ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่143 การวิจัยต้นหญ้ากรดน้ำประสบความสำเร็จ
- Home
- ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)
- บทที่143 การวิจัยต้นหญ้ากรดน้ำประสบความสำเร็จ
บทที่143 การวิจัยต้นหญ้ากรดน้ำประสบความสำเร็จ
เมื่อหลินหยางเข้ามาใกล้ร่างกายของตนเอง ที่มู่เสี่ยวซือก็อ้าปากน้อย ๆรูปเชอรี่ออกทันที เพื่อรองรับมังกรยักษ์ตัวนั้น ใส่เข้าไปในปาก
หลินหยางรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แสนสบาย หรี่ตาลงอย่างเพลิดเพลิน มองไปยังเทคนิคของมู่เสี่ยวซือ อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาฝึกฝนมานานแค่ไหน
อย่างที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับรสของยาที่หลินหยางอ้างถึงมาก่อน มู่เสี่ยวซือจึงตั้งใจทำเป็นอย่างมาก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลินหยางก็ถึงจุดสุดยอดไปแล้ว ในไม่ช้าความสุขก็เอ่อล้นออกมา หลินหยางตัวสั่นไปชั่วขณะ น้ำแห่งความสุขก็ฉีดพ่นออกมา
หลังจากมู่เสี่ยวซือยอมรับแต่โดยดี เอนตัวนอนอยู่บนเตียงและหอบอย่างหนัก ใบหน้าอ่อนบอบบางนั้นดูจะเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ
“ไม่คิดเลยว่ากำลังการต่อสู้ของคุณจะแข็งแกร่งขนาดนี้” มู่เสี่ยวซือชื่นชมด้วยความสรรเสริญ
“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะทำการรักษาคุณได้อย่างไร” หลินหยางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“แต่มันก็ไม่มีอะไร เมื่อกี้ฉันใช้แค่ปาก แต่ถ้าคุณใช้ปืนขึ้นมาจริง ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร” ดูเหมือนจะมีการมองอย่างยั่วยวน มู่เสี่ยวซือพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ทำไมหรือ คุณอยากจะลองกำลังในการต่อสู้หรือ” หลินหยางกวาดสายตามองไปยังสถานที่อันซับซ้อนของมู่เสี่ยวซืออย่างสนุกสนาน แต่เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน ลำห้วยเล็ก ๆนั้นยังขับเคลื่อนอยู่ มองดูแล้วทำให้ใจเขาเต้นระรัว
“เหอะ ๆ ถ้าคุณมีความสามารถจริงก็ลองเข้ามาดู แต่แต่หากทำสักสองสามนาทีก็ไม่ไหวแล้วฉันก็จะดูถูกคุณ”
“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณให้ความสำคัญ แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วก็ไปเถอะ หลังจากนี้ครึ่งเดือนอย่าลืมมาทำการรักษาครั้งที่สอง” หลินหยางโบกมือ และสั่งให้แขกออกไป
เมื่อเห็นว่าหลินหยางก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับตนเอง มู่เสี่ยวซือก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าร่างกายสบายขึ้นมาก จึงลุกขึ้นไปแต่งตัว กดโทรศัพท์โทรหาพ่อ ให้คนมารับตนเอง
ตอนลงบันไดมาก็รู้สึกแปลกตรงระหว่างขา มู่เสี่ยวซือเกลียดอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้ถึงกับไม่สนใจร่างกายของตนเอง คืนนี้คงต้องหาคนมาระบายอีกครั้ง
เมื่อลงไปถึงชั้นล่างก็บังเอิญได้พบกับจ้าวจินฟ่งซึ่งกำลังตากผ้าอยู่ ในใจของมู่เสี่ยวซือก็เริ่มโกรธขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหลินหยางยังไม่ตามลงมา จ้องไปยังจ้าวจินฟ่งอย่างดุเดือด “รอให้กูหายดีก่อน จะดูว่าจะฆ่าคุณไหม”
แม้ว่าจ้าวจินฟ่งจะไม่ต้องการมีปัญหา แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะขลาดกลัว เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เสี่ยวซือก็หัวเราะเยาะทันที “ไสหัวไปไกล ๆ ยังพึ่งพิงเงินที่บ้านก็ยังไม่รู้อีกว่าตนเองเป็นพวกนังโง่ หากคุณพูดอีกคำเดียว คอยดูสิฉันจะตบให้ตายไปเลย!”
