ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่131 ซิ่งรถ
บทที่131 ซิ่งรถ
“แพ้แล้วฉันจะรีบเขียนเช็คให้นายเลย ห้าล้านถ้วน กูไม่สนหรอก เตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มได้เลยนะ”
“ได้ ฉันก็จะดูว่าแกแน่สักแค่ไหน!”มู่ชี่งผลักหญิงสาวสองคนข้างกายออก แล้วกระโดดขึ้นรถ สตาร์ทรถออก เปิดกระจกตะโกนใส่หลินหยางว่า“แน่จริงก็เริ่มดิวะ”
“แกเป็นกรรมการ ถ้าแกบอกเริ่มฉันก็เริ่ม”หลินหยางชี้ไปที่คนหนึ่งแล้วพูด
คนๆนั้นดูอารมณ์รุนแรง โดนขวางแบบนี้ ยังเป็นกรรมการได้ จึงออกมายืนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตะโกนว่า“เริ่ม!”
ในขณะเดียวกันรถทั้งสองคันก็พุ่งออกมา
“เอ๋ รถของคนๆนั้น เหมือนว่าจะพาอีกคนมาด้วย เดิมทีรถของเขาก็วิ่งไม่ทันเฟอรารี่อยู่ด้วย ตอนนี้ยังต้องมาพาคนอีกสองคน สถานการณ์ไม่ค่อยดีเลย”
“บางทีคนๆนั้นอาจจะเป็นคนบ้าก็ได้ อยากจะจ่ายเงินขอร้องคุณชายมู่ อย่างไรเสียคุชายมู่ก็มีพื้นเพครอบครัวที่ค่อนข้างดี แบบนี้ถือว่าเป็นการประจบอีกแบบหนึ่งมั้ง”
คนรอบตัวต่างพูดกันขึ้นมา แต่ก็ยังคงอ่านความคิดของหลินหยางไม่ออก
หลินหยางใช้มาดนิ่งกลบเกลื่อน ไหวพริบว่องไว ตอนเริ่มก็เหยียบคันเร่งซะมิด ขับแซงมู่ชี่งไป
ความเร็วของรถมู่ชี่งเร็วมาก แต่หลินหยางกลับแซงหน้ามู่ชี่งไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ ปล่อยมู่ชี่งแน่ เขามองมู่ชี่งผ่านกระจกหน้า หลินหยางคอยขับรถแซงปาดมู่ชี่งอยู่เรื่อย
“ตู้ซา เธอลืมบริการก่อนหน้าแล้วเหรอ”
หลินหยางยืนมือออกไปลูบคลำยอดอกของตู้ซา แล้วค่อยๆปลดตะขอชุดชั้นในออก แล้วใช้นิ้วจิ้มลงบนหัวนม
ภายใต้การหยอกเย้าของหลินหยาง ตู้ซาตัวสั่นเทา เดิมทีก็อ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว วันนี้พอเห็นชายหนุ่ม ก็ยิ่งอ่อนไหวเข้าไปอีก แค่โดนแตะก็สะเทิ้มไปทั้งตัว
พอนึกถึงทุนเดิมของหลินหยาง ความยาวแบบนั้นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา ตอนนี้พอโดน หลินหยางเกี้ยวพาราสีเข้า เธอจึงเริ่มคลายความหวาดกลัวจากการแข่งรถ ค่อยๆปลดเข็ม ขัดที่เอวของหลินหยางออก
หลินหยางค่อยๆยกก้นขึ้น แล้วปลดกางเกงตามจังหวะของตู้ซา หัวมังกรที่น่ากลัวก็ชูคอออกมา
เมื่อเห็นความยาวที่น่าตกใจนั้น แววตาของตู้ซาเป็นประกาย เธอเองก็นับไม่ถ้วนว่าผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน แต่เธอยืนยันว่า นี่เป็นความยาวที่น่าสะพรึงที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา
หลินหยางชี้ไปที่ด้านล่าง ลูบคลำจนน้ำออก กระตุกอยู่ชั่วครู่ น้ำก็ทะลักออกมา แล้วไหลไปตามมือ
“เริ่มกันเถอะ”หลินหยางยิ้มทีหนึ่ง ใช้นิ้วมือนั้นล้วงเข้าไปทำความสะอาดปากของตู้ซา
หัวใจเต้นตุ๊มต่อม มองดูความเจ้าเล่ห์แสนกลนั้น หน้าแดงขึ้นทั้งสองข้าง ค่อยๆนั่งลง
“อ๋า!”ความแข็งตัวสุดขีด ตู้ซาเองก็พร้อมรับเต็มที่ จนทำให้เข้าไปมิดด้าม จุดสุดยอด และความเจ็บปวด ทำให้เธอร้องเสียงหลงออกมา
พอคุ้นเคยแล้ว ตู้ซาจึงบิดตัว และพยายามให้เคยชินกับการจู่โจมของหลินหยาง
ตู้ซามีประสบการณ์มาก เธอผ่านมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ความสามารถเธอสูง เธอส่ายอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับทั้งหดทั้งเกร็ง ความรู้สึกจุดสุดยอดเอ่อล้นเข้ามา
บนรถของหลินหยางมีแต่เสียงร้องของตู้ซา ส่วนมู่ชี่งที่อยู่ด้านหลังก็กำลังตะโกนด่า
“ไอ้บ้าเอ๊ยบังอะไรวะ มีปัญญาก็ให้กูผ่านดิ!”
