ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 268 ต่างก็มีส่วน
หลินหยางตกใจ ลูกบอลอ่อนนุ่ม 2 ลูกที่อยู่ด้านหลังกำลังแนบกับตัวเขาอยู่ และไอร้อนจากลมหายใจของซินเสี่ยวลื่อก็พ่นออกมาบนใบหน้าของหลินหยาง จึงทำให้เขารู้สึกร้อน
“คุณกำลังทำอะไร?” หลินหยางหยุดชะงักพร้อมกับพูดอย่างนั้นออกไป
“ฉัน…ฉันไม่รู้! แค่อยากได้!” ซินเสี่ยวลื่อร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดออกไป
หลินหยางรู้สึกนิ่มนวลและอ่อนโยน เขาหันหลังแล้วตบที่สะโพกของเธอ ไม่เปลืองแรงมือเลยจริงๆ! เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “งั้นก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อนนะ และให้ผมช่วยให้เยนเอ๋อร์ฟื้นก่อน!”
แม้ว่าจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถได้รับการรับปากนี้ ซินเสี่ยวลื่อจึงพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “งั้นก็ได้ แล้วฉันสามารถกอดคุณแบบนี้ได้หรือเปล่า?”
แม้จะยุ่งยากหน่อย แต่การโดนสาวสวยสองคนสอดไว้ตรงกลาง ซึ่งรสชาติแบบนี้มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นยังไง!
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ต่อต้าน ซินเสี่ยวลื่อก็พูดอย่างจิตใจชื่นมื่นว่า “คุณใจดีมากจริงๆ! คุณก็พาฉันบินด้วยสิ!”
คนสามคน พร้อมกับเตียงหนึ่งเตียง ในห้องส่วนตัวของฉีเยนเอ๋อร์ ฉากแบบนี้มันจะดูพราวเสน่ห์เกินไปแล้ว ร่างกายของหลินหยางเปลี่ยนไปเป็นการไวต่ออารมณ์ แต่ในขณะนี้ฉีเยนเอ๋อร์กลับยิ่งไวต่ออารมณ์มากขึ้น เธอรู้สึกถึงการเรียกของหลินหยางหลินในอาการสลัว เธอพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เพราะอยากจะฝ่าออกไปจากห่วงแห่งจิตใต้สำนึกนี้
หลินหยางสัมผัสได้ถึงความพยายามของฉีเยนเอ๋อร์ เขาจึงรีบเพิ่มอานุภาพของบทหลงเฟิ่งเจว๋ไปสู่ระดับที่แข็งแกร่งที่สุด และกระแทกอย่างแรงต่อร่างกายของเธอ
ภายใต้ความพยายามของเขา ในที่สุดฉีเยนเอ่อร์ก็ลืมตาขึ้นมา และเห็นหลินหยาง เธออ้าปาก เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พูดอะไรออกมาไม่ได้เลย
หลินหยางปรับจังหวะ ลดความเร็ว แต่กลับเพิ่มความแข็งแกร่งให้แรงมากขึ้น ฉีเยนเอ๋อร์จึงได้สติทันที เธอหลับตาลงพร้อมกับส่งเสียงร้องครวญคราง
หลังจากส่งเสียงเสียงฮึดฮัดอยู่นาน หลินหยางก็รู้สึกว่าด้านล่างถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา และมีกระแสความร้อนไหลผ่านองคชาตของตัวเอง
“ไอ้คนเลว คุณทรมานฉันมากเลยนะ!” ฉีเยนเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าแดงเปล่งปลั่ง
ในขณะนั้นเองซินเสี่ยวลื่อจึงโผล่หัวออกมาเธอยิ้มพร้อมกับพูดว่า “เธอฟื้นแล้วเหรอ?”
“เสี่ยวลื่อ เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ฉีเยนเอ๋อร์ยังคงตะลึง
“ที่รัก ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้ว คุณทำให้ผมตกใจแทบแย่เลย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” หลินหยางถาม
ฉีเยนเอ๋อร์สีหน้าแดง เธอหอบพร้อมกับพูดไปว่า “ฉันก็ไม่รู้ เมื่อฉันออกไปก็เจอขอทานแก่ที่มอมแมมและซูบผอมคนหนึ่ง ฉันเห็นว่าเขาน่าสงสารเลยให้เศษเหรียญกับเขา ใครจะไปรู้ว่าพอหันหลังกลับก็ชนเข้ากับชายชุดดำคนหนึ่ง หลังจากที่กลับมาก็รู้สึกมึนหัว”
หลินหยางจับที่แก้มเธอ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แค่คุณฟื้นก็ดีมากแล้ว ชายในชุดดำหน้าตาเป็นยังไงคุณยังจำได้ไหม?”