หลินหยางที่อยู่ชั้นบนได้ยินคำพูดของจ้าวจินฟ่งที่ดังออกมาก็รีบเดินออกมาทันที เมื่อเห็นหลินหยางลงมาจากชั้นบน มู่เสี่ยวซือก็มองไปยังจ้าวจินฟ่งอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็ออกไปด้วยตนเอง
“เกิดอะไรขึ้น” หลินหยางมองไปทางจ้าวจินฟ่ง
“ไม่มีอะไร หมาบ้ามันจะกัดคน ได้ยินว่าหากหายแล้วจะให้คอยดูว่าจะทำอะไรกับฉัน” จ้าวจินฟ่งเม้มริมฝีปากอย่างเหยียดหยาม
รูม่านตาของหลินหยางก็หดลง พูดอย่างเย็นชา “ใครกล้าแตะต้องคุณแม้แต่นิ้วสักข้อเดียว ผมจะให้เขาชดใช้ไม่ต่างจากตาย!”
“เอาล่ะ เอาล่ะ จะมาแสดงออกอะไรแบบนี้” เมื่อเห็นหลินหยางมีท่าทางที่ชั่วร้าย จ้าวจินฟ่งก็กล่าวอย่างอ่อนหวาน
“หึ จะต้องหาวิธีจัดการตักเตือนบริษัทมู่กรุ๊ปแล้ว” หลินหยางมีดวงตาที่ลึกล้ำ มองออกไปทางด้านนอกประตู
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า วันนี้ เมื่อหลินหยางนั่งอ่านหนังสือโบราณอยู่ที่ชั้นล่าง โทรศัพท์ของตนเองก็ดังขึ้น มองดูเบอร์โทรที่แสดงขึ้นมา หลินหยางก็ยกมุมปากขึ้นยิ้มทันที นี่เป็นสายเรียกเข้าของฉางหลง หัวหน้าแก๊งฉงปังแห่งเมืองจินหลิง
“หัวหน้าสำนักฉางมีเวลาว่างจริง ๆ จึงได้โทรหาผมแบบนี้” หลินหยางกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“เหอๆ หมอโจวก็เกรงใจไปแล้ว ค่ายาเมื่อครั้งก่อนโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณแล้ว” ฉางหลงพูดมาด้วยน้ำเสียงมีความสุข
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่มีความสุขของฉางหลง หลินหยางรู้ว่าเขาซื้อยาบำรุงของตนเอง ตัวเองก็กินไปแล้วสามเม็ด ตอนนี้มันมีผล อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูการตื่นตัวได้
“เป็นอย่างไร ผมไม่เลวใช่ไหม” หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เลวๆ ดูจากความคิดเห็นของคนอื่นแล้ว ผมออกมาไม่เลว หมอโจว พูดตรงไอย่างไม่ปิดบังเลยนะ ที่โทรหาคุณครั้งนี้ ก็อยากจะทำความร่วมมือในธุรกิจตัวยานี้” ฉางหลงกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“เอ๊ะ แน่ใจเรือว่าคุณต้องการ คุณจะต้องการเท่าไร” หลินหยางถามอย่างใจเย็น
“ถ้าได้ละก็ ผมว่า…เอาสักยี่สิบ ไม่สิ สามสิบเม็ดก่อน ไม่ทราบว่าหมอโจวจะมีมากขนาดนี้หรือเปล่า” ฉางหลงถามอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนจะกลัวว่าหลินหยางจะไม่มีสต๊อกเอาไว้
“สามสิบเม็ด” หลินหยางหรี่ตาลง ถามไปเบาๆ “คุณยังจำได้ใช่ไหมว่ายาของผมชนิดนี้ราคาเม็ดละเท่าไร”
“ถ้าจำไม่ผิด ครั้งก่อนหมอโจวเคยบอกว่าห้าแสนใช่ไหม”
“อืม คราวหลังก็จะคิดให้ในราคานี้ คุณยืนยันไหมว่าต้องการ”
