ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 212 ปรนนิบัติเอาอกเอาใจน้องเมียยากเสียจริง
- Home
- ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)
- บทที่ 212 ปรนนิบัติเอาอกเอาใจน้องเมียยากเสียจริง
บทที่ 212 ปรนนิบัติเอาอกเอาใจน้องเมียยากเสียจริง
หลินหยางถูกสามสาวห้อมล้อมตัวเอาไว้ จนร่างกายเบียดเสียดเข้าหากันอย่างไม่ได้ตั้งใจบ้างตั้งใจให้เบียดบ้าง
ทั้งสี่คนไม่มีกระจิดกะใจสนใจเรื่องอาบน้ำอีกแล้ว หลินหยางถูกสามสาวนั่นบีบบังคับต้อนเขาให้จนมุม
“พวกคุณ…. จะทำอะไรเนี่ย?” หลินหยางพูดอย่างหมดท่า
“ทำอะไรนะเหรอ? กินคุณไง! สาวๆ จัดการพร้อมกันหรือว่าทำทีละคน?’ ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างหน้าด้าน
ทว่าหลินหยางถึงกับพูดตอกกลับอย่างหัวร้อน “ไม่ได้ ฉันเป็นผู้ชายทั้งแท่งแถมเป็นสามีที่ยิ่งใหญ่อีก แล้วจะมาโดนพวกเธอสามคนใช้กำลังบีบบังคับต้อนให้จนมุมไว้ได้แบบนี้ได้อย่างไรกัน? จัดมาพร้อมกันเลยแล้วกัน!”
อีกนิดสามสาวถึงกับหลุดหัวเราะออกมา พลางใช้เรือนร่างที่เปียกชุ่มแนบชิดกับเขา หลินหยางเองก็ใช้พละกำลังดึงพวกเธอมากอดเอาไว้ ความอบอุ่นในช่วงเวลานี้มันพาความรู้สึกอิจฉาและไม่พอใจออกไปอย่างสิ้นเชิง
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว งั้นก็ต้องดื่มด่ำกับความสุขไปพร้อมๆ กัน!
สาวสามปลดเปลื้องเสื้อผ้ายับยู่ยี่ออกจากตัวจนตัวเปล่าเล่าเปลือย ภาพตรงหน้ามันทำให้หลินหยางจ้องมองตาไม่กะพริบ มันช่างสวยงามชวนหลงใหลเสียจริง!
พวกเธอย่อมรู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดเรื่องสนุกอะไรขึ้น ทุกคนต่างคาดหวังและรอคอยอยู่ในใจ
หลินหยางถูกสามสาวกอดรัดไว้แน่น จนต้องพูดแกมว้าวุ่นใจ “พวกเธอใช้แรงต้อนฉันให้จนมุมไว้อย่างนี้ฉันก็ไม่ไหวนะ!”
“ไม่ไหวยังไง? ไม่ใช่ว่าคุณเก่งเหรอ? ปกติชอบทรมานคนที่สุด วันนี้จะดูความสามารถของคุณหน่อยสิ!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดจาถากถาง
นี่ถือว่าเป็นการบีบบังคับมาถึงขั้นนี้แล้ว หลินหยางจะทนต่อไปอย่างไรไหว ถึงกับอุ้มขาทั้งสองข้างของไป๋เซียนเฉ่าจากนั้นก็โยนลงไปในอ่างอาบน้ำ จากนั้นตนเองก็กระโจนลงอ่างตามไปทันที
ไป๋เซียนเฉ่าตกใจจนส่งเสียงร้อง พร้อมทั้งขัดขืนอยู่เล็กน้อยจนสัมผัสได้ว่ากระบอกปืนอันย่อมเริ่มแนบประชิดด่าน จนเธอถึงกับรีบตะโกนเสียงหลง “สาวๆ รีบช่วยฉันที!”