“รูปร่างสูงกว่าฉันหน่อย ไว้หนวด ทำตัวลับๆล่อๆ!” ฉีเยนเอ๋อร์อธิบายรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย
สิ่งนี้ทำให้หลินหยางตกใจ ที่แท้ก็เป็นคนของหลูยี่นี่เอง และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้หมอนี่กำลังซ่อนตัวอยู่ที่มุมไหน
“ผมเข้าใจแล้ว แค่ตอนนี้คุณไม่เป็นไรก็ดีมากแล้ว ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ!” หลินหยางพูด
“แล้วฉันล่ะ!” ซินเสี่ยวลื่อพึมพำอยู่ข้างหลัง
หลินหยางรู้สึกเก้อเขินที่จริงเขาแค่อยากช่วยให้ฉีเยนเอ๋อร์ฟื้นเท่านั้น แต่กลับปล่อยให้สาวน้อยที่อยู่ข้างหลังฉวยโอกาสจนได้
เมื่อเห็นซินเสี่ยวลื่อที่เปลือยเปล่า ฉีเยนเอ่อร์ก็เข้าใจในบางสิ่งบางอย่าง เธอจ้องไปที่หลินหยางและพูดว่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉานแอบทำแบบนี้กับเสี่ยวลื่อลับหลังฉันงั้นเหรอ!”
“อย่าโทษเขาเลย เป็นเพราะฉันที่ชักชวนเขาเอง!” ซินเสี่ยวลื่อกอดหลินหยางไว้แน่น
หัวนมที่ถูเบาๆอยู่ข้างหลัง ทำให้หลินหยางรู้สึกเบิกบานใจ แต่เขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ จึงทำได้แค่พูดว่า “มันทำให้ผมมีสมาธิในการรักษาคุณ เป็นความผิดของผมเอง!”
“ฮึ่ม พวกคุณสองคนเป็นแบบนี้กันแล้ว ยังจะผิดอะไรอีก? เสี่ยวลื่อเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะโดนคุณเอารัดเอาเปรียบ คุณจะต้องรับผิดชอบ!” ฉีเยนเอ๋อร์เหลือบมองดูเขาอย่างเหยียดๆไปแวบหนึ่งพร้อมกับพูดกับเขาไปอย่างนั้น
เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว หลินหยางเบิกบานใจ แต่ซินเสี่ยวลื่อกลับรู้สึกเขินอายขึ้นมา เธอเลื่อนตัวจากหลินหยางลงไปหลบอยู่ใต้ผ้าห่ม
ฉีเยนเอ๋อร์ลากเธอออกมาทันที จากนั้นก็ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ยังจะหลบไปทำไมอีกเล่า ทำก็ทำลงไปแล้ว ยังอยากจะหลบอีกเหรอ?”
หญิงสาวทั้งสองหยอกล้อกันอยู่บนเตียง หลินหยางดูจนสบายตา ราวกับสาวสวย 2 พี่น้องที่แต่ละคนต่างก็สวยงามเพริศแพร้วกินใจ ฉีเยนเอ๋อร์ชำเลืองมองเขาแล้วพูดว่า “ยังอึ้งอะไรอยู่ รีบจับเธอสิ!”
หลินหยางรับคำสั่ง และคนสองคนก็เข้าไปใต้ผ้าห่มด้วยกัน จากนั้นก็ล้อมรอบซินเสี่ยวลื่อไว้ เธอหน้าแดงและพูดว่า “เยนเอ๋อร์ ฉันผิดไปแล้วจริงๆนะ! ฉันไม่ควรอิจฉาริษยาเธอ ฉันแค่อยากฉวยโอกาสตอนที่เธออยู่ในอาการโคม่าชิมรสชาติของผู้ชายเธอเท่านั้นเอง!”