“ถ้าหากว่ามีผลเหมือนกับที่หมอโจวให้มาครั้งก่อนแล้วผมใช้ได้ผล อย่างนั้นก็จะเอาสามสิบเม็ด!” ฉางหลงพูดยืนยัน
“เอ๊ะ คุณซื้อไปห้าแสน แล้วจะเอาไปขายเท่าไร” หลินหยางถามขึ้นด้วยความสนใจ
“ไม่กลัวหมอโจวจะคิดว่าตลก ขายออกก็ขายเม็ดละแปดแสน ผมจะลองขายดูก่อน ถ้ามีเสียงตอบรับดี ฮอตฮิตขึ้นมา บางทีก็อาจจะเพิ่มราคานิดหน่อย ตรงกลางก็ยังพอมีกำไรอยู่บ้าง”
หลังจากได้ยินคำพูดของฉางหลง หลินหยางก็อดที่จะงงไม่ได้ เมื่อเทียบกับคนอื่น ตนเองได้กลายเป็นขี้ตะกรันไปทันที ก่อนหน้านี้ตนเองขายให้กับครีมแผลลายของไป๋เซียนเฉ่า ขวดละสามหมื่นหยวนเขาก็เอาไปขายห้าแสนหยวน ตอนนี้ฉางหลางยังเหี้ยมกว่า เพิ่มราคายาเป็นแปดแสนไปเลยทีเดียว
“หมอโจว หมอโจว……” ไม่ได้ยินเสียงของหลินหยางมาครู่หนึ่งแล้ว เสียงกระตุ้นเตือนจากฉางหลงจึงดังขึ้นมา
“ยายังมีอยู่ คุณมีเวลาว่างก็ให้คนมารับไปได้เลย ผมอยู่ร้านซักผ้าเซียวจี้ เมืองเจียงหลิง” หลินหยางบอกไป
“โอเค รอสักประเดี๋ยวผมจะโอนเงินเข้าไปให้คุณ วันนี้บ่ายๆ ก็ถึง”
ไม่นานหลังจากหลินหยางวางสายโทรศัพท์ โทรศัพท์ก็มีข้อความจากธนาคารส่งเข้ามา ดูแล้วเป็นเงินสิบห้าล้านโอนเข้ามาในบัญชี แม้ว่าตนเองจะมีเงินไม่ขาดแล้ว แต่ใครกันจะไม่ชอบให้ตนเองมีเงินเยอะกันล่ะ
หาขวดที่บอบบางนิดหน่อยมา จากนั้นก็กรองเอายาเม็ดสามสิบเม็ดเข้าไป เมื่อมองดูเวลา คนของฉางหลงก็น่าจะใกล้มาถึงแล้ว
หลินหยางคิดว่าฉางหลงจะส่งคนมารับมันไป แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาด้วยตนเอง หลังจากหลินหยางทำการต้อนรับ ไม่นานฉางหลงก็รีบกลับไปในชั่วข้ามคืน
หลายวันผ่านไป หลินหยางก็ให้การรักษามู่เสี่ยวซือเป็นครั้งที่สอง และก็ยังไม่ได้รับข่าวเกี่ยวกับการปลูกต้นหญ้ากรดน้ำจากหลินเหลียน ในใจของเขารู้สึกรีบร้อนเป็นอย่างมาก
วันนี้เมื่อหลินหยางกำลังเตรียมจะโทรหาหลินเหลียน หลินเหลียนก็โทรมา
“พี่เหลียน ผมนี่คิดถึงคุณจะแย่แล้ว” หลินหยางถอนหายใจยาวหลังจากรับสาย
“ไปเลยไป คิดถึงฉันหรือคิดถึงต้นหญ้ากรดน้ำกันแน่”
“คิดถึงทั้งคู่ ๆ ช่วงหลายวันนี้ต้องลำบากพี่เหลียนแล้ว หญ้ากรดน้ำตอนนี้มีความก้าวหน้าอย่างไรบ้าง” หลินหยางถามอย่างรีบร้อน
“ดูความรีบร้อนของคุณสิ พี่เหลียนเป็นคนออกโรงเองมีหรือที่จะทำไม่ได้ การปลูกหญ้ากรดน้ำประสบความสำเร็จดี คุณมาที่นี่สิฉันจะได้คุยรายละเอียดให้ฟัง”
“ได้ ผมจะไปถึงที่นั่นในอีกยี่สิบนาที” หลินหยางพูดไปหนึ่งประโยค แล้วหันไปบอกกับจ้าวจินฟ่ง จากนั้นก็ขับรถเบนซ์ของตนเองออกไป ตรงไปยังที่พักของหลินเหลียน
เมื่อมาถึงห้องของหลินเหลียน กดออดไปสองสามครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู หลินหยางขมวดคิ้ว หรือผู้หญิงคนนี้จะไม่อยู่บ้านหรือ ใช่มือแตะลูกบิดอย่างไม่แน่ใจ ก็ได้ยินเสียงแกร๊ก ประตูก็เปิดออกทันที