“ไม่ต้องรีบ พวกคุณสองคนอาบน้ำไปก่อน ใครให้คุณเป็นคนยั่วยุก่อนล่ะ งั้นคุณก็ถือว่าเป็นด่านแรกก็แล้วกัน!” ฉีเยนเอ๋อร์ยิ้มให้อย่างยินดี
ไม่คิดเลยว่ากองทัพที่สานสัมพันธ์อันแนบแน่นเมื่อครู่ ตอนนี้ได้ล่มสลายไปคนละทิศคนละทางแล้ว หญิงสาวสองคนดันมายืนมองความสนุกสนานเรื่องนี้อยู่ข้างๆ แทน ไปเซียนเฉ่าไม่มีทางหนีพ้นแถมยังเหมือนหมึกสายที่เกาะเกี่ยวพันร่างกายกำยำของหลินหยางเอาไว้แน่น พร้อมทั้งพูดอย่างยั่วยวน “คนเลว วันนี้ฉันจะดูดพลังคุณให้หมดตัว จนทำให้สองสาวอย่างพวกเธอต้องร้อนใจเลยแหละ!”
ทว่าการตัดสินใจนี้ก็เหมือนว่าคิดไปเอง ตอนที่หลินหยางกำลังกระทุ้งไปด้านหน้านี้ ไป๋เซียนเฉ่าก็เริ่มทนไม่ไหว หลินหยางเร่งรีบงับเม้มเมล็ดองุ่นเล็กๆ ตระหง่านชูชันกลางหน้าอกเธอเอาไว้ จนน้ำกระเพื่อมไปมาเป็นจังหวะ
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ช่วงจังหวะที่ไป๋เซียนเฉ่ากำลังถูกกระบอกปืนกระทุ้งจนทรมานพร้อมทั้งกรีดร้องครวญครางอยู่นั้น แท้จริงแล้วการกระทำของหลินหยางนั้นถือว่าอ่อนโยนมากแล้ว ทว่าด้วยสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ในตอนนี้นั้นทำให้ไป๋เซียนเฉ่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองเอาไว้ได้
จางเยว่กับฉีเยนเอ๋อร์ยืนตาค้าง อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยฤทธิ์ของสุราจนทำให้เกิดอาการตื่นตัวเช่นนั้น ทั้งสามคนไม่ได้รู้สึกอิจฉากันสักนิด จางเยว่เม้มริมฝีปากจากนั้นก็ทาบตัวลง ประกบชิดบนตัวของหลินหยาง พร้อมทั้งใช้กระต่ายอวบอิ่มเต่งตึงทั้งสองข้างตนเองถูไถร่างกายของเขาไปพร้อมกัน
ร่างกายของหลินหยางยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม จนการกระทำยิ่งหนักหน่วงจนบ้าคลั่ง ไป๋เซียนเฉ่าเริ่มพูดเพ้อพร้อมทั้งหายใจหนักหน่วง “ฉันไม่ไหวแล้ว!”
“คุณไม่ไหว งั้นก็เปลี่ยนมาที่ฉันสิ!” จางเยว่พูดอย่างไม่กระดากปากอยู่ด้านหลัง
หลินหยางก็ไม่ยอมพัก พลางหันปลายกระบอกมา จากนั้นก็กดจางเยว่ลงบนขอบอ่างอาบน้ำ จางเยว่ที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนหน้าแล้ว เลยอ้าขาทั้งสองข้างออกจากกันเพื่อรองรับมันทันที
ฉีเยนเอ๋อร์ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ พร้อมปรี่ทั้งรีบประกบทันที แถมยังบ่นเพ้อพึมพำบริเวณใบหูของหลินหยางอย่างหยอกล้อ “คนเลว คุณรีบๆ ทำให้ไว คนอื่นก็อยากเอาเหมือนกัน!”
ไป๋เซียนเฉ่าพักผ่อนเพียงครู่เดียวก็สามารถเรียกเรี่ยวแรงกลับมาได้อีกครั้ง พร้อมทั้งใช้ขาเรียวยาวยกขึ้นแล้วเกี่ยวกระหวัดด้านหลังของหลินหยาง จากนั้นก็ยิ้มให้ตอนกล่าวออกมา “ท่านี้ไม่เลวเลย สู้ๆ นะ!”
บรรดาสาวๆ กำลังก่อกวนจนทำให้จิตใจของจางเยว่เริ่มกระวนกระวายขึ้นมา ใบหน้าเล็กๆ เริ่มย่นเข้าหากันจนพูดออกมา “หลินหยาง คุณค่อยๆ ทำนะ พวกเขาจะไปร้อนใจจนบ้าตายไป!”
