ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 214 ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
- Home
- ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)
- บทที่ 214 ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
บทที่ 214 ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
ทั้งสองคนต่างสวมใส่เสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้ว ทว่าร่างกายยังคงอิงแอบแนบชิดตัวติดกัน และแยกไม่ออก
“พอแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว!” หลินหยางพูดเตือนสติ
“ไม่สน จะขังคุณไว้ชั่วชีวิตถึงจะดี!” หลิวหลิงหลิงพูดและยิ้มอย่างออดอ้อน
หลินหยางได้แต่ส่ายหน้าไปมาพร้อมทั้งพูดและยิ้มให้อย่างขมขื่น “ต่อไปต้องมีโอกาสให้คุณสอบปากคำแน่! ถึงเวลาควรกลับแล้ว ใช่สิ ฉันมากับเด็กสาว เป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของจางเยว่เลยนะ?”
“เธอก็ไม่ได้ก่อเรื่องนี่ การลงบันทึกให้ปากคำของคุณก็ออกมาแล้ว ว่าคุณเป็นนักโทษคดีร้ายแรง!” หลิวหลิงหลิงยิ้มตอบ
เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก จนในที่สุดหลิวหลิงหลิงก็ได้จัดการเรื่อง “นักโทษคดีร้ายแรง” ของเธอนั้นได้อยู่หมัด ก่อนจากลากันยังกระซิบทำเสียงข่มขู่ใส่ “ถ้ากล้าทำผิดอีก ก็จะไม่ปล่อยตัวคุณไปอีกแล้ว!”
หลินหยางเดินออกมาจากสถานีตำรวจอย่างกุลีกุจอสดชื่น ในใจรู้สึกพอใจเต็มเปี่ยม ยังเดินได้ไม่กี่ก้าวพลันมีเสียงคนเรียกเขาเอาไว้
“ไอ้พี่เขยทุเรศ นี่คุณไปติดคุกขี้ไก่มาหรือว่าไปหอคณิกากันมาแน่!” ที่แท้ก็เป็นจางยี่คนเดิม
หลินหยางถึงกลับตอบกลับอย่างเก้อเขิน “คุยเพลินไปหน่อย แล้วทำไมคุณยังไม่ไปอีกล่ะ?”
“ฉันนี่นะนั่งรอคุณตั้งแต่บ่ายยันฟ้ามืดมาตลอด แหมแล้วคุณดันพูดว่าคุยเพลินเหรอ? คุณดูกระดุมของคุณสิมันจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว” จางยี่พูดดักทางหลินหยาง
หลินหยางก้มหน้ามองลงมา กระดุมมันดันหลุดจากรังดุมจริงๆ ต่อจากนั้นเลยไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธออย่างไรดีแล้ว
“เรื่องนี้…. นี่จะเป็นเพราะว่าตอนที่กำลังชกต่อยกันแล้วมันหลุดล่ะมั้ง!” หลินหยางสร้างเรื่องแถไปเรื่อย
“ไม่ใช่แล้ว คุณกระโดดไปหาเขาแทบไม่ได้สะกิดคุณแม้แต่นิด! หลิวหลิงหลิงคนนี้ใช่เพื่อนที่สนิทมากคนเก่าของคุณไหม?” จางยี่จ้องหน้าหลินหยางแล้วถาม
หลินหยางได้ยิ้มแห้งๆ ให้ แต่ไม่ยอมอธิบายต่อ เพราะอย่างไรจางเยว่ก็รู้อยู่แล้ว แถมยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พวกเขาอีกด้วย!
ทว่าการแสดงออกของหลินหยางนั้นยิ่งทำให้จางยี่โมโหเดือด จนพูดอย่างเดือดดาล “พี่เขย ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนประเภทนี้ แต๊ะอั๋งฉันก็พอแล้ว แถมยังไปเกี่ยวพันกับเพื่อนร่วมงานของพี่สาวฉันอีก!”