หลังจากเข้าไปในห้องรับแขก สีหน้าของหลินหยางก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ แม้ว่าในห้องรับแขกจะไม่มีคน แต่มีเสียงน้ำไหลกระเซ็นอยู่ในห้องน้ำ หลินหยางไม่ต้องทายก็รู้ว่าเธอกำลังทำอะไร
หลินเหลียนอายุยังไม่มาก การบำรุงรักษาก็ดีมาก หากว่าให้แต่งตัวแบบวัยรุ่น แล้วบอกว่าตนเองอายุยี่สิบปี เดาว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่จะเชื่อ เมื่อคิดถึงหลินเหลียน แม้ว่ารูปลักษณ์จะไม่ได้สุดยอด แต่ก็จัดว่าสวยเช่นกัน ถือว่าดูดีเลยทีเดียว ไม่มีไขมันสะสมบนร่างกายมากนัก รูปร่างก็ดีมากจนไม่มีคำบรรยาย
พยายามต่อต้านความต้องการที่จะเข้าไป หลินหยางจึงนั่งลงบนโซฟา รอให้หลินเหลียนออกมา
ผ่านไปประมาณสามนาที ประตูห้องน้ำก็เปิดออก และอาจจะเพราะไม่รู้ว่าหลินหยางได้เข้ามาแล้ว หลินเหลียนจึงก้มหน้าเดินออกมา บนร่างกายไม่ได้พันผ้าขนหนูเลยด้วยซ้ำ จึงเดินออกมาตัวเปล่าแบบนั้น
หลินหยางรู้สึกเพียงว่ามีเลือดลมที่พลุ่งพล่าน เลือดกำเดาแทบพุ่งออกมา เม็ดหยกที่ดูอวบอิ่มคู่นั้น ยังคงมีความยืดหยุ่น แกว่งไปมาตามจังหวะการเดิน ไข่มุกสีบานเย็นสองเม็ดนั้น ยิ่งชวนให้น่าลิ้มลองมากขึ้น
เอวนั้นเหมือนกับงูน้ำ บั้นท้ายแสดงเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่ ในทุ่งหญ้าลึกลับนั้น ดูเหมือนจะมีบ่อน้ำพุที่พลุ่งพล่านอยู่ในความมืด หลินหยางจ้องมองอย่างเขม็ง ไม่กะพริบตา
ดูเหมือนอยากจะมานั่งบนโซฟา จากนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงเงยหน้าขึ้นมอง ก็ได้เห็นสายตาของหลินหยางที่กำลังจ้องมองตนเอง
“ว๊าย!” หลินเหลียนอุทานด้วยความตกใจ รีบปกปิดบริเวณนั้นด้วยผ้าขนหนูในมือ น่าเสียดายที่ผ้าเช็ดตัวนั้นสั้นเกินไป ปกปิดได้เพียงเม็ดหยกทั้งสอง แต่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ส่วนล่างยังคงเปิดเผยขึ้นอีกครั้ง ถูกปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า เนื้อนุ่มสองลูกก็แกว่งไปมาในอากาศอีกครั้ง
“พี่เหลียนคุณอย่าตื่นเต้น ผมไม่ได้มอง” หลินหยางรีบพูดออกไป หันศีรษะของเขาออกไป
เมื่อเห็นหลินหยางหันหน้าไปด้านหนึ่ง ความกังวลในใจของหลินเหลียนก็ได้ผ่อนคลายลง เสื้อผ้าที่สะอาดของตนเองอยู่บนโซฟาด้านข้างที่หลินหยางนั่งอยู่ หลินเหลียนหน้าแดงก่ำเดินไปทางหลินหยาง
ดูเหมือนจะรู้สึกได้ว่าหลินเหลียนกำลังเดินมา หลินหยางจึงสงสัยเล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้จะเดินมาทำไม จึงหันหัวไปอีกด้านหนึ่งอีกครั้ง
