ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่150 เฟิงอู่
บทที่150 เฟิงอู่
หลังจากจัดการเรื่องของลั่วหยิ่งเรียบร้อย หลินหยางจึงกลับหอพักของตัวเอง พอผลัก
ประตูหอพักออก หลินหยางก็อดตกตะลึงไม่ได้
เห็นเพียงเพื่อนร่วมหออยู่ครบทั้งสี่คน ต่างดึงเก้าอี้มานั่งลงมองตนเอง
“ลูกพี่ ทำอะไรกันน่ะ”หลินหยางรู้สึกขนลุก
ลูกพี่สู่หยวนมองหลินหยางอย่างมีลับลมคมใน“วันนี้พวกเราเห็นแกอยู่กับสาวสวย บอกมาดีๆ คนสวยเป็นใคร เป็นรุ่นน้องหรือเปล่า”
“บ้าเอ๊ย รู้ได้ไงเนี่ย”หลินหยางอุทานอย่างตกใจ
“พวกเราเห็นกับตา หลักฐานชัดเจน รีบบอกมาได้มายังไง สาวสวยขนาดนี้แกคว้ามาได้ ดูสิ พวกเรายังโสดอยู่เลย……”
เห็นเพื่อนร่วมหอตนเองดูหื่นกระหายขนาดนั้น หลินหยางจึงบอกไปว่าลั่วหยิ่งเป็นคนที่บ้านเกิดตัวเอง เขากลอกตาพูด“คงเพราะเสน่ห์แรงมั้ง ตอนนี้ทุ่มนึง เลี้ยงเหล้าพวกแกแล้วกัน”
“ไปๆๆ!”พอได้ยินเรื่องเลี้ยงอาหาร เพื่อนสี่คนจึงวางเรื่องลั่วหยิ่งไว้ข้างๆ แล้วออกไปกับหลินหยางอย่างสนุกสนาน
พอดื่มเหล้ากลับมาหอพัก พวกเขาก็เริ่มสูบบุหรี่ หลินหยางไม่ชอบกลิ่นบุหรี่มาแต่ไหนแต่ไร จึงขมวดคิ้วกลับหอพัก เปลี่ยนชุดนอน
วันรุ่งขึ้น จ้าวจินฟ่งตื่นแต่เช้าเตรียมอาหารเช้าให้หลินหยาง
แม้ว่าวันที่เปิดร้านซักรีดอาจจะวุ่นวายสักเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับร้านหมอเมื่อก่อน รายได้ไม่เพียงแต่จะเพิ่ม ความกดดันก็เพิ่มด้วย ทุกวันพอจ้าวจินฟ่งได้พักผ่อน คิ้วเธอก็จะ คลายออก สีหน้าดูน่าหลงใหลอย่างเห็นได้ชัด
“จินฟ่ง เธอสวยขึ้นทุกวันจริงๆนะ”หลินหยางที่กำลังกินข้าวพูดขึ้นด้วยแรงกระตุ้นของฮอร์โมน จ้าวจินฟ่งเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่แล้ว แรงดึงดูดสูง
“ทำไม คิดจะกินฉันหรือไง”จ้าวจินฟ่งหัวเราะ
“พรู้วว์……”หลินหยางคิดไม่ถึงว่าจ้าวจินฟ่งจะตอบแบบนี้ จึงพ่นโจ๊กที่เพิ่งกินไปได้คำเดียวออกมา
“อย่าตื่นเต้นไป จริงสิ ก่อนหน้าฉันมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนเทคนิคการแพทย์ เหมือนว่าเจ้าของบ้านเช่าของเธอกลับมา เธอจะต้องย้ายออก ตอนนั้นฉันเผลอพูดว่าฉันมีที่อยู่ตรงนี้ เธอก็เลยอยากมาพัก”พูดมาถึงตรงนี้ จ้าวจินฟ่งจึงมองหลินหยางอย่างเขินอาย
“ก็เลยรับปากงั้นเหรอ”หลินหยางพูดเสียงเรียบ