“ข้าวสามารถกินข้าวแบบไหนก็ได้ แต่ว่าคำพูดไม่อาจพูดมั่วๆ ฉันไปแต๊ะอั๋งคุณตอนไหนกัน!” หลินหยางพูดอย่างชัดเจน
“เชอะ ฉันจะไปฟ้องพี่สาวฉัน บอกว่าคุณรังแกฉัน ฉันจะโทรศัพท์หาพี่สาวฉันเดี๋ยวนี้เลย!” จางยี่พลันควานหาโทรศัพท์ตอนพูดด้วย
หลินหยางไม่อยากจะต่อปากต่อกรกับเธออีกแล้ว หญิงสาวคนนี้อยากจะพูดอะไรก็ให้พูดไปเลยตามเลยเถอะ เขาพูดถูกต้องตามหลักศีลธรรมแล้ว จางยี่เห็นท่าทางของหลินหยางที่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน จนเธอต้องโทรศัพท์ไปหาพี่สาวของเธอจริงๆ
จากนั้นปลายสายพลันมีเสียงสายซ้อนดังติ๊ดติ๊ดขึ้นมาแทน จนเด็กสาวเกิดอารมณ์เล็กน้อยจนต้องโทรกลับไปอีกครั้ง เมื่อโทรซ้ำอีกครั้งก็ยังเป็นเสียงสายซ้อนอยู่เช่นเดิม
“นี่พี่สาวกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมไม่รับโทรศัพท์ฉัน!” จางยี่พูดอย่างอึดอัด
หลินหยางใจเต้นเล็กน้อย พลางควานหาโทรศัพท์ของตนเองพร้อมทั้งโทรไปยังไป๋เซียนเฉ่า ทางนั้นก็เป็นเสียงสายซ้อน! แล้วเขาก็เริ่มลองโทรศัพท์หาฉีเยนเอ๋อร์อีกครั้ง ก็ยังเป็นเสียงตี๊ดๆ สายซ้อนอยู่เช่นเดิม
ลางสังหรณ์ไม่ดีเริ่มถาโถมเข้าหา หลินหยางโทรศัพท์กลับไปอีกหลายครั้ง โทรศัพท์ของสามสาวต่างมีสายซ้อนกันทั้งนั้น
“ท่าไม่ดีแล้ว คงไม่ได้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับพวกเธอมั้ง?” สีหน้าของหลินหยางเคร่งขรึม
หลินหยางรีบโทรศัพท์ไปยังบริษัททัวร์ทันที ทางประชาสัมพันธ์ก็แจ้งกับเขาว่าตอนนี้คณะทัวร์เข้าไปอยู่ในเขตภูเขา ทางนั้นสัญญาณโทรศัพท์ถือว่าแย่มาก
ไม่เป็นก็ดีแล้ว หลินหยางเข้าใจถึงสาเหตุแล้วพลันหันมาพูดกับจางยี่แล้วพูดว่า “พอแล้ว ฉันกลับบ้านแล้ว คุณล่ะ?”
“คุณไปไหน ฉันก็ไปนั่น!” จางยี่เชิดหน้าใส่
ได้ งั้นก็กลับบ้านกันจริงๆ สักที เดี๋ยวให้หนานกงหยูนเป็นคนคอยต่อกรกับเธอ!
รถแลนด์โรเวอร์บรรทุกคนสองคนกลับบ้าน จางยี่ชี้ไปที่แสงไฟในห้องรับแขกพลางกล่าวว่า “ในบ้านมีคนอยู่!”
“ใช่สิ แขกของฉันเอง!” หลินหยางตอบ
“จริงเหรอ? ผู้ชายหรือผู้หญิง?” จางยี่ถามเซ้าซี้ไม่เลิก
หลินหยางขี้เกียจตอบคำถามอีก พลางเดินเข้าด้านในทันที หนานกงหยูนได้ยินเสียงเครื่องยนต์ก็มายืนรอเขาอยู่บริเวณประตูทันที
หลินหยางกอดเธอทันที พลางยิ้มให้ “ทำไมรู้สึกว่าคุณเริ่มผอมลงอีกแล้ว หรือว่าพอฉันไม่อยู่บ้านแล้วคุณก็เริ่มจัดการมันทั้งวันใช่ไหม?”
