ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 261 ช่วยคน
หลินหยางรีบคลานลุกขึ้นยืน แล้วพูดอย่างตะลึงว่า “เธอพาคนอะไรไปบ้างถึ’ได้บุกเข้าไปแบบนี้?”
“ก็พาแค่บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายของเธอ แต่ว่าคนพวกนั้นไม่เคยฝึกกำลังภายในมาก่อน สู้คนของหลูยี่ไม่ไหวหรอก” จ้าวชิวเยว่พูดอย่างเป็นห่วง
“เธอรนหาเรื่องตายหรอ?” สีหน้าของหลินหยางเปลี่ยนไปทันที
ตอนนี้ชิวซิงเยว่ที่ยังนั่งควบอยู่บนตัวของหลินหยาง ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก เห็นว่าหลินหยางมีความคิดที่จะลุกขึ้น ก็เลยรีบพูดว่า “แผลบนตัวนายพึ่งฉีกเมื่อกี้ นายจะไปไหน?”
“ช่วยคน” หลินหยางพูดเสร็จก็วิ่งออกไปเลย
จ้าวชิวเยว่รีบตามขึ้นไป หลินหยางถาม “สมองของผู้หญิงคนนั้นถูกน้ำเข้าใช่ไหม?เธอไปไหนแล้ว?”
“หลังจากที่พวกเราหนีออกมาจากตึกอาคารกว่างหวา พวกหลูยี่เองก็หนีไปหมดแล้ว หนีไปในซอยที่เปลี่ยวๆ ยามในซอยนั้นเข้มงวดมาก ไม่รู้ว่าพวกมันแอบเข้าไปได้ยังไงเหมือนกัน” จ้าวชิวเยว่พูดอย่างหัวเสีย
“ขอแค่มีเงินมีเส้นสาย ไม่มีที่ที่ไปไม่ได้ ซอยนั้นชื่ออะไร?” หลินหยางถาม
“ชุมชนจื่อตง อยากไปตรงนั้นต้องขับรถไปเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง” จ้าวชิวเยว่พูด
หลินหยางหยุดฝีเท้า ในใจรู้สึกไม่ดี ชุมชนจื่อตงชื่อนี้ทำไมคุ้นจังเลย นี่มันเป็นซอยที่เถียนเสี่ยวเสี่ยวอาศัยไม่ใช่หรอ?
หลินหยางรีบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก แต่ว่าผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังเป็นเสียงกำลังยุ่ง
รู้สึกหัวเสียงขึ้นมาทันที หลินหยางเหยียบคันเร่ง รถแลนด์โรเวอร์ได้วิ่งด้วยความเร็วสูงเหมือนกับเสือดาว นี่เป็นภาพที่หาดูได้ยากในเมืองเจียงหลิง รถแลนด์โรเวอร์คันนี้ได้ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงในพื้นที่จลาจล แต่ก็สามารถหลบรถคันอื่นๆ ได้อย่างคล่องตัว หาทางในช่องแคบเพื่อเดินหน้าไปข้างหน้า
“พี่ วันนี้หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้วต้องให้เหล่าโกวช่วยเก็บกวาดให้พี่แล้ว เพราะพี่ได้ฝ่าไปแดงมาสิบกว่าไปแดงแล้ว” จ้าวชิวเยว่นวดที่ขมับแล้วพูด
“ไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วย ถ้าส้งเจียวไม่เป็นอะไรก็ให้ส้งเจียวช่วยฉันรับผิดไป” หลินหยางพูดด้วยสีหน้าอึมครึม
ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมหลูยี่ถึงเลือกซอยที่เถียนเสี่ยวเสี่ยวอาศัยอยู่ แต่ว่าหลินหยางตอนนี้รู้แค่ว่าส้งเจียวและเถียนเสี่ยวเสี่ยวต่างอันตรายแล้ว เขาต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในการไปถึงหน้าเหตุการณ์ การที่ขับเร็วแบบนี้ได้ทำให้แผลของเขาฉีกออกแล้วเลือดก็ค่อยๆ ซึมออกมา
จ้าวชิวเยว่รีบพูดอย่างเป็นห่วงว่า “พี่ พี่เลือดไหลอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไร เธอเตรียมตัวไว้ให้ดี ครั้งนี้คงต้องทำการรบอย่างจริงจังแล้ว” หลินหยางเตือน
จ้าวชิวเยว่ขยับแขนแล้วพูดว่า “เตรียมตัวไว้ตั้งนายแล้ว แค่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง”
ท้องฟ้าข้างนอกในตอนนี้เริ่มมืด หลังจากที่เมื่อวานหลินหยางโดนยิงหลูยี่ก็พาคนหนีไปหมด แต่ว่าแค่ไม่ไปจากเจียงหลิง ท่าทางคงหวังไม่น้อย
หลินหยางมาถึงทางเข้าชุมชนจื่อตง ยามตรงปากทางเข้าก็ได้ห้ามพวกเขาไว้อย่างเต็มหน้าที่ จ้าวชิวเขว่อยู่ๆ ก็เอาเอกสารออกมาหนึ่งใบ อีกฝ่ายเห็นก็เลยปล่อยพวกเขาเข้าไปทันที
“คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีตำแหน่งแบบนี้ด้วย?” หลินหยางพูดอย่างโล่งใจ
“เหล่าโกวทำให้ฉันน่ะ เพื่อสะดวกแก่การเคลื่อนไหวของฉัน กันถ้าเจอปัญหาแล้วหนีไม่พ้น” จ้าวชิวเยว่พูดทั้งหัวเราะ
ทั้งสองคนนิ่งมาก ยังเอาตำแหน่งในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจ้าวชิวเยว่มาล้อเล่นอีก แต่ว่าพวกเขารู้ว่าใกล้จะต้องเกิดศึกใหญ่ นี้เป็นแค่การทำตัวชิวๆ ชั่วคราวเท่านั้นเอง
ได้ขับรถมาถึงหน้าบ้านของเถียนเสี่ยวเสี่ยว ประตูใหญ่ล็อกไว้แน่น หน้าต่างข้างในก็ปิดม่านไว้หมด
“จัดการเลย” หลินหยางพูด
จ้าวชิวเยว่เอาลวดเล็กๆ ออกมาแล้วค่อยๆ เสียบเข้าไป ประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออกอัตโนมัติ ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไป ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเป็นทหารรับจ้างของหลูยี่จริงๆ ด้วย
หลินหยางตาไวมือไว ได้บีบคอของอีกฝ่ายไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะจับปืน ผู้ชายคนนี้เบิกตาโตไม่กล้าขยับแม้แต่เล็กน้อย
“ฉันพูดอะไร นายตอบอันนั้น ถ้านายกล้าร้องออกเสียง ฉันก็ทำให้ให้นายลงนรกได้เดี๋ยวนี้” หลินหยางพูดอย่างเบา
ทหารรับจ้างพยักหน้า หลินหยางถึงจะถามว่า “พวกนายมีทั้งหมดกี่คน ข้างในมีตัวประกันกี่คน?”