เรื่องพรรค์นี้มันค่อยๆ ทำได้ด้วยเหรอ? ร่างกายที่กระทบเข้าหากันจนน้ำกระเพื่อมกระฉอกไปทั่ว หลินหยางใช้การกระทำอันแท้จริงบอกกับพวกเธอ คืนนี้เขาถึงเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง
เสียงกระทุ้งกระแทกเข้าหากันไปมายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จุดสุดยอดของพลังมังกรและหงส์ค่อยๆ ปรากฏให้เห็น ช่างไม่เหมือนก่อนเลย เจินชี่ของหลินหยางนั้นเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณโดยรอบ ฉีเยนเอ๋อร์เริ่มทนไม่ไหวอีกแล้ว จนต้องใช้นิ้วมือสอดใส่ลงบริเวณช่วงล่างนั้นอย่างไม่รู้ตัว พร้อมทั้งแทรกสัมผัสกับถ้ำอันเปียกชุ่มของตนเองทันที
“ไอ้คนเลว คุณนี่ทำให้ฉันต้องร้อนรนจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!” ฉีเยนเอ๋อร์หน้าแดงแจ๋ตอนพูด
จางเยว่เดิมทีใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวกระหวัดหลินหยางเอาไว้นั้น จนทำให้ช่องว่างระหว่างกันยิ่งแคบลงไปมาก ทว่ากระแสความเร่าร้อนนั้นได้กลืนกินเธอหมดแล้ว หลังจากที่กระตุกแล้วก็ผ่อนโรยแรงลงมาทันที
ฉีเยนเอ๋อร์นั่งอยู่บนขอบอ่าง พร้อมยื่นมือเรียวงามดั่งหยกกระดิกนิ้วเข้าหาตัว หลินหยางเข้าใจความหมายพร้อมทั้งลุกขึ้นยืนทันที
ไป๋เซียนเฉ่าเคยคุยฉีเยนเอ๋อร์เรื่องลับๆ กันอยู่บ้าง แน่นอนว่าต้องพูดเรื่องศึกสงครามที่ดุเดือดระหว่างเธอกับหลินหยาง ฉีเยนเอ๋อร์เคยตกใจถึงความกล้าหาญชาญชัยในเรื่องอย่างว่าพรรค์นี้ของคุณหนูไฮโซด้วย วันนี้เลยใช้เวลาในช่วงนี้แต่มันทำให้เธออยากลองวิธีการแบบนี้ จากนั้นก็กำกระบอกปืนย่อมๆ ไว้แน่น ซึ่งบนนั้นมีแต่ความลื่นไหลอยู่แล้ว
การได้เผชิญหน้ากับของเล่นชิ้นใหญ่แข็งเป็นปล้องเช่นนี้ ถึงแม้ว่าในใจจะตื่นเต้นอยู่บ้างก็ตาม แต่ฉีเยนเอ๋อร์ก็ก้มศีรษะลงพร้อมทั้งอ้าปากอมมันไว้ทันที
หลินหยางหลับตาลง ราวกับกำลังดื่มด่ำกับความรู้สึกนั้นอย่างพริ้มเพรา ฉีเยนเอ๋อร์พยายามปรนเปรอจิตวิญญาณให้เขาได้ตื่นเต้นตามได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าจะลิ้มลองรสชาติอย่างเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าหลินหยางก็เสียวอย่างเต็มที่ รอจนให้ฉีเยนเอ๋อร์ได้จัดการท่าทางให้ดีแล้วหลินหยางก็เอาพญามังกรเสียบเข้ามาด้านในทันที
ถือว่าหลินหยางเป็นผู้ชายที่มีความรู้สึกเก่งกาจในเรื่องการทำแฮตทริกสำเร็จ สิ่งที่เก่งกว่าในครั้งนี้ก็คือเขาได้ใช้พละกำลังอันทรงพลังทั้งหมดของตนเองในการอุ้มฉีเยนเอ๋อร์ขึ้นมาอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง จนถูกทรมานอยู่กลางอากาศ
ไป๋เซียนเฉ่าเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว เธอย่อมรับรู้ถึงรสชาติอันวิเศษเลิศล้ำแบบนี้ จนเกิดความรู้สึกจักจี้,จั๊กจี้หัวใจขึ้นมาอีกครั้ง