“คุณรู้ด้วย!” หนานกงหยูนกล่าวอย่างไม่เป็นสุข
จางยี่เริ่มรู้สึกมึนงงตอนที่จ้องมองพวกเขา อีตาพี่เขยสารเลวคนนี้ยังแอบซ่อนสาวสวยอยู่ในบ้านเรือนหออีก!
“เธอเป็นใครกัน?” จางยี่ถามเสียงแข็ง
“เด็กไม่มีมารยาทคนนี้ไปเก็บมาจากไหน?” หนานกงหยูนเหล่ตามอง
อารมณ์เดือดพล่านของจางยี่ปะทุออกมาทันที นิ้วที่พยายามจะชี้หน้าเธอ แต่ดันมาเจอหนานกงหยูนเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง พร้อมทั้งใช้หลังฝ่ามือคว้าจับนิ้วของจางยี่เอาไว้ จากนั้นก็บีบผู้หญิงคนนี้จนร้องไห้ฟูมฟายออกมา
“พอแล้วแหละ น้องสาวลูกพี่ลูกน้องกับจางเยว่ ตามประสาเด็กน้อย อย่ารังแกเธอเลย!” หลินหยางพูดและยิ้มให้อย่างขมขื่น
“ลูกพี่ลูกน้องของท่านเทพประมุขสวรรค์ชั้นฟ้าก็ไม่ได้ ขนาดมารยาทขั้นพื้นฐานของการเป็นคนก็ไม่เข้าใจ ไม่มีใครสั่งใครสอนเจ้าตั้งแต่เด็กหรือไงกัน?” หนานกงหยูนจ้องตาเธอเขม็ง
ตั้งแต่เด็กจนโตไม่มีมีใครกล้าที่จะจ้องตาจางยี่เช่นนี้ จนใบหน้าเล็กๆ แดงระเรื่อ ดีที่ว่าหนานกงหยูนหยุดอยู่เท่านี้ ไม่นานก็ปล่อยมือออก
“ฮือ ฮือ พี่เขยเธอรังแกฉัน! คุณต้องล้างแค้นให้ฉันด้วย!” จางยี่บีบน้ำตาออกมาหลายหยด
หลินหยางกระแอมเสียง “เรื่องนี้พูดยากมาก พอฉันไม่ทันระวังก็มักจะโดนเธอรังแกอยู่บ่อยครั้ง!”
จางยี่ผงะทันที ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเก่งกาจถึงเพียงนี้เลยเหรอ? เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ดูสง่างามในสไตล์โบราณ แถมยังแต่งชุดโบราณอีก แขนเล็กขาเรียวอ่อนมันทำให้หลินหยางไม่กล้าประมาทได้ไหมล่ะ?
“ตกลงว่าเธอมีประวัติความเป็นมายังไง?” จางยี่เกี่ยวแขนของหลินหยางแล้วถามคำถามขึ้น
“เธอชื่อว่าหนานกงหยูน แซ่นี้น้อยมากที่ได้พบเจอใช่ไหม เป็นคนชนชั้นสูงที่มีจิตวิญญาณสูงส่งมาก เข้าใจหรือยัง?” หลินหยางพูดเยินยอไปเรื่อย
หนานกงหยูนไม่ได้ไว้หน้า พลางพูดกับเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่ใช่ผู้มากฝีมือ เด็กที่ไร้มารยาทพากลับมาบ้านด้วยทำไม?”