“ฮึ่ม ยอมรับในตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว จะต้องลงโทษเธอสักหน่อยล่ะ!” ฉีเยนเอ๋อร์พูดพร้อมกับบีบลูกชิ้นที่มันเยิ้มของเธอ
“ไม่เอา!” ซินเสี่ยวลื่อตะโกนเบาๆ
แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถหยุดความคิดแปลกๆของฉีเยนเอ๋อร์ได้ ท่าทีเธอดูเหมือนอยากจะจะเอาคืน และหลินหยางเองก็ทำได้แค่ต้องร่วมสนุก
เดิมทีผู้หญิงคนนั้นเหลือเพียงกางเกงในลายลูกไม้แค่ชั้นเดียวแต่ก็โดนถอดออกมา เมื่อหลินหยางเห็นก็ส่งเสียงลมหายใจเบาๆที่แท้ก็เป็นเสือขาว ตัวหนึ่งนี่เอง! ซินเสี่ยวลื่อพูดไปอย่างหน้าแดงว่า “พวกคุณจะรังแกคนเกินไปแล้วนะ!”
“แค่รังแกสาวน้อยอย่างเธอเอง ไม่คิดเลยว่าข้างล่างของเธอจะสะอาดขนาดนี้ ปกติเธอดูแลมันยังไง?” ฉีเยนเอ๋อร์ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ดูแลที่ไหนกันล่ะ มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่โสดจนถึงทุกวันนี้หรอก!” ซินเสี่ยวลื่อพูดด้วยความคับแค้นใจ
หลินหยางพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างดัง “นี่มันเหตุผลอะไรเนี้ย คุณอย่าไปฟังคำพูดสุ่มสี่สุ่มห้าของคนอื่นเลย เจ้าเสือขาวเป็นอะไรล่ะ ปกติเยนเอ๋อร์ก็ชอบดูแลตรงนั้นจนเย็นสบายและสดชื่น และผมก็ชอบมากด้วย!”
“ไม่แปลกใจเลยที่ดูเหมือนว่าคุณจะทำท่าทีกระสับกระส่ายขนาดนั้น ยังไม่รีบไปปรนนิบัติเธออีก!” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างออดอ้อน
หลินหยางส่งเสียงตอบรับว่า “ต่างก็มีส่วน เมื่อกี้ปรนนิบัติคุณไปแล้ว ตอนนี้ควรถึงตาของเธอแล้ว!”
ซินเสี่ยวลื่ออยากจะหดตัวอย่างรวดเร็ว เพราะมันแตกต่างจากความคิดก่อนหน้านี้ของเธออย่างสิ้นเชิง ตอนที่ฉีเยนเอ่อร์อยู่ในอาการโคม่า เธอสามารถแอบคบคิดกับหลินหยางได้แต่ถ้าทำต่อหน้าหนังหน้าเธอไม่หนาเท่าของหลินหยาง
ซึ่งในตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมมันได้แล้ว แต่ด้วยการช่วยเหลือจากฉีเยนเอ๋อร์ หลินหยางก็กอดซินเสี่ยวลื่อได้อย่างง่ายดาย เขาจ้องเขม็งไปที่เธอพร้อมกับพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ถึงตาคุณแล้วนะ!”
ซินเสี่ยวลื่อกัดริมฝีปากตัวเอง เธอหน้าแดง จากนั้นก็หลับตาลงแล้วพูดว่า “คุณอยากจะทำยังไง?”