การอาบน้ำในท่วงท่านี้ช่างยาวนานมาก ยามที่หลินหยางส่งเสียงร้องครวญครางอันหนักหน่วงออกมาถือว่าสิ้นสุดภารกิจ
ค่ำคืนยังคงยาวนานนัก สงครามของพวกเขาทั้งสี่คนก็เปลี่ยนสถานที่มาอยู่บนเตียงใหญ่แทน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางนอนดึกมาก แถมยังหนึ่งต่อสามต่อสู้กับคนอีกสามคนช่างไม่ใช่คนธรรมดาเสียจริง หลังจากที่ตื่นแล้วนั้น เกิดอาการฟ้าเหลืองบ้านหมุนตาพร่ามัว เขากลับรู้ทันทีว่าทั้งสามสาวได้หนีออกไปตั้งแต่ไก่โห่แล้ว แถมยังทิ้งข้อความไว้ให้ด้วยว่าไปเที่ยวด้วยกัน คงไม่ได้เจอหน้ากับหลินหยางอยู่หลายวัน!
หลังจากบิดขี้เกียจอยู่สักพัก หลินหยางก็ลุกขึ้นจากเตียง วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาตั้งใจจะไปทำงานต่อเพื่อเข้าไปจัดเก็บเอกสารที่ได้ทำการทดลองเมื่อวานให้เรียบร้อย
จากนั้นก็มีเรื่องที่ประดังประเดมากวนใจจนทำไม่เสร็จสักที เพราะว่าดันมีโทรศัพท์โทรเข้ามาหา
“ลองทายสิว่าฉันคือใคร!” เสียงอ่อนโยนของผู้หญิงเป็นคนถามขึ้น
“จางยี่ นี่เธอจงใจจะแกล้งทำเสียงหลอกใส่ฉันทำไม?” ประสาทหูของหลินหยางเก่งมากทีเดียว
จางยี่ทั้งดีใจและประหลาดใจจนต้องพูดออกมา “พี่เขย ขนาดฉันแกล้งทำเสียงแหบแห้งใส่ คุณยังฟังออกอีกเหรอ!”
“คุณเอาเครื่องเปลี่ยนเสียงมาดัดเสียง ฉันก็ฟังเสียงแกออก โทรหาฉันมีเรื่องไร?” หลินหยางถามกลับ
“พี่สาวหนีไปเที่ยวแล้ว ฉันอยากจะไปเดินเที่ยวในเมืองเจียงหลิงกับคุณได้ไหม?” น้ำเสียงของจางยี่แสดงความคาดหวังออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หลินหยางก็ยอมตอบตกลง แถมไม่คิดเลยว่าไม่ถึงห้านาที จางยี่ก็มาที่เซียนเฉ่าเก๋อซะแล้ว
“ทำไมคุณถึงมาได้เร็วปานจรวดขนาดนี้ล่ะ?” หลินหยางถาม
“ก็อยู่ข้างๆ แถวนี้แหละ บริษัทของพี่เขยสวยมาก ฉันมาทำงานที่นี่ได้ไหม?” จางยี่เกี่ยวแขนของเขาตอนที่เอ่ยปากถาม
หลินหยางไม่อยากจะเอาน้องเมียมาทำงาน เพราะว่าหญิงสาวที่แข็งแกร่งคงต้องให้อยู่ห่างๆ อย่างเคารพเป็นดีที่สุดแล้วแหละ! เมื่อเห็นสีหน้าของหลินหยางที่ทำหน้าลำบากใจ จางยี่เริ่มทำหน้าคว่ำทันที
“คุณเป็นถึงคุณหนูไฮโซ จะมาทำงานที่บริษัทของพวกเราทำไม? มาเป็นพนักงานขายของเหรอ? ขนาดตำแหน่งเลขาฯ ยังทำให้คุณเสียเกียรติเลย!” หลินหยางพูดอธิบาย
“ไม่เสียเกียรติอะไรตรงไหนนี่ ฉันเป็นเลขาฯ ให้คุณได้นะ!” จางยี่พูดอย่างยินดี
หลินหยางหัวเราะร่า “ฉันมีเลขาฯแล้ว อีกอย่างคุณต้องการมาเป็นเลขาฯ งั้นพี่สาวของคุณก็ต้องมานั่งจ้องฉันยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดี! คุณอยากทำงานก็ต้องไปถามพี่สาวของคุณก่อนว่าจะยอมตกลงหรือไม่ตกลงดีกว่าไหม!”