“บ้าเอ๊ย!เป็นแต่ขวางทาง ถ้าขวางอีกกูชนมึงแน่!”
ภายใต้การด่าทอไม่หยุด โทสะของมู่ชี่งก็พุ่งถึงขีดสุด ในตอนที่เขาอดรนทนไม่ไหวจะพุ่งเข้าชน หลินหยางก็เร่งความเร็วของรถ
หลินหยางเหยียบคันเร่งเสียมิด รถทะยานไปราวกับม้าบิน
พอเห็นหลินหยางเพิ่มความเร็ว มู่ชี่งก็ดีใจ และเหยียบคันเร่งด้วยเช่นกัน เขารู้ว่าถ้ายังหักซ้ายหักขวาอีก บนถนนที่ขรุขระแบบนี้ย่อมเกิดอุบัติเหตุแน่ แบบนี้ต่อไป โอกาสที่จะขวาง ถนนก็ลดน้อยลง ขอแค่ตัวเองพุ่งทะยานไป ความเร็วแบบนี้ต้องชนะแน่นอน
ถนนสายนี้ไม่ได้รับการซ่อมมานานมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเอามาเป็นสนามรถวิบากบนถนนมีดินหินกรวดเกลื่อนกลาด ริมถนนยังมีหินก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่ง สมกับที่ขึ้นว่า เป็นถนนหลุมบ่อ
เมื่อมองลอดกระจกไปทางด้านหลัง มู่ชี่งจึงเร่งความเร็วขึ้นไปอีก หลินหยางแค่นหัวเราะ
“ปล่อยให้ตาม!จะดูสิว่าจะตามไหม!”รถของหลินหยางแล่นเร็วแล้วเบรก
“อ๊าก!”
รถเบรกตามความเคยชิน สองคนหน้าแทบจะทิ่มออกไป ตอนที่หลินหยางเบรกรถก็ยังไม่ลืมตู้ซา ตามจังหวะที่รุนแรงนี้ มังกรตัวใหญ่ได้เข้าไปในหลุมลึกของตู้ซาเรียบร้อย ความเร้าใจแบบนี้ ตู้ซาจึงเร่งปล่อยเสียงความสุขสุดยอดเสียดังลั่น
ส่วนหลินหยางอาศัยจังหวะ ก้มโค้งให้รถพุ่งทะยานมาด้านหน้า ล้อด้านหลังยกขึ้น หินกรวดกระจัดกระจาย ความเร็วทิ้งฝุ่นอยู่ด้านหลัง
การเคลื่อนไหวหยุดชะงัก หลินหยางเหยียบคันเร่ง รถจึงหมุนติ้ว ไฟรถส่องไปที่มู่ชี่งอย่างรุนแรง
มู่ชี่งเห็นว่ากำลังจะแซงโค้งหลินหยาง มุมปากจึงขยับยิ้มขึ้น แต่แสงไฟจากรถของหลินหยางทำให้สับสนอลหม่าน
อาศัยแสงอันน้อยนิด มู่ชี่งเห็นหินสองสามก้อนลอยมาทางรถของตน จึงตกใจเสียจนวิญญาณแทบจะออกจากร่าง
ความเร็วของรถตนนั้นสูงมาก แทบจะแตะสามร้อยกิโลเมตร ความเร็วแบบนี้ ต่อให้ชนหินหินก็กระเด็น ความเร็วของหินที่ลอยมา มีแรงทำร้ายสูงแค่ไหนน่าจะนึกได้
หลินหยางยิ้มอย่างโหดร้าย รถเร่งความเร็ว ชนมู่ชี่งกระเด็น
มู่ชี่งหันไปอย่างตกใจ แต่ก็ตามความเร็วหินไม่ทัน หินชนกระจกรถดังโครม กระจกแตกดัง “เพล้ง”
เขาจึงรีบหันหัวรถ แล้วไปพุ่งชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง จนรถพลิกคว่ำ
หลินหยางแทบจะไม่ใส่ใจว่ามู่ชี่งเจ็บสาหัสแค่ไหน หันหัวรถมุ่งไปตามเดิม
เนื่องจากตู้ซาหลังดันกระจกอยู่ บวกกับความเร็วของหลินหยางนั้นเร็วมาก โดยที่ยังไม่ทันดูอะไรให้ชัดแจ้ง เธอยังคงบิดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่งบนขาของหลินหยาง แล้วครางเสียงหลง ออกมาอย่างสุขล้น