“ก็พี่สาวของเธอไปเที่ยวอยู่นะสิ ก็เลยต้องเอากลับมาให้คุณได้อบรมสั่งสอนไง!” หลินหยางยิ้มเหยเกตอบ
เมื่อเห็นว่าจางยี่ที่กำลังทำท่าทางยอมแพ้หมดหนทางสู้ที่อยู่ตรงหน้าหนานกงหยูนนั้น ในใจของเขาก็ปล่อยวางไปเยอะ ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก จางยี่เผชิญหน้ากับคุณหนูประจำตระกูลยังไงก็ย่อมได้รับการอบรมสั่งสอนอยู่แล้ว
หนางกงหยูนเมื่อได้ยินดังนั้นก็เกิดความรู้สึกสนใจเล็กน้อย พลางยิ้มตอบ “สั่งสอนเธอเหรอ? ฉันไม่ได้มีวรยุทธ์ด้านนั้นอะไร ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ไปช่วยงานในร้านซักรีดก็แล้วกัน ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ดีมากในการอบรมสั่งสอนเจ้า!”
การแนะนำเรื่องนี้ถือว่าดีมาก หลินหยางรีบพยักหน้าตกลงทันที “ไม่เลวไม่เลว เสี่ยวยี่ พรุ่งนี้ฉันจะเอาคุณไปส่งที่ร้านซักรีดนั่นนะ เพื่อให้เธอได้รู้ถึงการใช้ชีวิตของคนสามัญชนทั่วไป! ไม่งั้นชั่วชีวิตของคุณก็ไม่ยอมโตสักที แล้วจะไม่มีคนเอา!”
“ใครบอกว่าฉันไม่มีคนเอา พี่เขยก็รังแกฉันนี่!” จางยี่เริ่มบีบน้ำตาให้ไหล
“ฟังฉันให้ดี ขอแค่คุณไปทำงานในร้านซักรีดของฉันอย่างเชื่อฟัง รับประกันเลยว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ใครเห็นใครก็จะหลงรัก!” หลินหยางพูดล่อหลอก
จางยี่กะพริบตาถี่ๆ พลางถามกลับ “จริงเหรอ? คุณก็จะชอบด้วยใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ คนที่สามารถอดทนกับความลำบากของที่นั่นได้นั่นก็หมายความว่าคุณได้เติบโตแล้ว ฉันก็จะชอบได้สิ!” หลินหยางลูบหัวเธอตอนที่พูด
จางยี่ฉีกยิ้มแล้วพูดต่อ “งั้นดี พรุ่งนี้จะไปทำงานที่ร้านซักรีดของคุณเลย!”
ถือว่าได้จัดการคุณหนูไฮโซไปแบบมั่วๆ จนสำเร็จแล้ว หลินหยางถึงได้มีเวลาแล้วไปอาบน้ำ เพื่อชะล้างความเหนื่อยล้าบนร่างกาย ไม่คิดเลยว่าเพิ่งอาบน้ำไปได้แค่ครึ่งเดียว หนานกงหยูนก็เดินลิ่วเข้ามาแทน
หลินหยางสัมผัสได้ว่ามีเรือนร่างที่ร้อนผ่าวกำลังประกบกับร่างกายของตนเอง พลันเมล็ดองุ่นมันทิ่มเสียดสีบริเวณแผ่นหลังของตนเอง มันช่างนุ่มนวลอย่างเต็มเปี่ยม
“ก๊อกน้ำของคุณเริ่มเสียอีกแล้วเหรอ?” หลินหยางพูดกระเซ้าเย้าแหย่
“คุณนี่แหละที่จะเสีย!” หนานหงหยูนยื่นมือออกมาบีบทันที ขนอ่อนๆ ของหลินหยางลุกซู่ทันที
กระบอกปืนขนาดย่อมอยู่ในมือของเธอ แล้วจะมีความโอ้อวดอะไรได้ล่ะ! หนานกงหยูนส่งเสียงฮึมฮัม “ตอนกลางวันไปกินตับกับเด็กไม่รู้เรื่องคนนั้นมาใช่ไหม ถึงได้อ่อนปวกเปียกขนาดนี้ได้?”