“ฉัน……ฉันเลยบอกว่ามาดูได้……เธอเป็นเพื่อนสนิทฉันน่ะ เลยปฏิเสธไม่ลง ถ้านายไม่รับปาก ฉันก็ไม่ให้เธอมา”จ้าวจินฟ่งพูดเสียงค่อย
ได้ยินคำว่าเพื่อนสนิท หลินหยางก็เบาใจ ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชาย ก็เลยรู้สึกหวงนิดหน่อย
“เพื่อนสนิทฉันไม่มีที่อยู่ ช่วยหน่อยเป็นไรไป คงไม่ได้ใจแคบขนาดนั้นมั้ง”หนานกงหยูนที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆเบ้ปาก
พอเห็นสีหน้าหนานกงหยูน ว่าแข็งแรงดีแล้ว ต่อไปก็นัดเวลาขับพิษ เชื่อว่าจะขับพิษออก ได้ทั้งหมด
“ในเมื่อรับปากแล้วก็ให้เธอมาเถอะ เช่าห้องอะไรก็ได้ทั้งนั้นอ่ะ เพื่อนกันก็อย่าไปเอาเปรียบกันมากนักล่ะ”หลินหยางพูดเสียงค่อย“แต่ก็ไม่เก็บค่าเช่าไม่ได้ ให้มากเกินไป จาก บุญคุณจะกลายเป็นความหน่าย”
ได้ยินคำพูดของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งตาเป็นประกาย ร้องออกมาอย่างดีใจ“ตกลงแล้ว เหรอ ดีจังเลย!เดี๋ยวฉันจะโทรหาเขานะ”
หลินหยางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ไหนๆก็มีตั้งห้าห้อง จะมาอยู่เพิ่มสักคนเป็นไร พอกินข้าวเช้าแล้ว จึงปล่อยให้สองสาวอยู่ที่ร้านซักรีด หลินหยางจึงไปทางโรงเรียน
“เฟิงอู่ เป็นไรไป!”เสียงตกใจดังมา หลินหยางหันมาดู เห็นแต่สาวเสื้อขาวนอนเอนอยู่ สาวเสื้อแดงที่อยู่ข้างเธอร้องขึ้น
ตอนนี้เป็นช่วงเปิดเรียน คนเยอะหน่อย ถ้าเห็นคนเป็นลม คนจึงมุงเข้ามา
พอได้ยินชื่อเฟิงอู่ หลินหยางรู้สึกคุ้นเคย จึงมองไปที่ใบหน้าอย่างละเอียด หลินหยางตะลึงทันที
เฟิงอู่เป็นดาวคณะของแพทย์แผนจีน เธองามดุจภาพวาด ราวกับเซียนสาวที่หลุดออกมาจากภาพเขียน คนติดตามเธอไม่น้อย แต่นิสัยของเฟิงอู่เย็นชา ปฏิเสธลูกเดียว อยู่ปีสี่แล้ว ยังไม่เห็นจับมือใครเดิน
“รีบโทรเรียกรถฉุกเฉิน!”ดาวคณะเดิมก็ดึงดูดสายตาอยู่แล้ว คนไม่น้อยรู้จักเฟิงอู่ พอเห็นเฟิงอู่เป็นลม พวกผู้ชายต่างก็รุดมาช่วย
“พวกแกจะทำอะไร อย่าแตะต้องตัวเธอ!”สาวชุดแดงตะโกน แล้วกันท่ากลุ่มคนไว้ เธอเองก็เป็นนักเรียนแพทย์แผนจีน การเข้ามารุมล้อมแบบนี้ เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
“ถอยออกไป ถอยออกไปให้หมด!”มีเสียงดังมา แล้วแหวกฝูงชนเข้ามา
นักเรียนที่ถูกผลักออกต่างก็โกรธเคือง แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หุบปากสนิท คนที่มาเป็นหัวหน้าชมรมกังฟูเฉียนตุงหลิว ได้ยินว่าเคยร่วมการแข่งขันระดับประเทศ แล้วได้รางวัลอีกด้วย