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เร้าใจ ไม่กี่นาทีให้หลังตู้ซาบิดตัว และไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ภายใต้ถนนที่ขรุขระ ตัวรถก็กระดอนไปตามจังหวะ เสียงร้องแหลมของตู้ซายังคงร้อง ตามมาไม่หยุด
ถนนสายนี้ไม่ยาวเท่าไหร่นัก ระยะทางรวมน่าจะสักครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ หลินหยางเองก็ไม่อยากจะยืดเยื้อเวลา จึงรีบประกบตัวเข้ากับตู้ซา แล้วเริ่มโจมตีอย่างดุเดือด
ในตอนที่ใกล้ถึงจุดหมาย หลินหยางได้ฉีดอัดน้ำวิเศษเข้ากายของตู้ซาเต็มที่
“เอาล่ะ ทำความสะอาดสักหน่อยก็เตรียมกลับได้ละ”หลินหยางยิ้ม กำลังเสพสุขกับความบ้าคลั่งของตู้ซาเมื่อครู่นี้อยู่ พร้อมกับอุทานว่าต่อให้เป็นกะหรี่ ก็คงจะเป็นอีกรสชาติหนึ่ง
“ทรมานเขาซะจนเกือบหมดแรง”เมื่อคิดถึงความองอาจของหลินหยางก่อนหน้า ใจของตู้ซาก็สั่นไหว
ไล่ไปตามตัวของหลินหยาง ตู้ซาใช้ลิ้นโลมเลียทำความสะอาดให้เขา ทั้งคู่ก็กลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
“โอ้โห เจ้านี่มาก่อนเว้ยเฮ้ย!”หลังจากที่คนตาแหลมเห็นมีคนมา จึงร้องขึ้นอย่างตกใจคนจำนวนมากหันไปตามเสียง ปรากฏว่าเห็นเบนซ์ของหลินหยางขับไล่ตามมาติดๆ ส่วนหลังรถของหลินหยาง แทบจะไม่มีเงาฝุ่นของมู่ชี่ง
“เจ้านี่เป็นใครกัน ฝีมือแข่งรถไม่เลว!”ทุกสายตาจับไปที่รถคันนั้น
ส่วนในรถ หลินหยางหยิบยื่นเงินสองหมื่นที่เหลือติดตัวให้ตู้ซาแล้วพูดว่า“วันนี้เธอทำได้ไม่เลว นี่ให้เธอ”
“ขอบคุณค่ะ คราวหน้าถ้าจะทำเรื่องแบบนี้นะคะ จะทำให้ฟรีเลย”ตู้ซากระซิบข้างหูของหลินหยาง ความสุขล้นที่หลินหยางมอบให้เธอก่อนหน้า ได้ประทับลงในใจเธอส่วนลึกแล้ว
“เอาล่ะ ลงรถเถอะ”หลินหยางมาถึง จึงให้ตู้ซาลงรถ
“ฝากบอกมู่ชี่งด้วย ผมจะไปเอาที่เขาห้าล้าน”หลินหยางจงใจพูดให้คนที่อยู่ละแวกได้ยิน แล้วจึงขับรถออกไป
รอจนหลินหยางไปแล้ว ทุกคนต่างหันกลับมามองตู้ซา“ตู้ซา คนๆนั้นเป็นใคร มู่ชี่งเป็นอย่างไรบ้าง”
ผู้คนถามกันให้ขวักไปหมด ตู้ซาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
“ตู้ซา เมื่อกี้คงไม่ได้เสร็จกันในรถไปแล้วชอตนึงหรอกนะ ดูเข้าๆ นี่คือหลักฐานสุดยอดที่หลงเหลือไว้”ผู้หญิงคนหนึ่งตาแหลมคมมาก ชี้ไปที่ขาของตู้ซา
เดิมทีตู้ซาหนีบขาอย่างแน่นตอนอยู่บนรถ กระสุนที่หลินหยางยิงเข้าไปก็ไม่น่าจะรั่วไหลนี่นาแต่พอออกมาเดินไปได้สองก้าว สิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน ก็ไหลออกมาไม่หยุด
“โอ้โห เยอะขนาดนี้ ดูท่ายังสดใหม่อยู่เลย เขาสู้เก่งนะ”เสียงผู้หญิงอีกคนดังขึ้น
ภายใต้กระโปรงที่สั้นจุ๊ดจู๋ ดันมีของเหลวสีขาวไหลออกมาซะได้ ภาพที่เร้าใจขนาดนี้
ช่างกระตุ้นคนรอบข้างได้ดีเหลือเกิน