“ทั้งหมด 20 คน ตัวประกันมีผู้หญิง 2 คน” ทหารรับจ้างพูดอย่างกลัว
“ส้งเจียวอยู่ไหม?” หลินหยางถาม
ทหารรับจ้างส่ายหัว ก้อนหินสองก้อนในใจของหลินหยางได้หล่นหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ว่าทหารรับจ้างพูดขึ้นมาอีกว่า “บอดี้การ์ดของส้งเจียวมา ถูกจับไว้แล้วถูกพอตัวไปแล้ว”
หลินหยางใช้แรงบีบ ทหารรับจ้างคนนี้สลบไปทันที
หลินหยางเอามือของเขาโยนไปให้จ้าวชิวเยว่แล้วพูดว่า “ให้เธอจัดการ ฉันใช้อันนี้ไม่ถนัด”
ทั้งสองคนได้เดินไปข้างหน้าอย่างระวังต่อ สัมผัสทั้งหกของหลินหยาง……… สังเกตเหตุการณ์บนตึกอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะประมาณตำแหน่งของแต่ละคนได้แล้ว
เอาเข็มเงินออกมา 5 เล่ม หลินหยางพูดว่า “หลังจากขึ้นจากบันไดไปทางซ้ายกับทางขวาต่างมี 4 คน ต้องจัดการให้เร็ว”
จ้าวชิวเยว่พยักหน้า ทั้งสองคนวิ่งขึ้นไปอย่างกับเสือดาว หลังจากมีเสียงซิ้วๆ ไปไม่กี่เสียง คน8คนที่ตรงบันไดสองข้างก็ล้มลงไปทันที
การเคลื่อนไหวข้างนอกทำให้คนที่อยู่ข้างในเฝ้าระวังขึ้นมาทันที คนที่เหลือที่อยู่ในห้องก็รีบพุ่งออกมา หลินหยางและจ้าวชิวเยว่ได้เตรียมความพร้อมไว้ตั้งนานแล้ว กระโดดจากทางปากบันไดลงไป
หลังจากที่เสียงปืนดังปั้ง ปั้ง ปั้ง อีกฝ่ายถึงรู้ตัวว่าคนหายไปแล้ว
ทหารรับจ้างหลายคนชะโงกหัวมองลงไปข้างล่าง ก็ถูกเข็มเงินที่บินขึ้นมาเสียบเข้ากับหัวทันที
หลินหยางและจ้าวชิวเยว่ก็ได้พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ล้มพวกทหารรับจ้างที่เหลือง่ายมาก นับจำนวนคนดู มีทั้งหมด 19 คน หายไป 1 คน!
หลินหยางรีบพุ่งเข้าไปในห้องนอนก็เจอ ไอ้หน้าบากที่ในมือจับปืนไรเฟิลอัตโนมัติไว้แล้วนั่งอยู่ข้างในอย่างใจเย็น
“พวกนายมาเร็วจริงๆ แต่แค่คิดไม่ถึงว่าพวกนายจะรู้ว่าพวกฉันซ้อนอยู่ที่นี่” ไอ้หน้าบากหัวเราะเย็นชา
หลินหยางพูดอย่างโกรธว่า “ยังคิดว่านายเป็นคนที่เปิดเผยและทำอะไรก็สะอาดซะอีก แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่ติดตามหลูยี่แล้วก็มีออร่าที่ห่วยแตกแบบนี้ ไม่นึกเลยว่าจะลงมือจากด้านหลัง”
“กำลังภายในกับแพทย์จีนนั้นต่างล้าสมัยไปแล้ว มีปืนที่ทันสมัยแบบนี้ไม่ใช้ เพราะว่านายโง่เกินไป” ไอ้หน้าบากหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูด
สายตาของหลินหยางกวาดไปเจอผู้หญิงสองคนที่ถูกมัดไว้ข้างหลังของเขา คนหนึ่งเป็นเถียนเสี่ยวเสี่ยวแน่นอน อีกคนหนึ่งหน้าตายังอ่อน อายุน่าจะเท่ากับเถียนเสี่ยวเสี่ยว
“นายปล่อยเด็กสองคนนั้นไป ฉันยังสามารถให้นายออกไปได้อย่างมีชีวิต” หลินหยางพูด
“ช่างมีความกล้าในการพูดโอ้อวดจริงๆ” ไอ้หน้าบากหัวเราะฮ่าฮ่าใหญ่
ปากปืนไรเฟิลจ่อหลินหยางไว้ เหมือนกับว่าวินาทีต่อไปก็จะสามารถกลืนกินเข้าทันที หลินหยางกลัวหัวเราะอย่างเย็นชาว่า “เป็นคนโง่จริงๆ นายยื่นมือจับที่หว่างคิ้วของนายดู รู้สึกเป็นปวดใช่ไหม?”