“ก็ได้ วันนี้ไปตระเวนเที่ยวเมืองเจียงหลิงเป็นเพื่อนกับฉันก่อน!” จางยี่เริ่มเปลี่ยนหัวข้อพูดทันที
น้องเมียนี่เอาใจยากชะมัด หลินหยางหมดหนทาง จำต้องดึงเธอขึ้นรถแทน รสนิยมของหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า เรื่องอาหารการกินเลิศรส หรือการสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ ทว่าของจำพวกนี้มันไม่ได้มีอะไรสัมพันธ์กันกับน้องเมียคนนี้สักอย่าง การแต่งกายของเธอนั้นมีสไตล์พิเศษเฉพาะตัวเพราะสีผมเป็นสีทอง เสื้อผ้าสวมใส่ชุดยีนขาดๆ แหว่งๆ
ถ้าหากว่าไปพบเจอบนท้องถนน หลินหยางคงเกิดความคิดผุดขึ้นมาให้หัวว่าเป็นพวกเด็กแนว แถมหญิงสาวคนนี้มีนิสัยที่โดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งดุร้ายแถมมีเสน่ห์ติดตัว
เมื่อคิดอยู่หลายตลบ หลินหยางตัดสินใจพาเธอไปAdventure Valley เพราะว่าที่นั่นรถไฟเหาะและการล่องแก่ง มันช่างตื่นเต้นเร้าใจเกินบรรยาย
ที่แท้ เมื่อถึงAdventure Valley สติสัมปชัญญะของจางยี่ตื่นตัวทันที หญิงสาวคนนี้พูดอย่างตื่นเต้น “พี่เขย พี่นี่ช่างเข้าใจฉันจริงๆ! คุณไปเล่นSky Ladderด้วยกันนะ!”
หลินหยางอยากจะพูดว่าไม่ ทว่าจางยี่ได้ฉุดกระชากลากถูดึงเขาเข้าไปตรงประตูแล้ว แถมซื้อตั๋วเสร็จสรรพ หลินหยางได้แต่จำยอมเดินขึ้นไปแล้วนั่งลงตามเธอ
นี่มันเป็นของเล่นที่ทำให้คนหมดท่าสิ้นสภาพแถมนี่ไม่ใช่ของเล่นคนทั่วไปธรรมดาที่เขาเล่นกัน เริ่มแรกคือการเคลื่อนตัวช้าๆ ทะยานมุ่งหน้าไปยังมุมที่สูงลิบลิ่วมาก จากนั้นรถไฟคันใหญ่จากความสูงก็พุ่งทะยานลงสู่เบื้องล่าง โดยใช้มุมประมาณเจ็ดสิบห้าองศาที่ทำให้คนเราตกใจจนหัวใจเต้นรัวไปแตะที่หนึ่งร้อยแปดสิบครั้ง หลินหยางรู้สึกได้ทันทีว่าสะพานรถไฟเหาะเริ่มหมุนเข้าหา จากนั้นจางยี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มดีใจจนกรีดร้องออกมา ราวกับว่าการทำเช่นนี้มันตื่นเต้นเร้าใจอย่างมีความหมาย
หลังจากลดระดับจากความสูงลงมาแล้ว จากนั้นก็วนขึ้นลงไปมาพร้อมทั้งหมุนซ้ายหมุนขวาไปหลายรอบ จนในที่สุดถึงได้ลดอัตราความเร็วและจอดสนิท มีคนที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับเกาะตัวรถแล้วอาเจียนออกมาทันที ขนาดหลินหยางเองยังไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ
ทว่าจางยี่คว้าแขนของหลินหยางมากอดเอาไว้พร้อมทั้งแสดงท่าทางดีใจยกใหญ่ “พี่เขยนี่มันช่างตื่นเต้นเร้าใจจริงๆ พวกเรามาเล่นกันอีกครั้งเอาไหม?”
หลินหยางรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที พร้อมทั้งกล่าวว่า “เมื่อคืนฉันดื่มหนักไปหน่อย ในท้องมันปั่นป่วนมากแล้ว ถ้าคุณไม่อยากเห็นฉันขายหน้าก็หาอะไรธรรมดาเล่นก็แล้วกัน!”
จางยี่พูดดูถูกว่า “พี่เขยนี่ช่างขี้ขลาดตาขาว ไป เราไปพายเรือกัน!”
บริเวณตรงกลางของAdventure Valleyมีทะเลสาบขนาดใหญ่ ตัวเรือจะทะยานตัวขึ้นไปบนที่สูงจากนั้นก็จะไหลลงไปตามมุมทแยงด้วยความเร็วพุ่งเข้าหาทะเลสาบ พร้อมทั้งมีคลื่นน้ำที่กระเพื่อมออกมาจนสูงกว่าตึกหลายชั้น
สิ่งของอะไรที่มันยิ่งตื่นเต้นจางยี่ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ พร้อมทั้งฉุดกระชากลากถูหลินหยางให้นั่งในเรือคายัคขนาดเล็กที่แกมบังคับให้คนสองคนนั่งในเรือนั้น ตอนที่เรือคายัคไหลลงจากที่สูงลงมานั้น จางยี่ก็ตะโกนเสียงดัง พร้อมทั้งยื่นมือออกไปสัมผัสคลื่นน้ำ
การเล่นสนุกจนลืมตัว หลินหยางเลยต้องตั้งสติพร้อมทั้งจับจ้องอยู่ตลอด เพราะกลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ทันระวังจนหงายหลังล้มลงไป
“พี่เขย น้ำนี่มันใสแจ๋วมาก คุณดูสิ!” จางยี่พูดอย่างดีใจ
การที่อาศัยอยู่ในเมืองมานาน น้ำในทะเลสาบที่ใสแจ๋วก็เห็นได้น้อยมาก หลินหยางเรียนรู้พฤติกรรมของเธอพร้อมทั้งใช้มือทั้งสองข้างที่มีแต่น้ำสาดใส่บนตัวจางยี่
จางยี่ร้องเสียงหลง พร้อมทั้งรีบตอบโต้ทันที ไม่นานนักทั้งสองคนก็เปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวน้อยจางยี่ที่ใส่เสื้อผ้าคอเสื้อลึกมาก เมื่อมันเปียกปอน จนทำให้เห็นรูปทรงอันสมบูรณ์ของเจ้ากระต่ายน้ำสีขาวที่ทะลักออกมาเกินครึ่ง
“พี่เขย คุณนี่มันเลวจริงๆ ตอนนี้ฉันตกอยู่ในสภาพแบบนี้คุณต้องรับผิดชอบด้วย!” จางยี่พูดอย่างโมโห
หลินหยางได้แต่ยิ้มให้ “ใครล่ะให้คุณพาฉันมาเล่นของที่เร้าใจพวกนี้ ยังไงก็ต้องได้รับโทษบ้าง!”
“คุณดูสิ จนมันชี้ขึ้นมาแล้ว!” จางยี่ได้แต่เม้มปาก พร้อมทั้งแกะเสื้อชูชีพออกหนึ่งข้าง
เขาเหล่ตามอง ก็เห็นว่าเจ้าจุดเล็กๆ ของจางยี่ที่อยู่ไม่เป็นสุขก็ชูชันขึ้นมาดื้อๆ บางอย่างในร่างกายของหลินหยางก็ได้รับผลจากอาการอยู่ไม่เป็นสุขจนตื่นตัวเช่นกัน หางตาของจางยี่ก็เห็นทันที พร้อมทั้งหัวเราะร่า “พี่เขย พี่ดูของตัวเองสิ มันนูนแข็งขึ้นมาแล้วเนี่ย!”