“ทำยังไงงั้นเหรอ? ยำ? เพียงแค่ให้เขาให้ปรนนิบัติก็พอแล้ว เธอแค่สนุกไปกับมันเท่านั้นแหละ ถ้าพลาดแล้วพลาดเลยนะ! อย่าให้ฉันต้องเสียใจด้วยล่ะ!” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างเย้ายวน
ซินเสี่ยวลื่อรีบกอดหลินหยางไว้อย่างแน่น เธอหลบหัวไว้ในอกของเขา และไม่กล้ามองไปไหนเลย
หลินหยางยังคงจับริมฝีปากของเธอ การรับมือกับผู้หญิงจะต้องใช้ความอดทน จนบรรยากาศกลมกลืนกันแล้ว ถึงจะพอใจกันทั้งสองฝ่าย
แม้ว่าจะเคยมีแฟนแล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่ความโง่เขลาของวัยหนุ่มสาวในสมัยมัธยมปลายเท่านั้น แม้แต่การจับมือยังต้องลับๆล่อๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจูบเลย ทั้งๆที่โดนหลินหยางเอารัดเอาเปรียบ แต่หัวใจของเธอกลับอ่อนโยนขึ้นมา เธอรู้ว่าผู้ชายแบบนี้ไม่ควรพลาด
ร่างกายรัดแน่น ราวกับสัตว์ร้ายตัวน้อยที่น่าหวาดกลัว แต่มันก็เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นและอาลัยอาวรณ์ และหลินหยางที่เคล้าคลึงอย่างไม่ขยับเขยื้อนนั้น ก็ไม่ได้กระตุ้นหญิงสาวจนมากเกินไป เขาเพียงแค่วนเวียนไปมาที่หัวนมบนหน้าอกของเธอ โดยใช้จูบอันร้อนแรงปัดเป่าความอับอายในใจของเธอ
การกระทำที่อ่อนโยนขนาดนี้ทำให้ซินเสี่ยวลื่อสงบลงอย่างมาก เธอเพ่งมองไปที่หลินหยางแวบหนึ่ง และพบว่าเขากำลังจ้องมองตัวเองอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงเริ่มด้วยริมฝีปากสีแดง เพราะเธอชอบความรู้สึกที่ถูกผู้ชายจูบ
การล้มลงไปในอ้อมแขนของผู้ชายนั้น ทำให้ร่างกายของเธอแปลกขึ้นหลังจากที่ได้สัมผัส มันทั้งร้อนผ่าวและอ่อนไหว และทันทีที่เธอสัมผัสมันกระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่าน
“จะ…” ซินเสี่ยวลื่อพูดพึมพำ
หลินหยางชะโงกหน้ามองดู ก็เห็นว่าทางเข้าที่ขาวสะอาดนั้นมีของเหลวที่ใสพร่างพราวไหลออกมา ดูเหมือนว่าลูกพีชฉ่ำลูกนี้มันสุกและถึงเวลาที่ควรจะเด็ดมันลงมาแล้ว
ขาทั้งสองข้างที่ถูกกักกันของซินเสี่ยวลื่อก็ค่อยๆแยกออก เธอใช้สายตาจับจ้องมองที่หลินหยาง เขาจับหัวองคชาตเข้าไปอย่างรู้ใจ
หลังจากฝ่าสิ่งกีดขวางไปแล้ว ร่างกายของหญิงสาวก็ตึง แต่เธอกลับมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจความรู้สึกไม่สบายซึ่งไม่มีความสำคัญนั้นเลย ฉีเยนเอ๋อร์หนุนศีรษะเข้าไปใกล้และมุงดูอยู่ข้างๆ ซึ่งผู้หญิงย่อมรู้จักผู้หญิงดีที่สุด และเธอก็มองออกว่าในตอนนี้น้องสาวที่ดีของเธอกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
ไม่มีทางลัดไหนที่จะเกินกำลังในการพาผู้หญิงไปถึงความสุขได้ หลินหยางหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็เริ่มกระตุ้นขึ้นมา เขาโยกย้ายเบาๆ และองคชาตก็กำลังเคลื่อนตัวเบาๆในพื้นที่แคบและรัดกุม หลินหยางอดไม่ได้ที่จะตะลึงกับโครงสร้างแปลกๆที่อยู่ข้างใน
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของหลินหยางต่อเพศตรงข้ามมันไม่ได้ง่ายเลย ซึ่งเขาก็เคยคบหาอย่างลึกซึ้งกับผู้หญิงหลายคนมาก่อน แต่คนที่สามารถเปรียบเทียบกับซินเสี่ยวลื่อก็คงไม่พ้นจ้าวหย่าจิ้ง เพราะข้างล่างของทั้งสองคนนี้มันคดเคี้ยวและวกวนมาก และการได้พบกับของล้ำค่าแบบนี้นับว่าเป็นความฝันทั้งชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งเลย