ไอ้หน้าบากอึ้งไปสักพัก ยื่นมือจับดู รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่เหมือนทะลุหัวใจจริงๆ ด้วย เข็มเงินเล่มหนึ่งไม่รู้ว่าเสียบเข้าไปตอนไหน สติของเขาเริ่มเบลอขึ้นมา เขาถามด้วยตัวที่สั่นว่า “นาย……นาย….”
ยังไม่ทันพูดจบ ไอ้หน้าบากก็ล้มลงไปแล้ว
“พี่ พี่ทำได้ยังไงเนี่ย?จ้าวชิวเยว่ถามอย่างอึ้ง
“ตอนนี้เข้ามาทางประตู เห็นว่าบนมือของเขามีปืนก็เลยต้องชิงลงมือไว้ก่อน แต่ว่าจะจัดการกับยอดฝีมืออย่างเขาต้องใช้เวลาหน่อยถึงจะเห็นผล เพราะฉะนั้นตอนที่เข้ามาก็เลยตั้งใจยื้อเวลา ตอนนี้ รีบไปช่วยคนเถอะ” หลินหยางหัวเราะฮิฮิ
จ้าวชิวเยว่ตามขึ้นไป ช่วยเด็กผู้หญิงทั้งสองคนแก้เชือก
“พี่ชาย พี่มาได้ยังไง?หนูตกใจจะตายแล้ว คนร้ายพวกนี้บุกเข้ามาในบ้านของตอนเช้าแล้วมัดตัวหนูกับเพื่อนของหนูเสี่ยวสิ่ว” เถียนเสี่ยวเสี่ยวกอดหลินหยางไว้แล้วพูดทั้งร้องไห้
“เธอไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?พวกมันมากันที่?เห็นวัยรุ่นที่ไว้หัวเกรียนไหม?” หลินหยางไล่ถาม
“หนูก็ไม่รู้ พวกเราสองคนกำลังหลับอยู่ก็ถูกมัดเลย เหมือนกับว่าพวกเขาอยากจะยึดบ้านของหนูเลย” เถียนเสี่ยวเสี่ยวพูด
ดูเหมือนหลูยี่น่าจะแค่อยากให้คนยึดจุดนี้เป็นรังโจรเฉยๆ เสียดายที่เจ้าตัวมันไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว จ้าวชิวเยว่เห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนี้สนิทกับหลินหยางขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่จะเกิดอิจฉาขึ้นมา เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “พี่ พวกเรายังจะไล่สืบต่อไหม?”