“คุณ! คุณบอกเองว่าไม่แอบดู!” หลินเหลียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของหลินหยาง
“พี่เหลียนกำลังเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่เห็นว่าเสื้อผ้าของคุณอยู่ตรงนี้” หลินหยางรีบ ชี้แจงข้อเท็จจริง นำเสื้อผ้ายื่นให้หลินเหลียน
ถึงอย่างไรอายุในใจของหลินเหลียนก็สามสิบกว่าปีแล้ว ค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับเรื่องของชายหญิง การถูกหลินหยางเห็นเข้าหนึ่งครั้งเป็นเพียงแค่ความตื่นตกใจเพียงชั่วขณะ ตอนนี้จิตใจก็เริ่มสงบลงแล้ว
หยิบเสื้อผ้ามาอย่างเก้อเขิน เนื่องจากบนร่างกายยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ หลินเหลียนจึงไม่รีบที่จะใส่เสื้อผ้า จ้องมองไปยังหลินหยางแล้วถามขึ้น “ดูอย่างสบายใจแล้วหรือยัง”
หลินหยางยิ้มอย่างเชื่องช้า “เหอ ๆ ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
“ไม่เห็นอะไรเลยอย่างนั้นหรือ หน้าอกของพี่เหลียนใหญ่หรือเปล่า”
“ใหญ่มากเลย”
“ไม่เห็นทำไมคุณถึงบอกได้รู้ว่าใหญ่!” หลินเหลียนแทบจะระเบิดออก
“พี่เหลียนสวยขนาดนี้จึงมีเสน่ห์ดึงดูดอยู่แล้ว อีกอย่างตรงนั้นมันก็ใหญ่โตโดดเด่นมาก ผมขอดูอีกครั้งได้ไหม” หลินหยางพูดไป สายตาก็หันไปทางเรือนร่างของหลินเหลียนอีกครั้ง
รู้สึกได้ถึงสายตาที่ก้าวร้าวของหลินหยาง ใบหน้าของหลินเหลียนแดงระเรื่อ นอกจากนี้ยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันอยู่ภายในใจ มองไปยังระหว่างขาของหลินหยางอย่างไม่รู้ตัว หลังจากมองไปรูปร่างที่น่าทึ่งตรงนั้น หัวใจก็ไม่อาจหยุดเต้นได้อีกต่อไป
สง่างามมาก! ความคิดแวบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของหลินเหลียน
“หึ ถือว่าวันนี้คุณโชคดี พี่สาวจะไม่ถือโทษคุณ อีกอย่าง ต้นหญ้ากรดน้ำที่เพาะไว้ก็อยู่ในกล่องนั้น เอามาจากสถาบันวิจัยเมื่อคืนนี้” หลินเหลียนชี้ไปยังกล่องที่มุมห้อง
แม้ว่าหลินเหลียนจะมีร่างกายที่มีเสน่ห์มาก แต่วัตถุประสงค์หลักของหลินหยางคือต้นหญ้ากรดน้ำ ได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินไป ไปอุ้มกล่องนั้นมาวางไว้บนโต๊ะน้ำชา หลังจากเปิดออก ดวงตาก็ไม่หยุดเปล่งประกาย
เมื่อตอนที่ตนเองมาครั้งก่อน ได้เอาต้นหญ้ากรดน้ำให้หลินเหลียงไปเพียงไม่กี่สิบต้น แต่เมื่อดูจำนวนในตอนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีสูงถึงสี่สิบต้น มองไปยังต้นหญ้ากรดน้ำสีเขียวมรกตนั้น หลินหยางก็แยกแยะสามารถรู้สึกได้ ด้านบนเป็นลมหายใจของน้ำ และเมื่อเทียบกับหญ้ากรดน้ำในป่า ก็มีความแข็งแรงไม่อ่อนแอ
ในใจของหลินหยางรู้สึกยินดีมาก ดังนั้น แผนการเพาะปลูกต้นหญ้ากรดน้ำของตนเอง มาสามารถพัฒนาขึ้นมาได้แล้วจริงๆ