงว่าคุณฉีเยนเอ๋อร์จะเป็นคนตลกแบบนี้ ตอนที่ไอ้หมอนั่นฝังเข็มให้คุณเขาอดทนแบบนี้ไหม”
“ตอนนั้นฉันสะลึมสะลือและทรมานอยู่นาน เหมือนกับผ่านไปเป็นปีอย่างไรอย่างนั้น เหมือนโดนเลาะกระดูกออกมาอย่างไรอย่างนั้น” ฉีเยนเอ๋อร์พูดเหมือนคิดอะไรอยู่
เดิมทีเธอยังมีความหึงหวงอยู่ แต่เมื่อคิดว่าตัวเองจะเหลือเวลาอยู่กับเขาอีกแค่ไม่กี่เดือนแล้ว ไป๋เซียนเฉ่าจึงเก็บอารมณ์นั้นเอาไว้และตั้งใจเลือกเสื้อผ้าสวยๆ กลับไปคืนนี้จะต้องให้เขาใส่เสื้อให้เธอให้ได้
ทั้งคู่เดินชอปปิงจนไปถึงเคาน์เตอร์ชุดชั้นใน สินค้าของที่นี่ดูแปลกใหม่ อีกทั้งยังมีที่เป็นแบบเซตสุดเซ็กซี่ แน่นอนว่าไป๋เซียนเฉ่าสนใจเป็นอย่างมาก เธอวางแผนบางอย่าง
“ฉันอาจจะคิดไม่ถูกก็ได้ ถ้าให้คิดจริงๆ ก็เรียกหลินหยางมาเถอะ” ฉีเยนเอ๋อร์ยิ้มแล้วพูดขึ้น
แน่อยู่แล้ว ต้องให้ไอ้หมอนั่นมา ไป๋เซียนเฉ่ามีอะไรในใจ ดังนั้นเธอจึงรีบเรียกหลินหยางมา
เมื่อเดินเข้ามาในร้านชุดชั้นใน หลินหยางอยากจะยกปกเสื้อของตัวเองให้ตั้งขึ้นมา ที่นี่เต็มไปด้วยชุดชั้นในสวยๆ แถมยังมีผู้หญิงที่กำลังเอาชุดชั้นในทาบกับอกของตัวเอง เขาเกือบจะกระอักเลือดออกมา
“นายมาดูตัวนี้สิ เป็นยังไง” ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มตาหยีแล้วพูดขึ้น
มันเป็นลูกไม้สีดำที่ประดับด้วยลายดอกไม้บางๆ ชุดชั้นในตัวนี้ช่างยั่วยวนมาก หลินหยางพยักหน้าอย่างอัตโนมัติ “น่าสนใจนะ ลองดูสิ”
“นะ..นายช่วยฉันลองหน่อยสิ” ไป๋เซียนเฉ่ากัดปากแล้วพูดออกมาเบาๆ
มองซ้ายมองขวา หลินหยางยังไม่ทันได้พยักหน้าก็ถูกเธอดึงเข้าไปในห้องลองเสื้อ
ฉีเยนเอ๋อร์เห็นการกระทำของทั้งคู่นานแล้ว เธอแนบแก้มป่องๆ ลงไปเพื่อแอบฟัง
อารมณ์ของหลินหยางเริ่มร้อนแรง ในพื้นที่แคบเช่นนี้ ไป๋เซียนเฉ่าค่อยๆ ถอดเสื้อนอกของตัวเองออก เผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางอันขาวเนียน เธอหยิบชุดนอน หลินหยางยืนอึ้งอยู่ ชุดชั้นในที่ยั่วยวนอยู่บนเรือนร่างที่งดงาม หลินหยางจะอดใจได้อย่างไร
เขาใส่ชุดชั้นในให้ไป๋เซียนเฉ่าด้วยความอดทน ไป๋เซียนเฉ่ากลอกตาใส่เขา เธอส่องกระจกแล้วยิ้มออกมา “สวยมากเลย นายว่าไง”
หลินหยางรวบตัวเธอเอาไว้ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “สวยอยู่แล้ว สวยจนทำให้ใจสั่นเลยล่ะ”
มือขาวของไป๋เซียนเฉ่าลูบลงบนแผ่นอกของเขา “งั้นนาย…จะยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ในนี้ไม่มีใครซะหน่อย”
คนที่อยู่ด้านนอกอย่างฉีเยนเอ๋อร์ได้ยินก็ใจเต้นตึกตัก สองคนนั้นจะทำเรื่องอะไรแบบนั้นที่นี่เหรอ
แต่สิ่งที่เหนือจินตนาการคือเสียงครางดังออกมาจากข้างในจริงๆ ฉีเยนเอ๋อร์หน้าแดงจนถึงหู เธออยากแอบฟังต่อไป แต่ก็ไม่กล้า เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง เสียงข้างในยิ่งเย้ายวน ไป๋เซียนเฉ่าไม่คิดจะปิดบังเลยแม้แต่น้อย
ฉีเยนเอ๋อร์กระทืบเท้าแล้วหันหลังเดินออกไป ถ้าฟังต่อไปเธอคงทนไม่ไหว