ผู้ชายกลุ่มหนึ่งเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข พอเดินผ่านผู้หญิงรอบๆตัวก็เริ่มถูไถไปมา
“คนๆนั้นเป็นใครฉันก็ไม่รู้ ให้เงินฉันเล่นสนุกด้วยกันบนรถแล้วก็ไม่พูดอะไรแล้ว”ตู้ซา
ส่ายหน้าแสดงความไม่รู้
“นั่นสิ เลขทะเบียนรถนั่นหมายเลขอะไรนะ”คนที่หัวไวคนหนึ่งถามขึ้น
คนส่วนมากส่ายหน้าอย่างไม่รู้ การเปิดตัวของหลินหยางดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก แต่เขากลับมองข้ามทะเบียนรถยนต์ของตัวเอง
“แล้วมู่ชี่งทำไมยังไม่กลับมา”คนส่วนใหญ่ถาม
“ตอนนั้นฉันกำลังยุ่งอยู่ ไม่ได้สังเกต”ตู้ซาหน้าแดง
ผู้คนเห็นว่าน่าจะถามอะไรไม่ค่อยได้ความ จึงกระจัดกระจายกันออกไป ต่างก็ถูกกระตุ้น โดยเรือนขาอันเย้ายวนของตู้ซา ชายเหล่านั้นจึงรีบหาหญิงสาวที่เหมาะกับตน
ส่วนตู้ซาก็โดนผู้หญิงอีกสองสามคนลากไป ถามกระบวนการอย่างละเอียด
หลังจากที่ฟังตู้ซาบรรยายถึงอาวุธของหลินหยางแล้ว ทุกคนต่างก็อิจฉาตู้ซา
หนุ่มหล่อที่มีแรงขนาดนั้น ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลินหยางไม่ค่อยจะใส่ใจ และขับรถกลับบ้าน
“เกิดอะไรขึ้น”เพิ่งกลับถึงบ้าน จ้าวจินฟ่งก็รีบรุดหน้าขึ้นมารับ
“ออกไปข้างนอกนิดหน่อย ไปซัดผู้ชายคนนั้นมา คราวนี้คิดว่าน่าจะนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาล ต่อไปก็ผู้หญิงคนนั้นแล้ว”หลินหยางยิ้มอย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง
“หลินหยาง แก……”พูดมาถึงตรงนี้ จ้าวจินฟ่งก็ไม่ได้พูดต่อไป เธอรู้ว่าที่หลินหยางทำทั้งหมดก็ เพื่อเธอ
“ไม่เป็นไร ผมประมาณตัวเองดี พวกเขาไม่ได้หาเรื่องคุณ แต่แค่ออกความเห็นเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ของเรา ผมเป็นเจ้าบ้าน พวกเขาทุบร้านผม ผมยังจะหดหัวอยู่ได้หรือ คุณสบายใจได้”หลินหยางหยิกแก้มจ้าวจินฟ่ง
ราวกับได้รับอิทธิพลความมั่นใจของปธาน จ้าวจินฟ่งจึงค่อยเบาใจลง ตอนนี้เองหวัง เถียนเถียนก็ปรากฏตัวมา พอเห็นหลินหยางยิ้ม แววตาเธอจึงเป็นประกาย
ทั้งสามนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น สี่ทุ่มกว่าแล้ว หลินหยางจึงให้หญิงสาวสองคนกลับไปนอน ส่วนตัวเองอาบน้ำแล้วเข้าห้องนอน
หลินหยางเพิ่งเอนตัวลงนอนได้ไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก
“ประตูไม่ได้ล๊อก เข้ามาสิ”หลินหยางพูดอย่างใคร่รู้ ในใจคิดว่าดึกป่านนี้แล้วใครจะมา
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นจ้าวจินฟ่งหรือหวังเถียนเถียน พอคิดถึงค่ำคืนอันบ้าคลั่งระหว่างตนเองและหวังเถียนเถียน และคิดถึงเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของจ้าวจินฟ่ง หลินหยางก็เกิดความอยากรู้ว่าเป็นใคร ร่างกายก็ร้อนผ่าวขึ้น