โดนบีบไว้แน่นใครล่ะจะแข็งได้ หลินหยางพูดอย่างขมขื่น “ตัวเธอยังเป็นแค่เด็กน้อยเอง ฉันไปกินตับกับเธอตอนไหน!”
“คุณไปกินตับมาทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น ก็ไม่เห็นว่าคุณจะเหนื่อยเลยนะ!” หนานกงหยูนพูดอย่างสงสัย
“ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากที่สุดแล้ว!” หลินหยางพูดกล่าวโทษ
หนางกงหยูนกัดฟันพูด “ไม่ได้ อย่างน้อย … ก็ต้องผ่านด่านฉันให้ได้ไปก่อน!”
โอกาสตกอยู่ในมือของเธอแล้ว ใครล่ะจะกล้าปฏิเสธได้ หลินหยางรีบหันตัวกลับมายิ้มให้และพูดว่า “ไม่มีปัญหาเลย!”
ร่างกายที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่โต หลินหยางแบกตัวหนานกงหยูนขึ้นมา จากนั้นก็เปิดประตูเพื่อมองบริเวณทั้งซ้ายและขวา เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของจางยี่แล้วก็รีบเดินพรวดพราดเดินเข้ามาในห้องของตนเองทันที
หลินหยางเองก็ไม่รู้ว่าจางยี่คอยจ้องมองพฤติกรรมของเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าเขาแบกเรือนร่างของหนานกงหยูนที่โป๊เปลือยออกมาจากห้องน้ำแล้ว ในใจพลันมีกองไฟสุมขึ้นทันที ในใจของเธอนั้นได้ตีตราคนสองคนว่าเป็นชู้แอบได้เสียกันเอาไว้แล้ว พร้อมทั้งเธอต้องการเดินไปสังเกตการณ์ต่อ
พลันแนบหูลงบนบานประตู ด้านในก็มีเสียงขลุกขลักดังออกมา
ในเวลานี้เองหลินหยางกำลังโอบกอดหนานกงหยูน พร้อมทั้งกำลังนวดฝังเข็มให้เธออยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจับต้องมีอะไรเกินเลยก็ตาม แต่สติสัมปชัญญะของหลินหยางก็ยังคงจับจ้องกับการที่กำลังล้างพิษออกจากตัวของเธอ
พิษร้ายที่อยู่ในร่างกายของหนานกงหยูนนั้นก็เหลือไม่มากแล้ว โดยเฉพาะการที่หลินหยางได้ใช้พลังมังกรและหงส์อย่างดุดันในสถานการณ์นั้นๆ จนทำให้ผลลัพธ์ในการรักษานั้นยิ่งดีขึ้นจนเห็นได้ชัด
ทว่าเสียงการรักษาของคนสองคนนั้นดันเป็นเสียงใกล้เคียงกับการทำเรื่องอย่างว่า จางยี่นั้นก็โมโหจนทนไม่ไหว เลยตัดสินใจผลักประตูเข้าไปเพื่อทำลายเหตุการณ์นั้นให้หยุดลง
หลังจากที่เตะประตูอย่างแรงแล้ว ประตูห้องก็เปิดออก แต่ภาพที่เห็นคือร่างกายของหนานกงหยูนนั้นมีแต่เข็มเงินทั่วทั้งร่างกาย หลินหยางได้แต่จ้องมองเธอตาค้างทำอะไรไม่ถูก
“เป็นเด็กน้อยคนไม่มีมารยาทคนนี้อีกแล้ว!”
หนานกงหยูนเริ่มทนไม่ไหว พร้อมทั้งไม่สนใจที่ร่างกายมีแต่เข็มทั้งตัว พร้อมทั้งพุ่งเข้าหาแล้วคว้าตัวจางยี่ทันที
“ฉัน…ฉันคิดว่าคุณสองคนกำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่!” ครั้งนี้จางยี่หน้าแตกหมอไม่รับเย็บจริงๆ!