ผู้หญิงคนนี้ปากไม่มีหูรูดจริงๆ หลินหยางเบี่ยงตัวเพื่อปกปิดของตนเองที่เปิดเผยออกมาอย่างเขินอาย ทว่าเรือคายัคลำนี้มันแคบจริงๆ ตัวของหลินหยางก็กินพื้นที่ไปเกินครึ่งแล้ว การขยับเขยื้อนเรือคายัคยิ่งทำให้เสียการทรงตัว จางยี่ที่ไม่ทันระวังตัวก็เซหงายหลังไปยังด้านหลัง จนเธอหล่นตกน้ำ
หลินหยางรีบพุ่งตัวลงน้ำทันที พร้อมทั้งดึงตัวจางยี่เอาไว้ ความจริงแล้วเขามั่นใจแล้วว่า เสื้อชูชีพที่ใส่อยู่ที่ตัวนั้นก็สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว
ถึงแม้ว่าคนจะไม่เป็นไร แต่จางยี่คงตกใจอยู่ เธอกระโจนพร้อมทั้งตะเกียกตะกายเกี่ยวรัดหลินหยางไว้แน่น
“พี่เขยคนเลว คุณแกล้งฉัน!” จางยี่เริ่มโมโหพร้อมทั้งใช่กำปั้นเล็กๆ ทุบบริเวณด้านหลังของเขา
หลินหยางรีบพูดขอโทษทันที “ฉันขอโทษแล้ว ต่อไปจะไม่แกล้งคุณแล้ว!”
“ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าต่อไปจะไม่แกล้งอีกแล้ว ยังต้องถูกฉันแกล้งคืนด้วย!” จางยี่เบะปากพูด
ผู้หญิงคนนี้ได้คืบจะเอาศอก จนหลินหยางถึงกับยิ้ม “ได้สิ คุณมีปัญญาแกล้งฉัน ฉันก็ยินยอมให้คุณแกล้ง!”
หลินหยางไม่คิดว่าจางยี่จะทำตามที่พูดทันที เพราะว่าเธอคว้าบริเวณส่วนล่างของหลินหยางเอาไว้ พร้อมทั้งพูดอย่างเยาะเย้ย “คุณยังจะผยองได้อีกหรือเปล่า?”
หลินหยางยกมือทั้งสองข้างขึ้น พร้อมทั้งพูดยอมแพ้ “ไม่กล้าแล้ว คุณหนูจอมซน ตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาแตะต้อง!”
“ทำไม ฉันอยากจะแตะต้องก็ต้องแตะต้องได้ตามใจอยาก!” จางยี่ทั้งพูดไป มือก็ซุกซนอยู่ตรงนั้น
หญิงสาวคนนี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ราวกับถูไปถูมาเหมือนกับนวดแป้ง หลินหยางถึงกับต้องคว้าของมือของเธอไว้ทันที
“คุณต้องการแกล้งฉันให้ตายนะสิ รีบขึ้นเรือ!” หลินหยางตีหน้าเข้ม
จางยี่ถึงได้ยอมปล่อยเขา พร้อมทั้งปีนขึ้นเรือคายัค พร้อมทั้งพูดว่า “พี่เขยดันฉันขึ้นไปหน่อย!”
เลยต้องว่ายน้ำมาหา พร้อมทั้งดันก้นเล็กๆ อันกลมกลึงขึ้นไปด้านบน แถมสัมผัสที่ได้ให้ความรู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว จางยี่ใส่กางเกงขาสั้นเสมอหู พร้อมทั้งรัดติ้วจนชวนหลงใหล หลินหยางไม่กล้าที่จะลูบคลำแม้สักนิด เพราะว่าช่วงล่างราวกับจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งสองคนกลับไปอยู่บนเรือคายัค จางยี่นั่งเท้าคางเอาแต่จ้องมองหลินหยางตาไม่กะพริบ ส่วนหลินหยางถูกเธอจ้องมองใจสั่นเล็กน้อย
“เล่นสนุกมาพอแล้ว ควรจะกลับได้แล้ว!” หลินหยางพูด
“พี่เขยดูนู่นสิ ทางนั้นคนเยอะแยะ” จางยี่พลันชี้มือไปทางที่คนเกาะกลุ่มกันอยู่