ในตอนนี้หลินหยางกำลังนวดหน้าอกของไป๋เซียนเฉ่า เขาพูดเบาๆ ว่า “ทำไมถึงเสียงดังขนาดนั้น ก็แค่ช่วยนวดให้เธอเท่านั้นเอง”
ไป๋เซียนเฉ่าได้ยินเสียงกระทืบเท้าของฉีเยนเอ๋อร์ เธอฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “เหอะ ก็ฉันชอบส่งเสียงออกมานิ นายจะทำอะไรฉันได้”
เมื่อเห็นว่าหลินหยางยังคงอดทนอย่างแน่วแน่ เธอยิ้มหวานแล้วพูดว่า “งั้นฉันจะให้อะไรหวานๆ เป็นการตอบแทน”
ไป๋เซียนเฉ่าถอดเสื้อของหลินหยางออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็กัดลงไปที่หน้าอกของชายหนุ่ม แถมลิ้นยังตวัดไปมาอย่างซุกซน นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหยางสังเกตถึงความมหัศจรรย์ของหัวนมผู้ชาย อารมณ์มันไม่ได้แย่ไปกว่าตรงนั้นเลย ลิ้นนุ่มของไป๋เซียนเฉ่าตวัดไปมาบนร่างกายของหลินหยาง และค่อยๆ เลื่อนลงไปที่ใต้ท้องน้อยของหลินหยาง
เธอกำลังจะทำอะไร หลินหยางจั๊กจี้ เขาเริ่มมีอารมณ์ เป็นไปตามคาดไป๋เซียนเฉ่าจับปืนใหญ่ของเขา แล้วก็ถูไปมาเบาๆ
หลินหยางขนลุกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เคยไปทำแบบนี้กับใครหรือเปล่า นี่ถือว่าเป็นครั้งแรก ลิ้นของไป๋เซียนเฉ่าห่อหุ้มส่วนที่อยู่ตรงหน้าอย่างคล่องแคล่ว ทำให้เขาจมดิ่งลงไปในบรรยากาศที่เร่าร้อน
“มะ มันสบายมาก” หลินหยางพูดออกมา
ไป๋เซียนเฉ่าไปเรียนรู้มาจากฉากรักในอินเทอร์เน็ต เธอค่อยๆ อมมันเข้าไป ถึงแม้ว่ามันจะติดขัดเล็กน้อย แต่นี้ก็เพียงพอที่ทำให้หลินหยางมีอารมณ์ถึงจุดสุดยอด
หรือว่าเธอคิดว่าความสามารถของตัวเองนั้นเลิศมาก ไป๋เซียนเฉ่าจึงลองอมมันเข้าไปอีก แต่ทว่าขนาดของหลินหยางมันค่อนข้างใหญ่จนเธอไม่สามารถรวบเข้าไปได้ทั้งหมด
หลินหยางยกหัวขึ้น ท่าทางที่ไป๋เซียนเฉ่ากำลังขมวดคิ้วอย่างตั้งใจทำให้หลินหยางพอใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่นานเขาก็พบว่าไป๋เซียนเฉ่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาดึงเธอขึ้นมา จนเธอเกือบจะสำลัก เธอไอออกมาเบาๆ และอายจนไม่กล้ามองหลินหยาง
“โอเค โอเค ผมประทับใจมาก แต่คุณอย่าฝืนสิ” หลินหยางยิ้มแล้วพูดออกมา
“เหอะ นี่นายจะบอกว่าของตัวเองใหญ่เหรอ” ไป๋เซียนเฉ่าเหมือนจะกู้หน้ากลับมา
หลินหยางยิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้โม้นะ ก็ไม่ใหญ่จริงๆ”
มันเป็นความจริง ขนาดของเขาสามารถเอาไปดูถูกคนส่วนใหญ่ได้เลย ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังถูกหลินหยางแทงเข้ามา
ไป๋เซียนเฉ่ารีบแสดงออกว่าไม่ยอมแพ้ เธอก้มหน้าลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้เธอฉลาดแล้ว เธอใช้มือร่วมด้วย หลินหยางพอใจเป็นอย่างมาก อารมณ์นี้มันช่างยอดเยี่ยมมาก เขาหลงใหล สุดท้ายแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิงปืนใหญ่ออกไปก่อนที่ไป๋เซียนเฉ่าจะผละออ