“เป็นลมแล้วทำไมยังไม่ส่งโรงพยาบาล”พอเฉียนตุงหลิวเห็นเฟิงอู่ ตาก็เป็นประกายด้วยความดีใจ เขาจีบเฟิงอู่มานานแต่ไร้ผล ในที่สุดวันนี้ก็ได้โอกาสเป็นฮีโร่สักที
“รอรถพยาบาลมา ตอนนี้เคลื่อนย้ายเฟิงอู่ อาจเกิดอันตรายได้”สาวชุดแดงก็ดื้อดึง ดูท่า เธอไม่เอาด้วยกับเฉียนตุงหลิว
“เป็นลมแล้ว ถ้ายังไม่ส่งโรงพยาบาล เกิดเป็นไรไป ใครรับผิดชอบ”เฉียนตุงหลิวตะคอกแล้วดึงเฟิงอู่ออกมา
“ปล่อยนะ!”หญิงชุดแดงขวางเฉียนตุงหลิวไว้ เธอแรงน้อย จึงถูกเฉียนตุงหลิวผละไปอีกข้าง
“หยุดนะ!”ในตอนที่เฉียนตุงหลิวจะเคลื่อนย้ายเฟิงอู่มีเสียงตะคอกดังมา เฉียนตุงหลิวชะงักทันที
หลินหยางที่หรี่ตา เบ้ปากถาม“แกเป็นใคร เสือกไร”
หลินหยางไม่รู้จักเฉียนตุงหลิว แต่พอเห็นท่าทีโอหังเขาหายไปแล้วความสนใจก็ลดลง จึงเดินไปดึงสาวชุดแดงขึ้น จากนั้นจึงนั่งลงยองๆข้างเฟิงอู่ จับชีพจรเฟิงอู่ เพื่อตรวจดูร่างกายเธอ
แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับคำว่า“ความหวัง” ก่อนหน้าหลินหยางก็ดูออกว่าเฟิงอู่ร่างกายอ่อนแอ ดูเหมือนจะโลหิตจาง
“โธ่เอ๊ย คิดว่าหมอเทวดาที่ไหน ความรักก็เป็นยาจีนอย่างหนึ่ง นี่ก็จับชีพจรไง”พอเห็นหลินหยางไม่สนใจตัวเอง เฉียนตุงหลิวจึงตะโกน“ฉันจะนับถึงสาม ปล่อยอุ้งมือเหม็นๆของแก อาการป่วยแบบนี้หมอจีนดูไม่ได้หรอก”
พอได้ยินคำพูดเฉียนตุงหลิว พวกนักเรียนแพทย์แผนจีนรอบๆต่างก็จ้องมองอย่างโกรธเคือง
พอตรวจดูร่างกายเฟิงอู่เสร็จ หลินหยางจึงพูดกับสาวชุดแดง“เฟิงอู่ยังไม่ได้กินอาหารเช้าเหรอ แล้วก็ไม่กินประจำใช่ไหม”
“ใช่เลย นายรู้ได้ไง”สาวชุดแดงอุทานตะลึง
“เธอร่างกายอ่อนแอ โลหิตจาง แถมยังไม่ค่อยกินอาหารเช้า เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ก็เป็นลมสิ แถมยังพักผ่อนน้อย คงจะนอนดึกทุกคืนสินะ
“ไม่เลว นายนี่เทพจริงๆเลย!รีบมารักษาเฟิงอู่หน่อยสิ”พอฟังคำวินิจฉัยของหลินหยาง สาวชุดแดงจึงรีบพูดขึ้น
“เขาเรียนแพทย์แผนจีนรู้บ้าอะไรล่ะ ถ้าแพทย์แผนจีนดูพวกนี้ได้ โรงพยาบาลตั้งมากมายจะเปิดทำไม”พอเห็นสาวชุดแดงให้หลินหยางรักษา เฉียนตุงหลิวจึงร้องขึ้น
“นายรักษาได้เหรอ”หลินหยางเงยหน้าขึ้นในที่สุด ถามอย่างไม่พอใจ
“ฉัน……”เฉียนตุงหลิวหน้าแดง ไม่นานก็บันดาลโทสะ“ฉันรักษาไม่เป็น แต่ฉันจะให้แกเอามือออก!”