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็เพิ่มระดับความยากของความสุขอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ชายไม่ระวังจนทำให้แพ้ศึกใหญ่เขาต้องยอมจำนนล่วงหน้า แต่โชคดีที่บทหลงเฟิ่งเจว๋ของหลินหยางปกป้องจุดหัวเลี้ยวหัวต่อได้เป็นอย่างดี และสามารถเข้าไปข้างหน้าบนถนนที่เฉอะแฉะไปด้วยโคลนเลนนี้เป็นเวลานาน
ซินเสี่ยวลื่อหอบไม่หยุด หน้าอกเธอเป็นระลอกคลื่นอย่างไม่หยุดนิ่ง หลินหยางเห็นจนรู้สึกคันในใจ จากนั้นเขาจึงลูบมันอย่างแรง
ทั้งสองค่อยๆเคลื่อนตัวพร้อมกัน พร้อมกับพุ่งไปที่จุดสูงสุด ร่างกายของซินเสี่ยวลื่อกระตุก จากนั้นร่างกายของเธอก็ผ่อนคลายลง
หลินหยางก็ทรมานจนทนไม่ไหว จากนั้นก็พุ่งออกมา และทั้งสองก็กอดกันเป็นเวลานาน ทำให้ฉีเยนเอ๋อร์ดูจนปากแห้ง
“ไอ้ผู้ชายน่าเกลียด คุณจะสบายอกสบายใจไปแล้วนะ ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ!” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างความคับแค้นใจ
ที่จริงแล้วคำพูดนี้ควรพูดกับซินเสี่ยวลื่อ แต่เธอเป็นคิดมาก ฉีเยนเอ๋อร์จึงปล่อยเธอไป หลินหยางยิ้มและพูดแทรกว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนล้วนมีส่วนแล้ว ดังนั้นจะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วนะ ดีไหม?”
“ถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะไม่ดีอะไรอีก? ต่อไปนี้เสี่ยวลื่อพวกเราจะให้เขาเป็นที่ตอบสนอง และจะไม่ปล่อยให้เขาทำเรื่องเลวๆแบบนี้อีก!” ฉีเยนเอ๋ร์พูดลากเสียงยาว
แต่ซินเสี่ยวลื่อรู้สึกเขินอาย เพราะเธอยังคงคลอเคลียในอ้อมแขนของหลินหยาง และค่อยๆเข้าใจถึงความรู้สึกที่จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเมื่อครู่
หลังจากเอาอกเอาใจไปครั้งหนึ่ง หลินหยางก็ถามขึ้นว่า “เยนเอ๋อร์ ไอ้มัสทาชที่คุณเห็นวันนั้นเป็นคนคนเดียวกันใช่ไหม?”
“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ ดูเหมือนว่าจะมีชายชุดดำอยู่ข้างๆเขา เหมือนจะเป็นบอดี้การ์ดที่กำลังติดตาม!” ฉีเยนเอ๋อร์หวนนึกถึงพร้อมกับพูดออกไป
ใช่แล้ว ไอ้มัสทาชได้รับบาดเจ็บสาหัส และเขาก็คงอยากจะลงมือกับเยนเอ่อร์ แต่โชคดีที่ตอนนั้นเยนเอ๋อร์มีความสามารถในการต่อต้านยาทั่วไปภายใต้การดูแลรักษาของเธอเอง ไม่อย่างนั้นต่อให้หลินหยางอยากจะพบฉีเยนเอ๋อร์เกรงว่าจะต้องตามหาหลูยี่ไอ้หนูดินตัวนี้ พร้อมกับต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบหลินหยางคงจะกังวลมากแน่เลย
หลูยี่คนนี้โจมตีมาหลายครั้งแล้ว โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก และพวกเขาต่างก็เป็นตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล โดยที่ต้องการข่มขู่ญาติหรือคนในครอบครัวเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ ดูเหมือนว่าแผนของหลูยี่นี้ไม่เล็กเลย เพียงแค่ไม่รู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในตอนนี้ และมีกำลังเสริมอยู่ด้วยหรือเปล่า แม้ว่าบอดี้การ์ดคนหนึ่งจะถูกตัวเองฆ่าจนตายและอีกคนจะถูกคนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หลูยี่อาจซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขาก็เป็นได้
เมื่อนึกถึงเรื่องบอดี้การ์ด หลินหยางก็ตกใจอีกครั้ง เขาจำสถานการณ์หลังจากการจู่โจมชุมชนจื่อตงในวันนั้นได้ และในตอนนี้ส้งเจียวก็กำลังมีอันตรายอยู่รอบตัว!