“ฉันทำเรื่องอย่างว่ากับเขาแล้วจะยังไง? วันนี้ทำให้เจ้าดูก็แล้วกัน!” หนานกงหยูนจ้องมองหลินหยางตอนพูด
หลินหยางรีบเดินมาห้ามทันที พลางดึงเข็มออกจากตัวเธอด้วย
หนานกงหยูนนิสัยเป็นคนที่พูดแล้วต้องทำให้ได้ เลยจัดการกอดหลินหยางแล้วเซลงบนเตียงนอน จางยี่ถึงกับตะลึงตกใจทันที เพราะว่าหนานกงหยูนคนนี้กำลังแก้ผ้าหลินหยางต่อหน้าต่อตาเธอ จากนั้นก็นั่งคร่อมบนตัวเขาอย่างประเจิดประเจ้อ
หลายครั้งนักที่หนานกงหยูนเคยเป็นคนเริ่มควบคุมจังหวะก่อน ครั้งนี้หนานกงหยูนก็ได้ควบคุมอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งขยับตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งจ้องมองจางยี่อย่างเยาะเย้ย
จางยี่เห็นแล้วจนใจเริ่มตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง มันช่างเร้าใจมาก!
ทั้งสองคนหลอมรวมเป็นคนคนเดียวกัน หลินหยางก็ไม่ได้มีความรู้สึกปฏิเสธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่นานก็หลอมละลายไปกับการกระทำของหนานกงหยูน ร่างกายโอนอ่อนเด้งไปพร้อมกับเธอ จังหวะของทั้งสองคนนั้นผสานกันจนเป็นจังหวะเดียวกัน
แม้ว่าหลินหยางจะเอนหลังนอนอยู่ก็ตาม ทว่าหนานกงหยูนก็ไม่ได้เป็นผู้นำในการเป็นคนควบคุมการกระทำทั้งหมด พอเสียวไปได้สักครู่ก็เริ่มอ่อนระทวย เขาได้แต่เริ่มกลับมาคุมจังหวะอีกครั้ง พลางประคองน่องของหนานกงหยูนเอาไว้ จากนั้นเขาก็ใช้ด้านล่างจู่โจมอย่างบ้าคลั่ง จนจังหวะของหนานกงหยูนไม่เอื้ออำนวย จนล้มไม่เป็นท่า
ร่างกายที่นั่งตัวตรงอยู่ก่อนแล้วค่อยๆ เลื่อนลงมา พลางแนบชิดอยู่ด้านข้างหลินหยาง ทั้งสองนอนสบตากัน ความรู้สึกและร่างกายยังคงเชื่อมติดกันอยู่
จากนั้นการกระทำของหลินหยางยิ่งหนักหน่วงดุดันขึ้น หนานกงหยูนเม้มริมฝีปาก จนร่างกายมีเหงื่อผุดไปทั่ว ตัวสั่นเทาพร้อมทั้งใช้เรี่ยวแรงมีเหลืออยู่ทั้งหมดในการขยับตัวร่วมด้วย
ตอนที่สงครามบ้าคลั่งนี้จบลงนั้น จางยี่ขาอ่อนนั่งกองอยู่ที่พื้น ผู้หญิงคนนี้ยังเด็กอยู่จริงๆ แล้วจะมาทนกับการปะทะกันอย่างดุเดือดแบบนี้ยังไงไหว
หลินหยางเอาเสื้อผ้าคลุมตัวให้หนานกงหยูนจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง “พอแล้ว เรื่องของผู้ใหญ่คุณไม่ต้องดูแล้ว รีบกลับไปนอนพักที่ห้องเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ได้! ฉันจะเอาบ้าง!” จางยี่สบตาตอนที่พูดกับหลินหยาง