“ใครไม่ได้รูดซิปวะ ปล่อยอะไรออกมาน่ะ”หลินหยางพูดอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่ดึงเข็มออก แต่กลับปล่อยให้ลมปราณเดินอยู่ภายในร่างกาย สองมือวางนาบบนท้องน้อยเฟิงอู่
ลมปราณเดินภายในตัวเฟิงอู่ ทำให้หัวใจเต้นกระตุก
“เจ้าหนู แกมันแน่!”เฉียนตุงหลิวยืนชี้หลินหยางอยู่ด้านข้าง“ถ้าแกรักษาไม่หาย ดูสิว่ากูจะจัดการมึงยังไง”
เขาทำเป็นมองไม่เห็นเฉียนตุงหลิว แล้วง่วนเรื่องในมือตนเองไป ไม่กี่นาทีต่อมา สาวชุดแดงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น“เฟิงอู่ ตื่นแล้วเหรอ”
“เสี่ยวหรัวเหรอ”เสียงอ่อนเปลี้ยของเฟิงอู่พูดขึ้น
“เธอต้องพักผ่อนตอนนี้ ฉันอุ้มเธอกลับหอแล้วกัน ยังไม่ต้องไปเรียนหรอก”พอเห็นเฟิงอู่ตื่น หลินหยางจึงรีบแสดงตนเป็นคนดี เขาออกแรงอุ้มช้อนเฟิงอู่ขึ้นมา
“ขอบคุณมากจริงๆ หอพักอยู่ทางนี้”พอเห็นเฟิงอู่ตื่น เสี่ยวหรัวก็ดีใจมาก ชี้ไปทางหอพักหญิงแล้วพูด
“วางเฟิงอู่ลง!”เฉียนตุงหลิวเดือดดาล นางฟ้าของตัวเองโดนชายอื่นอุ้มเสียแล้ว จะกล้ำกลืนได้ไง
“ต่อไปออกจากบ้านอย่าลืมรูดซิบนะ อย่าเอะอะอะไรก็โชว์”
แม้ว่าหลินหยางจะพูดกับคนรอบตัว แต่ทุกคนก็เข้าใจความหมายดี ต่างก็หัวเราะเยาะ เฉียนตุงหลิว
“แกแน่มาก!”สูดลมหายใจเข้าลึก เฉียนตุงหลิวพูดเย็นชา นอกจากว่าเขาไม่กล้าลงมือ ส่วนหลินหยางตอนนี้ยังอุ้มเฟิงอู่อยู่ ถ้าตัวเองลงมือล่ะก็ ก็มีผลต่อชื่อเสียง
มีโอกาสจัดการนายแน่!เห็นเงาหลังของหลินหยางเดินจากไป แววตาของเฉียนตุงหลิว เย็นชา
เขาอุ้มเฟิงอู่กลับหอ หลินหยางมองคะเนห้องหอนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาที่หอพัก หญิง ดูเตียงแต่ละเตียง จะมากจะน้อยทุกเตียงมีตุ๊กตาขน หลินหยางอดอมยิ้มไม่ได้
ผู้หญิงสะอาดกว่าผู้ชายเยอะ หอพักของหลินหยางมีแต่กลิ่นบุหรี่ ส่วนหอของเฟิงอู่มีแต่ กลิ่นหอม สะอาดสบาย หลินหยางอดชื่นชมหอของเฟิงอู่ไม่ได้ หอพักของตัวเองยังกับ นรก
“สวัสดี ฉันชื่อจ้าวหรัว หล่อนชื่อเฟิงอู่……”มองดูหลินหยาง จ้าวหรัวรู้สึกคุ้นตา
“ผมชื่อหลินหยาง เรียนแพทย์จีน”หลินหยางยิ้มแนะนำ
“นายเรียนคณะแพทย์แผนจีนจริงหรือ พวกเราอยู่ห้องสาม ทำไมไม่เคยเจอนาย”จ้าวหรัวเอียงคอมองหลินหยาง ยิ่งมองยิ่งรู้สึกมีเสน่ห์ ก่อนหน้าไม่เห็นรู้สึก
“ไม่ค่อยไปไหน คนก็ธรรมดา อาจจะไม่ได้สังเกต พวกเธอสาวสองคน ผมเห็นบ่อยๆ”หลินหยางแอบยอ
ผู้หญิงบ้ายอทุกคน อาจพูดได้ว่าคนบ้ายอทุกคน แม้ว่าจะมีคนชมว่าหล่อบ่อยๆ แต่หลินหยางหน้าตาดี ฝีมือก็ดี ก็ยิ่งพอใจในคำยอ
“นายมีเรียนอีกใช่ไหม กลับไปก่อน ตอนเที่ยงเลี้ยงข้าว”เฟิงอู่กวาดตามองหลินหยาง หลินหยางหน้าตาคมคาย หล่อเหลา แม้ว่าจะหล่อเหลา แต่กลับยิ่งดูยิ่งสบายตา ราวกลับว่าบนตัวเขามีเสน่ห์ลึกลับ
“ไม่รีบ อ่านตำราทะลุหมดแล้ว เข้าห้องเรียนแค่เป็นพิธี”หลินหยางพูดต่อ“แต่ร่างกายของเธอ ก็ถือว่าดีมากแล้ว”