“แน่นอนสิ เสี่ยวเสี่ยว เธอไปแจ้งความเดี๋ยวนี้ ไปหาตำรวจหลิวครั้งก่อน ฉันยังต้องไล่สืบหาต่อ พวกเธอระวังกันหน่อยนะ” หลินหยางเตือน
เถียนเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เด็กผู้หญิงเสี่ยวสิ่วที่อยู่ข้างๆ พูดเสียงเบาๆ ว่า “ขอบคุณพี่ที่ช่วยพวกเราไว้นะคะ”
หันไปมอง ใบหน้าที่สวยงามจริงๆ แต่ว่าตัวผ่อมไปหน่อย ผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อเสี่ยวสิ่วได้ทิ้งความประทับใจที่ลึกซึ้งไว้ให้กับหลินหยาง
จ้าวชิวเยว่รีบลากหลินหยางเดินออกไป ผู้หญิงสองคนนี้ยั่วเกินไปแล้ว จะให้หลินหยางอยู่ตรงนี้ต่อไม่ได้แล้ว
ออกมาจากบ้านของเถียนเสี่ยวเสี่ยว หลินหยางก็ได้รับสายจากเบอร์แปลกหน้าทันที
“ประธานหลิน นายนี่เก่งจริงๆ เลยนะ ที่สามารถหาหนึ่งในจุดซ้อนตัวของฉันได้แล้วยังจัดการคนข้างในจนหมด ฉันนี้นับถือนายจริงๆ แต่เสียดายที่นายยังจับฉันไม่ได้” หลูยี่หัวเราะในโทรศัพท์อย่างสะใจ
หลินหยางตะโกน “หลูยี่ นายมันคนต่ำต้อย เป็นหนูทั้งวัน ฉันจะคอยดูว่านายจะจับฉันยังไง”
วางสาย หลินหยางกำลังจากเอาโทรศัพท์ในมือที่พึ่งซื้อไม่นานทุบลงไปบนพื้นเพราะหัวเสีย
สักพัก โรลส์-ลอยด์แฟนทอมคันหนึ่งได้จอดเข้ามาแล้วส้งเจียวเดินลงมา
“จับคนได้รึยัง?” ผู้หญิงขมวดคิ้วแล้วถาม
“ยังเลย มันเล่ห์เหลี่ยมมาก คนของคุณล่ะ?” หลินหยางถาม
สีหน้าของส้งเจียวอึมครึม ข้างกายมีแค่บอดี้การ์ดหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นสองคน ดูเหมือนเธอก็สูญเสียบอดี้การ์ดหนัก หลินหยางเตือน “ไม่รู้ว่าคุณทำยังไงถึงได้ทำให้ตระกูลส้งเติบโตได้ขนาดนี้ ถึงได้วู่วามมากกว่าผมที่เด็กกว่า แล้วบอดี้การ์ดที่ไร้น้ำยาที่คุณมาคิดหรอว่าจะจับหลูยี่ไว้ได้?คุณรู้ไหมว่าในมือของมันมีปืนเท่าไหร่ ?ข้างกายมียอดฝีมือเท่าไหร่ ?”
ถูกหลินหยางสั่งสอนไปแบบนี้ ส้งเจียวหน้าแดงขึ้นมาทันที ครั้งนี้เธอวู่วามเกินไปก็จริง นั้นเพราะว่าเธอไม่เคยถูกคนหักหลังแบบนี้มาก่อน ความโกรธในใจก็เลยควบคุ้มได้ยาก
“คุณเคยคิดไหมว่าถ้าคุณถูกหลูยี่ควบคุมตัวไว้ ซูยี่จะทำยังไง?ตระกูลส้งของพวกคุณจะทำยังไง?หลูยี่กล้าเย่อหยิ่งขนาดนี้แปลว่าข้างหลังของมันมีคนคอยหนุนหลัง ตอนนี้มันเหมือนกำลังตกปลา ล้อให้คุณไปกินเบ็ด ไม่อย่างนั้นมันไม่ยอมหนีไปจากเมืองเจียงหลิงที่อันตรายแบบนี้หวังอะไรล่ะ?” หลินหยางสั่งสอนต่อ
ส้งเจียวไม่เคยถูกคนสั่งสอนแบบนี้มาก่อน เดิมทีความโกรธได้แสดงออกมาทางหน้าอย่างชัดเจน แต่ว่าพอเห็นแผ่นหลังของหลินหยางถูกย้อมด้วยสีแดงก็เลยรีบถามว่า “นายบาดเจ็บหรอ?”
น้ำเสียงอ่อนโยน เวลานั้นเองที่หลินหยางแทบจะสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป นี่จะเป็นคำพูดที่หญิงแกร่งคนนี้พูดออกมาได้ยังไง
อึ้งไปสักพัก หลินหยางถึงจะส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร แผลเปิดน่ะ เดี๋ยวกลับไปให้คนเย็บให้ไม่กี่เข็มก็ได้แล้ว”
ส้งเจียวรีบพูดขึ้นมา “ฉันส่งนายไปละกัน”